กระบวนการเปลี่ยนผ่านบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตจากแบบบัตรแม่เหล็กไปสู่บัตรชิป EMV ที่ความปลอดภัยสูงกว่าเริ่มต้นหลักแรกในวันพรุ่งนี้ โดยร้านค้าในสหรัฐฯ ที่รูดบัตรเครดิตและบัตรเดบิตโดยใช้ข้อมูลในแถบแม่เหล็กแม้ตัวบัตรจะมีชิปอยู่บนบัตร หากมีการฉ้อโกง ร้านค้าที่รับรูดบัตรเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบความเสียหายเอง
แนวทางการถ่ายโอนความรับผิดชอบ (liability shift) เป็นมาตรการกดดันจากธนาคารผู้ออกบัตรไปยังร้านค้าให้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรรุ่นใหม่ที่รองรับชิป EMV เพื่อลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง ในสหราชอาณาจักรนั้นเริ่มกระบวนการนี้ไปตั้งแต่ปี 2005 โดยใช้บัตรและรหัสผ่าน (chip and PIN)
บัตรแบบชิปได้รับความนิยมนอกสหรัฐฯ เป็นอย่างสูง แม้แต่ในไทยเองบัตรเครดิตที่ออกใหม่ก็เป็นบัตรแบบชิปแทบทั้งหมดแล้ว ในสหรัฐฯ เองกลับมีปัญหาว่าผู้บริโภคไม่ตื่นตัวนัก และร้านค้าเองก็ไม่พร้อมในการขอรับรอง EMV
กำหนดการถ่ายโอนความรับผิดชอบนี้ สำหรับประเทศไทยมีกำหนดวันที่ 1 ตุลาคม 2017 หรืออีกสองปีข้างหน้า โดยกำหนดปี 2017 ในช่วงสุดท้ายที่ VISA ประกาศแนวทางเอาไว้ว่าเครื่องรับบัตรทั้งหมดต้องรับบัตร EMV ทั้งร้านค้าและตู้เอทีเอ็ม
ที่มา - eWeek, VISA, EMV Connection
Comments
เป็นโดยใช้ ?
ของไทยเป็นในช่วงสุดท้ายที่ประกาศไว้เลยทีเดียว
ที่ว่าไทยจะทำนี่คือทำอะไรครับ เพิ่ม PIN เข้าไป?
ถ้าจำไม่ผิดตอนซื้อของผ่าน EDC น่าจะต้องกด PIN ด้วยมั้งครับ
COBOL !!
ขอบัตรอื่นด้วยเอถะครับ ตังเหมือนกันนะแถมเอาไปให้ธนาคารหมุนก่อนด้วยรู้สึกเหมือนลูกค้าปลายแถวทั้งที่เอาเงินไปให้ธนาคารใช้ก่อนแท้ๆ - -"
ธนาคาร กรุงเทพ ทำไปแล้วรอ ธนาคารอื่นตาม ใช้แล้วจะหาตู้ที ยากมาก
อันนี้โดยส่วนตัว บัตรธนาคารกรุงเทพเป็นบัตรเดียวที่ผมใช้งานนะครับ บัตรอื่นมีไว้สำรองเท่านั้น ไม่จำเป็นไม่กดเลย
lewcpe.com, @wasonliw
อันนั้นมัน ATM หรือเปล่าครับ
บัตร Credit น่าจะใช้ Chip/Pin กันหมดแล้วนา
จริงๆ ATM ก็มีประเด็นนี้ครับ แต่บ้านเราน้อยกว่าต่างประเทศหน่อย เพราะธนาคารวางตู้กันเองเยอะ ต่างประเทศมีตู้เอทีเอ็มอิสระเยอะ
ระยะเวลา liability shift เองก็แยกสองระบบ ระหว่างระบบรับชำระกับระบบกดเงินสด แต่ละประเทศก็ต่างกันไป
lewcpe.com, @wasonliw
BBL บัตร debit ไม่รู้ป่านนี้ EMV เป็น full หรือเมื่อก่อนยังเห็นเป็น earlier option อยู่เลยครับ
COBOL !!
น่าจะ Full มานานแล้วครับคนใกล้ตัวไปกดตู้อื่นไม่ได้เลย
ห่วงเรื่องซื้อของออนไลน์ด้วยครับ หลายเว็บแค่มีหน้าบัตรกับเลขหลังบัตร ซื้อของได้เลยโดยเจ้าของบัตรไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยซักนิด
ตอนนี้ผมขูดเลขหลังบัตรทิ้งหมดละ ได้ข่าวโดยขโมยข้อมูลไปใช้จ่ายออนไลน์มาเรื่อย ๆ เพราะขโมยกันง่ายมาก ไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม ให้บัตรไปนี่ยกกล้องมือถือขึ้นมาถ่ายแค่สองวิก็เสร็จโจรละ ไหนจะร้านอาหาร ร้านค้าที่เคาเตอร์อยู่หลังร้านอีก
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!