มาถึงตอนนี้ แว่น Oculus Rift ยังรองรับเฉพาะระบบปฏิบัติการวินโดวส์เท่านั้น ฝั่งผู้ใช้แมคคงมีคำถามว่าสุดท้ายแล้ว Oculus จะรองรับแมคด้วยหรือไม่
เรื่องนี้ Palmer Luckey ซีอีโอของ Oculus ให้สัมภาษณ์กับเว็บข่าว ShackNews คำตอบของเขาคือ "ขึ้นกับแอปเปิล ถ้าแอปเปิลออกคอมดีๆ มา เราก็จะทำ" (Palmer ใช้คำว่า good computer)
เขาขยายความว่าแอปเปิลไม่ได้ออกคอมพิวเตอร์ที่มี GPU ระดับสูงพอสำหรับ Oculus ตัวอย่างคือ Mac Pro ราคา 6,000 ดอลลาร์ ได้ AMD FirePro D700 ซึ่งยังต่ำกว่าสเปกที่ Oculus ต้องการ ดังนั้นต่อให้ Oculus อยากรองรับแมค ก็ยังทำไม่ได้ในตอนนี้
Comments
แมคลื่นกว่าวินโดวส์เยอะนะ ลื่นหัวแตกเลยนะ สเปคไม่ต้องใช้เยอะเลยนะ #ติ่งคนหนึ่งได้กล่าวเอาไว้
ปล.ใช้คู่กันทั้งคู่ตอนนี้วินโดวส์ 10 ดูจะเร็วกว่านิดหน่อย
เดี๋ยวโดนแขวะว่าเป็นนติ่งวินโดวนะครับ
กว่าจะตามแมคทัน มันก็ win 10 เข้าไปแล้ว ลืมเรื่องเวลาไปหรือเปล่า คนใช้แมคเขาลื่นมาเป็นชาติแล้ว
พูดไม่หมดอันนี้ก็ไม่ไหวนะครับ
สำคัญที่ปัจจุบัน ว่าได้แค่ไหน เพราะการใช้งาน อยู่ ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต หรืออนาคต
ตังถึงก็ลื่นนนนน
คือ ถ้าซื้อตอนนี้ ต้องย้อนเวลากลับไปสินะครับ MAC ถึงจะลื่นกว่า - -*
จากใจคนใช้ MBPr ที่ต้องลง Windows 10 ใช้งาน
ผมว่ามันลื่นทันกันตั้งแต่Windows7แล้วนะ
แต่Windowsก็ยังมีปัญหาจุกจิกเยอะกว่าOS X อยู่ดี แม้ว่าปัจจุบันOS Xจะเริ่มมีปัญหาจุกจิกขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังตามWindowsไม่ทัน
ที่ราคาเท่ากัน PC ลื่นกว่าแมคแน่นอนครับ ฟันธง
แล้วที่ Spec เท่ากันล่ะ เพราะราคามีค่าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Spec รวมอยู่ด้วยนะ
ถ้า spec เท่ากัน ประสิทธิภาพน่าจะต่างกันแค่นิดเดียว แต่ราคานี่ห่างกันเยอะเลยถึงแม้ผั่ง PC จะรวม Windows 10 Pro FPP เข้าไปด้วยครับ
ส่วนใหญ่เรามักจะมองว่าราคา hardware+software
แล้วพวก design ล่ะ การจัดวาง hardware ต่างๆในเคส ล่ะ
เราได้มาฟรีหรือต้องเสียเงินในการคิดและสร้าง?
ผมว่าถ้าประสิทธิภาพมันไม่ต่าง ซอฟแวร์ไม่ต่าง(แต่มันต่างกันตั้งแต่ OS แล้วนะ) ต่างกันแค่ดีไซน์การจัดวาง(เท่านั้นจริงๆ) มันก็มีแค่ความพอใจหรือยินดีที่จะจ่ายแล้วนะครับ
PC ก็ไม่ฟรีครับ Mac ก็ไม่ฟรี คุณจะซื้อเดลหรือ Acer มันก็มีความต่างทางดีไซน์การจัดวางที่คุณพูดเหมือนกันและมันอยู่ในราคาสินค้าอยู่แล้ว แล้วคุณจะเอาอะไรมาวัดคุณภาพการดีไซน์จัดวางละครับมันอยู่ที่ความพอใจของผู้ซื้ออยู่ดีไม่ใช่เหรอ
แต่แรกเริ่มจริงๆมันคนละเรื่องอยู่แล้วนะครับ ซื้อ Mac กับ ซื้อ PC ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เกิดซอฟแวร์ที่คุณจะใช้มันมีแต่บนแมค หรือมีแต่บน PC แค่นี้ก็ต่างแล้ว แต่ถ้าคุณมองว่ามันคือการซื้อคอมมันก็จะไม่ต่างนะครับแล้วจะไปเข้าข้อข้างบนที่ว่า ความพอใจจะจ่ายแทน
ก็อย่างว่าถ้าพวกคอมชุดจาก HP Acer DELL ทุกๆอย่างก็รวมอยู่ในราคาไปหมดแล้ว
และอาจจะจริงที่บอกว่า "ที่ราคาเท่ากัน PC ลื่นกว่าแมคแน่นอนครับ ฟันธง"
อย่างไรเสียก็เชื่อเหมือนคุณ zerost ว่า Mac กับ Windows มันต่างกัน
ไม่ควรนำ "ราคา " เป็นตัวชี้วัดหลัก ซึ่ง "ความพอใจ" อาจสำคัญกว่าก็ได้
อ่านมาตั้งนาน ได้ข้อสรุปว่า "ตูพอใจจะซื้อแมค ห้ามคนอื่นด่าแมค" จบ
อืมมม ตัดจบเลย ฮ่าๆๆๆ
ส่วนตัวแล้วไม่ได้ใช้แมค(bn สามารถตรวจสอบได้) แต่ก็ไม่ได้ห้ามคนอื่นด่าแมค
แค่รู้สึกว่าการ ฟันธง จากราคา ของ Mac กับ Windows มันวัดกันตรงๆ ไม่ได้
ที่ต้องเอาราคาเป็นตัวชี้วัดเพราะมันเกี่ยวกับเนื้อหาในบทความครับ
"เขาขยายความว่าแอปเปิลไม่ได้ออกคอมพิวเตอร์ที่มี GPU ระดับสูงพอสำหรับ Oculus ตัวอย่างคือ Mac Pro ราคา 6,000 ดอลลาร์ ได้ AMD FirePro D700 ซึ่งยังต่ำกว่าสเปกที่ Oculus ต้องการ ดังนั้นต่อให้ Oculus อยากรองรับแมค ก็ยังทำไม่ได้ในตอนนี้"
ส่วนตัวซื้อ Mac มาลง Windows ด้วยเหตุผลด้าน Hardware อย่างเดียวคือ เป็นโนตบุคราคา ประมาณ 36000 (MBPr มือสอง) บาทที่ จอละเอียดสุด ๆ และสามารถต่อจอนอกได้ 3 จอครับ รวมกับจอเครื่องแล้วก็เป็น 4
ยี่ห้ออื่นราคานี้ทำแบบนี้ไม่ได้น่ะครับ
ส่วนเรื่อง Design กับความอึดของแบคเคอรี่ และ OSX นี่ผลพลอยได้ แต่OSX หน่วงและปัญหาเยอะกว่า Windows 10 จริง แต่ใช้เล่นเนตธรรมดาก็ดีกว่า Windows 10 เพราะ Trackpad + OSX เป็นอะไรที่แจ่มมาก แบตอึดกว่า WIndows ด้วย
ปัญหาบน OSX ที่รำคาญมากคือ WiFi จับสัญญาณบาง AP ไม่ได้ และบางครั้งก็ติด ๆ ดับ ๆ ทั้งที่บน Windows ไม่เป็น
เครื่องแมคจะเร็วกว่าครับ
หลายๆ รีวิล พอเครืองแมคมาลงวินโดส์แล้วผล Benchmark ดีกว่า
เรื่องลื่นไม่ลื่นตรงนั้นไม่แน่ใจ แต่แมคบุ๊คโปรก็เคยได้ชื่อว่าเป็น Laptop ที่รัน Windows ได้ดีที่สุดนะครับ
เข้าใจว่าคำที่ยกมา คือคำที่สาวกหรือพวกเกรียน Mac ใช้เหน็บแนมวินโดว์
แต่ผมว่ามันผิดที่ผิดทางไปหน่อยนะ
ถ้าคุณใช้ทั้งคู่ คุณก็รู้ว่าของ mac มันเปลี่ยนการ์ดจอไม่ได้
และในเนื้อข่าวเขาก็พูดถึง GPU ไม่ได้เกี่ยวกับ OS เลย คือจะเหน็บสาวก Mac ก็ขอให้มันอยู่ในประเด็นเถอะ
คำที่ยกมาเหน็บนะ รอให้เขาบอกว่าจะทำรองรับถ้าทำ OS แรงพออะไรแบบนี้ ไม่ใช้พอมีช่องหน่อยก็รีบมาใส่
แล้วไม่ต้องสงสัยว่าผมเป็นสาวก Mac นะ ผมเคยใช้ Mac มาหลายรุ่น แต่ทุกวันนี้ผมเลิกใช้ Mac ไปนานแล้ว
ผมก็คิดนะ.. ว่าแมคจะได้ใช้ได้ต้องเครื่องราคาเท่าไหร่.. $6000 เองนะตัวเธอ
รู้สึกว่า iMac 5k น่าจะใช้ได้นะครับ AMD M395, 395x
ตัว M395 นี่อาจจะได้ แต่ 395X นี่คิดว่าได้แน่นอนครับ
ปล. แต่ราคามันแพงเกินไปนี่สิ
หัวเกรียนมาเมนท์แรกเลยแฮะ ..
+1024
ความเห็นนี้เกี่ยวกับข่าวยังไงเอ่ย
อย่างน้อยเมนท์แรกเขาก็ยังบอกเล่าประสบการณ์ของการใช้ทั้ง 2 OS นะ
+2048
+920
+2
+1
ผมต้องอวยแอปเปิ้ลหรอครับผมถึงจะได้มีผมบนหัวกับเขา ผมก็ไม่ได้อ้างอิงใครเป็นส่วนตัวแต่สาวกหลายคนพูดแบบนี้กับผมจริงเช่นกัน และผมก็จบด้วยประสบการณ์การใช้งาน
ผมเตือนก่อนนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
1.ผมไม่อยากคุยกะหัวเกรียนโตเพราะอยู่นานหรอกฮะ
2.เขามาเม้นแรกก็ไปแขวะคนอื่นว่าติ่งสะแล้ว แถมไม่มีคนเตือนด้วย นี่ผมแค่เหน็บๆนะเนี่ย 0
แอปเปิลผู้น่าสงสาร....
ตอบแบบนี้ระวังปลิวนะครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
จะเอาแมคมาเล่นเกมหนักๆเหรอ บ้าไปแล้ว
จริงๆ Mac ทำได้ครับ แต่เขาเน้นทำตลาดผู้ใช้งานมืออาชีพ, ใช้ในเชิงพาณิชย์ และงานด้านออกแบบซะส่วนใหญ่มาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่ตลาดคนเล่นเกมหรือตลาดคนใช้งานทั่วไปด้วยซ้ำ
ถ้า Apple มาทำ Mac for Gamer ก็ทำได้ อย่างใส่ GTX980, TITAN หรือ Radeon R390 ก็ทำได้ แต่เขาเลือกไม่ทำไงครับ เพราะไม่ใช่แนวทางของผลิตภัณฑ์ Apple ตั้งแต่ต้น
Get ready to work from now on.
ผมกำลังคิดว่า ถ้าเอา VR มาใช้แทนหน้าจอ เราอาจจะมี UI แบบ Sphere รอบหัวเรา ซึ่งมันก็น่าจะเหมือนกับมีจอที่ใหญ่มาก ๆ เลยนะ ... เป็นการใช้งานแบบตลาดมืออาชีพแบบนึง
แต่ใช้แล้วคงเมาพิลึก ...
จอใหญ่มากๆ อ้วกครับ เพราะลูกตาต้องกรอกไปมาตลอดเวลา
เพราะคนที่ใช้ Mac ในข่าวเค้าไม่รู้แบบนะสิ จึงต้องเกิดคำถามนี้ ผมว่าผิดที่ Apple ที่ไม่บอกลูกค้าชัดๆอย่างที่คุณว่ามา
ผมเนี่ยแหละครับเอามาเล่น Shogun 2 แต่ต่อ eGPU เอา ขี้เกียจ Bootcamp บ่อยครับ ยกเว้นบางเกมที่ไม่มีจริงๆเช่น PVZ: GWF ถึงต้องบูทไปวินโดวส์
Oculus ไม่ได้มีแต่เกมนะครับ
OS ตระกูล *ux โดยโครงสร้างมันออกแบบมาหลายชั้นกว่าจะถึง hardware ก็นะ.... แม้จะมี Vulkan, Mantle etc. ก็ตามเถอะ
ผมว่า mac มันเน้นสายงานมากกว่านะ ถ้าทำสายเกมสผมว่าเค้าน่าจะใส่มาเต็มเหมือนกัน
ผมว่า Apple ไม่สน Oculus นะ เดี๋ยวคงออก iReality เองเลย
ตลาด VR ตอนนี้ร้อนแรงมาก เชื่อว่า Apple ไม่น่าพลาด คงจะอยู่ในแผนแล้วล่ะ แต่จะออกเมื่อไหร่ เท่านั้นเอง
ผมก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ออกมาทีหลังเปรี้ยงกว่าแน่นอน จุดอ่อนที่มีในปัจจุบัน จะถูกแก้ไขได้หมด ยกเว้นราคา
+599 ยกเว้นราคา…
ผมว่าก็เป็นไปได้นะ แต่ว่า ออกมาเพื่ออะไรหล่ะครับ ถ้าเล่นเกมส์ใน สตรีมไม่ได้ ^ ^''
ออกแบบ animation
ดูหนังแบบสมจริง
Apple คงเน้นทำ hardware มากกว่าครับ อาจจะมีกล้อง 360 องศา มีแว่น VR มี controller อะไรทำนองนี้ ส่วน software คงมี framework มาให้ dev ทั้งหลายไปทำต่อยอดกันมาเอง จะเป็นเกมส์หรือ production graphic อะไรก็ว่าไป และน่าจะคุยกับพันธมิตรอย่าง Adobe และเจ้าอื่นๆ ไว้บ้างแล้ว ให้ทางนั้นออก software ที่ใช้กันได้ตามมา
กลัวแต่จะเป็นแบบเกมใน Apple TV น่ะสิครับ ตอนแรกก็ wow ว่าจะมาแทนที่ Wii U แต่ตอนนี้แค่แทนที่เกมในมือถือยังยากเลย
ผมไม่เชื่อว่า apple จะไม่ทำถ้ามัน "ได้เงินมากพอ" สาวกนี่ยอมรับไม่ได้กันเลยไปว่าเขาเกรียน ทั้งๆที่ความเห็นตัวเองไร้ประโยชน์กว่าคนที่บอกว่าเกรียนอีก
ป.ล. ออ สรุปตอนนี้ใครลอกใครไม่สำคัญแล้วเหรอครับ สำคัญที่ใครทำแล้วดีกว่า แหม่เปลี่ยนเป็นกิ้งก่าเลยทีเดียว
รอ iPad Pro with VR ว่าไปโน้น แต่ถ้าจะถามความอยากส่วนตัว อยากให้ตระกูล iPad ทำงานกับ VR ได้มากกว่า Mac นะ ส่วนทำได้จริงหรือไม่ก็อีกเรื่อง โดยส่วนตัวผมไม่ได้สนใจเล่นเกมส์ VR อยู่แล้ว แต่สนใจทำอย่างอื่นกับมันมากกว่า
ทำอะไรครับ XD
มันทำได้มากกว่าเกมส์เยอะนะ ผมสนใจ ภาพ 360 องศา กับ VDO 360 องศามากกว่าเกมส์ น่าจะต่อยอด Production ได้เยอะ
อ้าว ผมก็หื่นไปคนเดียวซะงั้น ^_^"
ถ้าเป็นเกมส์อยากให้ Oculus ออกเครื่อง Console ของตัวเองมากกว่า อยากรู้ว่าถ้าได้เครื่องประสิทธิภาพเต็ม 100 มันจะทำอะไรได้บ้าง แต่คิดว่าคงยาก เพราะ Facebook คงอยากให้เชื่อม PC เพื่อให้กลุ่มผู้ใช้กว้าง เผื่อเอาไปต่อยอดด้านอื่น
ไม่แรง แต่เร้าใจนะครับ
ดูเหมือนสตีฟจ็อบส์และพรรคพวกที่แอปเปิ้ลไม่ชอบคอมพิวเตอร์เกมส์เท่าไหร่
นั้นสิครับ T-T
สงสัยเพราะเคยทำ Apple Bandai Pippin ขายและเจ้งไปแล้ว
ออก Macbook Pro ใส่การ์ดจอดีๆ มาให้หน่อยเถอะะะะ
ยังมีคนเล่นเกมบนแมคอยู่ตรงนี้ T___T
บางทีก็สงสัยว่างานที่รันหนักจริงๆ เขาเอาเครื่อง mac แพงๆ กับ ประกอบ pc แพงๆที่เงินเท่ากัน อันไหนมารันงาน/เกมส์ กัน
ไม่ได้เอา ดีไซน์ไปถือโชว์เพื่อย้อมใจนะ เอา func ของเครื่องจริงๆเลยน่ะ ว่า ประสิทธิภาพ/ราคา อันไหนมาคุ้มกว่าจริงๆ
ถ้างานหนักๆ เค้าใช้ workstation กันครับ
ผมเดาว่าเค้าคงใช้ MAC PRO กันนะครับตัวกล่องดำๆอะ เขาคงทำแบบนี้กันมั้งทำงานบน MAC ส่งไปรันบนเครื่อง server กลาง เหมือนเขียนโปรแกรม เพราะไม่งั้นระหว่างส่งไปรันก็ทำงานต่อไม่ได้เครื่องคงจะช้ามาก
เขียนบนเครื่องหน่อมแน้มรัน test set เล็ก แล้วงานจริงๆหนักๆส่งไปรันบน cloud ครับ
รอโรงหนัง 360 องศา ระบบเสียงรอบทิศทาง ใครจะสร้างหนัง 360 องศาเป็นเจ้าแรกนะ อยากได้อารมณ์ Action แบบ Transformer 360 องศา คนดูอยู่ตรงกลางหมุนดูรอบๆ ได้คงมันส์พิลึก แต่เฟสแรกเอามาใช้กับ Google map ก่อนก็น่าสนใจดี
หันไปดูอีกทาง หันกลับมาอีกที ฉากสำคัญผ่านไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ
ถ้าต้องครอบอุปกรณ์ VR ด้วย ผมว่าน่าจะเป็น Private กลายๆ อยู่แล้ว ดังนั้นผมเชื่อว่ามันต้องมีฟีเจอร์ย้อนกลับดูได้แน่ๆ (ถ้ามันจะเป็นจริงนะ) ปัญหาคือเวลาสำหรับดูแต่ละเรื่องก็จะมากขึ้น มันอาจไม่เหมาะก้บโรงหนัง แต่เหมาะกับดูอยู่บ้านผ่านระบบ Streaming
อย่าเถียงกันเลยครับ ความคิดเห็นก็คือความคิดเห็น รับฟังและให้เกียรติ ความคิดเห็นของผู้อื่นด้วยครับ
คนไทยด้วยกันก็ให้เกียรติกันเถอะครับ ถ้าเราไม่เริ่มที่เรา แล้วเราจะเริ่มที่ใครครับ
จากเด็กไทยที่อยากให้ประเทศไทยมีความสุข :)
ผมนี้รอ MacBook pro 13 มาพร้อมกับการ์ดจอแยกเลยครับ ฮา (อยากให้เหมือนตอน 2010 ที่ขนาด MacBook ธรรมดายังใช้การ์ดจอแยก)
ผมมองว่า มันอยู่ที่เวลามากกว่าครับเวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อน Iphone จะไม่ทำจอใหญ่ ซึ่งสาวกก็ออกปกป้องกันใหญ่ว่าจอขนาดนี้กำลังพอดีมือ บลาๆ แล้วมาดูปัจจุบันสิครับ :P
ว่าแต่เอาแมคมาต่อ eGPU ผ่าน Thunderbolt แล้วใส่การ์ดจอแรง ๆ ไม่ได้เหรอครับ?
TB 2 ยังคอขวดอยู่ครับ
แต่ว่า มันก็ใช้งานได้นะครับ
https://odd-one-out.serek.eu/thunderbolt-2-egpu-setup-using-akitio-thunder2/
แต่ยังไงซะ OSX ก็ไม่รองรับอยู่ดี - -* ต้อง Windows
รองรับครับ ผมใช้อยู่ทั้ง Windows 10 ทั้ง OSX 10.11 ครับ
https://www.techinferno.com/index.php?/forums/topic/7289-2012-15-macbook-pro-gtx96010gbps-tb1-akitio-thunder2-win81-bios-errin/
เคยมาละ สมัยก่อนก่อน บ้า spec I7 RAM 8 GTX 470 บลาๆ จัดเท่าที่เงินตอนนั้นจะไปถึง
ช่วงหลังได้ลองมา Retouch ภาพ ทำจน psd มีขนาดใหญ่ถึง 400-500 MB เปิด psd ทีนี่ลุ้นตัวโก่ง
อย่าได้กดเมนู Filter ใน PS เชียว หมุนติ้วๆ แล้วก็ Windows not responding ตามระเบียบ
ที่ทำงานซื้อ macbook pro 13 นิ้ว i5, Ram 4,On Board มาให้ใช้งาน เลยได้ลองเอาทำไฟล์เดิมดู
จบเลย นอกจากไม่ค้างแล้วยังลื่นใช้ได้เลย พูดไปก็หาว่าอวย แต่ดันเรื่องจริง
สุดท้ายก็ขายหมด มาลง iMac แล้วก็หากินมาจนถึงทุกวันนี้
แต่ก็อยากให้ Apple เอาการ์ดจอดีๆมาลงหน่อยก็ดี
บางอารมณ์ก็ Bootcamp ไปเล่น Battle field อะไรพวกนี้เหมือนกัน ก็เล่นได้แหละ
แต่จะได้เล่นเกมได้หลากหลายมากขึ้นหน่อย บางเกมก็ไปไม่ถึง ทั้งๆที่ราคาเครื่องก็นะ อิ อิ
rMBP ผมเอามาเล่นมายคราฟยังกระตุกเลยครับ
ต้องประมาณนี้ครับ
เดี๋ยวนี้นอกจากมีวอร์ระดับมือถือแล้วมีวอร์ระดับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลด้วยหรอเนี่ย... #เสพย์คอมเม้นอย่างเมามันส์
คนใช้ linux อย่างเรา ๆ ขอเงียบไปก่อนละกัน เดวโดนกระสุนดราม่า
ตามข่าวแค่ว่าถ้า Apple ออกคอมพิวเตอร์ที่มี GPU ถึงขั้นต่ำที่ Oculus ระบุก็เท่านั้น เถียงกันเรื่อง OS เรื่องราคา ความลื่นไหล ลื่นไหลออกจากเนื้อหาข่าวกันไปไกลเลยนะครับ
ว่าจะ edit กดมือถือผิดกลายเป็น reply ครับ เลยมีคอมเมนท์นี้มา
ผมเป็นคนนึงที่ซื้อMacมาใช้โดยไม่ได้แยแสต่อเลขสเปคเลยครับ
ไม่ได้ซื้อมาใช้งานจริงจังด้วย แค่ซื้อมาเพื่อความบันเทิงส่วนบุคคลล้วนๆเลย
เมื่อก่อนก็เคยเป็นพวกบ้าสเปคนะ แต่พอใช้ไปนานๆมันเริ่มรู้สึกว่า สเปคมันไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอ่าครับ
เพราะเวลาที่เราใช้คอม เราไม่ได้สื่อสารกับHWแต่เราสื่อสารกับSWต่างหาก
เมื่อก่อนใช้Windowsก็ลองค้นแคะแกะเกาไปเรื่อย ระบบพังก็ลงใหม่แค่นั้น แต่พอมีความจำเป็นต้องใช้คอมทำงานจริงๆจังๆเท่านั้นแหละรู้ซึ้งเลยว่าSWมันเน่าขนาดไหน วันดีคืนดีเดี๋ยวก็Bootไม่ขึ้น แทนที่จะได้ทำงานก็ต้องมานั่งแก้ปัญหาอีก และส่วนมากก็แก้ไม่ได้ด้วย จะมานั่งGhostไว้บ่อยๆก็ใช่เรื่อง ไม่เป็นอันต้องทำงานพอดี WindowsRecoveryก็ทั้งช้า และก็ต้องลุ้นว่าจะสำเร็จไม่สำเร็จอีก บางทีRecoverมาตั้งนานมาErrorเจ๊งจบตอนท้ายก็มี(แทบอยากจะปาคอมทิ้ง)
ทุกวันนี้ใช้Macก็ยังคอยใช้Time Machine Backupไว้เรื่อยๆ(ติดนิสัยกลัวไฟล์หาย) เคยลองลบไฟล์แล้วเรียกคืนผ่าน Time Machine ตอนแรกนึกว่าจะต้องเลือกวันแล้วรีบูทเครื่องรอบนึง แต่พอไปอ่านวิธีใช้แล้วลองทำดู อึ้งไปเลยครับ เร็วด้วยง่ายด้วย ไม่ต้องรีบูทด้วย ใช้งานต่อได้เลย ไม่เสียเวลา
ยิ่งใช้มันยิ่งรู้ครับว่า MacมันทำมาสนองNeedคนที่ใช้คอมทำงานจริงๆ(แม้ผมจะเอามาใช้บันเทิงก็เถอะ) ไม่ใช่ในแง่ของความเสถียรไม่เสถียรนะครับ แต่หลายๆลูกเล่นมันทำมาช่วยคนทำงานจริงๆ ทั้งการรีบูทแล้วเรียกหน้าต่างเดิมกลับมาให้หมด การรีเฟรชหน้าเว็บทันทีที่ต่อเน็ตได้ ไฟดับกระทันหันงานก็ไม่หาย แปลคำศัพท์ได้โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมDict หรือGoogle แถมยังอ่านออกเสียงให้ฟังได้อีก(ได้ภาษากับมันเยอะมาก) ตั้งเวลาปิดเองทุกวันได้(เหมาะกับการดูหนังก่อนนอนมาก) หรือจะเป็นการติดตั้งหรือถอนโปรแกรมที่ทำได้ง่าย(มาก) และทุกวันนี้ผมยังไม่มีเหตุให้ต้องลงOSใหม่เหมือนสมัยใช้Windowsเลยครับ เปิดติดทุกรอบ สงสัยเพราะมันProtectไฟล์ระบบจากอันตรายจากUserได้ดี เพราะทุกวันนี้ผมยังหาFolder Win32(บนMacมันชื่ออะไรหว่า) ของMacไม่เจอเลย
Oculus จะมาแยแสAppleหรือไม่ผมก็ไม่แคร์ครับ สักวันเดี๋ยวเวลาผ่าไปเรื่อยๆHWมันก็พัฒนาจนมันแรงพอจะใช้งานได้อยู่ดี ลองนึกๆดูว่าเมื่อก่อนผมยังใช้คอมที่รันบนความละเอียด480p แล้วกระตุกอยู่เลย ทุกวันนี้ความละเอียด4kมือถือยังรันได้สบายๆ
มีGPUเทพตอนนี้ไปก็เท่านั้น ในอนาคตเดี๋ยวมือถือก็แรงกว่าอยู่ดี
เว้นแต่ Oculus จะทำให้มันกินสเปคเพิ่มตามวิวัฒนาการHW
เมื่อก่อนผมเป็นคนค้นแคะแกะเกาจัดนะครับ จนกระทั่งใช้ Windows Vista ได้พักนึงผมเริ่มคิดว่าเสียเวลากับพวกนี้มากไปแล้วก็เลยเลิก มันมาแบบไหนใช้ไปแบบนั้น แล้วแปลกครับ เครื่องผมไม่เคยมีปัญหาอีกเลย ไม่มีจอฟ้า ไม่มีค้าง ไม่ต้องลงวินโดวส์ใหม่ ไม่มีบูตไม่ขึ้น Windows Recovery ที่เปิดไว้ก็ไม่เคยได้ใช้งาน (แต่ก็เปิดไว้นั่นแหละ)
แต่เรื่องโปรแกรมเข้าถึงระบบน้อยและ Time Machine นั่น OS X ทำได้ดีจริงครับ ฝั่งวินโดวส์มีดีหน่อยก็เคยมี Shadow Copy ให้ใช้ง่ายๆ แบบไม่ต้องมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลเพิ่ม (ใช้ shadow copy บน HDD ดื้อๆ เลย) สมัย Windows Vista, 7 อยู่ แล้วถอดทิ้งไปเสียอย่างนั้น File History ก็ใช้ย๊าก ยาก กู้ได้เฉพาะไฟล์อีกต่างหาก
ตอนผมทำโปรเจคจบผมก็ลงWinใหม่ก่อนเริ่มงาน เอาแบบคลีนๆเลย ก็ยังไม่วายโดนพิษ2ครั้งครับ
ครั้งแรกคือ ตอนพรีเซนต์ความคืบหน้า มันเปิดไม่ติดครับ ได้เอาสไลด์เก่ามาพรีเซนต์แทน
ครั้งที่สองคือ ตอนพรีเซนต์ไฟนอล พรีเซนต์อยู่ดีๆสไลด์ไม่ไป แล้วก็จอฟ้าไปดื้อๆ บูทไม่ขึ้นอีก เลยยืมเครื่องเพื่อนมาพรีเซนต์แทน โดยเอาดึงไฟล์ล่าสุดจากไฟล์แนบอีเมลที่ส่งให้เมทโปรเจคแทน การจัดวางเพี้ยนนิดหน่อยพอถูๆไถๆไปได้
พอจบมา ไปเดินห้าง ตอนเดินผ่านiStudioเจอเค้ากำลังพรีเซนต์iWorkอยู่พอดีเลยไปแอบๆยืนฟังด้วย Autosaveก็เจ๋งดีไม่ต้องมาคอยพะวงกดSaveบ่อยๆ และพอถึงตอนที่เค้าพาย้อนVersionของงานที่ทำอยู่ ทำผมอึ้งเลย เพราะมันเลือกตามเวลาได้ และมีรูปให้ดูรูปร่างของงานก่อนยืนยันRestoreด้วย ไม่ต้องมานั่งทบทวนความจำให้ปวดหัวเลย โดนสั่งแก้งานบ่อยๆนี่สบายเลย
และพนักงานยังโชว์ถอดปลั๊กให้ดูด้วยเพื่อจำลองสถาณการณ์ไฟดับ(เครื่องโชว์เป็iMac) พอเปิดขึ้นมาใหม่มันก็กลับมาหน้าเดิมก่อนทีไฟจะโดนตัด ในตอนนั้นมันทำให้ผมรู้สึกได้ทันทีว่า มันออกแบบมาเพื่อให้ความสำคัญแก่งานของเราเป็นอันดับแรกจริงๆครับ
นับแต่นั้นมา ผมวางเป้าให้ชีวิตเลย ว่าจะต้องเก็บเงิน ซื้อMacมาครอบครองให้ได้
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้จะบอกว่า Windows มันดีกว่านะครับ
เรื่องจอฟ้า อันนี้เป็นได้หลายอย่างอยู่ บางทีก็ผู้ผลิตไม่ดี ไดรเวอร์ไม่ดี ซึ่งของผมคงเป็นรุ่นโชคดีครับเพราะมาถึง Windows 10 แล้วยังใช้ Windows Vista ได้ดีๆ อยู่เลย
Word มี autosave ครับไม่ต้องคอยกด save บ่อยๆ เหมือนกัน แต่ตอนย้อนรุ่นนี่ผมไม่ค่อยแน่ใจแต่จำได้ว่ามีครับ ซึ่งก็คงไม่สะดวกแบบ OS X