เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์จัดงาน Microsoft + Open Source Day งานสัมมนาที่พูดถึงความเข้ากันได้ระหว่างบริการของไมโครซอฟท์และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สจำนวนมาก หรือแม้แต่ความเข้ากันได้กับระบบจากผู้ผลิตรายอื่นเช่น iOS และ OS X จากแอปเปิลเอง
ภาพของไมโครซอฟท์ที่ไม่เป็นมิตรกับโลกโอเพนซอร์สนัก ทั้งที่ตัวซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์เป็นซอฟต์แวร์ปิดซอร์ส และการแข่งกันกับซอฟต์แวร์อีกหลายๆ ตัว แต่ท่าทีของไมโครซอฟท์ในช่วงหลังเปลี่ยนไปอย่างมาก และเป็นมิตรต่อโลกโอเพนซอร์สมากขึ้นจนกระทั่งมาถึงวันที่ไมโครซอฟท์จัดงาน Open Source Day ของตัวเอง
ภาพการทำงานร่วมกันระหว่างไมโครซอฟท์และโลกโอเพนซอร์สมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโลกเข้าสู่ยุคของคลาวด์ ในงานครั้งนี้ไมโครซอฟท์ระบุว่ามีเซิร์ฟเวอร์ที่รันอยู่บน Azure แต่เป็นลินุกซ์ถึง 20% และหากนับเฉพาะลูกค้าจากประเทศไทย จำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นลินุกซ์จะสูงถึง 55% มากกว่าเซิร์ฟเวอร์ที่รันเป็นวินโดวส์เองเสียอีก แสดงให้การเปิดกว้างที่มากขึ้นของไมโครซอฟท์ เพื่อให้นักพัฒนาได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการใช้งานคลาวด์ของไมโครซอฟท์
การทำให้ลินุกซ์สามารถทำงานบน Azure ซึ่งมีฐานเป็นวินโดวส์ได้ไม่ใช่เรื่องที่ได้มาเองโดยไม่มีคนทำงาน โครงการ Openness ภายในไมโครซอฟท์ ทำงานร่วมกับกลุ่มมาตรฐานมากกว่า 150 กลุ่ม กลุ่มทำงานอีกกว่า 400 กลุ่ม เพื่อให้แน่ใจได้ว่าซอฟต์แวร์ที่ได้รับความนิยมสูงหลายๆ ตัว นับแต่ PHP, Python, MongoDB, NodeJS, Hadoop, Linux, หรือ Android จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และบริการของไมโครซอฟท์ได้อย่างสมบูรณ์
Azure เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันกับโลกโอเพนซอร์ส ไมโครซอฟท์ซัพพอร์ตซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สในทุกระดับ
แนวทางเช่นนี้ทำให้ Azure เป็นตัวเลือกที่เปิดกว้างทั้งผู้ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์เอง ที่ช่วงหลังเริ่มเปิดให้ผู้อื่นเข้าถึงได้มากขึ้นเรื่อยๆ หรือจะเลือกใช้งานเทคโนโลยีจากโครงการที่เปิดซอร์สอื่นๆ มารันบนโครงสร้างของไมโครซอฟท์ก็ได้เช่นกัน
นอกจากการทำงานร่วมกับชุมชนมากขึ้นแล้ว ไมโครซอฟท์ยังเปิดให้คนเข้าถึงทั้งซอฟต์แวร์และบริการของตัวเองได้ง่ายขึ้นอย่างมากในช่วงหลัง ในงานนี้ไมโครซอฟท์แนะนำ 3 โครงการที่ไมโครซอฟท์เปิดให้คนเข้าถึงทั้งบริการและซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น
Azure4Research โครงการสนับสนุนโครงการวิจัยให้สามารถเข้าถึงพลังประมวลผลของ Azure ได้ง่ายขึ้น ปีที่แล้วมีโครงการเสนอเข้าไปขอสนับสนุนโครงการนี้กว่า 700 โครงการและได้รับการสนับสนุนถึง 360 โครงการ หรือประมาณครึ่งหนึ่ง โครงการนี้ยังรวมถึงการเข้าฝึกการใช้งาน Azure
Azure for Education โครงการสนับสนุนชั้นเรียนให้สามารถใช้ Azure เพื่อเรียนรู้การใช้งานคลาวด์จากของจริง โดยอาจารย์สามารถยื่นขอสนับสนุนชั้นเรียนที่ต้องการเรียนรู้การใช้งานคลาวด์ โดยอาจารย์จะได้รับเครดิต 250 ดอลลาร์ต่อเดือนเป็นเวลา 1 ปี และนักเรียนในชั้นจะได้รับเครดิต 100 ดอลลาร์ต่อเดือนเป็นเวลา 6 เดือน
BizSpark โครงการสนับสนุนทั้งซอฟต์แวร์และคลาวด์สำหรับสตาร์ตอัพที่กำลังจะเริ่มให้บริการ ตอนนี้มีสตาร์ตอัพกว่าหนึ่งแสนรายทั่วโลกได้รับการสนับสนุนผ่าน BizSpark สำหรับธุรกิจที่ต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยเฉพาะบริการ Azure ยังสามารถยื่นขอสนับสนุนเป็น BizSpark Plus ผ่านโครงการสนับสนุนสตาร์ตอัพที่ร่วมมือกับไมโครซอฟท์ หากได้รับสนับสนุนเป็น BizSpark Plus จะได้รับเครดิต Azure สูงสุดถึง 60,000 ดอลลาร์
ความเปลี่ยนแปลงของไมโครซอฟท์ที่เปิดกว้างมากขึ้น การซัพพอร์ตที่กว้างกว่าเดิม การทำงานร่วมกับโครงการภายนอกที่เพิ่มมากขึ้นและเพื่อให้คนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้ไมโครซอฟท์ในวันนี้ไม่เหมือนกับไมโครซอฟท์ที่เราเคยรู้จักเมื่อสิบกว่าปีก่อนอีกต่อไป
Comments
ไม่ต้องพูดกันเยอะเนอะ
เอาเป็นว่าสู้ๆแล้วกันครับ
เดินช้ากว่าคนอื่นไปหลายก้าว แต่ก็ยังดีกว่าไม่ยอมเดินเนอะ (ดู Nokia เป็นตัวอย่าง)
สู้ๆครับ เอาใจช่วย
ปล. ไม่มีฝ่ามือใครในโลกนี้ ที่ใหญ่พอจะปิดจักรวาลได้ครับ
การที่เค้าให้เครดิต เค้าได้อะไรบ้างหรอครับ
ก็ดีครับ แต่สิ่งที่ผมต้องการจริงๆคือ DirectX กับ .NET โปรแกรมที่สร้างขึ้นมาจาก 2 ตัวนี้ ทำให้มันทำงานบน OS X กับ Linux หน่อยเถอะครับ ความฝันผมเลย จะได้ย้ายโปรแกรมบัชชี ไปทำงานบน OS อื่นที่ไม่ใช่ Windows ซะที อยากย้าย Server แล้ว windows server แพงเหลือเกินกับงานที่ต้องการ
มี open source ของ .Net แล้วครับอยู่ช่วงพัฒนา แต่ DirectX นิถ้าเอามาขยายผมเกรงว่า Linux จะได้ประโยชน์จากเกมจน windows ไม่อาจมองข้ามข้อนี้ได้เลย
ค่าย Value ที่ทำ Steam มีโปรเจค opensource Direct3D -> OpenGL อยู่ครับที่ Github
https://github.com/ValveSoftware/ToGL
หนีตายอะดิ ยอดขาย pc ดิ่งซะขนาดนั้น คนหันไปใช้ tablet กันมากขึ้นทั้ง เเอนดรอย ios เเต่ เเอนดรอย ms ได้ส่วนเเบ่งปีที่เเล้ว 1000-1500 ล้านเลยค่าสิทธิบัตร เเต่เอาไปปะ xbox one xbox360 เหลือกำไรนิดหน่อยๆ
ms ควรสนับสนุนโปรเเกรมที่ใช้ปากกา กับ tablet เเทนดีกว่านี้เเหละอนาคตของจริงๆเลย คิดว่าไม่เกิน 2 ปีนี้เเทบเล็ตคงเเจกปากกากันเกือบหมด app ไหรมาก่อนดังก่อนก็กินยาว
ดูดีครับ แต่ไม่ใช้อีกแล้ว หมายถึงไม่อยากฝากโค้ดของผมกับแพลทฟอร์ม และภาษาค่ายนี้อีกแล้วละ ของเก่าก็ยังต้องทนใช้พร้อมอัพเกรดจ่ายไลเซนส์กันต่อไป
ทำไมเหรอครับ
ສະບາຍດີ :)