หลังจากแอพเรียกแท็กซี่-คนขับรถกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ บริษัทที่ทำธุรกิจด้านนี้จึงเริ่มขยายบริการมายัง “มอเตอร์ไซค์” กันแทน ซึ่งผู้ให้บริการรายใหญ่ก็ยังเป็นคู่เดิมคือ Grab และ Uber ที่ต่อสู้กันด้วยบริการ GrabBike กับ UberMoto
GrabBike เริ่มทำธุรกิจนี้ก่อนในเดือนสิงหาคม 2015 ในขณะที่ UberMoto เริ่มเปิดบริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ซึ่งฝั่งของ GrabBike ก็ตอบโต้โดยการลดราคาค่าบริการลงมาในระดับใกล้เคียงกัน ทั้งคู่เป็นบริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน แต่ในรายละเอียดก็มีความแตกต่างกันพอสมควร
ราคาใหม่ของ GrabBike คือเริ่มต้นที่ 10 บาท จากนั้นคิดค่าบริการเป็นกิโลเมตรละ 5 บาท
ส่วนราคาของ UberMoto จะซับซ้อนกว่า เริ่มที่ 10 บาทเท่ากัน คิดค่าบริการกิโลเมตรละ 3.5 บาท (ถูกกว่า) แต่จะคิดระยะเวลาตลอดการเดินทางเพิ่มด้วย 0.85 บาทต่อนาที (ระยะเวลาวัดจากในแอพ)
ด้วยเรตราคานี้ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางจริงจะอยู่ในระดับไล่เลี่ยกัน กรณีของ UberMoto ต้องขึ้นกับระยะเวลาด้วย (เช่น รถติด รอไฟแดง) แต่ในภาพรวมแล้ว ราคาของ GrabBike เรียบง่าย ตรงไปตรงมามากกว่า
ประเด็นการคิดราคาตามระยะทางอย่างเดียว ทำให้ GrabBike มีความได้เปรียบสำคัญคือแจ้งราคาเราก่อนที่จะเดินทางได้ ขณะที่บริการคู่แข่งที่คิดเวลาเดินทางด้วยกลับจะไม่สามารถแจ้งได้ว่าค่าเดินทางแต่ละครั้งเป็นเท่าใด
GrabBike เปิดบริการมานานกว่า ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ (อ้างอิง) ส่วน UberMoto เพิ่งเปิดบริการ ยังใช้ได้แค่สยาม สีลม สาทร เท่านั้น (อ้างอิง)
เนื่องจากคนขับ GrabBike มีเยอะกว่า เวลาในการรอเรียกรถจึงสั้นกว่าด้วย
อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การเดินทางบนท้องถนนก็มีความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติ การมีประกันอุบัติเหตุจึงช่วยลดผลกระทบในกรณีสุดวิสัยได้เป็นอย่างดี Grab มีประกันอุบัติเหตุ (Personal Accident Insurance) ให้คนขับทุกคน วงเงินสูงสุด 300,000 บาท และประกันอุบัติเหตุให้ผู้โดยสารอีก 300,000 บาท นอกจากนี้ถ้าส่งสินค้าด้วย GrabBike Delivery ก็มีประกันสินค้าให้สูงสุด 2,000 บาทต่อกรณี
ส่วน UberMoto จากการตรวจสอบข้อมูล ยังไม่พบว่ามีประกันคุ้มครองอุบัติเหตุให้
Comments
Grab ยังวิ่งได้อยู่อีกหรอ เห็นโดนสั่งปิด
@mamuang
ใช่ครับตามข่าวไทยรัฐบอกว่า Grab bike ขัดกฎหมาย เพราะบางคนยังไม่มีใบอนุญาติขับรถ ไม่มีข้อมูลในศูนย์ประวัติผู้ขับรถสาธารณะ ไม่ได้วิ่งอยู่ในเส้นทางหรือท้องที่ที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งไม่ได้เป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับการจัดระเบียบจาก คสช.ในช่วงที่ผ่านมา
UberMoto ที่ลาดกระบังก็มีให้เรียกนะครับ ที่จริงมันก็แล้วแต่คนขับด้วย ว่าจะเปิดรับที่พื้นที่ไหน
พออ่านย่อหน้าสุดท้ายจบ เลื่อนขึ้นไปดู เป็นโฆษณาการ Grab นั่งเอง
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
นั่นสินะ เห็นรายละเอียด grabเยอะจัง
ผมชอบเว็บนี้ตรงนี้แหละ ad ก็บอกว่า ad
ช่ายเลยต่างกับเวป เท้าสั้นติ้บ
ปล.ลึกไปไหมนี่
ไม่ลึกครับผมเข้าใจ
เท้าสั้น = thousand = พัน ครับ
จะพิมพ์ต่อว่าแปะให้คนไม่ลึก แต่มือกด tab+space ไปแล้ว ไม่มี edit ด้วย ฮืออออ
เข้าใจว่าโฆษณา แต่ไม่น่าให้ใส่ UberMOTO ในห้วข้อเลยอะ ผมอ่านแล้วเข้าใจว่าจะเปรียบเทียบให้เห็น
Educational Technician
เพิ่งเคยเห็น ad ที่โจมตีฝ่ายตรงข้ามโต้งๆ ขนาดนี้ในไทยเรา
ทั้งสองฝั่งต่างไม่แคร์กฎหมาย บริษัทที่ทำธุรกิจแบบนี้ก็เหมือนกลุ่มสนัขกัดกันไม่แคร์ว่าจะกัดในวัดหรือข้างสระน้ำในสวนลุมฯ
ตปท. เขาก็ทำกันนะครับ ชนกันตรงๆ เลย ง่ายๆ ชัดเจนดี
ผมละชอบโฆษณาที่กัดกันโต้งๆนะครับ
เพราะมันสามารถบ่งบอกสิ่งที่อีกเจ้าปกปิดไม่ให้ลูกค้ารู้ออกมาได้ ไม่ต้องไปนั่งค้นข้อมูลให้วุ่นวาย อันไหนกัดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงเดี๋ยวบริษัทที่เดือดร้อนเค้าก็ออกมาฟ้องร้องกันเอง ลูกค้าไม่ต้องมากัดกันตามเว็บบอร์ดต่างๆ
ทำแอพลง Window 10 ด้วยนะครับ
คงไม่ทำหรอก แม้แต่เวอร์ชันเว็บที่ผมเคยทวีตติไปตอนบอกเลิกทำบน WP ก็ยังไม่มีให้เห็นเลย (ไปโทษฝ่าย Advanced Technologies ในสิงคโปร์น่าจะดีกว่า)
และถ้าหากยังไม่ทำบนเว็บ ก็จะยังคงเป็นข้อด้อยของ Grab (ที่บทความนี้ไม่กล่าวถึง) ต่อไป...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ก่อนนี้เคยลองเรียก UberMOTO นะครับแต่คนขับรับงานแล้วไม่ขยับไปไหนเกือบ5นาที โทรมาหาเรารึก็ไม่ ก็เลยกดยกเลิกไปแล้วขึ้นแทกซี่ปกติแทน
อ่านพาดหัวตอนแรกนึกว่าจะได้อ่านบทวิเคราะห์กำลังจะดูชื่อคนเขียน
อ่าว โฆษณาซะงั้น
ถ้าค่าเสื้อวินสองแสนคงได้วิ่งปร๋อไปนานแล้ว 555
grab ใช้ซื้อของสะดวกดีนะ ถูกกว่าจ้างวินเยอะ