Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2016 มีรายได้รวม 5,382 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,229 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากโฆษณาบนมือถือคิดเป็น 82% ของรายได้รวม
ตัวเลขผู้ใช้งานยังคงเติบโตด้วยอัตราที่ใกล้เคียงอดีต มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) 1,654 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% ส่วนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs – Daily active users) อยู่ที่ 1,090 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16%
Facebook ยังประกาศปันผลหุ้นคลาส C ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 หุ้นคลาส C ต่อหนึ่งหุ้นคลาส A และ B โดยหุ้นนี้เป็นหุ้นด้อยสิทธิออกเสียง (non-voting) ซึ่งการเพิ่มหุ้นดังกล่าวจะทำให้ Facebook และซีอีโอ Mark Zuckerberg ยังคงอำนาจในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ระยะยาวต่อไปได้ราบรื่นเหมือนเดิม เหมือนกับกูเกิลที่เคยเพิ่มหุ้นแบบนี้
เหตุที่ Facebook ต้องเพิ่มหุ้นดังกล่าวก็เนื่องจาก Mark Zuckerberg ได้ประกาศยกหุ้น 99% เพื่อองค์กรการกุศล จึงอาจเกิดการแทรกแซงกิจการได้ในอนาคต โดยเขายกตัวอย่างว่าหาก Facebook ไม่คงอำนาจการตัดสินใจไว้ที่ตัวเขาแล้ว ดีลซื้อ Instagram ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หรือไม่อย่างนั้น Facebook คงยอมขายกิจการให้ยาฮูไปแล้ว
Comments
"หรือไม่อย่างนั้น Facebook คงยอมขายกิจการให้ยาฮูไปแล้ว"
อ่านแล้วสยองสุด
เคยดูสารคดีเกี่ยวกับมาร์คทางช่อง Spring News รู้สึกจะแสบตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยเลย เป็นตัวสร้างสีสันให้มหาลัย
วิธีการเพิ่มหุ้นนี้น่าจะเรียนรู้มาจากตอนไปเจรจาธุรกิจ และใช้ครั้งแรกกับหุ้นส่วนที่ให้เงินมาทำเฟสบุ๊ค 1,000 ดอลลาร์ จนทำให้หุ้นของคนนี้ไม่มีค่า และถอดชื่อหุ้นส่วนคนนี้ออกจากรายชื่อผู้ก่อตั้ง แต่ภายหลังมีกรณี ต้นฉบับคำสัมภาษณ์ของคนนี้หลุดออกมา ทางเฟสบุ๊คเลยไปเจรจายกหุ้นให้มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ และใส่ชื่อกลับมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เรื่องก็เลยจบด้วยดี
วิธีการเพิ่มหุ้นแบบนี้ น่าจะเริ่มคิดโดย Google นะครับ
ทำตั้งแต่ยุคต้นๆ 2000 เลยถ้าจำไม่ผิด
ช่วงที่ VC วิ่งเข้าเยอะๆถึงช่วง IPO
ใครจะไปรู้ว่าสิบปีที่แล้ว Yahoo ซื้อเฟซบุคได้ ส่วนตอนนี้ Facebook จะซื้อ Yahoo สักสองสามครั้งก็ยังได้ มาร์คตัดสินใจสุดยอดจริง ๆ
เข้าไปอ่านข่าวนั้นเมื่อสิบปีที่แล้วยังมีบางคนไม่รู้จักเฟซบุคด้วยซ้ำและเรายังเรียกมาร์คว่า เจ้าของเฟซบุคอยู่เลย ตอนนี้เรียก มาร์ดซัค เคอเบิร์ก ไม่มีใครรู้ไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร
ชาวเน็ทจีนไม่รู้จักครับ
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/691927
พ่อ แม่ ผมก็ไม่รู้จักนะ
Zuckerber ?
ประชุมผู้ถือหุ้น เตะมาร์คออกจากบริษัทของตัวเอง
มาร์ค ไปตั้ง บ.เล็กๆ ขายสินค้าเกี่ยวกับ การศึกษา
เฟสบุ๊กตกต่ำลง จนเกือบเจ๊ง จนต้องไป ซื้อ บ. ของมาร์ค
เพื่อดังตัวกลับมา มาร์ค โทรไปหาบิลเกต บิลเกตให้เงินมาก้อนนึง
พร้อมสัญญาว่าจะทำ Microsoft Office + support ขั้นต่ำ 5 ปี
กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
เสียชีวิต
ทำหนังออกมาขาย
เรื่องของmark plot ของjob และความยิ่งใหญ่ของms??
ไม่ค่อยเข้าใจเลยครับ อิงจากข่าวเก่าด้วย
คือมาร์คโอนหุ้น 99% ไปตั้งบริษัท LLC เพื่อการลงทุน (บริษัทนี้ก็น่าจะมิสิทธิ์ ในการตัดสินใจของ FB ใช่ไหมครับ)
ทำให้ Mark ตอนนี้เหลือหุ้นแค่ 1% (หรือป่าวครับ) --ซึ่งตรง 1% ตรงนี้เพียงพอที่จะใช้เลี้ยงครอบครัว และลูกสาวไปตลอดเหรอครับ หรือมีทรัพย์สินที่เป้นส่วนตัวอีก
แล้วคราวนี้เพิ่มหุ้น ให้ Mark หรือให้บริษัทที่กล่าวถึงไปด้านบนครับ
ประกาศว่าจะยกให้ แต่ยังไม่ยกให้ครับ
สมมุติ มาร์ค มีหุ้นเดิมใน FB 51% นะครับ
1% ของ 51% ที่เหลือจากการยกงให้ LLC เนี่ยมันน้อยมากๆ เลยนะครับ
ต้องเพิ่มกี่เท่าตัวเนี่ย ถึงจะมีอำนาจตัดสินใจ คือหุ้นออกเสียงใน FB เกิน 50% เหมือนเดิม
ตามความเข้าใจผมนะครับ LLC เนี่ยก็คือกองทุน Mark Zuckerberg ฉะนั้นในการ Voting ต่างๆ เขาก็ยังทำเพื่อ Mark อยู่ดี เพียงแต่กองทุนจะหารายได้จากไหนมาทำกิจกรรมอย่างไร ถ้าไม่ขายหุ้น FB ออกมา เขาถึงเพิ่มหุ้นออกมาทำให้ทุกคนมี 1 หุ้นเดิม กับ 2 หุ้นใหม่ที่ไม่มีสิทธิออกเสียง ตัว LLC ก็สามารถขายส่วน 2 หุ้นใหม่นี้ออกมาเพื่อหาเงินใช้จ่ายได้ และใครจะซื้อหุ้นนี้ไปก็ไม่มี Voting Right อยู่ดี ตัว LLC ก็กำหุ้นเดิมไว้ต่อไป