By: ตะโร่งโต้ง 
on 20 March 2016 - 03:08
Tags:
Topics:
ผู้ผลิตรถยนต์ 20 รายร่วมลงนามกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรอิสระของสหรัฐอเมริกา กำหนดว่าในปี 2022 รถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจะต้องมีระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเป็นหนึ่งในระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถยนต์
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ หรือ AEB (Automatic Emergency Braking) ที่ว่านี้เป็นการเรียกโดยรวมของระบบที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการมีอยู่ของวัตถุ ซึ่งอาจเป็นเรดาร์, ลิดาร์ หรือเซ็นเซอร์ประเภทอื่น โดยเมื่อตรวจพบวัตถุด้านหน้ารถก็ให้ทำการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้เบรกได้ทันก่อนเกิดการชน และหากผู้ขับขี่ไม่สามารถเบรกรถได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด รถจะต้องทำการเบรกด้วยตนเองก่อนการชนเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
สำหรับการลงนามในครั้งนี้จะทำให้ในปี 2022 ระบบ AEB จะไม่เป็นเพียงแค่ระบบเสริมที่ผู้ซื้อรถอาจต้องควักเงินเพิ่มเพื่อให้ได้มา หากแต่เป็นระบบที่รถทุกคันในสหรัฐอเมริกาต้องมี (แบบเดียวกับที่รถทุกคันในสมัยนี้ต้องมีเข็มขัดนิรภัย)
หน่วยงานภาครัฐและองค์กรอิสระที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีทั้งกระทรวงคมนาคม, สถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวง (IIHS) และสำนักงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ (NHTSA) โดย IIHS นั้นประเมินว่าในระยะเวลา 3 ปี ระบบ AEB จะช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนได้กว่า 28,000 ครั้ง และลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนได้ 12,000 ราย
ในภาพรวมแล้วทางการของสหรัฐอเมริกาก็มีการออกข้อกำหนดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์อยู่เนืองๆ อย่างเมื่อปี 2012 ก็เป็นปีที่กำหนดให้รถเพื่อการโดยสารทุกประเภทต้องมีระบบ ESC (ระบบเพิ่มความเสถียรด้วยกลไกอิเล็กทรอนิกส์) และในอีก 2 ปีข้างหน้า รถทุกคันที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 10,000 ปอนด์ (4.5 ตัน) ไม่ว่าจะเป็นรถบัสหรือรถบรรทุก ต้องติดตั้งกล้องบันทึกภาพด้านท้ายรถทุกคัน แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนที่จะต้องเพิ่มมากขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา - TechCrunch
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
Comments
น่าจะบังคับกล้องหน้าด้วยอีกตัวนะเนี่ย
ตามกระแส Benz ชน Ford ก็มีระบบเบรคอัตโนมัติอยู่นะ
แต่เร็วเกิน 200 mile/hr ก็ไร้ประโยชน์ทันที
ต้องล็อคความเร็วไม่เกิน 200
ส่วนใครเอาไปปลดล็อคแล้วเกิดขับชน ต้องเล่นงานให้หนัก
น่าหมายถึง 200 km/h หรือปล่าว เพราะถ้าเป็น 200 mph นี่น่าจะต้องเป็น supercar นะครับ
ถ้าขับเร็วขนาดนั้นระบบเบรคคงทำงานก่อนรถจะวิ่งเข้าใกล้คันหน้าแล้วครับ
แต่ที่น่าสนใจคือ มันจะทำยังไงถ้าเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง
ยังไงมันก็ยังดีกว่าไม่มีอยู่ดีเนอะ
200 กม. ครับ
นั่น 63 amg นะครับ ผมไม่เชี่ยวมากบอกไม่ได้ว่า top จริงๆมันเท่าไหร่ แต่ก็ใกล้แตะๆ 200 mph แหละ
top น่าจะอยู่ที่ 333 km/h
ผมไม่เข้าใจ Mercedes ว่ามี SLK ที่ยัด V8 น่าจะได้อยู่แล้ว จะออก SL ออกมาอีกทำไม
SLK คล้าย SLC ตัวใหม่ กระทัดกว่าในเมือง ที่ลงเครื่องV8 เขาลงให้ลูกค้าได้เลือกสนใจมากขึ้น ส่วน SL ออกมานานแล้ว เป็นรถสปอรต์ มีทั้งเครื่อง 6สูบ 8สูบ หรือ 12สูบก็ได้ แต่งจากAMGหรือจากบริษัทแม่ก็ได้ ขึ้นอยู่ว่าลูกค้าต้องพลังที่ลงถนนแค่ไหนน่ะครับ
เพิ่มเติมนิดนึง SLK รุ่นใหม่ๆ จะไม่มีแล้ว จะถูกเปลี่ยนเป็น SLC ทั้งหมดให้เข้ากับตระกูลทั้งหลาย เช่น CLC GLC SLC แบบลงท้ายเหมือนๆ กัน
จำเขามาเล่า
มีESP BAS ABS และ Pre safe ช่วยคำนวณให้ รุ่นนี้มีเซนเซอร์กล้องด้านบนแล้ว แล้วมันจะตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนเลนหรือเบรกให้ ผมเชื่อว่าคนขับ ไปได้เบนซ์ นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตดีๆ ที่มีควันหลงในสมัย 2 ปีที่แล้ว สั้งทำพิเศษจาก AMG ไม่ใช้บริษัทแม่ตรงๆ แล้วคตเขาไทย แล้วเขาเปิดSport Mode Plus แน่ๆ มันเลยทำให้ระบบควบคุมเลี้ยวไวน้อยลง ปิดเทรคชั้น คอนทรอล เลยเปลี่ยนเลนไม่ได้ดี ควบคุมไม่อยู่และท่าทางไปปลดความเร็วด้วย นี้แหละทำไมเบนซ์ทางการไม่นำรุ่น AMG มาขาย และเอารุ่นทั่วไปมา และล็อกความเร็วไว้ กลัวจะเป็นแบบนี้น่ะครับ เบนซ์ทางการเขาไม่รับผิดชอบให้เพราะมันนำเข้าอิสระ หมดประกัน ดูแลกันเอง
ืในชีวิตจริงมันเป็นฟีเจอร์ที่คนส่วนใหญ่ชอบปิดครับ
เพราะพฤติกรรมการขับของคนกรุง เดี๋ยวมอเตอร์ไซค์ปาด เดี๋ยวรถยนต์ปาด ซึ่งมันทำให้ระบบ Trick ขึ้นมาได้ตลอดครับ
ื
พึ่งดูข่าวน่ากลัวมาก CLS63 AMG นี่วิ่งได้ถึง 155 mph เลย แล้วคิดยังไงไปวิ่งเลนช้านะ
อันนี้ไม่เกี่ยวกับข่าว แต่รู้ว่าคนไทยส่วนนึงค่อนข้างชื่นชอบความเร็ว ถ้าคุณขับแช่ขวาด้วยความเร็ว 130 km/h เพราะเร็วกว่ารถด้านซ้าย แล้วมีรถ 200 km/h อยู่ด้านหลัง ต้องชะลอ และรถด้านหน้าก็ไม่ยอมเปลี่ยนเลนให้ไป คุณว่าคนจะด่าใครมากกว่ากัน แน่นอนทั้งคู่ผิดกฎหมายเรื่องของ speed limit
กรณีที่ 1
รถ 200 km/h ต้องการจะแซง ทำให้ต้องแซงไปทางซ้าย หนังสือจะบอกว่า การแซงซ้ายอาจเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะจุดบอดมองไม่เห็นคันข้างหน้า แต่ในทางปฎิบัตถ้าขับรถระวัง คุณจะเห็นรถด้านหน้า ก่อนขับถึงแล้ว และเวลาเปลี่ยนเลนในขณะที่มองไม่เห็นนั้น มันไม่ควรวิ่งด้วยความเร็ว แบบจี้ตูดคันข้างหน้าหรือปล่าว (ถ้าไม่ขับใกล้มากเกินไปก็จะไม่มีจุดบอด) จะเห็นว่าสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจริงๆคือ ความเร็ว และการเว้นระยะห่างระหว่างคันข้างหน้าน้อยเกินไป
กรณีที่ 2
รถ 200 km/h ขับไปใกล้ เพราะคิดว่ารถข้างหน้าต้องหลบให้ตน แต่คันข้างหน้าดันลดความเร็วลงค่อนข้างรวดเร็วเพราะจะเลี้ยว และอาจจะไม่ทันสังเกตกระจกหลัง เพราะล่าสุดเมื่อ 3 วินาทีที่แล้ว ยังไม่มีรถอยู่ข้างหลัง ด้วยความเร็วที่ตอนแรกต่างกันถึง 70 km/h อาจเพิ่มขึ้นเป็น 100 km/h ซึ่งต้องใช้ระยะเบรคอย่างน้อยถึง 40 m แต่ปฏิกริยาของมนุษย์อาจจะทำให้ต้องมีระยะเบรคมากกว่านี้มาก
จากที่ผมเคยไปสอบใบขับขี่มา เห็นปฏิกริยาการเหยีบเบรคของผู้สอบแต่ละคนแล้ว ไม่สงสัยเลยถ้าการเห็นรถชนตูดกันบนท้องถนนเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป
ผิดกฎจราจรอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่สิ่งที่พรากชีวิตคนคือความเร็ว
ประเทศไทยติดอันดับท้องถนนที่อันตรายที่สุดในโลก เป็นอันดับที่ 2 รองจาก Namibia
https://asiancorrespondent.com/2014/02/study-thailand-roads-2nd-most-dangerous-in-the-world/
ผมว่ามันไม่ควรขับขี่ที่ความเร็ว200km/hr ตั้งแต่ต้นแล้วครับ
นั่นสิ ประเทศเราก็ไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดทำออโต้บาห์นได้เลย
คนในเยอรมันเขามีวินัยกว่า รถเร็ววิ่งซ้าย รถช้าวิ่งขวา ใครช้ากว่าต้องหลบ แต่ทางปกติเขาขับช้าน่ะครับ
ผิดตั้งแต่พยายามขับความเร็วขนาดนั้นแล้วครับ และทางหลวงมันก็ไม่ใช่สนามแข่งที่ทุกคนต้องทำความเร็วเอาชนะกันแซงซ้ายแซงขวาได้ ซึ่งจะว่าไปนั่นมันก็ยังอยู่ภายใต้กฎสนามแข่งและมีระบบ safety ที่ค่อนข้างพร้อมด้วยนะครับ
ถามนิดนึง ถ้าผมจำไม่ผิด เค้าให้ limit 90 แล้วให้เวลาแซงได้ 120 ใช่มั้ยครับ (ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาด้านบน)
กรณีมีการชนกัน เกือบ 100% ผมให้คนเข้าไปชนเป็นฝ่ายผิดครับ ถือว่าขับเร็วเกินกว่าตัวเองจะควบคุมรถได้
ถ้าคนถูกชนจะผิดก็ต้องกรณีแบบเลี้ยว-เปลี่ยนช่องเดินรถโดยมองไม่ครบโดยที่คันมาชนเว้นระยะมากพอและความเร็วไม่เกินด้วยครับ
เห็นความเห็นในเน็ตหลายๆ ทีแล้วสงสัยมากว่าจะให้ขับจี้กันไปไหน บางคนบอกจะเว้นทำไมเยอะแยะนี่ขับเว้นแค่เมตรสองเมตร มองรถหน้าถัดไปสองสามคันว่าเค้าลดความเร็วก็เบรคทันแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่ากรณีคันแรกสุดหน้าเค้าเกิดเหตุฉุกเฉินกระทันหันนี่เค้าหยุดรถกันยังไงนะ หรือก็ที่เวลาชนต่อกันหลายๆ คันนั่นก็ไม่รู้
อุบัติเหตุชนท้ายกันในระดับ 4-5 คันขึ้นไปมันเลยเกิดเป็นปกติในประเทศกรุงเทพไงครับ
ไม่รู้ทำไมประเทศเราถึงชอบขับแบบนี้กัน
ที่คนไทยชอบขับจี้ตูดกัน ผมว่ามันเป็นเพราะต้องการจะเนียน"แถม"เวลาไฟแดงขึ้น
ตอนสมัยเรียนเคยจอดรอไฟแดง พอไฟผมเขียวแล้วรถยนต์ฝั่งที่เคยเขียวก็ยังแถมกันอย่างไม่ลดละ แถมจนผมแดงอีกรอบ
งง!! กฎหมายไทย... ขับเร็วแค่ไหนไม่ถูกจับ??
เบรค => เบรก
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ถ้าเกิดมีเหตุจำเป็นที่จะต้อง "ชน" ระบบมันก็จะเบรคให้อัตโนมัติ ยังงั้นเหรอ
ลองไปดูคลิป ใน youtube ของวอลโว่แล้วจะกระจ่างครับ
ระบบนี้ไม่ได้เอามาใช้กับผู้ขับรถเร็วมากๆเป็นหลัก แต่ใช้ได้ดีกับผู้ที่ขับเพลินๆ(ใจลอย)
ในส่วนความเร็วขึ้นอยู่กับบางรุ่น เช่น
GLA มาที่ 45kph โดยผู้ขับไม่ยกเท้าแตะเบรก และรถหน้าหยุดนิ่ง จะสามารถหยุดได้ทันก่อนถึงท้ายคันหยุดนิ่ง
ที่มา: Euro NCAP
ถ้าผมขับรถ เร็วไม่ว่าจะ อย่เลนขวา หรือซ้าย แล้วถ้ามีคนเปลี่ยนเลน กระทันหัน ผมไม่หลบนะ ครับ ผมชน เลือกชน เท่านั้น
เพราะถ้าเร็วแล้วหักเลี่ยว จะบานปลายกว่ามาก
ปรกติผมจะขับรถ เฉลี่ย 90-120 แล้วแต่ ความไกล และสภาพถนน และการจราจร
ผมไม่ขับขนาด 200 แบบนี้หลอก แค่ 140 ต่อให้รถดีๆ ยังเบรคหรือหลบไม่ค่อยจะทันเลย