สำนักงานอัยการแห่งศาลแขวงกลางของกรุง Seoul ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับ Travis Kalanick ซีอีโอของ Uber และนาย Lee ตัวแทนบริษัท MK Korea ผู้ให้บริการรถเช่าในเกาหลีใต้ ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจโดยละเมิดกฎหมายด้านบริการโดยสาร
ข้อกฎหมายของเกาหลีใต้ระบุว่า ห้ามมิให้มีการนำเอารถซึ่งมีไว้เพื่อให้เช่าไปให้บริการโดยสารสาธารณะ โดยผู้ประกอบการที่ละเมิดกฎหมายนี้อาจต้องรับโทษสูงสุดคือจำคุก 2 ปี (แหล่งข่าวต้นทางมิได้ระบุชัดเจนว่า Uber ร่วมมือกับ MK Korea เป็นทางการในการให้ผู้คนเช่ารถไปขับรับผู้โดยสารที่เรียกบริการผ่านแอพ Uber หรือต่างฝ่ายต่างให้บริการกันแน่)
และในวาระสืบเนื่องกันนี้ สภาเมืองของ Seoul ได้อนุมัติตั้งรางวัลตอบแทนสูงสุด 1 ล้านวอน (ประมาณ 30,000 บาท) สำหรับผู้ที่สามารถให้เบาะแสแก่หน่วยงานถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ของ Uber ที่ขัดต่อกฎหมายได้ ซึ่ง Uber ก็ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่าบริษัทเชื่อว่า Uber นั้นมิใช่ธุรกิจผิดกฎหมาย และไม่เชื่อว่า "มันเป็นเรื่องเหมาะสมสำหรับหน่วยงานรัฐจะหาทางลงโทษคนขับผู้ซึ่งพยายามยังชีพด้วยบริการนี้"
ที่มา - Yonhap News via Engadget
Comments
อือหือ กระแสแบนมีไปทั่วโลกแล้ว เจอหน่วยงานฟ้องใส่แบบนี้ เด๋วกลายเป็นเทรนใหม่ให้ทั่วโลกเอาบ้าง
ความเชื่อไม่เชื่อ ไม่ได้ทำให้ธุรกิจถูกกม.ได้เลย กม.ประมวลเอาไว้แล้ว อ่านแล้วไม่เข้าใจอย่าไปตีความเข้าข้างตนเอง
ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผมทำในสิ่งที่กฎหมายไม่ได้ระบุไว้ว่าผิกกฎหมาย
บังเอิญเรื่องรถสาธารณะเป็นสิ่งที่"ระบุ"ไว้ในกฎหมาย คล้ายๆกันแทบจะทั่วโลกเลยล่ะครับ
ผมแถน่ะครับ เพราะทาง CEO ก็พยายามบอกว่า เป็น "car pooling/sharing แบบมีรายได้"
ผิก -> ผิด
ไล่ ceo ไปเรียนกฎหมาย
A smooth sea never made a skillful sailor.
จะได้หาทางเลี่ยงกฎหมายได้ดีกว่านี้อ่ะเหรอครับ ผมว่าแค่นี้ก็ดิ้นป็นปลาไหลแล้วนะ
ป.ล. ผมมองในแง่ว่านักกฎหมายบางคนแทนที่จะช่วยกัน "รักษา" กฎหมาย แต่กลับหาทางหา "ช่องโหว่" ของกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้องของตัวเอง
ป.ล. 2 ผมว่า CEO เค้าก็รู้อยู่แล้วอ่ะนะว่ามันผิดกฎหมาย เพราะขนาดคนธรรมดาไม่ต้องเรียนกฎหมายยังรู้เลยครับ
บอกแล้ว ให้เอาระบบไปขาย taxi เจ้าใหญ่ๆ
ไม่งั้นป่านนี้รวยไปแล้ว
ขนาดถึงกับตั้งรางวัล หาความผิด
เค้าก็แถได้เรื่อยๆเนอะ โดนหลายประเทศขนาดนี้ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาแถต่อ เชื่อพี่เค้าเลย
แถลงแต่ละฉบับของ uber ในทุกประเทศนี่เป็นการแถลงแบบมึนๆทั้งนั้นจริงๆนะเนี่ย
ผมว่าเขามีเหตุผล อยางที่ผมเคยให้ความเห็นในหลายกระทู้ แค่คุณเห็นไม่เหมือนเขาก็เท่านั้นเอง มันต้องใช้เวลา กว่าทุกคนจะเห็นเหมือนเขา และสุดท้ายผมว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะความเห็นเขาถูก (ไม่ได้ว่าถูกกฏหมายตอนนี้) จะให้ยกตัวอย่างสุดโต่ง มันก็เหมือนเรื่องโลกกลม โลกแบน นั้นแหละ คุณเคยรู้มั้ย ว่าสมัยหนึ่ง คนเห็นว่าโลกกลม มีความผิดทางศาสนา ใช้เวลาอีกหลายสิบปี กว่าโลกกลมจะเป็นเรื่องธรรมชาติ (ในทำนองเดียวกัน คุณเห็นว่ารถแท็กซี่ ไม่จดทะเบียนให้ถูกต้องผิด เวลาผ่านไปสักพัก แท็กซี่ไม่จดทะเบียนอาจเป็นเรื่องธรรมดา)
ไอ้ระบบเรียกรถหรือเอารถมาขับมันไม่ผิดครับ ที่มันผิดคือซีอีโอคนนี้แกคิดจะชุบมือเปิบอย่างเดียว ภาษงภาษีไม่คิดจะจ่าย เปรียบเปรยไปเหมือนผมเปิดบ้านขายทอง ภาษีไม่จ่าย อ้างว่าแชร์ๆ กับฝูงเพื่อนซึ่งมันชัดเจนว่าไม่ใช่
เหมือนกัน บริการของ uber ไม่ใช่การแชร์ไรด์ที่คนเอารถมาแบ่งกันใช้ แต่เป็นบริการแท็กซี่อย่างชัดเจน (บริษัทย้ำกับคนขับเสมอว่าต้องปฏิบัติแบบดีสุดๆ เปิดประตูให้เปิดท้ายรถให้ทุกอย่างเหมือลลิโม ว่างั้น)
การทำอย่างนี้มันยุติธรรมกับคนอื่นๆ ที่ทำบริการขนส่งไหมละครับที่ต้องจ่ายภาษีเยอะพิเศษ ประกันเอย ตรวจสภาพรถยนตน์เอย ส่วนอูเบอร์มาหากินใช้ท้องถนนเยอะกว่าคนทั่วไปแต่ภาษีไม่จ่าย
แล้วแกมีท่าทีเหมือนอยากจะ co-operate กับทางการแต่ละประเทศไหมก็เปล่า นอกจากนี้ยังมีแต่กะจะเอาฝูงชนมาคัดง้างกับทางการ ถ้าทุกคนอยากทำตามใจตัวเองก็อย่ามีกฎหมายเลยครับ เปิดเสรีขายยาบ้าไปเลยดีกว่าครับ คนซื้อเขาก็อยากซื้อคนขายก็อยากขาย ทางการจะมาห้ามทำไม ห้ามเก็บภาษีหรือจัดระเบียบด้วยนะครับ
ยังจำข่าวที่ซานฟรานซิสโก้ปรับอูเบอร์ได้ไหมครับกรณีที่ไปเก็บเงินพิเศษค่าธรรมเนียมเรียกไปรับที่สนามบิน (แท็กซี่ทั่วไปก็ต้องเก็บ) ประเด็นคืออูเบอร์เก็บเงินจากคนนั่งแต่ไม่ได้จ่ายให้สนามบินแต่ฮุบเข้ากระเป๋าตัวเอง แค่นี้ก็ชัดแจ๋วแหววถึงสันดานแล้วล่ะครับ งานนี้lyft โดนเหมือนกันแต่ก็ยอมความแล้วจ่ายค่าจับไปอย่างว่าง่าย ส่วนอูเบอร์มีหรือจะยอมความดีๆ ฟ้องกลับสิครับ (ก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาฟ้องเหมือนกัน)
นอกจากนี้ยังมีการแย่งคนขับกับบริษัทคู่แข่งอย่าง lyft ขนาดที่ให้คนของบริษัทไปเรียกรถของคู่แข่งพอมารับก็เกลี้ยกล่อมพร้อมเงินโบนัสล่อให้ย้ายมาขับให้บริษัทตัวเองแทน มันเป็นพฤติกรรมที่สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุลได้ดีจริงๆ เลยครับ
เรื่องโลกกลมโลกแบนเอามาอุปมาอุปไมย์ไม่ได้ครับเพราะมันเป็นข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องความผิดถูกจริยธรรมบุญบาปมันเป็นความเชื่อ ต่างกันครับ และผมว่าที่คนด่าๆ อูเบอร์กันไม่ใช่เพราะที่บ้านขับแท็กซี่หรือคิดว่าบริการแท็กซี่มันดีมากหรอกครับ แต่ก็เพราะสันดานของบริษัทแหละครับที่ก็เห็นอยูว่าเห็นแก่ตัวอย่างกับอะไรดี ทั้งเล่นตุกติกอะไรพี่แกเอาหมด
คนที่ออกมาสนับสนุนโดยไม่สนอะไรทั้งนั้นเพราะตัวเองได้ประโยชน์(ใช้บริการและชอบ)โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะเสียประโยชน์หรือไม่ เปรียบไปก็คงไม่ต่างจากกรณีที่โพลผลสำรวจออกมาว่าคนไทยโอเคกับการทุจริตถ้าตัวเองได้ประโยชน์ คือเห็นแก่ตัวว่างั้นเหอะ
+1 ผมอยากจะพูดแบบนี้เหมือนกันครับ แต่เรียบเรียงไม่ได้ขนาดนี้
ผมเข้าใจคุณนะ แต่ไม่เห็นด้วยกับคุณ ผมเห็นด้วยกับ uber (ผมไม่สนว่า uber จะได้ประโยชน์หรือไม่ เพราะถ้าเรื่องนี้เป็นสีขาวเมื่อไร uber จะมีคู่แข่งทันที uber ไม่ใช่คนได้ประโยชน์ คนได้ประโยชน์จริง ๆ คือผู้บริโภค) ถ้าสุดท้ายถ้าเรากลับมาเป็นประชาธิปไตย ผมก็จะเลือกฝั่งที่ มีนโยบายก้าวหน้าในเรื่องนี้ (เรื่องนี้คงจะถูกตัดสินผ่านหีบเลือกตั้ง สักวัน)
คุณเลือกได้ครับว่าอยากให้เป็นแบบไหน อยากสนับสนุนอะไร
โดยออกความเห็น สนับสนุนให้แก้กฎหมาย
แต่ตราบใดที่มันผิดกฎหมาย คุณไม่ควรสนับสนุนให้เขาทำต่อ
ควรให้มีการแก็กฎหมายก่อน
เรื่องผิดกฎหมาย อย่าอ้างประชาธิปไตย ก้าวหน้าครับ
เรื่องนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ ผมจะสนับสนุนทั้ง ๆ ที่มันผิดกฏหมาย (เรื่องผิดกฏหมาย อย่าอ้างประชาธิปไตยและความก้าวหน้า ? ทำไมจะอ้างไม่ได้ครับ ก็อย่างที่ยกตัวอย่างไป เรื่องโลกกลม โลกแบนไง เรื่อง uber มันก็เป็นลักษณะเดียวกัน) ถ้าจะให้ยกตัวอย่างที่ไม่สุดโต่ง มันก็คล้ายกับ บ่อนถูกกฏหมาย หรือ หวยบนดินนั่นแหละ เดี๋ยวมันก็ต้องมาถูกกฏหมาย (ผมโพสหลายครั้ง ว่ามันฝืนธรรมชาติ ที่จะรอให้แก้กฏหมายก่อน เพราะถ้าไม่มี uber ก่อน คุณจะรู้มั้ยว่าต้องแก้กฏหมายอะไร? (ลองคิดดู) แต่คนที่คิดแบบคุณ พูดไปก็ไม่เข้าใจหรอก) ผมเบื่อแล้ว พิมพ์ซ้ำบ่อยมาก
เรื่องนี้มันก็เพราะข้อ 1 นั้นแหละครับ ทุกคนต้องการ และสนับสนุนแน่นอน ส่วนข้อ 2 มันฝืนธรรมชาติ(ตอบไปแล้วด้านบน) ข้อ 3 ผมก็ไม่เห็นด้วย คิดว่าถ้าทุกคนต้องการ มันเป็นคะแนนเสียงแน่นอน
ผมคิดว่า innovation ใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องขัดกับกฎหมายปัจจุบันเสมอไปครับ
ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าหมายถึงอะไรฝืนธรรมชาตินะครับ กฎหมายฝืนธรรมชาติ? หรือว่าอูเบอร์ทำตัวฝืนธรรมชาติ? เพราะอูเบอร์สามารถมีบริการเหมือน ณ ปัจจุบันเลย แต่ conform กับกฎหมายได้ครับ ดังนั้นประเด็นที่ว่าต้องมีอูเบอร์ที่ผิดกฎหมายก่อนถึงจะมีอูเบอร์ที่ถูกกฎหมายได้คงไม่จริง เพราะมันทำให้ถูกกฎหมายตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้โดยไม่ต้องแก้กฎอะไร
แต่ถ้าต้องให้มีอูเบอร์ที่ไม่ต้องจ่ายภาษีแล้วทำมาหากินบนทรัพยากรสาธารณะ(ถนน)ได้ อย่างนี้ก็คงต้องแก้กฎหมายครับ
ผมคิดว่า presence ของอูเบอร์ในเมืองไทยยังไมไ่ด้ใหญ่ขนาดนั้นครับ (ในประชากรหลายสิบล้านคนมีใช่อูเบอร์กี่คน? มีให้บริการครอบคลุมพื้นที่เท่าไรกันเชียว?)
ที่ฝืนธรรมชาติ คือ กฏหมายมันมาหลังปัญหา คำถามคือ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าต้องแก้กฏหมายอะไร ถ้ายังไม่มีปัญหา uber? ลองคิดดู (การที่คุณบอก uber ทำถูกกฏหมายได้ มันก็ถูก แต่มันเป็นเพราะ โลกที่ uber เห็นกับคุณเห็นมันไม่เหมือนกันตั้งแต่แรก) มันก็เหมือนคุณเห็นว่าโลกแบน uber เห็นว่าโลกกลม คุณก็ไปบอกว่า uber ผิดที่เห็นโลกกลม เหตุผลของคุณคือ เพราะกฏหมายบอกว่าโลกแบนมันก็ต้องแบน uber จึงผิด (พูดไปก็เหมือนเสียดสี เรื่องเป็นตลก แต่อีกสักพักผมว่าคุณจะเข้าใจเองว่าผมหมายถึงอะไร) ส่วน uber ได้ประโยชน์ตอนนี้ ผมมองว่ามันคือรางวัลของคนกล้า แต่ไม่แน่บางทีมันอาจเป็นทุขลาภก็ได้ อย่าพึ่งไปอิจฉาเขา เพราะคนที่กล้าบอกว่าโลกกลม โดนบูชายันนะ เหมือน uber กำลังโดนอยู่
คุณก็โลกกลมกับโลกแบนอยู่นั่นแหละครับ ผมบอกไปแล้วว่านั่นมัน fact ไม่ใช่ opinion มันเป็นสิ่งที่วัดและพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ได้เป็นสิ่งที่ measurable ได้ ดังนั้นไม่ควรเอามาเปรียบเทียบกัน
คุณน่าจะหาเรื่องอื่นมาอุปมาอุปไมย์ เช่นการมองสังคมแบบ functionalism VS conflict theory อะไรก็ว่าไปซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถมองได้ทั้งสองทางและก็ถูกทั้งได้ทั้งคู่ ไม่ใช่แบบโลกแบนโลกกลมอะไรนั่น
ไหนคุณช่วยอธิบายหน่อยสิครับว่าโลกที่อูเบอร์เห็นมันเป็นยังไง? ผมเองคิดว่าเราอยู่ในสังคมที่เป็น social-contract ดังนั้นเราไม่ต้อนรับคนที่ชุบมือเปิบทำนาบนหลังคนแบบอูเบอร์ครับ ง่ายๆ ซึ่งมันก็คือประเด็นเดียวที่อูเบอร์ติดอยู่เนี่ยแหละ
คุณเองก็สรุปไปแล้วว่าไม่ต้องแก้กฎหมายก็มีอูเบอร์ที่ถูกกฎหมายได้ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า uber ไม่ได้เป็นการเปิดมิติใหม่อะไรให้กับด้านกฎหมาย(ที่จะต้องมาวิ่งไล่แก้ให้ทันสมัย อาจจะมีข้อปลีกย่อยที่ไม่ได้สำคัญมาก) แล้วเราจะเชียร์ให้อูเบอร์ดันทุรังทำผิดกฎหมายไปเพื่ออะไรครับ?
ดังนั้นที่คุณถามว่า "คุณจะรู้ได้ไงว่าต้องแก้กฎหมายอะไร" ผมตอบสั้นได้เลยว่าไม่ต้องแก้ (คุณเองก็ตอบมาแล้วว่าอย่างนี้) นอกจากเราต้องการจะมีบริการรถที่เอาเปรียบธุรกิจอื่นๆ รวมถึงประชาชนด้วยการใช้สมบัติสาธารณะในการหากินแล้วไม่จ่ายค่าป่วยการใดๆ ซึ่งผมคิดว่าส่วนใหญ่ไม่มีใครต้องการ เพราะอย่างทีว่าเราเป็น social contract เราพอใจการที่รัฐเก็บภาษีแล้วเอามาสร้างประปา ไฟฟ้า ถนน ทางด่วน ฯลฯ โดยเราจ่ายภาษีให้
ผมไม่คิดว่าเราควรจะทำการทดลองถึงความเป็นไปได้ในการแก้กฎหมาย for it's own sake นะครับ เสียเวลาเสียเงินทอง เอาเวลาไปผลักดันกฎหมายที่จำเป็นดีกว่าครับ
อูเบอร์เองมีสิ่งใหม่อยู่ไม่กี่อย่างที่แท็กซี่ไม่แบบเก่าไม่มี คือไม่ต้องจ่ายภาษีค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ฯลฯ และเรียกด้วยแอ็พได้
ส่วนเรื่องการปฏิเสธลูกค้า อูเบอร์เองคนขับก็ปฏิเสธได้ครับ แต่ที่เขาไม่ค่อยปฏิเสธเพราะค่าจัางมันสูงไปแล้วคุ้ม ซึ่งถ้าให้แท็กซี่เท่ากันเขาก็คงไปกันหมดทุกคันแหละครับ เราคงไม่ต้องมานั่งด่าแท็กซี่ว่าไม่ยอมไป
ผมไม่เห็นด้วยกับคุณ แต่ผมขี้เกียจตอบคำถาม เพราะตอบเรื่องนี้ไปหลายรอบแล้ว (เรื่องโลกกลม โลกแบน มันตรงสุดกับกรณีนี้อยู่แล้ว แค่คุณไม่เข้าใจมัน) รอให้ทุกคนเห็นว่า โลกกลมก่อน คุณถึงจะเข้าใจมันเอง ตอนนี้ ทุกคนยังเห็นว่าโลกแบนอยู่ (เหมือนที่เห็นว่า uber ผิด) ยังไงผมก็สนับสนุน uber เพราะผลลัพท์ของ uber มันดีกับทุกคน คุณปฏิเสธความจริงข้อนี้ไม่ได้ ถูกมั้ย
nope
อย่าคิดเองเออเองครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
+ ผมเข้าไปด้วยครับ
แนวทางของตัวบริการของ Uber อาจจะดีครับ แต่ที่แน่ๆ คือตัว Uber ไม่ได้ดีกับผม เรื่อง Uber ดีมันไม่ใช่ fact ครับ
เขียนเปิดช่องหน่อยก็ออกมากัน ผมผิดที่ขี้เกียจตรวจช่องโหว่เอง #มันดีกับคนส่วนใหญ่ ไม่ทุกคน โอเคนะ ถ้ายังไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร มันความเห็นคุณ ส่วนผมเห็นแบบนี้ ก็ความเห็นผม โอเคนะ เขาใจกันแล้ว (ส่วนไอ้คิดเอง เออเอง คุณไม่รู้สึกหรือว่ามันแรงไป ไม่มีมารยาท ไม่เป็นไร สำหรับคุณ ผมเตรียมใช้ แบบที่แรงที่สุดอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าคุณ ต้องการแบบนั้น)
Nope
อย่าคิดเองเออเองครับ
ความเห็นของคุณไม่ใช่ fact ที่จะสามารถกล่าวว่าอะไรดีไม่ดีกับคนส่วนใหญ่ได้ครับ
มันเป็นเพียงแค่ 'ความเห็นความเห็นหนึ่ง' เท่านั้น
ถ้าคุณจะบอกว่ามันดี ก็บอกได้แค่ว่าดีกับคุณครับ อย่าเอาคำว่าคนส่วนใหญ่มาอ้าง
ส่วนจะแรงกับผมก็เชิญครับ :)) อ้อ Windows RT ตอนนี้ตายไปแล้วนะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
โกรธเรื่องนี้สินะครับ ใจตุ๊ดจัง จำไม่ลืมแบบนี้ แฟนลำบากนะครับ :P
จริงๆผมไม่เคยโกดนะครับ เพราะผมรู้มาตั้งแต่แรกว่าคุณมั่ว และพยายามพูดในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ให้มันเป็นไปได้มาตั้งแต่แรก จะเรียกว่าอะไรดี สมเพช?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไม่เป็นไรครับ ผมอภัยให้คุณ คุณจะตามมาราวีผมทุกกระทู้ก็ได้ สนุกดี ผมชอบ ดีกว่าโพส แล้วไม่มีคนตอบอะไร แต่คราวหน้าขอ ความคิดเห็นของคุณและเหตุผลด้วยนะครับ บอกแค่ อย่าคิดเองเออเอง มันง่ายไปหน่อย เหมือน อยากด่าคน แต่ไม่ค่อยลงทุน
ผมว่าทุกคนที่ค้านคุณเนี่ย เค้าให้เหตุผลจนปากเปียกปากแฉะกันแล้วนะครับ
มีแต่คุณเนี่ยแหละ ที่ให้เหตุผลว่าเพราะ Uber จะเปลี่ยนโลก เพราะ Uber เป็นมิติใหม่เหมือนการมองโลกกลม คนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณคือคนมองโลกแบน(อ้าว?) คุณเลยสนับสนุนให้ Uber ทำผิดกฎหมายเพราะเป็นผลดีกับคนส่วนใหญ่(ใครบ้าง?)
สำหรับผม Uber ไม่ได้เปิดมิติใหม่อะไรเลยครับ ก็แค่บริษัทบริษัทหนึ่ง ที่พยายามใช้ช่องโหว่/ทำตัวเหนือกฎหมาย โดยเอานิยาม resource sharing มาใช้แบบผิดๆให้คนหลงเชื่อ (มันเป็น car sharing ยังไง? เห็นๆอยู่ว่ามันก็บริการ taxi ดีๆนี่เอง)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมไม่เห็นด้วยกับคุณครับ การที่คุณจะเปลี่ยนใจผม คุณต้องมีเหตุผลเพียงพอที่จะเปลี่ยนใจผม ซึ่งผมเห็นว่าคุณไม่มีเหตุผลเพียงพอ แน่นอนในขณะเดียวกัน ผมก็ให้เหตุผลของผม ซึ่งแน่นอน คุณก็ไม่เปลี่ยนใจเพราะผมไม่มีเหตุผลพอให้คุณเปลี่นใจ อย่างที่ได้คุยมาหลายครั้ง ผมว่าเคลียทั้ง 2 ฝ่ายแล้วละว่าแต่ละคนมีเหตุผลอะไร (เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่มีทางออกทางเดียว มันอยู่ที่จะเอายังไง) สรุปง่าย ๆ คือ ผมคิดไม่เหมือนคุณ แต่เข้าใจว่าคุณคิดยังไง แล้วคุณละ คิดไม่เหมือนผม แล้วเข้าใจมั้ยว่าผมคิดยังไง (เมื่อเข้าใจกันแล้ว ก็จบ เรื่องทางการเมือง รอตัดสินที่การเลือกตั้ง หรือ ประชามติ หรือชุมนุมประท้วงของแท็กซี่ ล่ารายชื่อให้แก้กฏหมายของ uber หรือ uber จะหาทางแก้ไขยังไงก็ตามแต่เขาจัดการ)
ใช่ครับคุณกับผมเห็นไม่เหมือนกัน และความเห็นของคุณอาจจะดีก็ได้
แต่คุณไม่สามารถกล่าวได้ว่าความเห็นของคุณเป็น de facto(โลกกลม) ความเห็นของคนอื่นเป็น fault(โลกแบน) ครับ
และคุณไม่สามารถกล่าวได้ว่าผลลัพธ์จากการกระทำผิดกฎหมายของ Uber เป็นผลดีกับคนส่วนใหญ่ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คือจริงๆ แล้วผมขี้เกียจมาเถียงแล้วนะ ก็เลยดูคนอื่นเถียงแทนผม :)
คือมันก็เข้าเรื่องเดิมๆ ที่เค้าบอกว่า มันจะกลายเป็นเรื่องถูกกฏหมาย เพราะตอนนี้กฏหมายไม่รองรับ
ผมเองมองว่าถ้ากฏหมายรองรับ มันก็จะยิ่งผูกมัดมากกว่าตอนนี้อีก แต่เค้าก็พยายามบอกว่ามันจะดี มันจะดี โลกจะไปทางนั้น
ผมว่าเถียงก็เท่านั้นครับ รอดูดีกว่า เราอาจจะผิด เค้าอาจจะถูกก็ได้
คุณมีสิทธิ์แค่ค้านความคิดเห็นครับ แต่ไม่มีสิทธิ์ ห้ามความคิดเห็น เข้าใจตรงกันนะ (สำหรับคุณ papasak แค่คุณคิดว่าผมอาจจะถูก ผมก็ดีใจแล้วครับ ว่าที่อุตส่า เพียรพยายามพิมพ์มา ไม่เสียเปล่า) แต่ผมงงว่า ถ้ากฏหมายรองรับมันจะผูกมัดยังไง
กฏหมายไม่เคยให้ความสะดวกสบาย กฏหมายถูกสร้างมาสำหรับคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหลัก ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ และความไม่รับผิดชอบจากทั้งสองฝ่ายครับ
ยิ่งมันเข้าระบบ มันก็จะต้องทำตามกฏหมายมากขึ้น เหมือนการพนัดต่างๆ ตอนที่มันยังผิดกฏหมายก็มีสิ่งที่เป็นสิ่งผิดกฏหมายแวดล้อมครับ แต่ถ้าคุณเอากฏหมายไปควบคุม มันก็น่าจะดีขึ้น
ซ่องโสเภณีเช่นกัน ถ้ามันถูกเอากฏหมายไปจับ โสเภณีทุกคนก็จะต้องตรวจร่างกาย ต้องมีกฏ 1, 2, 3, 4 เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
ที่ผมพยายามจะบอกคือ เมื่อมันเข้ามาอยู่ในระบบแล้วอย่างถูกกฏหมาย มันก็จะถูกกฏหมายบังคับเพื่อให้ผู้บริการมีความรับผิดชอบมากขึ้น
ผมเคยเสนอไปแล้วเรื่องประกันภัย ... ตอนนี้หากเกิดอุบัติเหตุรถทั่วๆ ไปที่มาให้บริการกับ Uber เนี่ย บ.ประกันสามารถงดเว้นการชดใช้ได้เลยนะครับ แต่ถ้ามันถูกกฏหมาย หรือเข้าระบบจริงๆ ทุกอย่างมันจะถูกบังคับตามที่ผมเสนอไปครับ
มันไม่มีหรอกครับ ... ถูกกฏหมายแล้วจะกลายเป็นว่าเอารถใครมาบริการก็ได้ ประกันไม่จ่ายครับ ไม่มีอะไรคุ้มครองผู้บริโภคเลย
ซึ่งผมเคยเสนอเรื่องความเสี่ยงกับเบี้ยประกันไปแล้ว แต่คุณบอกว่าคุณไม่สน และคุณไม่พิจารณาเรื่องเหล่านี้ เพราะคุณไม่เคยทำประกัน ...
แต่พอดีว่าคนที่เป็นคนตัดสินไม่ใช่คุณครับ แต่มันคือกฏหมายและการคุ้มครองต่อผู้บริโภค คุณจะสนหรือไม่สนก็แล้วแต่อ่ะนะ เพราะบริษัทประกันเค้าก็ไม่สนว่าคุณจะเคยทำประกัน หรือสนใจทำประกันหรือไม่อย่างไร ทำผิดข้อตกลงเค้าก็ปฏิเสธที่จะจ่าย และถ้าความเสี่ยงสูง ภาระการชดใช้สูง แต่ได้รับเบี้ยประกันต่ำ เค้าก็คงไม่เอาครับ
ผมจะไม่ลืมที่จะบอกนะครับ ว่านี่เป็นเพียงข้อคิดเห็นที่ผมเสนอ ผมอาจผิดก็ได้ ซึ่งผมเคยคิดผิดมาแล้วเรื่องประกันกับผู้สูงอายุครับ ... business model ของประกันชีวิตในไทยตอนนี้ก็รองรับผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้นในอนาคตอาจมีประกันภัยสำหรับคนใช้รถที่เอารถส่วนตัวมาบริการ Uber ก็ได้
อ้อ แต่มันยังผิดกฏหมายอยู่ดีนะ
ผมก็อยากให้มันชัดเจนแบบนั้นละครับ ปล. ที่บอกไม่เคยทำประกัน -> หมายความว่าไม่เคยทำงานในบริษัทประกัน เลยไม่รู้เรื่องการคำนวนเบี้ยประกัน
ผมก็ไม่เคยทำบริษัทประกันครับแต่ผมเคยศึกษา และมันเป็นพื้นฐานของธุรกิจที่ทำกำไรบนความเสี่ยง ไม่ยากที่จะเข้าใจนี่ครับ
เข้าใจครับ แต่ที่คุณถาม รู้มั้ยว่าเบี้ยประกัน แท็กซี่ กับรถเก๋งต่างกัน ผมไม่รู้ครับ ผมไม่เคยขับแท็กซี่ มีแต่รถเก๋ง และผมไม่คิดว่าเบี้ยประกันอะไรนี่ มันสำคัญ ที่จะสื่อคือ เรื่องพวกนี้มันเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องไปคุยกัน ถ้าเกิดยอมให้มีแท็กซี่ uber ป้ายดำ นี่คือที่จะสื่อ (เมื่อมันเปลี่ยนแปลงได้ แก้ไขได้ มันจึงไม่สำคัญไงครับ ประเด็นหลัก มันเลยไปอยู่ที่ ยอมให้มี uber ป้ายดำหรือเปล่า)
แล้วคุณเคยเป็นรัฐบาล เคยเป็นสสร. เคยเป็นผู้ร่างกฏหมาย เคยเป็นทนายหรือครับ?
เอิ่ม .... ผมแนะนำให้ถอนคำพูดครับ
อันนั้นเรื่องเมื่อนานมาแล้วครับ(สมัย Windows RT ยังไม่ออก) ไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
โดนแบนด้วยข้อหาให้คำไม่สุภาพดูถูกผู้อื่นนะครับ
+1
+1
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอกระแสต้าน ขนาด uber ยังรู้เลยว่าโดนต้านแน่เพราะศึกษามาดีแล้ว แต่ uber อาจจะต้านทานไม่ไหวก็ได้ เพราะกระแสมันเริ่มตีกลับจากภาครัฐ
ขณะที่ภาคประชาชน กระแสมันไม่ได้สนับสนุนเต็มที่ เพราะประชาชนสนับสนุนที่คุณภาพ หาใช่เพราะชื่อบริษัท uber ไม่
หากมีบริการtaxi ที่ถูกกฏหมาย คุณภาพเทียบเท่า uber ประชาชนก็อาจจะเลิกใช้ uber ก็ได้
uber มาเปลี่ยนกระแส แต่ภาครัฐคงไม่ยอมให้ uber มาคุม taxi ในประเทศนั้นๆ เพราะมันยังมีเหตุผลในมุมมองของรัฐ ที่ประชาชนอาจจะไม่สนใจ เพราะไม่ใช่หน้าที่ตน
ดีใจ ครับ
ที่มี คนตั้งข้อหา UBER จริงจริง ซะที
แต่ ไม่ใช่ ประเทศไทย