Tags:
Node Thumbnail

นโยบาย "บังคับใช้ชื่อจริง" ของ Facebook ไม่ได้สร้างปัญหาเฉพาะที่เมืองไทย แต่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั้งโลก (ข่าวเก่า) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Electronic Frontier Foundation (EFF) กลุ่มภาคประชาสังคมด้านสิทธิคนใช้เน็ต ร่วมกับองค์กรอื่นหลายแห่ง ส่งจดหมายเปิดผนึกขอให้ Facebook ปรับปรุงแก้ไขนโยบายนี้

ล่าสุด Facebook ตอบจดหมายกลับมาแล้ว โดยบอกว่ายินดีปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบชื่อให้เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ลดโอกาสที่จะต้องยืนยันชื่อจริงให้น้อยลง และป้องกันปัญหา report มั่ว โดยคนที่ report จะต้องแนบข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมไปกับการ report ด้วย

กระบวนการตรวจสอบชื่อแบบใหม่จะเริ่มใช้ในเดือนธันวาคมนี้

ข้อเรียกร้องของ EFF มีด้วยกัน 5 ข้อ

  1. ขอให้ Facebook อนุญาตให้ใช้นามแฝงหรือชื่ออื่นที่ไม่เป็นทางการ ในกรณีที่การใช้ชื่อจริงอาจก่อให้เกิดอันตราย หรือกฎหมายท้องถิ่นอนุญาตให้ใช้ชื่ออื่นได้
  2. ขอให้ปรับปรุงกระบวนการ report ปัญหาเรื่องชื่อ โดยผู้ที่ report ต้องมีหลักฐานสนับสนุนที่จริงจัง เช่น เอกสาร หรือ ตอบคำถามบางอย่าง
  3. ขอให้สร้างกระบวนการยืนยันชื่อ โดยไม่ต้องส่งเอกสารของทางการ เช่น การส่งลิงก์ไปยังเว็บไซต์ หรือใช้เอกสารอื่น
  4. ขอให้อธิบายกระบวนการยืนยันชื่อ ว่า Facebook เก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้อย่างไร ใครเข้าถึงได้บ้าง
  5. ขอให้มีกระบวนการอุทธรณ์ (appeal) ของคนที่โดนบล็อคจากปัญหาไม่ใช้ชื่อจริง เช่น ผู้ใช้สามารถขอให้ Facebook ตรวจสอบใหม่อีกครั้ง หรือ สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของ Facebook โดยตรงที่ไม่ใช่บ็อต

No Description

ฝั่งของ Alex Schultz ตัวแทนของ Facebook เขียนจดหมายตอบ โดยอธิบายเหตุผลของนโยบายชื่อจริงว่าต้องการให้ Facebook ปลอดภัยมากขึ้น คนโพสต์มีความรับผิดชอบมากขึ้นเมื่อใช้ชื่อจริง ลดปัญหาการกลั่นแกล้งออนไลน์ลงได้ แต่ Facebook ก็รับทราบว่าในมุมกลับก็มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น

บริษัทมีแผนจะปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบชื่อจริง 2 ประการ เริ่มใช้ในเดือนธันวาคมนี้

  1. ในกรณีที่ผู้ใช้เลือกชื่อที่คนรู้จักอยู่แล้ว โอกาสที่จะโดน Facebook ตรวจสอบชื่อจะลดลง
  2. ถ้าจำเป็นต้องยืนยันชื่อ กระบวนการยืนยันจะง่ายขึ้นกว่าเดิม

ส่วนประเด็นทั้ง 5 ข้อของ EFF ทาง Facebook ชี้แจงเป็นรายข้อ ดังนี้

  1. Facebook บอกว่าตอนนี้เปลี่ยนนโยบายจากชื่อจริงตามเอกสาร เป็นชื่อที่คนรู้จักแล้ว และจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ถูกตรวจสอบชื่อ สามารถเขียนอธิบายเหตุผลที่เลือกใช้ชื่อนั้น เพื่อประกอบกระบวนการอนุมัติของ Facebook ด้วย ส่วนคนที่ไม่อยากเผยชื่อจริงด้วยเหตุผลทางการเมือง ก็แนะนำให้เปิด Page แทนการใช้ Profile
  2. Facebook เห็นด้วย และกำลังปรับปรุงกระบวนการ report ให้คน report ต้องแนบรายละเอียดเพิ่มเติมไปด้วย
  3. ตอนนี้ Facebook ไม่ได้ขอเอกสารของทางการแล้ว และสามารถใช้เอกสารอื่นๆ เช่น บิลค่าน้ำค่าไฟที่ระบุชื่อ บัตรนักเรียน บัตรห้องสมุด ฯลฯ แทนได้
  4. พนักงานของ Facebook ที่เข้าถึงเอกสารเหล่านี้ มีเฉพาะทีม Community Operations เท่านั้น และลบเอกสารทิ้งเมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย ไม่เก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์
  5. Facebook บอกว่ากระบวนการตรวจสอบชื่อ ใช้คนทั้งหมดอยู่แล้ว และจะปรับปรุงกระบวนการให้เป็นมิตรมากขึ้น

ที่มา - EFF, Buzzfeed

จดหมายตอบของ Facebook

Get latest news from Blognone

Comments

By: sonkub
AndroidWindows
on 31 October 2015 - 08:54 #857480

ผมนี่โดนประจำ
พอครบ 2 เดือนเปลี่ยนชื่อกลับเป็นชื่อ display
ผ่านไปซักพักโดน report อีกละ ไวจริงๆ

By: alph501
iPhoneWindowsIn Love
on 31 October 2015 - 09:58 #857491
alph501's picture

แต่ก็ดีนะ จะได้รู้จักชื่อจริงเพื่อนบ้าง บางคนโดนรีพอทเปลี่ยนชื่อไป ถึงกับแบบ

เอ็งเป็นใคร???

By: illuminator
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 6 November 2015 - 21:07 #859323 Reply to:857491
illuminator's picture

เห็นด้วย อย่างเบื่อ บางคนชื่อประหลาดสุดๆ ไม่รู้เป็นใครรีพอทซะเลย เปลี่ยนเป็นชื่อจริง อ้าวเพื่อนเราเองหรอ

By: Golflaw
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 31 October 2015 - 10:49 #857501
Golflaw's picture

ผมโดนไปที แล้วเปลี่ยนกลับก็ไม่ได้ด้วย ทั้งที่ผ่านมาจะครบปีแล้ว


A smooth sea never made a skillful sailor.

By: mr.k on 31 October 2015 - 14:52 #857560

tมันคือนโยบายที่ทำให้หลายๆคนเลิกติดเฟสได้ ผมก็หนึ่งในนั้น

By: Bluetus
iPhone
on 1 November 2015 - 02:18 #857743
Bluetus's picture

จำได้ตอนปีที่แล้วโดนรีพอต

ส่งหน้า Passport ไปมันไม่ให้ผ่าน

เลยด่ากลับไป ผ่านเลย = =''

ปล. มีคนรู้จักที่เลิกเล่นเฟสเพราะเพรื่องนี้ด้วย