ครอบครัวข่าวรายงานถึงนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในตอนนี้ที่กำลังจะแก้กฎหมายจำนวนมาก มีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับคนทำงานไอทีหลายฉบับ
กฎหมายฉบับหนึ่งคือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ หรือพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่มีกระบวนการแก้ไขมานานแล้วก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่กำลังจะแก้ไขกัน ตอนนี้ผมยังหาไม่เจอว่าร่างล่าสุดมีการแก้ไขอย่างใดไปแล้ว กฎหมายที่น่ากังวลอีกฉบับเพิ่มเข้ามาคือ พ.ร.บ.ความมั่นคงทางไซเบอร์ กฎหมายฉบับนี้ผมเองไม่เคยได้ยินชื่อหรือเห็นร่างมาก่อน ตอนนี้รู้เฉพาะชื่อโดยยังไม่มีเนื้อหาเปิดเผยออกมา
อีกร่างหนึ่งที่กำลังพิจารณากันคือ พ.ร.บ.กสทช. ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกปรับการทำงานค่อนข้างแน่ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะปรับไปแบบไหนอย่างไร
กฎหมายอื่นๆ เป็นการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ร่างแรกคือการแก้ไข สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิคส์ ให้สามารถดำเนินการร่วมทุนได้รวดเร็ว แก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ออกพ.ร.บ.คณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล
กฎหมายทั้งหมดจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
ที่มา - ครอบครัวข่าว, เดลินิวส์
Comments
ตามข้อมูลในเว็บรัฐสภา เค้าจะตัดความในวรรคที่ถัดจากคำปรารภ เกี่ยวกับการอ้างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจตรากฎหมายจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลออกทั้งวรรคครับขอลบออกนะครับ อันนี้อันเก่า = ="บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ผมว่าพอเนื้อหาออกมา เดี๋ยวก็ได้ฮือฮาเหมือนเดิม อิอิ
..: เรื่อยไป
เมื่อก่อนผมยังคิดว่าไม่ผิดแล้วกลัวอะไร เดี๋ยวขอเปลี่ยนเป็นถ้าไม่ระมัดระวังตัวจะโดนอะไรดีกว่า พรบ.ครอบเอกภพกำลังจะมา!!!!
"พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์" ไม่ต้องเติม "ฯ" ครับ ลองไปศึกษาเรื่องการใช้เครื่องหมายไปยาลน้อยดู
"พ.ร.บ.ความมั่นคงทางไซเบอร์ "
อันนี้หล่ะที่น่ากลัว..
น้องชาย Great Wall กำลังจะคลอด
Great Coconut Shell สินะ กำโทดๆๆ
+1 อุ้ย!!! เอามือทาบอกอุทานเบาๆ กับภาพจิตนาการที่อยู่ในกลางกะบาลตอนนี้
ขอเวลาอีกไม่นาน..
ก็คงจะผ่านอีกเช่นเคย คนให้ผ่านไม่ได้รับผลกระทบเหมือนคนอื่นเขานี่นา?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ข้อดีข้อเดียวของรัฐบาลนี้ที่คิดออกคือระงับการเผชิญหน้ากันของคนสองฝ่าย ซึ่งข้อดีข้อเดียวนี้จะหมดไปทันทีที่รัฐบาลนี้หมดอำนาจ
รัฐนี้นี่ทุกอย่างกระทบความมั่นคงหมดเลยนะครับ เป็นรัฐที่ง่อนแง่นมากๆ ยิ่งพยายามทำให้แข็งแกร่งเท่าไรก็ยิ่งรู้ว่าอ่อนแอมากเท่านั้น
ถูกจายยยยยยยยยย กระเบื้องก็ไม่ใช่ นี่มันข้าวเกรียบชัดๆ
ใกล้ลูกพี่จีน เข้าไปเรื่อยๆแล้วสินะ
ไม่สิ รถไฟที่จะสร้างใหม่ ไม่เอาความเร็วสูงนี่นะ -_-
อิหร่าน 2
ว้ายย
ขอให้เป็นกฏหมายที่ส่งเสริมเสรีภาพ เพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ แค่นี้ก็พอใจแล้ว...
ส่งเสริมเสรีภาพ งั้นผมว่าคุณคงไม่พอใจฝุดๆเลยแหละ :P
ขอเสรีภาพที่ไม่ไปกระทบเสรีภาพของผู้อื่นด้วยครับ มีแต่คนอยากได้แต่เสรีภาพของตัวเองครับ ตัวตั้งที่คิดถึงก่อนเป็นลำดับแรกก็ตัวเองแล้วก็คนรู้จักไม่เอาครับ โดยเฉพาะกฎหมายพกอาวุธในที่สาธารณะเนี่ย จับได้โทษเท่าฆ่าคนตายได้แล้ว ไม่ต้องรอให้ไปฆ่าใครก่อน ถ้าปราบปรามแรงจริงจะมีข่าว ฆ่ากันตายโดยอารมณ์ชั่ว(วูบ<->มาก)น้อยลงครับ อย่างมากก็ต่อยกันตาย ต้องใช้เวลามากกว่า พอจะห้ามทัน ถ้าอาวุธนี้ไม่ถึงนาทีก็ทำให้คนเป็นศพได้แล้ว
สิทธิ Yell Yell ผมไม่เอาครับ ถ้าจะมาต้องให้สิทธิ์ เด็ก คนพิการ สตรีมีครรภ์ และคนชรา ตามลำดับให้ครบก่อนครับ ส่วนสตรีธรรมดาผมถือว่าเท่าเทียมไปนานแล้วสำหรับประเทศไทย
ปัญหาของเราไม่ใช่กฎหมายไม่ครอบคลุม แต่ปัญหาหลักน่าจะเป็นเรื่องการบังคับใช้ คนมีตังมีเส้นสายกฎหมายมักจะไปไม่ถึง จะจับได้ก็แต่ลุงเก็บขยะ เจ้าโรงงานปั้ม CD นี้ไม่ค่อยจับ เรื่องปืนนี้ก็หลานเพื่อนพ่อของญาติทางแม่ของคนมีสีขอมาก็จบ ถ้าแก้ปัญหาเส้นสายหรือให้มันน้อยลงไม่ได้ยังไงสังคมก็ไม่มีความเป็นธรรม แถมเปิดช่องทางทำกินใหม่ ๆ ขึ้นมาอีก
จะมีจับตัวใหญ่ก็ตอนขัดขากัน แต่นั้นก็นานที
อันนี้น่าจะเข้าใจผิดเรื่องกฎหมายนะครับมันพรบ.คนละตัว
ลุงเก็บขยะขายวีซีดีมือ2 นศ.มสธ.ขายวีซีดีมือ2
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ พรบ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์
เจ้าของโรงงานปั๊มซีดี เป็นคดีตามพรบ.ลิขสิทธิ์
ส่วนเรื่องตำรวจไม่เกี่ยวกับตัวกฎหมายครับเป็นความไม่ได้เรื่องของพนักงานเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม
คดีขายวีซีดีมือ2ผมเคยบ่นๆไว้น่าจะตอนปี 51 ที่พรบ.มาใหม่ๆยังไม่มีคดีด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะใน Pantip หรือบอร์ดอื่นๆทุกคนสับสนเรื่อง พรบ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กับ พรบ.ลิขสิทธิ์ มาตลอด ผมเคยเข้าไปชี้แจงใน Pantip 1ครั้งว่าทำไมลุงเก็บของเก่าจึงติดคุก
ขายวีซีดีไม่มีใบอนุญาตโทษปรับเป็นแสนครับประมาณสองแสนบาทได้ลดโทษกึ่งนึงยังโดนเป็นแสนอยู่ดีติดคุกแทนค่าปรับกันไปเป็นปี แต่มันน่าด่าตรงที่บ้านมีแผ่น 5แผ่นเบื่อแล้วเลยเอาไปขายต่อไม่อยากเก็บไว้ ต้องไปขอใบอนุญาตค่าธรรมเนียม 5000 แถมเอาให้เพื่อนยืมยังต้องขอใบอนุญาตด้วยนะ กฎหมายบ้านไหนเนี่ยออกมาไม่ make sense เลย ตัวกฎหมายมันขัดต่อความสงบเรียบร้อยเสียเอง ไม่ให้ด่ายังไงไหวล่ะครับผมด่าตั้งแต่วันแรกๆที่กฎหมายประกาศใช้เลยครับ
ถ้าเป็นคดีเดียวกันไปจับร้านใหญ่ๆเขาจ่ายค่าปรับก็จบครับถูกกว่าค่าประกันตัวในศาลอีก
ปัญหาคือคนออกกฎหมายไม่เคยดูหนังไม่เคยขายของเก่าครับ เลยลอกกฎหมายเขามาทั้งดุ้นแล้วใส่นิยามครอบจักรวาลลงไป
เด็ก คนพิการ สตรีมีครรภ์ และคนชรา ก็ได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายเท่าเทียมกับคนทั่วไปอยู่แล้วนี่ครับ
แต่ผมเห็นต่างนะ พรบ.หลายฉบับมากที่ผ่านการออกกฎหมายโดยรัฐบาลทหารมีปัญหาตลอด ตัวอย่าง เช่น พรบ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ที่เป็นปัญหาเรื่องการขายสินค้ามือสองซึ่งถูกลิขสิทธิ์ แบบขายของที่เราเบื่อแล้ว
มันไปขัดกับกฎหมายแพ่งมาตรา 1336 ที่ว่า เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอย และจำหน่ายทรัพย์สินของตน
การให้ขึ้นทะเบียน 5000 บาทเพื่อจะระบายของหรือแลกเปลี่ยนหรือบริจาค วีซีดีเก่าๆ มันก็แสดงให้เห็นได้ชัดว่ากฎหมายไม่ได้ผ่านกลั่นกรองเท่าที่ควร ไม่ผ่านระบบการถกเถียงหรือความคิดเห็นเลย ทำมาเอาใจนายทุนลูกเดียว เพราะอยากผ่านแกก็ผ่านกฎหมายออกมาเลย
ดังนั้นอย่าได้ถวิลหากฎหมายดีๆจากรัฐบาลทหารครับ เพราะระบบการตรวจสอบไม่มีเลย อยากออกก็ออก แล้วแต่แป๊ะ เลย ที่ไปนั่งสุมๆกันในสนช.ก็เท่านั้นแหละ ออกกฎหมายตามใจแป๊ะชัดๆ ไม่ต่างจากตอนรัฐประหารตอนปี 49 แล้วรัฐบาลทหารออกมาคุมเลย
ผมว่าดูคนออกกฏหมายออกมามันไม่ได้ประโยชน์เท่าไรนะครับ เนื้อหาสำคัญมันอยู่ที่ content และการบังคับใช้ มากกว่านะครับ
คนออกกฎหมายมีส่วน 50% ครับเพราะ content จะต้องมีการกรองก่อน
รัฐบาลทหารมักไม่มีการกลั่นกรองแบบละเอียด เพราะประชาชนไม่สามารถโต้แย้ง content ข้างในได้ถ้าเขาอยากจะออกกฎหมายเขาก็ออก เพราะไม่ต้องใส่ใจกระแสสังคมมากนัก ตามใจแป๊ะเลย
เรื่องพรบ.ที่ผมกล่าวถึง มันผ่านการถกเถียงและตกผลึกจากนักกฎหมายด้วยกันแล้วตัว พรบ. ไม่ผ่านการกลั่นกรอง ออกมาดื้อๆตามใบสั่งเลย มันจึงได้เป็นปัญหา แต่ถ้าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งเขาจะหน้าบางกว่าเพราะถ้า content ข้างในมีปัญหานี่ส่งผลต่อสเถียรภาพ ของรัฐบาลดังนั้นจะมีการถอนร่างให้เห็นบ่อยกว่ารัฐบาลทหาร
ลองสังเกตสิครับตอนนี้กฎหมายออกมากี่ฉบับบางฉบับประกาศใช้เลยไม่มีข่าวให้เราได้ดู content โอกาสที่ประชาชนจะเห็น content ไม่มีเลย พรบ.ภาพยนต์นี่ผมด่าตั้งแต่ยังไม่มีคดี วีซีดีมือ2 แล้วครับ ตอนนั้นหลายคนด่าผมแบบไม่ยั้งว่ามั่วบ้างรอฎีกาบ้าง
พอคดีออกมานี่คนที่ด่าผมเงียบเป็นเป่าสากเลยเงิบกันถ้วนหน้าเพราะคดีอาญามันอ่านตามตัวบทเลยครับตีความง่ายถ้าอ่านกฎหมายเป็น พอถึงศาลก็รู้แล้วว่าจะแพ้หรือไม่แพ้ ผมด่าพรบ.นี้มาราวๆ 5-6ปีได้ ผมพูดดักไว้นานมาก ว่าแค่เอาแผ่นให้เพื่อนยืมหรือเอาไปขายมือ2ก็ผิด ก็เนื้อหามันเป็นแบบนั้น ไปเอานิยามคำว่าประกอบการออก มันก็ต้องตีความตามพจนานุกรมสิครับคำว่าประกอบการในพจนานุกรมกว้างมากแถมใส่คำว่า เพื่อผลประโยชน์ใดๆ ให้เพื่อนยืมก็ได้ประโยชน์แล้วครับเพราะได้ใจเพื่อน
พรบ.เทปวัสดุโทรทัศน์ยังมีนิยามว่ามีไว้สำหรับพวกร้านขาย/เช่าวีดีโอ เอาของในบ้านมาโล๊ะไม่เกี่ยว
ในขณะนั้นไม่มีใครสนใจบอกว่าผมบ้าบ้าง ตีความมั่วบ้างพอมันเป็นจริงขึ้นมาไม่มีใครมาขอโทษผมเลย โดนด่าฟรีๆด้วยเตือนก็ไม่ค่อยจะฟังกัน
สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้อ่าน content ข้างในแล้วด่าดักไว้เลยครับเผื่อรัฐบาลใหม่จะได้เข้ามาแก้ไข อย่าได้หวังลมๆแล้งๆกับรัฐบาลทหาร กฎหมายน่ะลอกตัวหนังสือมาจากกฎหมายต่างประเทศ แต่ในต่างประเทศเขาใช้คอมมอนลอว์ ดังนั้นการตีความไม่เหมือนของไทย ของไทยตีความแบบเยอรมันนี ตีความตามตัวอักษรแถมเขียนกว้างครอบจักรวาล = เปิดคอมก็ติดคุก
เหลือทางเลือกแค่สองทางสินะสำหรับการปกครองไทยคือจีนกับเกาหลีเหนือ
ผมสนใจว่า ใครเป็นคนออกกฏ
ใครให้เขาออกกฏนี้ และ เราต้องเสียภาษีและต้องยอมรับมันด้วยหรือ
เขามีปืน
จบนะ
ไม่จบ มาเข้ารับปรับทัศนคติด้วย :D
ส่วนตัวเห็นว่าต้องทำครับ ................................... ทำใจ
เนื้อหาคร่าวๆ ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ หรือไม่จำเป็น
ไม่ย้ายประเทศหนี ก็ต้องรวยล้นฟ้า หรือยอมเป็นพวกกับเค้า ไม่อีกอย่างก็ระเบิดประเทศทิ้งไปเลย ผมว่าทางเลือกคงมีแค่นี้ :P