ทิม คุก ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ในงาน epic2015 เมื่อวานนี้ในประเด็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า "พวกเราในแอปเปิลไม่ยอมรับแนวคิดว่าลูกค้าของเราต้องแลกระหว่างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เราสามารถให้ทั้งสองอย่างไปเท่ากันและเราต้องทำอย่างนั้น เราเชื่อในสิทธิพื้นฐานที่จะมีความเป็นส่วนตัว"
เขายังพาดพิงบริษัทไอทีอีกหลายบริษัท โดยระบุว่า "ผมพูดวันนี้จากซิลิกอนวัลลีย์ ที่ที่มีบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในธุรกิจ ด้วยการกล่อมให้ลูกค้าหลงประเด็นของข้อมูลส่วนตัว บริษัทเหล่านั้นดึงข้อมูลทุกอย่างของคุณแล้วพยายามสร้างรายได้จากข้อมูลเหล่านั้น เราคิดว่าการกระทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิด และแอปเปิลไม่อยากเป็นบริษัทประเภทนั้น เราไม่คิดว่าคุณควรจะแลกความเป็นส่วนตัวกับบริการที่คุณเชื่อว่ามันฟรี แต่ที่จริงแล้วกลับมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะเมื่อเราเก็บข้อมูลสุขภาพ, ข้อมูลการเงิน, และข้อมูลในบ้านของเราบนอุปกรณ์ของเราเอง เราเชื่อว่าลูกค้าควรควบคุมข้อมูลของเขาเอง คุณอาจจะชอบบริการฟรีเหล่านี้ แต่เราไม่เชื่อว่ามันคุ้มที่จะให้ข้อมูลอีเมล, ประวัติการค้นหา, และภาพครอบครัวของคุณ เอาไว้ให้บริษัทเหล่านี้ขุดข้อมูลเพื่อขายให้กับใครก็ไม่รู้เพื่อจะโฆษณา เราเชื่อว่าสักวันลูกค้าของเราจะเห็นว่ามันเป็นอย่างไร"
เขายังพูดถึงเรื่องการเข้ารหัสลับ "ยังมีการโจมตีเสรีภาพประชาชนอีกด้านคือการเข้ารหัสลับ บางคนในวอชิงตันหวังจะลดความปลอดภัยการเข้ารหัสข้อมูลของประชาชน เราเชื่อว่าการกระทำแบบนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก เราใส่เครื่องมือเข้ารหัสลับไว้ในสินค้าของเรามานานหลายปี และเราจะทำเช่นนี้ต่อไป เราคิดว่าการเข้ารหัสลับสำหรับลูกค้าที่ต้องการความปลอดภัยข้อมูลเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญยิ่ง หลายปีที่ผ่านมาเราใส่ฟีเจอร์เข้ารหัสไว้ในบริการ iMessage, FaceTime เพราะเราเชื่อว่าเนื้อของข้อความของคุณไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าไปยุ่มย่าม ถ้าเราแอบวางกุญแจบ้านไว้ให้ตำรวจ คนร้ายก็เจอกุญแจนั้นได้เหมือนกัน คนร้ายใช้เทคโนโลยีสารพัดเพื่อเจาะเข้าบัญชีผู้ใช้ ถ้าคนร้ายรู้ว่ามีกุญแจซ่อนอยู่สักที่ คนร้ายเหล่านี้จะตามไล่หากุญแจจนกว่าจะเจอ การถอดกระบวนการเข้ารหัสลับจะกระทบเฉพาะพลเมืองผู้เคารพกฎหมายและต้องการรักษาความปลอดภัยข้อมูล คนร้ายจะยังคงสามารถเข้ารหัสได้อยู่ดี ด้วยความเคารพต่อผู้รักษากฎหมาย เราทำงานร่วมกับพวกเขาในหลายส่วน แต่ประเด็นนี้เราไม่เห็นด้วย ผมจะพูดให้ชัดว่าการทำให้การเข้ารหัสลับอ่อนแอลงหรือห้ามเข้ารหัสจะทำร้ายเฉพาะคนดีๆ ที่ใช้การเข้ารหัสด้วยเหตุผลที่ดี"
ทิม คุก ไม่ได้พูดชื่อบริษัทตรงๆ แต่บริษัทที่กระทบกับคำพูดมากที่สุดคงเป็นกูเกิลที่เพิ่งเปิดบริการ Google Photos ส่วนเรื่องการเข้ารหัสลับนั้นก่อนหน้านี้ Alex Stamos ผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยของยาฮูก็เคยเถียงกันกับผู้อำนวยการ NSA ต่อหน้ามาแล้ว ครั้งนี้แอปเปิลก็ประกาศเลือกจุดยืนตรงข้ามกับ NSA อีกเช่นกัน
ที่มา - TechCrunch
Comments
สิทธิผู้ใช้หรือจะสำคัญกว่าให้ใช้ฟรี
ทุกคนในข่าวไม่ได้กล่าวไว้
icloud ไม่ใด้ปลอดภัย ไม่ใด้ให้ไช้ฟรี
iad ก็มีการเก็บข้อมูล
แถมพอจะบอกว่าคุ้มครองผู้บริโภค ... ไอ้ที่ราคา ebook ใน us ฟูขึ้นมาขนาดนี้ก็เพราะ apple อีกนั้นแหละ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เดี๋ยวๆทำไมรู้สึกเหมือนเป็นการกล่าวหาลอยๆ เอาจริงใครจะพูดก็พูดได้ทาง Apple เองก็ไม่ได้โปร่งใส 100% ซะหน่อย ผมเชื่อว่า User ตัดสินได้เองอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ ส่วนตัวผมฝากภาพขยะไว้ใน Google Photos แล้วส่วนโมเมนส์สำคัญเก็บไว้ในสื่อส่วนตัว
แต่ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณทิมที่กระตุกหนวดยักษ์ เชื่อว่าท่าทีต่อจากนี้จะทำให้ระบบโดยรวมของคู่แข่งดีขึ้นแน่นอน
ผมเองก็เชื่อว่า....เมื่อมี Data ก็ต้องมี Mining ไม่มากก็น้อย
กล่าวได้ดี
ทำให้นึกถึงความปลอดภัย iCloud เลยทีเดียว
55555 เราไม่ใช่เซเลป คงไม่ต้องกลัวอะไรหลุดใช่ไหมครับ
WE ARE THE 99%
+1 ไม่มีที่ไหนปลอดภัยจากฝีมือคนด้วยกันเอง
+999999
อันนี้มันคือความผิดพลาดครับ ไม่ใช่แนวทางการทำธุรกิจ
ถ้าจำไม่ผิด แอปเปิลเองก็ไม่ได้ออกมายอมรับว่าเป็นความผิดพลาดนี่ครับ เป็นแค่ความบังเอิญพร้อมๆ กัน ฮาๆ ;D
my blog
แหม่งๆ นะ
เจอ Photos ตบมาใช่ไหม
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ตี+ สั้นๆแต่จุก
สำหรับผมเอาไปเลยข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง จะโฆษณาอะไรก็ทำมา ไม่ได้ว่าอะไรทั้งนั้น (ทุกวันนี้กูเกิ้ลยังรู้จักตัวผมดีกว่าแม่ผมอีก เช่นชอบหนังอย่างงั้นๆแนวไหน อิอิ)
ขอแค่ไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้บริการต่างๆของกูเกิลหรือเฟสบุ๊คหรือบลาๆๆก็พอใจละ
และอย่าให้ข้อมูลสำคัญอย่างบัตรเครดิตหลุดออกภายนอกแบบเว็บจ่ายตังของไทยละกัน
ตั้งแต่สโนวเดนออกมาแฉเรื่อง NSA ผมก็ไม่คิดว่าจะมีซอกหลืบไหนที่เป็นส่วนตัวอีกต่อไป (ยกเว้น Black Berry นะ)
นึกว่าพูดถึง Apple Drone
คหสต.
ความเป็นส่วนตัวมันมีจริงหรือครับ สำหรับผู้ใช้ทั่วไปอย่างผมไม่เชื่อสักนิด
คำพูดของคุณทิมคุก ด้วยความเคารพนะครับเหมือนพูดอัดเขาให้ดูแย่ อวดตัวเองให้ดูดี กระตุ้นความสนใจ เป็นเพียงการตลาดอีกทางหนึ่งของบริษัทแค่นั้น
แข่งกันเยอะ ๆ ยิ่งดีครับ
งั้นเริ่มจากปิด Siri ก่อนเลยครับ
เม้นท์นี้ก็โดน แต่ถึง"คุก"ได้ยินก็คงตีมึน จุดขายสำคัญเลยนะ เดี๋ยวดูmapจะล้วงขนาดไหน
ผมจับประเด็นเรื่อง "ต้องแลกระหว่างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย" ในสิ่งที่ทิมกล่าวไม่ได้แฮะ
จับได้แต่ประเด็นที่ว่า "ทำไมเราต้องเสียความเป็นส่วนตัวเพื่อบริการฟรีที่ไม่ฟรี"
ใครก็ได้อธิบายผมที
ผมก็ยังงง
เรื่อง ความเป็นส่วนตัว กับ ความปลอดภัย เหมือนกัน
หัวข้อดันไม่ได้บอกให้กระจ่างอีก ว่าต้องจ่าย สองสิ่งนี้ เพื่อแลกกับ อะไร
ต้องอ่านทั้งหมดถึงรู้
ผมว่าไม่น่าขึ้นหัวข้อว่า"ต้องแลกระหว่างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย"เลย
ถ้าพูดโดยไม่ไปเปรียบเทียบกับใคร มันจะรู้สึกดีกว่านี้นะ
"คุก" ควรเคารพความคิดของผู้ที่ไม่ได้ใช้ Apple ให้มากกว่านี้ครับ
เพราะไม่ได้อยู่ในฐานะเบอร์1 ของAppleเท่านั้น คุณยังอยู่ในเบอร์ต้นๆของโลกที่มีคนนับล้านๆคอยฟังอยู่
พูดในงานแบบนี้ น่าจะเลิกขายของบ้างนะ หรือโดนตบมาจริงๆ
#ผมนี่รอดู WWDC เลย
เก็บตังอย่างเดียว บริการยังไม่ปลอดภัย แล้วมาพูดเอาไมดีให้คนอื่น เขเาข้างตัวเองอีก loser มากกๆ
ผมค่อนข้างเห็นด้วยนะ คนสมัยนี้ เห็นของฟรี ก็พุ่งเข้าใส่เลย กดตกลงทุกขั้นตอน ไม่อ่านรายละเอียดเท่าไร
ทุกวันนี้ยังรู้สึกว่า google นี่น่ากลัวมากจริงๆ เก็บข้อมูลทุกอย่างมาโฆษณาได้หมด
แค่ใช้คำค้นหาใน google เท่านั้นแหละ เปิดไปเว็บไหนก็เจอผลิตภัณฑ์ที่เราหาตลอดเลย
จริงๆมันก็ดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ แต่ข้อมูลที่ยิ่งกว่านี้ เค้าจะไม่ได้เก็บไปด้วยหรอ
คุณคิดว่า siri กับ iad ทำงานยังไงล่ะครับ
จริงๆไอคลาวมีสตรีมด้วยนะครับ อัพภาพขึ้นแบบออโต้ คุณภาพห่วยแบบพอใช้ และ ถ้าจำไม่ผิดมันมีข้อจำกัดก่อนจะถูกลบออกไป แต่นั้นไม่สำคัญเท่ากับการที่ยังไงๆข้อมูลก็ไหลไปหา apple. อยู่ดี ที่สำคัญ ฟรีครับ~
...พึงนึกได้เลยมาโพสฉะซะหน่อย
ฟรี 5gb แรกเท่านั้นครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ขอบคุณ icloud ที่ทำให้ผมรู้จักเซเลบ ที่ผมชื่นชอบเพิ่มมากขึ้น
Ton-Or
ก็พูดมาได้นะไม่ได้ดูตัวเองเลย เอาจริง ๆ ก็ห่วงเรื่องข้อมูลส่วนตัวนะ แต่ทุกวันนี้ทุกบริษัทก็แอบเก็บข้อมูลเราไม่ทางใดก็ทางนึงอยู่ละ ของฟรีกับของเสียตังค์ก็โดนละเมิดไม่ต่างกันหรอกนะ ขอเตือนความจำนิดนึง ไอ่มือถือที่เก็บ log สถานที่ของเรา แถมส่งไปให้ server แล้วโดนคนจับได้จนต้องรีบแก้ แถมอ้างว่าเป็น bug อีก นี่มันมือถือฟรีรึเปล่านะ
ถ้าปริมาณข้อมูลหรือประเภทข้อมูลไม่สำคัญผมก็คิดว่านายคุกพูดผิดแน่นอน ต่อไปข้อมูลส่วนตัวเราจะมากขึ้นยิ่งเป็นธุรกิจแบบบริษัทโฆษณามาทำเองผมก็คงไม่ไว้ใจเป็นแน่เพราะชำนาญเรื่องนี้มาก ยังไงผมก็ใช้ทั้งคู่ละแต่เลือกใส่ประเภทและปริมาณข้อมูลต่างกัน
ออกแนวยกตนข่มท่าน แต่สุดท้ายว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
จากที่ได้ใช้บริการออนไลน์ทั้งหมดทั้งมวลมา ผมไม่เคยรู้สึกว่าจะมีเจ้าไหนที่ไม่หวังผลประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าเลยนะ