กลุ่มพลเมืองเน็ตเปิดเผยเอกสารคำสั่งกระทรวงไอซีที ที่ 163/2557 ตั้งคณะทำงานทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์ โดยมีหน้าที่หลักคือทดสอบ "ระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์ที่มีการเข้ารหัสป้องกันข้อมูล (SSL : Secure Socket Layer)"
คณะทำงานนี้จะทดสอบระบบนี้ กับผู้ให้บริการที่เชื่อมต่อกับต่างประเทศโดยตรงหรืออินเทอร์เน็ตเกตเวย์ จากคำสั่งตั้งคณะทำงานนี้ คณะทำงานเกือบทั้งหมดเป็นทหาร (สี่เหล่าทัพ เหล่าทัพละ 4 คน ผู้บัญชาการกองทัพไทยและสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมอีกหน่วยงานละสี่คน) นอกจากนี้ยังมีตัวแทน กสทช., ตัวแทน ปอท., และตัวแทนกระทรวงไอซีที ร่วมคณะทำงานนี้
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าคณะทำงานนี้ได้ทดสอบอุปกรณ์นี้อย่างไร หรือทดสอบเป็นวงกว้างแค่ไหน
ที่มา - Facebook: Thai Netizen Network
Comments
มีแบบนี้เลิกหวังว่าจะมีบริษัทข้ามชาติมาตั้งศูนย์ข้อมูลได้เลย
คิดกลับกัน Hacker ข้ามชาติ คงตบเท้าเข้ามาตั้งเพียบ ตาKim.com อาจมาตั้งสาขาที่นี่ก็เป็นได้
เดี๋ยวนะ หรือว่าต่อไปนี้ เว็บที่เข้ารหัส TLS/SSL จะถูกบังคับให้เปลี่ยนใบรับรองเป็นของทางการ เพื่อจะได้ตรวจสอบเนื้อหาได้รึไง?
ถ้าเป็นจริงต่อแต่นี้ ก็คงสนุกกันละ แม่กุญแจขาดกันระเบิดระเบ้อแน่
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ใครยังจะเชื่อถือการทำธุรกรรมในไทยอีกไหม ผมขอให้ทางการไทยมีสติพอที่จะไม่ทำ
ก็หวังลึกๆ อยู่เหมือนกัน
คือถ้ามันจะดักฟังได้ผลก็ต้องวิธีนั้นเป็นวิธีเป็นไปได้ง่ายที่สุด (อีกวิธีคือให้ผู้ประกอบการมอบกุญแจถอดรหัสให้ ซึ่งใครมีสติดีจะไปยอมกัน)
ไม่งั้นมันก็จะแค่เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเป้าหมายกับเครื่องแม่ข่าย แต่ไม่เห็นเนื้อหา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับที่ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่
ส่งใบรับรองไปให้พวกมัน!, ผู้นำท่านหนึ่ง
กรณีนี้บ้านเราพยายามรักษาความมั่นคงด้วยวิธีการ และความเข้มข้นในระดับเดียวกับอเมริกาที่มีการก่อการร้าย แบบเดยวกับจีนที่เป็นคอมมิวนิสต์ บ้านเรามีความจำเป็นอะไรที่ต้องทำถึงขนาดนี้หว่า
ไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วยนะ แต่มันต้องมีเหตุผลรองรับหน่อยอ่ะครับ
"ก็จะทำอ่ะ ใครจะทำไม", ผู้นำท่านเดิม
เดี๋ยวคงมีพวกที่ด่าคนดีเบทในอินเตอร์เน็ตว่าไร้สาระ เข้ามาดีเบตกับคนอื่นแบบข้างๆ คูๆ ต่อไป
อย่าหมอกสิอย่านะ!!! สูบบุหรี่เยอะไปก็งี้แหละ:P
หมอก? Autocorrect strike again?
มะวานยังรู้ตัวเองปลอดภัยเพราะ SSL อยู่เลย ตอนนี้หมุด Tor เล่นเว็บนี้ดีกว่า แต่คอมเมนต์จะต้องปรับทัศนคติแน่เลย:P
ปล.กับประชาชนขนาดนี้ระวังไว้เถอะจะโดนแฮกข้อมูลซื้อยุทธโธปกรณ์ส่วนต่างเยอะกันนะจ๊ะ
กระเถิบเข้าใกล้เกาหลีเหนือเข้าไปทุกขณะ
สงสับไปซื้อมาจากไบดูที่เพิ่งไปดูงานมา?
ถ้าถึงขั้นบังคับเปลี่ยนใบรับรอง internetbanking โดนhack ไม่ต้องโทษคนอื่นล่ะครับ
"เป้าหมายของเราไม่ใช่การ hack internetbanking"
ตอบแบบเดียวกับตอนผ่านร่างพรบ.อ่ะครับ "ไม่ได้เอามาใช้แอบดูใคร"
มันแค่ผลพลอยได้ใช่ไหมครับ
แฮกไเด้ใบเดียว โดนทั้งประเทศ โอ้สสส
แหม่ วิสัยทัศน์ ผู้มีอำนาจบ้านเรา
สู้เพื่อความมั่นคง(ของใครวะ?) สุดตัวกันจิงๆ
ในอดีต เคยมีเหตุการณ์ที่ข้อมูลจากการถูกดักฟังแบบนี้ หลุดออกไปสู่ภายนอกรึป่าวครับ, หรือว่าเคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายจากการถูกดักฟังแบบนี้บ้างรึป่าวครับ?
ถามพอเป็นความรู้ครับ SSL นี่ นอกจากเราและเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางแล้ว บุคคลที่ 3 สามารถดักข้อมูลเราได้ด้วยเหรอครับ แล้วถ้าเค้าจะถอดข้อมูล นั่นแปลว่าเค้าต้องมีกุญแจเดียวกันใช่ไหมครับ
จริงๆแล้วข้อมูลมันดักกันได้หมดขึ้นอยู่กับว่าอ่านออกหรือเปล่า การเข้ารหัสสองทางที่ใช้กันมันจะมี Public คีย์ครับคือคีย์ที่ให้ระบบทางผู้ใช้ผสมกับตัวดาต้าให้เสร็จก่อน แล้วมาถอดกับ private key ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเบราว์เซอร์ก็เช็คว่าส่งไปถกเซิร์ฟเวอร์หรือเปล่าจากใบรับรอง พอมาถึงขั้นตอนนี้ิผมก็งงเหมือนกันแหะว่าเอาเซิร์ฟเวอร์มาดักก็จริงเปลี่ยนใบรับรองก็จริง แต่จะเอา private key ที่ไหนมาถอดอะ รอผู้รู้ท่านมาช่วยไขต่อครับครับ
วิธีที่ 1 ก็เอามาจากเจ้าของเว็บนั่นแหละ ใช้อำนาจบังคับเอา ไม่ให้ก็ปิดเว็บ ปิดได้เฉพาะในประเทศ ส่วนเว็บต่างประเทศปิกไม่ได้ก็ปิดกั้นการเชื่อมต่อได้
วิธีที่ 2 สร้างขึ้นมาเอง โดย man-in-the-middle สร้างคู่ private/public key ขึ้นมาเอง แล้วออกใบรับรองเองว่า public key นั้น มาจากเว็บที่ผู้ใช้ต้องการเข้าถึง
ซึ่งตามปกติ web browser จะไม่เชื่อใบรับรองนี้ และเตือนผู้ใช้ว่า invalid certificate แต่ถ้าผู้ใช้ติดตั้งใบรับรองของ man-in-the-middle ลงไปใน web browser ด้วย มันก็จะเชื่อและไม่เตือนอีก
คนที่ไม่มีความรู้ อาจไม่สนใจคำเตือน กดผ่านๆ ไป
ส่วนผู้ใช้ที่รู้ ไม่อยากติดตั้งใบรับรองเพิ่ม ผู้มีอำนาจก็อาจบังคับได้ หรือทำให้มันเป็นทางเดียวที่จะเปิดเว็บปลายทางได้ ผู้ใช้บางรายก็อาจยอม ใครไม่ยอมก็อดใช้เว็บนั้น
ไปเอาไฟล์ .key มาใช่ไหมครับ (apache)
วิธีที่ 1 ช่วงหลังๆ ใช้ไม่ได้แล้วครับ ด้วยความสามารถของ forward secrecy
forward secrecy ก็ช่วยไม่ได้ครับ เพราะ session key สร้างมาจาก gateway ที่รัฐควบคุมได้ และรับรองโดย private key ที่รัฐได้ไป เครื่องของผู้ใช้ไม่รู้ตัวหรอกว่า กำลังคุยกับ website ที่ต้องการ หรือว่ากำลังคุยกับ gateway
วิธีที่สองใช้กับ IE11 บน Windows 10 ไม่ได้แล้วครับ เข้าไม่ได้เลยถ้าใบรับรองไม่ถูกต้อง(ไม่มีปุ่มข้ามด้วย) เว็บตัวเองนี้เข้าไม่ได้เลย= ="
มันก็มีวิธ๊ทำให้ browser เห็นว่าใบรับรองถูกต้องอยู่ดีครับ โดยผู้ใช้อาจต้องใช้โปรแกรมที่ผู้ที่ต้องการดักฟังให้มาเพื่อปรับแต่งให้ browser เชื่อใบรับรองของเขา ซึ่งถ้าไม่ร่วมมือก็อาจเข้าเว็บไม่ได้ครับ
ทำไมผมนึกถึง Man-in-the-middle Attack
การดักฟัง TLS/SSL ทำได้โดยไม่ต้องมีกุญแจเดียวกัน (MITM) แต่เป็นเว็บเบราว์เซอร์สมัยใหม่ ผู้ใช้ปลายทางต้องยินยอมด้วยครับ เบราว์เซอร์จะโผล่หน้าต่างเตือนว่าใบรับรองออกโดยเครื่องที่ไม่รู้จัก (non trusted) (ซึ่งออกคนเครื่องที่ดักฟัง)
ถ้ายันยืนยันทำการติดต่อต่อไป ก็ถือว่าเบราว์เซอร์เตือนแล้วครับ
ผมสอบถามนิดนึงครับ เมื่อกี้เพิ่งคิดออก
ถ้าบราวเซอร์นี่เราจะเห็นที่ icon รูปกุญแจ แล้วในกรณีแอพที่ทำงานผ่าน https ล่ะครับ เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันโดน mitm รึเปล่า
ขึ้นอยู่กับคนพัฒนาครับ ว่าถ้าโดน MITM แล้วจะยอมให้มันทำงานได้หรือเปล่า หลายๆ แอพที่สั่งเช็คถ้าใบรับรองไม่ถูกต้องก็ใช้งานไม่ได้ไปเลย
แต่ถ้าโดนบังคับลงใบรับรองของคนทำ MITM อันนี้ก็แล้วแต่แอพแล้วล่ะครับว่าล็อคใบรับรองไว้ด้วยรึเปล่า บน Windows Phone ผมยังไม่เจอแอพไหนทำขนาดนั้นนะ ลงใบรับรองไปก็ดักได้หมด
ขอบคุณครับ ผมกำลังคิดอยู่เลยว่าพวกแอพต่างๆ ได้เขียนป้องกันไว้รึเปล่า
คงไม่มีใครไปคุยวางแผนอะไรกันบน Facebook, Instragram อ่ะ
เข้าใจว่า apps บน Android นี่จะถูกบริหาร certificate โดย Android เองนะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
หมายถึงตัว OS มันจะ validate HTTPS certificate เองเหรอครับ?
เข้าใจว่าโดยปกติเป็นแบบนั้นนะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
โอ้ หาหน้านี้ได้ยังไงเนี่ย ผมพยายามใช้หลายคีย์เวิร์ดแต่ไม่เจอ
ขอบคุณครับ
อันนี้แสดงออกถึงภาวะที่ ผู้ปกครองประเทศหวั่นไหวกับการใช้อำนาจของตัวเอง เลยต้องออกกฏหมายให้อำนาจเพิ่มเติม ทั้งๆ ที่ที่สุดแล้วยังไงก็คงรั้งอำนาจนั้นใว้ไม่อยู่
Nearly all men can stand adversity, but if you want to test a man's character, give him power.
Abraham Lincoln
+1
คำถาม
ถ้าผมบล็อคประเทศไทยให้บริการเฉพาะในต่างประเทศ ผมต้องทำตามกฎหมายไทยหรือเปล่า ทางการมีสิทธิ์เข้ามายึดคอมพิวเตอร์ผมไปตรวจสอบใหม ถ้าผมไม่ทำธุรกิจในประเทศไทย เซิร์ฟเวอร์ไม่อยู่ในประเทศไทย แต่มีออฟฟิศอยู่ในกทม.
ที่ถามผมไม่ได้ห่วงเรื่องทำผิดกฎหมาย แต่ห่วงเรื่องโค้ด หากมีคนมายึดคอมพิวเตอร์แล้วเอาอะไรมารับประกันว่าโค้ดผมจะไม่ถูก copy เอาไปใช้ ผมใช้เวลาพัฒนามาตั้ง 3-4 ปี นอนวันละ 2-3 ชม. เกือบจะไม่มีเวลาส่วนตัว และพร้อมจะให้บริการในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้
แน่นอนว่ามันเก็บโค้ดไว้บนคลาวด์ตลอดเวลาไม่ได้ คุณพัฒนาโปรเจกท์โค้ดต้องอยู่ในคอมของคุณ
ใครพอจะทราบวิธีป้องกันปัญหาแบบนี้บ้าง ที่ถามเพราะเน้นความปลอดภัยไว้ก่อนครับ ขอบคุณครับ
ของผม ใช้ของต่างประเทศหมดเลยครับ
ใช้ bitbucket เก็บตัวโปรแกรม
server database ใช้คลาวด์ โดยเลือกประเทศที่ใกล้ๆกับไทยนั้นก็คือสิงคโปร์
พวกรูป file ของผมใช้ google drive ประหยัดดี
ขอบคุณที่แนะนำครับ
ลูกค้าผมคงเป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด กลุ่มนี้เรื่อง privacy ต้องมาก่อนครับ
เอ่อแล้วกูเกิลมันจะโดนบล็อกเหมือนจีนเปล่าหว่า กลัว
ตั้งในไทยแต่ข้อมูลเข้าออกให้ผ่าน CloudFlare ครับ นอกนั้น DROP ให้หมด
จริงๆแล้วปัญหาอินเตอร์เน็ตหลัง รปห. มันทำ Traffic ช้าลงอย่างเห็นได้ชัดมานานแล้ว ISP ก็โดนด่าแทบทุกเจ้าเลย
เข้ารหัสทั้งเครื่องครับ ถ้าใช้ Mac ก็ FileVault ทั้งไดร์ฟ ทุกไดร์ฟ
เวลาเค้ามายึดก็ไม่ต้องให้รหัส สั่งยังไงก็ไม่ให้
กฎหมายใหม่นี่ไม่แน่ใจว่าเค้ามีวิธีขอความร่วมมือ (บังคับ) ยังไง แต่ถ้าปกติเค้าก็ต้องฟ้องศาลบังคับคุณ (ติดต่อทนายเตรียมไว้แต่เนิ่นๆด้วยนะ)
ทีนี้ ถ้าศาลสั่งให้เอารหัสให้เค้า ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ต้องยอมให้ไป แล้วก็เปิดหูเปิดตาไว้ว่ามีใครเอาโค้ทเราไปใช้หรือเปล่า ถ้าจะให้ดีก็เขียนให้มีสคริปต์ที่แอบๆไว้ ให้เวลารันโค้ทแล้วมัน Callback มาหาเซิฟเวอร์เราทุกครั้ง จะได้รู้ว่ามีใครเอาโค้ทไปรันที่ไหนไหม ถ้าเจอว่ามีคนเอาไปใช้ ก็รอให้เค้าเอาโค้ทคุณไปเปิดบริการจริงๆ แล้วก็ฟ้องเลยครับ ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอาไปทำ ดีไม่ดีเจอผิดวินัยอีกข้อ
ไม่รู้ว่าน่าห่วงจริงๆไหม เพราะคงไม่มีใครมาเอาโค้ทคนอื่นไปให้บริการ แต่หวังว่าคงพอตอบคำถามได้ครับ
" ก็รอให้เค้าเอาโค้ทคุณไปเปิดบริการจริงๆ แล้วก็ฟ้องเลยครับ ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอาไปทำ ดีไม่ดีเจอผิดวินัยอีกข้อ"
พรบ. นี้ไม่เจ้าพนักงานไม่ต้องรับผิดใดๆ ครับ
ถ้าขโมยโค้ทไปเปิดให้บริการ แบบนี้ไม่มีกฎหมายระบุให้ทำได้นะครับ เค้าให้ดูเพื่อประกอบการสอบสวน ไม่ใช่ให้เอาไปทำอะไรก็ได้ เหมือนให้เจ้าหน้าที่ยึดรถได้เพื่อเป็นหลักฐาน แต่ไม่ใช้ให้เอากลับบ้านไปรับส่งสาวได้นะครับ
Facebook ล่ะหนึ่ง Blognone นี่ก็ใช่ เว็บเมล์ทั้งหลายก็โดน จะเอากันจริงๆ ขนาดนั้นเลยหรือครับท่านผู้นำ
ความมั่นคงของใคร จริงๆนะเนี่ย
เพราะมันไม่ให้ประโยชน์กับคนไทยทั่วไปเลย
ทำไปเพื่ออะไร บ้าหรือเปล่า
Get ready to work from now on.
คืนความสุข ให้พรรคพวก ตัวเอง
ชัดเลยครับ ถ้าแค่เรื่อง พรบ. เฉยๆ คงไม่ชัดขนาดนี้ กับ Quote ของมิตรสหายท่านหนึ่ง
สมแล้วที่ไปดูงานจีน
คนไทยไม่พร้อมเล่นเน็ตจริงๆ เดี๋ยวโดนเค้าหลอกเอาเนาะ
กรองเว็บคนดีๆมาให้เยอะๆนะ กลัวเจอเว็บคนไม่ดีจัง เดี๋ยวความมั่นคง(ในอำนาจ)จะล่มจม 55
ดูแนวโน้มแล้วน่าจะใช้ man-in-the middle attack +DNS poisoning มากกว่าจะยึด certificate ? เพราะแบบหลังบังคับเวบนอกคงไม่ได้เลย แต่แบบแรก ทำหน้าเวบlogin หลอกอีกชั้น -_-"
ไม่โดนเว็บนอกที่ทำ login หลอกฟ้องเอาตายเหรอครับนั่น แล้วไหนจะพวกธนาคารอีก ธนาคารเขาเตือนเราบ่อยๆ เรื่องเว็บดักล็อกอินปลอม อันนี้ ICT จะมาทำเองซะอย่างนั้น หรือ ICT จะขีดวงเฉพาะบางเว็บ ถ้าแบบนั้นสงสัยเดี๋ยวคงได้มีเรื่องยาวอีกแน่ๆ
และ blognone ก็ยังคงอยู่ตามปกติ แสดงออกทางความคิด ความเห็นกันตามปกติ
อยากให้เวปนี้ปิด?
ประชดไม่สร้างสรรค์นะครับ
เล็งพวก Facebook กับพวกสังคม online สินะ แต่ถ้ามาธนาคารเมื่อใหร่ผมยกธงต้อต้านทันที มันล้ำเส้นเกินไป จริงๆ ระบบสมาชิก หลักๆก็ไม่อยากให้ยุ่งนะ ทั้ง MS Google และ Apple
ในทางทฤษฎีแล้วสามารถเลือกดักข้อความเฉพาะบางเว็บได้ครับ
หรือยกเว้นเฉพาะบางเว็บที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่สื่อสังคมออนไลน์ก็ได้ เช่น เว็บธนาคารออนไลน์ ผู้ใช้ไม่สามารถส่งข้อความหากันได้ โดยอาจจะต้องไปขออนุญาตยกเว้นการดักข้อความเป็นกรณีไป ก็เป็นไปได้ครับ
คือบ้าไปแล้ว...
เห็นทำแต่ละอย่างนี่ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศเลยนะ
แค่รักษาความมั่นคงของ...? คุ้มหรอ? กับแค่คนกลุ่มเดียวที่ไม่ยอมปรับตัว
เมื่อเทียบกับสิ่งต่างๆที่มันเสียหายไป มันคุ้มจริงหรอ?
"มั่นคง" อยู่บนซากปรักหักพังของประเทศและประชาชน หน้าด้าน!
เลิกอ้างว่าทำเพื่อประชาชนได้แล้ว
+1
คุ้มสำหรับคนกลุ่มนั้นครับ :) ปืนคืออำนาจครับใครกล้าขัด แก้ไขด้วยเหตุผล ไม่คิดว่าจะใช้ได้กับประเทศนี้ครับ
ต่อให้ยุบประเทศไทยหรือแยกประเทศแล้วคนไทยกินดีอยู่ดีขึ้น ถ้าเป็นนายกผมก็จะทำ
อย่างนี้สิถึงเห็นแก่ประชาชนจริงๆ
"ความมั่นคง" มันไม่ใช่หลักการเพื่อประชาชนครับ บ้าไปแล้วจริงๆ
+1
กฏหมายพวกนี้คนทั่วไปใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย อย่างพรบ. Server โดนคนพยายาม DOS เรา config ป้องกันให้มันใช้ได้ก็จริง รู้จริงจังว่าใครเป็นคนทำ IP และเวลาก็ชี้เป้าเลย เอาไปแจ้งความที่แจ้งวัฒนะตำรวจบอกงานเยอะพยายามแค่คุยๆให้จบ แล้วก็หันไปคุยกันเรื่องเงินเดือนต่อ
ปล. จะมีหน่วยงานเฉพาะแค่บอกว่า Server โดนยิงแปลความไม่ออก ไปเอาจ่าที่ไหนมาทำฟะ
กำลังนั่งคิด คุณ Wakegawakaranai จะโผล่มาแสดงความเห็นอะไรอีกไหม
ชอบดูเวลาแกโพสนะ ได้เห็นแนวคิดของคนสนับสนุน พรบฉบับนี้ จะได้รู้ว่าคนที่สนับสนุนเค้าคิดยังไง
ถามชาวblong none ล่ะกัน- - คุณคิดว่า ถ้าทหารไปแล้ว พรบ.ฉบับนี้จะถูกยกมาแก้ไขไหม
คำตอบสำหรับผมคิดว่าคงไม่ เพราะไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล(ไม่ว่าจะพรรคไหน) พรบฉบับนี้ให้อำนาจฝ่ายบริหารได้สุดๆมากครับ อำนาจล้นฟ้าขนาดนี้ ยากจะแก้ครับ แล้วชาวblognone ล่ะคิดว่าไง
+1 คิดเหมือนกันเลย :P
เปลี่ยนคำถามเป็นรัฐบาลทหารจะอยู่นานแค่ไหนดีกว่าครับ
อย่าใช้คำว่าพรรคเลย คงแต่งตั้งด้วยแหละ ไม่มีเลือกตั้งอีกยาวนาน
คงมีคนบอกจะแก้แค่เฉพาะตอนจะเอาคะแนนเท่านั้น ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลมาจากข้างเดียวกะรัฐบาลนี้เขาอาจจะทำเป็นเฉยๆกับเรื่องนี้ไป แต่ถ้าเป็นฝ่ายตรงกันข้ามจะรีบชูนโยบายแก้ครับ แต่พอมาได้จริงๆก็คงทำเนียน ไปเรื่อยๆอยู่ดี
ไปนั่งอ่าน recent post แล้วเข้าข่ายเป็นมนุษย์ลุงตัวพ่อเลยครับ ใช้กูเกิลไม่ค่อยเป็น
ส่วนตัวที่เอ๋ยถึงแก เพราะแกมีแนวความคิดที่ค่อนข้างแปลกดี แล้วก็ ผมสนับสนุนให้มีการ โต้แย้งในเรื่องของเหตุผลนั้น ส่วนขึ้้นไม่ขึ้น ก็อยู่ที่แต่ละคนมอง จริงๆอยากจะพูดเองเหมือนกันแต่คุณ BLiNDiNG ลงมาโต้ ผมก็เลยอืมนั่งอ่านไปเรื่อยๆ
ซึ่งผมก็มองว่า blognone ยังเป็นเพจหนึ่งที่ให้อิสระคนในแสดงความเห็น ซึ่งเราไม่รู้ว่า ถ้าพรบ ฉบับนี้ออกมาการแสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐในการออกกฏหมาย จะถูกมองเป็น ภัยต่อความมั่นคงของรัฐหรือไม่ เพราะฉะนั้น เวลานี้ก็ แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล แล้วก็ ปราศจากคำหยาบ ล่ะกันเนอะ^ ^
ถึง id จะเปลี่ยนแต่สำนวฯการตอบการพิมพ์ไม่เปลี่ยนแปลงครับ ผมเชื่อมั่นว่าเขาคือเด็กชาย Dagonknight ที่โดนแบนไปแล้วกลับมาในร่างใหม่ครับ:)
อย่างที่คุณว่ามาครับ เขาเป็นคนที่มีความคิดไม่ค่อยจะเหมือนกันใคร ลองอ่านข่าวอ่านเม้นไปเรื่อยๆ ถ้าเขามาตอบ เขาจะเป็นคล้ายๆ จรเข้ขวางคลองเลย จากนั้นก็จะมีคนเห็นต่างมารุมๆ อย่างที่เห็นกันครับ ก็เป็นอีกสีสันของที่นี่ครับ ฮ่าๆ
^
^
that's just my two cents.
ผมก็นึกคุ้นๆอยู่เหมือนกัน ทั้งสไตล์การแถ,พิมพ์ผิดๆถูกๆ,เลียบู๊ท ใช่เลย
เจ้าตัวก็เตรียมตัวโดนแบนอีกรอบละกันครับ :P
ผมเชื่อว่าถ้ารบ.ใหม่เป็นฝ่ายตรงข้าม ก็จะไม่แก้แต่ก็ไม่สามารถใช้กฎหมายนี้ได้เต็มที่อยู่ดีครับ
ให้ดูพรก.ฉุกเฉินนะครับ ทักกี้เป็นคนออกแล้วโดนรปห.(ตอนรปห.แกก็พยายามประกาศนะ แต่ทหารไม่ฟัง) แต่สมัคร สมชาย ก็ประกาศใช้แต่ไม่มีใครฟัง สั่งทหารไปปกป้องสนามบิน ทหารออกมาบอกว่าไม่ทำ กลัวประชาชนเป็นอันตราย(?) แล้วเอาเครื่องบิน77ลำเป็นตัวประกันแทน
แต่พอรบ.มาร์คประกาศใช้ ก็ขนอาวุธสงคราม รถหุ้มเกราะมาวิ่งเต็มกทม.รวมถึงdispatchทหารสองหมื่นนายทันที ตายกันเป็นร้อย เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายมีอาวุธร้ายแรง(?)
แต่พอรบ.ปู ประกาศใช้ หน่วยซีลไปรับจ็อบเป็นการ์ดให้หัวหน้าม๊อบ แถมเจอหน่วยลึกลับมายิงปืนเล่นกลางหลักสี่ ก็จับใครไม่ได้ แถมโดนศาลประกาศห้ามใช้อำนาจแทบทุกอย่างตามพรก.เสียอีก
ถ้าจะแก้ก็จะโดนศาลรธน.เล่น ถ้าจะใช้เครื่องมือคนที่ถือปืนก็ไม่ยอมให้ใช้หรอกครับ
นั่นคือกฎหมายที่ให้อำนาจจนท.มากๆ น่ะใช้ได้แค่ผู้บริหารแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง
พวกที่สนับสนุนเขารู้ดีไงครับ เลยไม่กลัวถ้าจะโดนพลิกขั้ว เพราะ"พวกเดียวกัน"เยอะ โยงใยทั้งระบบ ดูเรื่องกฎอัยการศึกตอนนี้ก็ได้ พวกเดียวกันออกมาชุมนุมไม่เป็นไร ขนาดแจ้งวัฒนะยังจัดเวทีรำลึกการปิดศูนย์ราชการ ไม่โดนจับสักคน แต่อีกฝ่ายนี่เข้าค่ายทีเป็นเดือน
ขอออกความเห็นในฐานะที่เป็นคนไทยบ้างนะครับ
ผมสรุปมาจากที่เห็นมาด้วยเวลาทั้งชีวิต ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองด้วยตัวเองมา 2 ครั้ง (แล้วเลี่ยงออกมาจากสถานการณ์ก่อนจะ Final เพื่อรักษาชีวิตและสถานภาพของตัวเอง) ก็พอจะสรุปได้อย่างที่คุณ Fourpoint ว่า
สรุปได้ว่า... เกิดเป็นคนไทยศตวรรษนี้ อยู่ให้ง่าย ให้สุข ก็แค่เลือกข้างให้ถูกครับ (ถูกข้างนะ ไม่ใช่ถูกต้อง) ถ้าจะถามว่า แล้วไม่ห่วงอนาคตลูกหลานหรือไง ผมก็จะตอบจากบทสรุปของผมว่า ก็แค่สอนลูกหลานให้เลือกข้างให้ถูกเหมือนกัน (ในบริบทของสังคม ณ เวลานั้นๆ ของยุคของเขา)
ผมว่าเหมาะกับการเป็นคนไทยที่สุดแล้ว ผมเจริญเอาๆ อยู่ดีกินดี สบายดี ลูกหลานก็ดี มีความสุขกันดี
บางที ความคิดที่ใจแคบสักหน่อย อาจจะเหมาะกับประเทศเราในศตวรรษนี้ก็ได้นะครับ
ปล. ผมจงใจใช้คำว่า ศตวรรษ นะครับ โปรดตีความคำนี้ในความคิดด้วยครับ