Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษ ประเด็นที่น่าสนใจคือเขาบอกใบ้ว่าแอปเปิลกำลังจะขยายไปยังอุปกรณ์ด้านการแพทย์ แต่ไม่ใช่การนำ Apple Watch ไปใช้งาน เพราะเขาไม่ต้องการนำสินค้าคอนซูเมอร์ไปใช้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่ต้องผ่านการรับรองจาก FDA (อย.ของสหรัฐ)
Cook พูดถึงยอดขายของ Apple TV รุ่นใหม่ว่าไปได้สวย และตอบคำถามที่ว่าแอปเปิลสนใจเปิดบริการสตรีมมิ่งของตัวเองหรือไม่ โดยเขาบอกว่าถ้าบริษัทมองว่ามันจะช่วยเป็นตัวเร่งยอดขายได้ เขาก็จะตัดสินใจทำ แต่เขาไม่ต้องการทำด้วยเหตุผลแค่ว่าเลือกทำเพราะคนอื่นทำ
เขายังพูดถึง iPad Pro ว่าเป็นสินค้าที่มาแทนโน้ตบุ๊กหรือเดสก์ท็อปได้แล้ว และยุคสมัยของพีซีใกล้จบลงแล้ว ส่วนประเด็นว่า iPad mini ยอดขายลดลง เพราะมี iPhone จอใหญ่ขึ้นมาแข่งนั้น เขาคิดว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะเป็นสินค้าของแอปเปิลด้วยกันเองอยู่แล้ว
ที่มา - Telegraph
Comments
Ipad mini ขายได้ลดลงแต่ไอโฟนขายได้มากขึ้น ผมว่างานนี้แอปเปิลมีแต่ยิ้มกับยิ้ม
ส่วนตัวคิดว่าที่ipad mini ขายได้ลดลงก็เพราะแอปเปิลกั๊กสเปคนี่แหละ
ผมมองว่า Ipad mini ตอนนี้กลายเป็นทางเลือกแล้วแหละครับกั๊กๆไปงั้นแหละไม่ได้เน้นมากมาย
ทำหุ่นยนต์ผ่าตัด
ต่อไปเราจะทำการผ่าตัดพร้อม รับชม movie จาก itunes หรือ ฟังเพลงไปกับ apple music
อนาคตของการผ่าตัดจะไม่น่าเบื่ออีกค่อไป ohh it's amazing
รับส่งโดยรถยนต์ AppleCar นำทางโดย Apple Maps Oh shxt!
-10 ย่อหน้าสุดท้าย ผมยังเล่นเกมอยู่ครับ Tim
ถ้าเกมเปลี่ยนผ่านเข้ายุคสตรีมมิ่ง ผมว่าคงเล่นเครื่องไหนก็ได้นะ แต่ภาระจะตกที่อินเตอร์เน็ตแทน เห็นสเปคที่สตรีมเกมของ Geforce Now ต้องการแบบสูงสุดนี่ถึงกับท้อ WiFi 50 Mbps สำหรับ 1080p 60 Fps
ถ้ามันแทนกันได้ คือมันสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ PC, desktop ได้ทั้งหมด
แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นว่า iPad Pro มันจะเอามาใช้เล่นเกมที่ผมอยากเล่น อยากลองได้เลยครับ
Tim เป็นถึง CEO แต่ยังมองไม่เห็นว่าแทนกันได้คืออะไรนี้ ผมยังเห็นว่าเขายังใช้บุญเก่าของ Jobs อยู่นะครับ
ถึงตลาด PC มันจะหดตัวลงแต่ผมคิดว่ามันไม่มีทางหายไปง่ายๆ แน่นอน
อยากให้ PC หายไปคงต้องออก tablet, smartphone จอ 21 นิ้วมาให้ได้ก่อนน่ะครับ
ตรงนี้ต้องมองไปถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ที่ชัดเจนที่สุดคือทิศทางที่ไมโครซอฟท์กำลังผลักดัน มันก็ดูน่าเชื่อว่ามันจะไปทางนี้ในอีกไม่นาน เรื่องกลุ่มเกมเมอร์ (ฮาร์ดคอร์เกมเมอร์) มันค่อนข้างเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่ค่อนข้างเน้นเครื่องประสิทธิภาพสูง ผมว่าถ้าเทียบกับตลาดโดยรวม มันก็ยังถือว่าเป็นเพียงตลาดเฉพาะกลุ่มซึ่งมีน้อยถ้าเทียบกับตลาดโดยรวม ถ้าตัดเรื่องราคาที่ดูเหมือนจะยังแรงอยู่ในตอนนี้ก็ถือว่าเข้าเค้าอยู่นะครับ
กลุ่มฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ไม่ได้เป็นผู้ต้องการเครื่องแรงนะครับ แต่กลับกันเป็นผู้สร้างเกมส์ต่างหากที่ทำให้เครื่องต้องแรง หากตลาดเกมส์ถูกบีบให้สร้างบนคอนโซลหมด กลุ่มตลาดนี้ก็แทบไม่เหลือละครับ (ไม่พูดถึงกลุ่มใต้ดินที่ต้องเครื่องแรงนะ)
โดยปกติผู้สร้างเกมจะทำมาให้สามารถปรับความละเอียดหรือเฟรมเรตอะไรได้อยู่แล้ว ตรงนี้ผมเลยมองว่ามันเป็นความต้องการของทางฝั่งเกมเมอร์มากกว่า ว่าจะเอา Hardware ระดับไหนมาสนองความต้องการของตัวเอง ซึ่งโดยปกติคนที่เป็นฮาร์ดคอร์นี่ก็มักจะหาเครื่องที่แรงที่สุดเท่าที่จะซื้อได้มาใช้เป็นปกติอยู่แล้ว
ผมมองว่าอีกหน่อย คงจะมีคนเล่นเกมอย่างพวกเราน้อยลงๆ จนไม่มีใครอยากผลิตอีกน่ะครับ
ผมเล่นเกมมานาน และไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงยุคที่ อะไรๆ ก็ FPS ขนาดนี้
มองกลับกันก็คือ อีกหน่อยเกมที่พวกเราเล่นอยู่ตอนนี้ คงถูกแทนที่
positivity
ขอเดาว่าเป็นเครื่องวัดความดัน
อ่านย่อหน้าสุดท้ายแปลความได้ว่า Apple กำลังจะลอยแพ iMac กับ Macbook
ไอแพดมินิ4 ผมว่าไม่กั้กสเปคแล้วนะ น่าจะหมดความนิยมไปเองมากกว่า
ยุคสมัยโน้ตบุ๊กหรือเดสก์ท็อปที่กำลังจะจบลงนี่แต่ก่อนก็ยังคิดว่าคงอีกนาน แต่หลังจากไมโครซอฟท์ออกมากระตุ้นอีกแรงก่อนหน้านี้ก็คิดว่าคงใกล้ๆ จะถึงแล้วล่ะ แต่ก็คงจะมีเหลือใช้กับงานเฉพาะทางหรือกับกลุ่ม gaming บ้างอย่างที่ข้างบนว่ามา
'ยุคสมัยของพีซี' คงหมายถึงฝั่ง คอนซูเมอร์ นะผมว่า เพราะยังไง developer ก็คงต้องการ pc, notebook ดีๆ อยู่
ถ้า app สายdev ไปขึ้น cloud ล่ะ?
ลองนึกสภาพ jsfiddle ที่มี interface เทียบชั้น eclipse เขียน code ภาษาอะไรก็ได้ แล้ว simulate app บน cloud
แล้วถ้า dev ต้องการ debug ตัว hardware ล่ะครับ ยกตัวอย่าง พิกัด gps หรือ แม้แต่ simulate การใช้งานบางอย่าง ยังไงก็ยังต้องการ pc นะ
ยกเว้นแต่ pc ที่ว่า จะเป็น blackbox บางอย่าง แล้วอีกด้านนึงก็ต่อกับ device แล้ว box นี้ก็ต่อกับ cloud service เวลา dev ก็เปิด browser บน tablet อีกที กด run แล้วมาดูผลที่ device (ยิ่งคิดสิ่งซับซ้อน)
กำลังจะจบลง แต่ตัวเองก็ยังทำ macbook รุ่นเบามาขายนะ
ถ้า dev app บน iPad pro ได้เมื่อไหร่ นั่นแหล่ะ ยุคจบมาถึงจริงๆแล้ว
Pc จะกลายเป็นเรื่องมือเฉพาะทาง ส่วนคนทั่วไปใช้ แท็บเล็ตแทน
เป็นความหมายนี้มากกว่า ส่วนเรื่องเกม ตอนนี้เป็นกลุ่มเฉพาะไปแล้ว
เกมเป็นกลุ่มเฉพาะมานานแล้วครับ แค่มีกลุ่มพวกเกมมือถือมาเพิ่มเติมเท่านั้น ปัญหาคือ Tim พูดแบบนี้เหมือนอนาคตจะเลิกทำ mac แล้วไปเน้น iPad แทน กลุ่มเล่นเกมบน mac apple คงไม่สนอยู่แล้วเพราะมีน้อยมาก แต่กลุ่มที่ทำงานด้าน creative นี่สิจะไปไหนต่อ
iPad Pro ทำให้ตีดอทกับ LoL ให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน
The Dream hacker..
Vainglory สิครับ โหลดเลยยย สนุกมากกก แนวเกมส์เหมือนDota
ถ้าพูดอย่างมั่นใจแบบนี้ แสดงว่า research กับ development เสร็จแล้วล่ะ แต่กั๊กไว้ก่อน รอขาย pro 2 3 4 หรือ iPad Air เรื่อย ๆ จนถึงจุดอิ่มกำไร ค่อยปล่อย product ตัวที่ว่ามาให้ฮือฮา
ในมุมมองของผมนะ Ipad Pro ไม่สามารถแทน Desktop ได้ 100% ครับ ถ้าทิมออกมาพูดแบบนี้จริงแสดงว่าทัศนวิสัยแคบมากมองแค่ Consumer อย่างเดียวแต่ไม่มอง Producer เลย ซึ่ง Producer นั้นเป็นกลุ่มที่สำคัญพอๆกับ Consumer ด้วยซ้ำเพราะถ้าไม่มี Producer Consumer ก็ไม่มีอะไรเล่น ถ้าไม่มี Consumer Producer ก็ตกงานกันเป็นแถบครับ อีกกลุ่มที่ทิมมองไม่เห็นคือ Hardcore Consumer ครับ
ยกตัวอย่าง Hardcore Consumer ก็ขอยกง่ายๆคือเกมเมอร์ระดับ Hardcore ที่ต้องการเครื่องประสิทธิภาพสูงเล่นเกมครับ ตราบใดที่ Mac ยังปรับ Spec เองไม่ได้ Hardcore Gamer ก็ไม่สนเท่าไหร่ครับ
ส่วน Producer ง่ายๆเลยครับพวกสาย Graphic ที่ต้องอาศัยสองจอเช่นวาด 3D จอนึงแล้วให้อีกจอ Render ไปด้วย คนกลุ่มนี้ Ipad Pro รับความต้องการไม่ได้ครับถ้ามันยังเป็น iOS อยู่ นอกเสียจากว่าจะมีผู้ผลิต Software สำหรับ Producer ใน iOS ที่มีประสิทธิภาพระดับ OSX เท่านั้นครับซึ่งตอนนี้ Adobe น่าจะพยายามทำอยู่ (เห็นจากงาน Present ล่าสุดของ Ipad Pro)
ถ้าจะแทนได้จริงๆต้องอย่าง Surface ครับ อันนี้แทนได้จริงเพราะคุณเขียนโปรแกรมลง OS เดียวพอเพราะตอนนี้ของ Windows ก็เหลือแค่ WP กับ WD (Windows Desktop) แล้วซึ่ง WP เองก็ทำตัวเป็นโทรศัพท์เต็มๆ (ไม่นับ Continuum นะ)ส่วน WD นี่อยู่ในตระกูล Surface ได้นานแน่ๆครับ
ถ้าทิมอยากจะให้มันแทนกันได้จริงๆ ทิมต้องเอา OSX ลง Ipad ให้ได้ครับ มันจะสูสีกับ Microsoft แน่นอน
ผมคิดว่าแอพ Desktop ปัจจุบันจำนวนหนึ่งสามารถที่จะพอร์ทไปทำงานบนอุปกรณ์พกพาได้ และ Apple เองก็พยายามที่จะดันจุดนี้อยู่น่ะครับ
ตลาด Hardcore Consumer ผมว่ามันเล็กกระจ้อยร่อยนะ ยิ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่ๆ นี่อย่าว่าแต่เอา PC มาเล่นเกมเลย Console บางคนก็ยังไม่รู้จัก แถมตลาดนี่นับวันมันยิ่งหดตัวลงเรื่อยๆ ถ้านับตอนนี้เป็น 100% อีกไม่กี่ปีข้างหน้าอาจจะเหลือแค่ 10% ก็เป็นได้ -__-")
ส่วนเรื่อง App เอาจริงๆ มันก็แทบจะเขียนทีเดียวใช้ได้หลาย platform อยู่แล้วนะ ภาษากับเครื่องมือพัฒนาเดียวกันทำเป็น responsive เหมือนกัน ต่างกันตรง UI นิดหน่อย ถ้าตัด OSX ทิ้งนี่ยิ่งง่ายเข้าไปอีก
ตลาดเกมบางส่วนอาจะหดตัวครับ เช่น ตลาดเครื่องเกมพกพา แต่บางตลาดก็เพิ่มขึ้นเหมือนกันนะ อย่าง steam ก็มีผู้ใช้งานแตะ 11ล้าน เป็นครั้งแรก ส่วนงานหลายๆที่ข้างบนบอกมันยากครับที่จะต้องทำงานบน tablet ทำไมหลายๆคนถึงทำงานหลายจอ ใช้คีลัดบนคีบอร์ด เพราะความคล่องตัวในการทำงานครับ ต่อให้ app บน tablet มีความสามารถเท่าแต่มันก็ยังขาดส่วนนี้ครับ การที่ต้องทำงานแล้วสลับเมนูในโปรแกรมไปมามันน่าหงุดหงิดครับ
ยอด 11 ล้านดูเหมือนเยอะ แต่เอาจริงมันน้อยกว่ายอด download เกมมือถือธรรมดาเกมเดียวเสียอีก และถ้าเทียบกับอัตราเพิ่มขึ้นของการขาย Smartphone,Tablet ถือว่าน้อยมาก แถมรับประกันไม่ได้ว่า ยอด Steam คือผู้ใช้ hardware ใหม่ บางส่วนก็ถูกหักไปจากการย้ายตลาดพวก Games for Windows Live ที่หายไป หรือการซื้อที่เปลี่ยนไปจากแบบกล่องมาเป็น digital แทน
ส่วนงานน่ะใช่ครับ แต่มันจะถูกดึงออกไปเรื่อยๆ จากผู้ใช้ที่ไม่ได้เห็นว่างานส่วนนี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ PC เท่านั้น
ปล.key ลัดเอาจริงๆ มันทำได้อยู่นะ
ยอดในสตีมอันนั้นเป็นยอดที่คนออนไลน์พร้อมกันครับ ไม่ใช่ยอดจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด แต่จำนวนถ้าเทียบกับมือถือมันคงเทียบไม่ติดอยู่แล้วละครับ เพราะมีกันแทบทุกคน แต่ที่บอกยอดในสตีมนั่นเพื่อให้ดูว่าจำนวนมันไม่ได้น้อยลงครับ แถมเพิ่มขึ้นอีกตางหาก
เท่าที่ผมดูนี่ Apple ยังไม่ค่อยชัดเจนในเรื่องเขียน App ทีเดียวลงได้หลาย Platform ครับ ทาง Microsoft ชัดกว่า
เพราะว่า Xcode ยังมีการแบ่งแยกชัดเจนครับว่าจะเขียนลง Cocoa หรือ Cocoa Touch แต่ของ Visual Studio เริ่มมี Universal App แล้ว
อีกอย่างที่ Apple เคยพูดไว้ตอนที่กัด Microsoft เรื่อง Surface Pro ว่าเรามีแนวทางของอุปกรณ์ชัดเจน คือช่วงนี้ยังคงไม่มีการรวบ OSX กับ iOS เร็วนี้แน่ แต่อนาคตถ้า Concept 1 App all Platform มันทำได้ 100% Apple จะเปลี่ยนผมก็ว่าดีนะ
ถามว่า OSX นี่ตัดได้ไหม คือถ้าจะตัดทิ้งนี่เท่ากับทิ้งเครื่องคอมฝั่ง CPU สถาปัตยกรรมเดิมเลยนะครับเพราะ iOS มันเป็น OS สำหรับฝั่ง ARM ถ้า Apple ทิ้งตรงนี้ก็ต้องสามารถทำให้ iOS Run ได้บนสถาปัตยกรรมเดิมไม่ก็ให้ผู้ผลิต App สำหรับงาน Producer ทำ App ลง iOS อย่างเดียว ซึ่งผมเองก็ยังไม่สามารถเข้าถึงการเขียนโปรแกรมระดับพวก Adobe, Microsoft Office นี้เท่าไหร่รู้แค่ว่ามันเขียนซับซ้อนมากเพราะมันต้องรู้ระดับการใช้งาน Register เลย ซึ่ง ARM และ CPU รุ่นก่อนต่างก็มีวิธีการจัดการระบบการประมวลผลโยกย้ายข้อมูลภายในไม่เหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ถ้าจะทำแบบ Universal App ทาง Compiler ต้องเก่งมากนะครับที่จะ Compile Code ออกมาให้สามารถ Manage ได้ทั้ง ARM และ CPU (แต่ผมว่าทำได้นะ)
iPad Pro ขายราคาเท่าๆ กับ Surface Pro 4 เลย
ผมก็คิดนะว่า iPad Pro มันทำงานได้แบบที่ Windows มันทำงานได้เลยเหรอ
คือเรื่อง Entertainment นี่ไม่เถียง มันสบายกว่าอยู่แล้ว แต่ก็ใช้แค่ iPad mini, iPad Air ก็พอแล้วป่ะ ส่วนทำงานมันก็ต้องการความยืดหยุ่นกว่า iOS จะให้ได้นะ
iPad เท่าที่ผมจำได้มันถูกสร้างขึ้นมาเป็นอุปกรณ์ในการเสพย์สื่อ ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ไว้สร้างสื่อเหมือนที่บางคนเคยพูดไว้ว่า "iPad มีไว้ดูหนังโป๊ แต่ Surface Pro มีไว้สร้างหนังโป๊" ทำนองนั้น ดังนั้น iPad จอ 10 กว่านิ้ว อย่าง iPad Pro ที่มาพร้อมดินสอวาดรูปสุดอลังการ มันก็คงไม่หลุด concept นี้สักเท่าไร
สุดท้ายมันก็เหมือน ๆ กับที่ Apple เคยพูด ๆ มาทุกครั้งที่พูดเพื่อหวังผลหรือรออะไรบางอย่างที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แล้วค่อยมาพลิกคำพูดเหมือนหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมาแค่นั้น
เรื่องตลาด PC เอาจริง ๆ มันก็เฉพาะกลุ่มมานานแล้ว เพียงแต่ว่าคนสมัยก่อนมันไม่มีตัวเลือกสินค้ามากเท่าปัจจุบัน พอตัวเลือกมันเข้ามาคนมันก็แค่ไหลลงไปตามกลุ่มสินค้าที่เหมาะกับตัวเองแค่นั้น มันไม่ใช่ iPad Pro เจ๋งจนมาแทนไอ้นั่นไอ้นี่ได้เลย
กลัวทิมจะบอกว่า iPad มีไว้ดูหนังโป๊ new macbook มีไว้สร้างหนังโป๊.น่ะสิ 5555
iCondom <== ในบ้านเรามันอยู่ในหมวดอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยใช่ไหมครับ
"เขายังพูดถึง iPad Pro ว่าเป็นสินค้าที่มาแทนโน้ตบุ๊กหรือเดสก์ท็อปได้แล้ว และยุคสมัยของพีซีใกล้จบลงแล้ว"
...คงลืมไปซินะ ว่ายังมีคนรอเล่นเกมบน PC อยู่เท่าไหร่ หึๆ
แต่ก็อย่าลืมน่ะครับว่าในปัจจุบัน มีคนเล่นเกมบนMobile Platform อยู่เท่าไหร่
ไอ้ Mobile Platform เนี่ยมันน่ากลัวกว่าที่คิดนะครับ เพราะมันสามารถเปลี่ยนคนที่ไม่เล่นเกม ให้ติดเกมงอมแงมมานักต่อนักแล้ว
ลูกค้าคนล่ะกลุ่มครับ และมีแก๊บตรงกลางที่เล่นทั้งสองอย่าง คนใหญ่ใหญ่ที่เล่นเกมมือถือ ไม่ค่อยซื้อเกมพีซีแพงๆ บนคอม ฉันใด คนที่เล่นเกมพีซีแบบฮาร์ดคอร์ ก็ไม่ค่อยสนใจเกมมือถือ ฉันนั้น
The Dream hacker..
เพื่อนผมเติมเงินเล่นเกมส์ RPG Online ของญี่ปุ่น(หรือเกาหลีหว่า) ไปสองหมื่นกว่าแล้วครับ แต่เกม PC มันนั่งรอแต่ Steam Holiday แถมซื้อแต่ละทีไม่เกินสามร้อย
ปล. เพื่อนคนนี้เป็นเกมเมอร์สายพีซีมาก่อนครับ หลังๆมันเล่นแต่มือถือเป็นหลัก
ถ้ามองแค่ผู้ใช้งานธรรมดา iPad Pro นั้นพอจะเอามาแทนที่ PC ได้ครับ แต่ถ้าสูงกว่าระดับนั้นมันเป็นแค่ทางเลือกอีกทาง แล้วด้วยธรรมชาติของ iDevice ที่อุปกรณ์เสริมจะต้องเป็นแบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ iDevice เลยทำให้ความเป็นทางเลือกของมันถูกลดลงอีก เพราะแปลว่าของเก่าที่มีอยู่อาจจะเอาไปใช้กับ iPad Pro ไม่ได้ครับ
ปล. มีตวามรู้สึกว่า Cook ตั้งใจพูดประโยคนี้เพื่อโฆษณา iPad Pro และเรียกแขกมากกว่าครับ
ในฐานะคนในวงการการแพทย์ก็อยากให้แอปเปิ้ลทำนะครับ เพราะกำลังทรัพย์และEcosystem ของแอปเปิ้ลนี่น่าจะทำประโยชน์ให้กับวงการแพทย์ได้มหาศาลเลย
เพียงแต่ว่าทำมาแล้วก็ตั้งราคาให้เหมาะสมด้วยนะครับ อุปกรณ์การแพทย์ถ้ามันจำเป็นจริงๆก็อยากให้มองถึงความทั่วถึงของผู้ป่วยด้วย ถ้าแพงเกินไปรพ.ร้ฐ รพ.ชุมชนคงได้ลำบากกันแน่ๆ
แล้วก็ไม่ต้องเน้นดีไซน์มากก็ได้นะครับ ดีไซน์สวยมากจะทำให้ราคาแพงเปล่าๆ อิอิ
พอมันขึ้นชื่อว่าอุปกรณ์การแพทย์ ผมก็ไม่คิดว่าราคามันจะถูกอยู่แล้วนะครับ
ผมว่า Apple คงไม่โดดไปทำเครื่องผ่าตัด เครื่อง x-ray กลุ่มลูกค้า Apple คือ mass นั่นน่าจะเป็นอะไรที่คนทั่วไปใช้และใช้ร่วมกับ iphone
Apple watch วัดความดันได้ วัดอัตราหัวใจได้ วัดไข้ได้ วัดน้ำตาลในเลือด แล้วส่งข้อมูลไปเก็บที่ iPhone ฐานลูกค้ากลุ่มนี้ทั่วโลกเลยครับที่ต้องใช้
Apple เราไม่ Focus group ตลาด mass อย่างเดียว
ผมคนนึงที่รู้สึกว่า iPad ยังแทนที่ Notebook ไม่ได้ อย่างตอนทำไฟล์งานนำเสนอใน power point คือภาพรวมทำได้ดีเลย เสียอย่างเดียวและเป็นข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ คือตอนทำ animation ต่างๆ มันไม่ฉลาดเท่า desktop version ทำให้งานนำเสนอทำออกมาได้ไม่สุด สุดท้ายต้องกลับไปแก้ไขบน desktop อยู่ดี
ผมว่า Apple ตั้งใจที่จะไม่ทำให้ iPad Pro ลง OSX
เพราะต้องการที่จะ ทำให้นักพัฒนาโปรแกรม ทำโปรแกรมให้กับ iOS ในระดับโปรให้มากขึ้น
ก่อนที่ iPad Pro จะออกมาผมก็ยังหวังว่ามันจะเป็นเหมือนกับ MacBook 12" ที่มีแค่ USB-C และ Touch screen พ้อมกับ OSX แต่ก็อย่างที่เหัน
การที่ Apple จะรวม OSX กับ iOS เขาด้วยกันนฟ้นมันคงจะยากครับ แต่อยากให้มีนะ
ไม่เห็นจะยากเลยครับ Surface Book ก็ออกมาแล้วจะรออะไร ก็อปสิครับ lol (ล้อเล่นนะครับ)
จริงๆก็อยากให้ทำแบบ SFB นะ แบบดึงออกจาก Dock เป็น iOS พอเสียบ Dock ก็เป็น OSX
Apple ทำฮาร์ดแวร์ระดับเทพมารอแล้ว ที่เหลือก็แค่รอซอฟฟ์แวร์ลง
แล้วจุดที่เขียนแอปครั้งเดียวใช้ได้ทุกโอเอส เดี๋ยวก็มาถึง
เข้า Explorer ไม่ได้, ปรับ Registry ไม่ได้, ลง VM ไม่ได้ และที่สำคัญ ลง Ubuntu ไม่ได้
สำหรับผม iPad ก็ยังเป็นของเล่นและ Ebook Reader อยู่ดี (เพิ่มอีกหน้าที่ เป็นเครื่องอัดเสียง)
Power user ยังไงก็ PC เท่านั้น
คำว่า "ยุคสมัยของพีซีใกล้จบลงแล้ว" ผมมองว่าหมายถึง ยุคสมัยที่ทุกบ้านเรียกร้องหาพีซีประจำบ้านได้ใกล้หมดลงแล้ว และพีซีจะกลับสู้ความเฉพาะทางเหมือนยุคก่อน คือพีซีสำหรับผู้ใช้งานเฉพาะทาง อย่างโปรแกรมเมอร์ พีซีเกมเมอร์ ฯลฯ
อ่านความเห็นหลายอันแล้วก็เพลียใจ แล้วก็ปล่อยเขาเข้าใจแบบของเขาต่อไปละกัน
iProstate exam ครับ เอาไว้ตรวจสอบ Prostate cancer ไหน ๆ รูปตราผลิตภัณฑ์ของ Apple ก็เหมือนมากแล้ว น่าจะทำออกมา