Volvo ประกาศแผนเตรียมทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในประเทศจีน โดยจำนวนรถที่จะใช้ทดสอบอาจมีมากถึง 100 คัน
สำหรับระบบรถยนต์ไร้คนขับของ Volvo นั้นไม่ใช่ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบอย่างเช่นรถของ Google หรือรถของ nuTonomy ที่เตรียมให้บริการแท็กซี่ในสิงคโปร์ แต่เป็นระบบขับอัตโนมัติที่จะแจ้งเตือนผู้ใช้ว่าพร้อมทำงานเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม เช่น บนทางด่วนหรือวิ่งในเขตนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานระบบที่ว่านี้แล้ว ผู้ขับขี่สามารถละมือและพักสายตาจากการขับขี่แล้วปล่อยให้รถเคลื่อนที่ไปเองได้
กระบวนการทดสอบที่ Volvo เล็งไว้นั้น แรกเริ่มจะให้นักขับทดสอบท้องถิ่นได้นำรถไปขับในทุกสภาวะอากาศ จากนั้นจะกำหนดกรอบการทดสอบระบบไร้คนขับที่เหมาะสม ซึ่งก็น่าจะเริ่มจากการวิ่งบนทางด่วน โดยในขณะนี้ Volvo กำลังศึกษาว่าเมืองไหนในประเทศจีนที่เหมาะจะทำการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องกฎหมายท้องถิ่น, ความยาก-ง่ายในการขออนุญาต รวมทั้งเรื่องระบบพื้นฐานของเมือง เช่นสภาพถนนและสภาพการจราจรของเมืองนั้น ว่าเอื้อต่อการทดสอบมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ Volvo ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าจะเริ่มทดสอบรถกันเมื่อไหร่ และไม่เปิดเผยว่าจะใช้เงินลงทุนเพื่อการทดสอบนี้มากขนาดไหนด้วย
โครงการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับนี้เป็นแผนการส่วนหนึ่งที่ต้องการให้ชาวจีนได้รู้จักความสามารถของรถยนต์ Volvo ดียิ่งขึ้น โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อกระตุ้นยอดขายรถในจีนที่ Volvo ตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มให้ได้ 10% ในปีนี้
ที่มา - Reuters
Comments
เห็นรถจีนขับฝ่าไฟแดง ที่เชียงราย กับ ขับชนรถกระบะในเลนสวนที่เชียงรายแล้ว อยากถามใจ Volvo จริงๆ ว่าจะไหวไหม
ในกรณีนั้นผมว่าไม่น่าเกี่ยวนะครับ คือไม่ใช่ว่าใช้รถยนต์ไร้คนขับแล้วจะหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุทุกอย่างได้ 100% ถ้ามันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดมาจากรถคันอื่นฝ่าฝืนกฎจราจร จะรถไร้คนขับหรือมีคนขับมันก็เกิดอุบัติเหตุได้ครับ เรื่องนี้ไม่น่าเป็นประเด็น
มองในแง่ดีถ้ารถไร้คนขับเวอร์ชั่นจีนมันไม่สนคนแหกกฏจราจรแล้วอนาคตรถไร้คนขับมีเยอะ ผมว่าคนแหกกฏจราจรในเมืองจีนจะน้อยลงเองครับ
ยังไงรถก็มีกล้องเป็นหลักฐาน คนแหกกฏจะไปสู้อะไรนายทุนใหญ่ได้ จะโดนเขาฟ้องเรียกค่าเสียหาติดคุกยาวเอา
มันจะโดนชนซะจนไม่มีใครอยากใช้น่ะสิครับ
มาลองกับกรุงเทพก็ได้ ไม่แพ้ชาติใดในโลก เจอมอไซน์วิ่งสวนเลนบนฟุตบาท มันจะคิดว่าตัวเองวิ่งผิดเลยเปล่า
ผมว่าไทยยังดีกว่าจีนหรือเวียดนามเยอะนะครับ แต่ในอนาคต(อันใกล้) ก็ไม่แน่ เพราะดูคนใช้รถบ้านเราจะเคยกับการแหกกฏจราจรซะเยอะแล้ว ที่สำคัญผู้รักษากฏหมายตอนไม่ได้ไปยืนเข้าเวรก็ดันแหกกฏซะเองอีก ประชาชนที่ไหนจะไปนับถือเชื่อฟัง