By: mk 
on 5 February 2015 - 19:58
Tags:
ไมโครซอฟท์ออกมาส่งสัญญาณอีกรอบว่า Windows Server 2003 จะหมดระยะสนับสนุนในเดือนกรกฎาคม 2015 และเตือนให้องค์กรอัพเกรดไปใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่โดยด่วน
Takeshi Numoto ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลกับ The Register ว่าในปี 2014 ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ความปลอดภัยรวมแล้ว 20 ตัวให้ Windows Server 2003 ซึ่งพ้นจากเดือนกรกฎาคม 2015 ไปแล้ว ไมโครซอฟท์จะไม่ออกแพตช์อีก ถ้าประเมินคร่าวๆ ว่าโอกาสค้นพบช่องโหว่ใหม่ๆ อยู่ที่ปีละ 20 จุด นั่นแปลว่าผู้ใช้ Windows Server 2003 จะตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก
องค์กรที่ยังจำเป็นต้องใช้ Windows Server 2003 จริงๆ สามารถซื้อบริการสนับสนุนหลังขายแบบพิเศษได้ แต่ต้องจ่ายราคาแพงมาก ไมโครซอฟท์ยังไม่เผยราคาของ Windows Server 2003 แต่ราคาค่าสนับสนุนแบบพิเศษของ Windows XP ที่หมดอายุไปแล้ว อยู่ที่ 200 ดอลลาร์ต่อเครื่องในปีแรก และราคาจะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ในปีถัดไป
ไมโครซอฟท์ประเมินว่าตอนนี้มีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Windows Server 2003 ประมาณ 6 ล้านเครื่อง
ที่มา - The Register
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
Comments
ยังจะมีคนใช้อีกเหรอ ถ้า XP ยังเยอะอยู่
เยอะแยะครับ บางคนติดหนึบกับ IIS6 ก็มีถมไปครับ บ้างก็ว่าทำ AD ง่ายกว่า หรือแม้กระทั่งระบบทะเบียนมหาวิทยาลัยบางแห่งก็ยังใช้รันฐานข้อมูลอยู่ครับ
ย่อสั้นๆคือ "มักง่าย" ครับ ถึงหน่วยงานจะซื้อ License รุ่นใหม่มาให้(หลายปี)เขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนหรอกครับ
ของแบบนี้โดน Zero-day Hack ก็คงเปลี่ยนเองล่ะครับ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ต้องโดน Hacker จัดการครับถึงจะกระเตื้อง
เห็นด้วยกับคำว่ามักง่ายครับ แล้วก็อีกความคิดคือซื้อมาแล้วต้องใช้ได้ตลอดไป ก็ใช้ได้นะแต่เสี่ยงเองละกัน รถ 7 ปียังต้องไปตรวจสภาพก่อนต่อพรบ.เลย -..-
TT ผมก็ด้วย
หาก MS ไม่ทำต่อก็ควรเปิดเผย source code ให้บริษัทลูกค้าแก้ช่องโหว่เองได้นะ ทำไมบริษัทใน US ไม่ฟ้องศาลให้ MS เปิด source ละจะได้มาทำเองไม่ต้องง้อ MS (อยากรู้)
สิทธิของเขามั้งครับ
Windows เขาไม่ได้ขายซอฟต์แวร์นะคับ แต่เขาขาย License ในการใช้งาน นั่นหมายความว่าต่อให้ซื้อ Windows แท้มาใช้ ก็ไม่ใช่เจ้าของ Windows แค่ได้รับสิทธิใช้ Windows เท่านั้น
เราซื้อ License ไม่ใช่ Copyright ครับ
คือ Microsoft ก็ไม่ได้เลิกพัฒนานะครับ เพราะเขาก็บอกในข่าวว่ามีบริการพิเศษ ที่จะรับแพทระบบความปลอดภัยให้ได้แต่แพง ต่อให้คุณอยากให้ Open Source มากแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะเขาถือว่าบริการยังไม่สิ้นสุด ถ้าบริษัทมีเงินจ่ายก็อาจเป็นไปได้ว่าบริการตลอดชีพ
ส่วนของ Server มันเป็นรายได้ใหญ่เขาเลยนะครับ พัฒนาเรื่อยๆ เปิดเผย ไป MS ก็ตายสิครับ
ใช้ Microsoft มีแต่เปลืองกับเปลือง ไหนจะ license ไหนจะ cal อีก
^
^
that's just my two cents.
เปลือง-ไม่เปลือง ต้องไปดูที่ benefit-cost analysis ครับ หากใช้แล้ว benefit มากกว่า cost ก็ไม่เปลืองหรอกครับ
ถ้าเทียบกันปีต่อปีผมว่ามันดีตรงที่จ่ายครั้งเดียวจบนะ ค่ายอื่นให้จ่ายแต่ละปีเห็นราคาแล้วลมจับทุกที
ผมว่าราคา RHEL นี่ก็โหดร้ายใช่เล่นครับ
MS จ่าย 1 ครั้งใช้ได้ 10 ปีขึ้นไป
แพงตรงไหน
Linux Free แบบ อาจต้องเปลี่ยน Hardware เวลาอัพเกรด OS ค่า Maintenance ค่า Support รายปี รวมๆแล้ว License windows อาจจะถูกไปเลยก็ได้
จ่ายไปล้านกว่า กับเครื่องไม่ถึง 100 ครับ
^
^
that's just my two cents.
มันต้องดูงานคับ เช่น เครื่องพนักงานในบริษัทใช้ Windows แล้วเอา Linux มาลง Samba เพื่อทำ AD เพียงเพื่อจะลด Cost นี่ผมว่าเป็นอะไรที่สิ้นหวังมาก หรือไม่ก็เอา Windows Server มารัน PHP Server เพียงเพราะใช้ Linux ไม่เป็นแล้วขี้เกียจเรียนรู้นี่ก็สิ้นหวังเหมือนกัน