ไมโครซอฟท์กับกูเกิลถึงคราวต้องร่วมมือกัน เพื่อคัดค้านการกระทำของเครือข่ายกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ที่พยายามขอสิทธิ์เพื่อบล็อคเครือข่าย Wi-Fi ส่วนบุคคลอย่างถูกกฎหมายในเขตพื้นที่ของโรงแรม
ในฤดูร้อนที่ผ่านมา เครือกิจการ American Hospitality & Lodging Association และ Marriott International ได้ยื่นถามความเห็นจาก FCC (เทียบเท่ากสทช. ในสหรัฐฯ) ต่อกรณีผู้ให้บริการโรงแรมสามารถใช้อุปกรณ์เพื่อจัดการเครือข่าย แม้ว่ามันอาจรบกวนการทำงานต่ออุปกรณ์ไร้สายของแขกที่ใช้งานในพื้นที่ของผู้ให้บริการ โดยพวกเขากล่าวว่าผู้ให้บริการเครือข่าย Wi-Fi ควรจะสามารถจัดการเครือข่ายของพวกเขาได้ เพื่อที่จะสามารถให้บริการ Wi-Fi ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ตามที่ประกาศไว้
ก่อนหน้านี้ เครือกิจการ Marriott เคยถูกสอบสวนในเดือนมีนาคม ปี 2013 เนื่องจากถูกลูกค้าฟ้องร้องกรณีบล็อคลูกค้าไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อกระจายสัญญาณ Wi-Fi ส่วนบุคคลในพื้นที่สัมมนาที่ Opryland (อยู่ในเครือของ Marriott) ซึ่งในครั้งนั้นพบว่าพนักงานได้ใช้ระบบตรวจสอบและยกเลิกการเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนตัวของแขก โดยในเวลานั้นทางโรงแรมคิดอัตราค่าบริการ Wi-Fi อยู่ที่ $250 ถึง $1,000
ต่อมาในเดือนตุลาคม Marriott สามารถตกลงกับ FCC ได้ โดยทาง Marriott ถูกปรับ $600,000 แต่ยังคงบอกว่าไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย และใช้เทคโนโลยีเพื่อปกป้องแขกจากเครือข่ายเถื่อน ที่สามารถทำให้บริการดูแย่ลง, เกิดการโจมตีทางไซเบอร์และขโมยข้อมูลส่วนตัว จากนั้นเครือกิจการโรงแรมจึงได้พยายามหาช่องทางเพื่อขอสิทธิ์ในการจัดการเครือข่ายส่วนตัวเหล่านี้ โดยอ้างถึงคุณภาพในการให้บริการและความปลอดภัยของลูกค้า
แม้ว่าปกติแล้วไมโครซอฟท์กับกูเกิลจะมีความเห็นไม่ค่อยตรงกัน แต่ทั้งคู่ก็ได้ออกมาคัดค้านการร้องขอครั้งนี้ โดยทางกูเกิลได้ให้เหตุผลว่าการยอมให้โรงแรมหรือเจ้าของพื้นที่จงใจบล็อคการเข้าถึงเครือข่าย Wi-Fi ได้ จะเป็นการขัดผลประโยชน์ของช่วงความถี่สาธารณะที่ไม่ต้องขออนุญาต
ฝั่ง CTIA หรือสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจเครือข่ายไร้สายของสหรัฐฯ ได้ออกมาเสริมว่า "โทรศัพท์ไร้สายหรืออุปกรณ์อื่นใดที่ใช้ Wi-Fi มีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะใช้ช่วงความถี่ที่ไม่ต้องขออนุญาต จะต้องไม่มีอะไรที่ตั้งใจขัดขวางผู้อื่นในการใช้งานช่วงความถี่นั้นได้"
ที่มา - Windows Central ผ่าน Recode
Comments
โอ้ พระเจ้า 1000 US นี่ได้ MAC เครื่องนึงเลยนะ
น่าจะจองห้องได้ 1 คืนเลยทีเดียว
ในขณะที่ประเทศไทยส่วนใหญ่ไวไฟช้าก็ยังฟรีไปเจอราคานี้ตั้งอินเตอร์เน็ตดาวเทียมเถอะ
มันมองได้หลายแง่มุม
ในบางกรณีลูกค้าอาจใช้ตัวส่งwifi แรงๆเพื่อแชร์เนทกันเอง จนไปรบกวนAP ของโรงแรม ทำให้ลูกค้าห้องข้างเคียงใช้งานได้ลำบาก แบบนี้ก็น่าคิดว่าเป็นการรบกวนคนอื่นหรือไม่?
หรือจะมองว่า โรงแรมอยากเก็บเงินค่าเนทเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ได้
ในสถานที่เอกชนบางแห่ง บังคับให้พนักงานและผู้มาเยือนทุกคนปิดเครือข่ายwifi ส่วนตัว เพื่อป้องกันการรบกวนเครือข่ายหลัก และปกป้องด้านความปลอดภัย มองในแง่นี้ก็จำเป็นเหมือนกัน
ในเรื่องแย่งความถี่กันนั่นผมก็ว่าจริงครับ แต่ถ้าเป็นผมจะแนะนำให้ใช้คืนความถี่สูงแชร์ให้ตัวเองดีกว่า คือคลื่น 5GHz เพราะช่วงคลื่นสั่น เจอกำแพงก็แถบจะไม่เหลือแล้ว ส่วน 2.4GHz โรงแรมก็ใช้ไป นี่คือทางออกที่อยากให้โรงแรมทำซะครับถ้ากันมันทุกคลื่นเผ็นผมผมก็โวยนะ(ในข่าวไม่บอก ก็เดาว่าน่าจะกันหมด)
มีตัวไหน แชร์ 5 GHz ได้บ้างหว่า น่าสนใจมากเลย
เขี้ยวรากดินจริงๆ ความถี่ที่ฟรี ทุกคนก็ควรมีสิทธิ์ใช้งานได้เท่าเทียมกันสิ ถ้าไม่อยากให้ลูกค้าปล่อยสัญญาณมารบกวนเครือข่ายหลัก ก็จัดให้เค้าใช้ฟรี หรือเก็บเงินราคายุติธรรมหน่อย
มันรบกวนกันขนาดนั้นเลยหรือครับ ไม่ทราบจริงๆ
ลองคิดเล่น ๆ ว่าโรงแรมระดับ 200 ห้อง ถ้าทุกคนเปิดไวไฟของตัวเองมันจะต้องใช้ความถี่กี่ช่วงดูก็ได้ครับ (ทั้งนี้ไม่ใช่คนละช่วงหรอก ต้องดูด้วยว่าพื้นที่ของแต่ละ AP ครอบคลุมขนาดไหน)
แต่ผมก็คัดค้านความคิดนี้นะ ถ้าต้องใช้ของโรงแรมล่ะจนตาย 55
ราคา $250 นี่คิดเป็นชม ด้วยเป่า 5555
คือช่วงความถี่ 2.4GHz ถ้าจะไม่ให้ช่วงคลื่นรบกวนกันเลย ก็จะใช้ได้พร้อมกัน 3 ช่องครับ ณ Bandwidth ที่ 20 MHz นะครับ
ผมว่ามันเป็นราคา package จัดงานครับ
อย่างเช่าห้องประชุม ถ้าเอา WiFi ด้วย ก็ชาร์ตไปอีก $250 ห้องใหญ่มาก ก็ $1,000
จริงๆ ผมว่าควรจะฟรีได้ตั้งนานแล้ว
เพราะ ราคา internet ไม่ได้แพงเหมือนสมัย dial-up แล้วนะครับ
ร้านกาแฟยังใช้ฟรีได้เล้ย คุณเอ้ย
ไม่ใช่ประเทศไทยนะครับ อย่าไปบอกว่าเขาไม่มีต้นทุนสิ พวกฟรีๆหน่ะ เขาอาจบวกมาในค่าอาหารค่ากาแฟแล้วก็ได้ มาเลเซียผมก็เจอโรงแรมค่าใช้ WIFI 20 ริงกิต (1ริงกิต = 11บาท ในตอนนั้น) ต่อคืนนะครับ แต่ NET เร็วโครตตต
Paragraph ที่ 4 ...เครือข่ายนักเลง...
อ่านดูแล้วแปลก ๆ ขอเสนอคำว่า "เครือข่ายที่ไม่หวังดี" ครับ แล้วแต่จะพิจารณา
+1 ครับ
ผมเข้าใจว่าเค้ารวมไปถึงเครือข่ายที่เปิดมาแบบไม่สนใจใคร ฉันจะใช้ สัญญาณไปกวนคนอื่นก็ไม่สนด้วยน่ะครับ
เสนอได้ครับ คำนี้ผมแปลอยู่นานแล้วตัดใจเลือกมาเหมือนกัน ถ้าใครเสนอคำที่โอเคมาได้ผมก็เปลี่ยนครับ (เพราะของตัวเองนี่ก็ไม่มั่นใจขนาดนั้น)
เพิ่มเติม - ต้นฉบับใช้คำว่า rogue wireless hotspots ครับ
ปกติผมใช้ rogue ในความว่า "เถื่อน" นะครับ
ผมจำได้ว่าเมื่อสัก 8 ปีก่อน Aruba มี feature ยิง Rogue AP ให้ร่วงด้วยนิครับ
เหมาะดีครับ ผมขอด้วยนะครับ ^^ ขอบคุณครับ (ไม่ต้องรอผลอนุมัติ มาเร็ว เคลมเร็ว :p)
ปีที่แล้ว เคยเอาของมาลอง เขาบอกก็ยิงได้ให้ร่วงได้ครับ แต่ ทดลองแล้วไม่ได้ได้ผลหรือเปล่าไม่รู้ ไม่ได้ถาม office ข้างๆ ฮ่าๆ
Office ผมเหมือนจะมีนะครับเหมือนเคยลองเอาพวก Pocket Wifi มาตั้งโดนยิงสัญญาณหายเปนระยะๆ เลย
โรงแรมคุณภาพระดับ 5 ดาวหลายๆโรงในไทยก็ชาร์ทค่าอินเตอร์เน็ตแพงมาก ที่เจอบ่อยๆก็ 15 นาที 300 บาท 1 ชั่วโมง 1000 บาท ไรงี้ ทั้งที่ราคาต้นทุนเดี๋ยวนี้ก็ไม่มากแล้วนี่สิ
ก็ 5 ดาวอ่ะนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าโครงสร้างเครื่อข่ายเขามีอะไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไอ้ส่วนที่เสียเยอะมันก็ Security นั่นหล่ะครับ มองไม่เห็น ไม่เกิดเรื่องก็ไม่ถือว่าจำเป็น ไม่มีก็ได้ มีก็ดี
ก้มหน้าก้มตาใช้ USB Tethering ครับ
ผมว่ากรณีนี้ใครก็ปิดกั้นการใช้งาน 2.4 GHz ไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นสาธารณะ เว้นเสียแต่ว่าโรงแรมจะไปเช่าความถี่อื่นมา ขอใบอนุญาตอะไรมานะครับ
โรงแรมมองว่า WiFi อื่นที่ไม่ใช่ของโรงแรมทำให้ คุณภาพของตัวเอง Drop ลง
แต่ในอีกแง่ถ้าผมเป็นแขก ผมต้องการส่ง WiFi ไปให้เครื่องตัวเอง ผมก็มองว่า WiFi ของโรงแรมแปลกปลอมได้เหมือนกัน
พื้นที่ส่วนตัวก็จริง แต่ความถี่ยังคงเป็นของสาธารณะ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง
ก็ไม่น่าทำให้โรงแรมมีสิทธิ์จะไปปิดกั้นบน 2.4 GHz ของคนอื่นได้อยู่ดีมั้งครับ - -"
อ่อหมายถึงเช่าความถี่อื่นแล้วกั้นความถี่นั้นอะครับ
เพราะถ้า เช่าความถี่ 512 GHz มา แล้วจะไปบอกว่า 2.4 GHz ทำให้คุณภาพ 512 GHz ดรอป ก็คงไม่ใช่
แต่ถ้าใครมาใช้ความถี่เดียวกับโรงแรมที่เค้าได้สิทธิ (เพราะมันไม่ใช่ความถี่สาธารณะ) อันนี้ก็บล็อกได้เป็นสิทธิเค้าแหละครับ
ปล. เลขความถี่ผมมั่วนะครับ ไม่รู้จะใช้ความถี่ไหนได้
ผมอ่านแล้วนึกถึงพวกโรงแรมริมหาด (ที่เป็นหาดสาธารณะ) แล้วกั้นพื้นที่บอกว่าให้เล่นน้ำได้เฉพาะแขกที่มาพักในโรงแรม แล้งอ้างว่ากลัวคนเยอะจะวุ่นวายพลุกพล่านสกปรก ซึ่งฟังไม่ขึ้น
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
คุ้นๆ เหมือนเกาะเสม็ดเลยแหะ