Tags:
Node Thumbnail

Android Auto เป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์จากกูเกิล แต่จำเป็นต้องใช้ร่วมกับมือถือ Android 5.0 ขึ้นไป จึงสามารถเปิดการทำงานได้ระบบนี้ได้ ในการใช้งานจึงจำเป็นต้องมีมือถือ Android 5.0 ขึ้นไป และระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์รองรับการทำงานของ Android Auto

Ars Technica ได้ทดสอบ Android Auto บนรถยนต์ Hyundai Sonata (2015) ซึ่งนอกจากจะรองรับ Android Auto แล้ว ยังมีระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ติดมากับรถยนต์ซึ่งใช้ Android 2.3.4 แต่สเปคอยู่ในระดับมือถือรุ่นกลางๆ ในปี 2011 ตัวหน้าจอติดรถมีขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 800x480 พิกเซล หรือประมาณ 116 DPI ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับสเปคโดยรวมของแท็บเล็ตสมัยนี้

การที่ระบบติดรถรองรับ (ไม่จำเป็นต้องใช้ Android เป็นระบบหลักเช่นเดียวกับรถยนต์คนนี้) การทำงานของ Android Auto ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ที่มี Android 5.0 ขึ้นไป สามารถใช้มือถือเป็นตัวประมวลผลภาพและข้อมูลเข้าสู่จอของรถยนต์แทนได้ แม้ความละเอียดที่ได้จะต่ำตามหน้าจอติดรถ แต่ให้ความลื่นไหลมากกว่าระบบติดรถ เป็นทางเลือกให้ผู้ใช้งานรถยนต์ที่รองรับ เนื่องจากการอัพเกรดฟรอนท์เครื่องเสียงรถยนต์มีราคาพอๆ กับมือถือ Android สเปคดีๆ เครื่องหนึ่ง แต่ซอฟต์แวร์เช่น ข้อมูลแผนที่ มักไม่ได้รับการอัพเดตหรือแทบจะไม่มีการอัพเดต

นอกจากเป็นตัวเลือกในด้านอินโฟเทนเมนท์ของรถยนต์แล้ว พบว่า Android Auto มีฟีเจอร์ตรวจสอบสถานะการทำงานต่างๆ ของรถยนต์ซ่อนอยู่ในโหมด Developer โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ได้

  • เข็มทิศ
  • ความเร็วรถ
  • GPS
  • ข้อมูล Night Mode
  • Accelerometer
  • Gyroscope
  • รอบเครื่องยนต์
  • อัตราเร็ว
  • ข้อมูลสภาพแวดล้อม
    • อุณหภูมิ
    • ความดัน
  • ข้อมูลเชื้อเพลิง
    • ระยะที่วิ่งได้
    • อัตราเฉลี่ยต่างๆ
    • เตือนเชื้อเพลิงใกล้หมด
  • ข้อมูลระบบปรับอากาศ
    • อุณหภูมิปัจจุบัน
    • อุณหภูมิที่ต้องการ
  • ตำแหน่งเกียร์
    • P, R, N, D และเกียร์ 1 – เกียร์ 10
  • สถานะการขับขี่
    • จำกัดสูงสุด (Fully Restricted)
    • จำกัดเฉพาะข้อความ (Limit Message)
    • ไม่แสดงคีย์บอร์ด (No Keyboard)
    • ไม่แสดงวิดีโอ (No Video)
    • ไม่สามารถใช้ระบบสั่งการด้วยเสียง (No Voice input)
    • ไม่จำกัด (Unrestricted)

คาดว่าการเข้าถึงสถานะต่างๆ ของรถนี้ อาจเป็นการปูทางเพื่อนำไปสู่บริการช่วยเหลือบนท้องถนนแบบเดียวกับ OnStar บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนในสหรัฐอเมริกา โดยพบฟังก์ชันหลักๆ 3 ฟังก์ชัน คือ การตรวจสอบสถานะของรถ, ประวัติการซ่อมบำรุง และบริการช่วยเหลือบนท้องถนน นอกจากนี้ยังพบชุดรับคำสั่งจากปุ่มหมุนต่างๆ ของรถยนต์ได้

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ ฟังก์ชันวิทยุ หรือเล่นเพลงจาก CD ยังไม่สามารถควบคุมได้จาก Android Auto หากต้องการใช้งานจำเป็นต้องกลับไปสู่ระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ติดตั้งมาพร้อมกับรถอยู่ดี ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันยังยุ่งยากพอสมควร และรอการพัฒนาจากทางกูเกิลต่อไป

ข้อดี

  • การทำงานโดยใช้มือถือเป็นส่วนเรนเดอร์ภาพแบบ off-screen ทำงานได้ลื่นไหลกว่าชุดที่ติดมากับรถยนต์ ยิ่งหากเป็นมือถือรุ่นที่สเปคสูง
  • Material Design มีผลดีกับการลดเวลาที่ผู้ขับขี่ละสายตาจากถนน ปุ่มต่างๆ มองหาง่าย
  • Google Maps แสดงผลได้ดีบนหน้าจอของรถยนต์
  • ความแม่นยำของ GPS เพิ่มมากขึ้น หากตัวรถมีตัวรับสัญญาณ GPS ซึ่งรับสัญญาณได้ดีกว่ามือถือ และใช้ข้อมูลความเร็วรถ รวมถึงข้อมูลจากเข็มทิศมาประมวลผลร่วม ช่วยลดปัญหาการขาดการเชื่อมต่อเมื่อเข้าอุโมงค์ และลดการทำงานของมือถือลง

ข้อสังเกต

  • ระบบตอบกลับข้อความไม่แสดงชื่อผู้ติดต่อที่กำลังตอบกลับ อาจทำให้ส่งข้อความไปหาผิดคน
  • ระบบอ่านข้อความยังไม่สามารถแยกแยะ URL กับข้อความทั่วไปได้ทำให้น่ารำคาญ
  • แอพที่เป็นที่นิยมอย่างในสหรัฐฯ Pandora, Soundcloud, Facebook Messenger และ WeChat ยังไม่รองรับ Android Auto
  • แอพ 3rd party ต้องใช้อินเทอร์เฟซที่กูเกิลให้มา เพื่อให้ผ่านข้อกำหนดทางการใช้รถยนต์ใช้ถนนในสหรัฐอเมริกา
  • ระบบสั่งการด้วยเสียงยังมีบั๊ค เมื่อตอบยืนยันไปแล้ว ระบบกลับยกเลิกคำสั่ง
  • ใช้สายในการเชื่อมต่อ

alt="AndroidAuto"

ที่มา – Ars Technica 1, 2, Hyundai

Get latest news from Blognone

Comments

By: paween_a
Android
on 28 July 2015 - 17:47 #830354
paween_a's picture

"Android 5.0 ขึ้นไป" ซ้ำซ้อน เยอะแยะเกินนะ

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 28 July 2015 - 19:41 #830378 Reply to:830354
panurat2000's picture

(ไม่จำเป็นต้องใช้ Android เป็นระบบหลักเช่นเดียวกับรถยนต์คนนี้)

คนนี้ => คันนี้

  • ระบบสั่งการด้วยเสียงยังมีบั๊ค

บั๊ค => บั๊ก

By: peridty
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 28 July 2015 - 22:53 #830418
peridty's picture

เมื่อไหร่จะใช้ในไทยได้เนี่ย


、ヽ`、ヽ`(っ´▽`)っ☂ `ヽ、`ヽ