บริษัทวิจัยข้อมูล 1010data ออกมาเปิดเผยเบื้องต้นถึงรายงานการวิจัยของตนเองที่ระบุว่า แท็บเล็ตแบบ 2-in-1 ลูกผสม (เรียกว่า "laplet") เช่น Surface กำลังได้รับความนิยมและถือเป็นกลุ่มแท็บเล็ตที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัทระบุว่า แม้ Apple iPad จะยังครองส่วนแบ่งได้ที่ 32.5% ของตลาดรวมทั้งหมด แต่แท็บเล็ตกลุ่มลูกผสมเหล่านี้กำลังกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ Surface Book ของ Microsoft สามารถทำส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นได้ถึง 9% ทำให้ Microsoft มีส่วนแบ่งในตลาดเป็นอันดับสองที่ 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสแล้ว ขณะที่ Apple กลับมียอดส่งมอบ iPad คงที่ไม่เปลี่ยนแปลงนัก
รายงานวิจัยฉบับเต็มจะเผยสู่สาธารณะในสัปดาห์หน้าครับ
ที่มา - Computerworld
Comments
ส่วนตัวนะครับ มันใช้ประโยชน์ได้มากกว่า หลากหลายกว่า มากกว่า taplet ง่อยๆที่ทำอะไรลำบาก ไม่แปลกที่ยอดจะมากขึ้น
เดี๋ยวเจอ MacBook Pad
MacBook Pad with Apple pencill แต่ขายแยกกัน
แยกตั้งแต่จอ Keyboard Pencil battery trackpad
เริ่มตีตลาดอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆแฮะ เพราะมันครบเครื่องแทบทุกอย่างทั้ง OS เต็ม (เท่าที่เห็นเป็นของ MS) รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่ลูกเล่นเยอะมากถ้าจะใส่
ติดอย่างเดียวว่า Full Option แล้วบางทีราคาก็นะ
ผมกลับมองว่า ที่มันขายได้เพราะ ms ลงมาเล่นเอง การออกแบบ ผลิตภัณท และการใช้วัสดุที่ พรีเมม (ตั้งใจชนกับ แมคบุคโปร)
ต่อให้ sfb ถอดจอไม่ได้ (แต่ทัชได้ เขียนได้) มันก็ยังขายได้อยู่ดี เพราะมันคือ แลบทอบพรีเมียมของ windows ( คือมันมีกลุ่มที่อยากได้ แลบทอบ พรีเมียม มีแบรนที่ดูดี แบบแมคบุค แต่ใช้ windows อยู่ --แต่ส่วนตัวผม ยังชอบ vaio pro, z(2016) มากกว่า) จะเห็นได้ว่า แลบทอบถอดจอ windows ของเจ้าอื่น ตายเรียบ
กรณีเดียวกัน ในอนาคต ถ้าแมคโปรถอดจอได้ แล้วสลับไป รัน ios มันก็ไม่มีผลกับการตัดสินใจซื้อแมคบุคโปร มากนัก เพราะคนซื้อ แมคบุคโปร เพราะ แบรน วัสดุ และความพรีเมียม และ apple ไม่มีคู่แข่งมาตายเรียบ แบบ pc ที่ ms ทำอยู่
ใช้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยใช้โหมดแท็บเล็ตเพราะมันจะหนักมาก(โปร 3)
แต่ถ้าจอเล็กและเบากว่านี้ พอใช้โหมดเดสก์ท็อป จอก็เล็กเกินไป - -'
แต่ 12" ก็กำลังดีแล้วล่ะนะ
เอิ่ม ถ้าโปร3มันจอเล็ก แล้วแทปเล็ตมันหนัก
โปร1ของผมจะเรียกว่าอะไรเนี่ย...ทั้งเล็กทั้งหนัก?
+1
Lablet นี่มันเป็น device ที่สับสนในตัวเองมากจริงๆ จอใหญ่ก็ใช้แบบ tablet มือเดียวไม่ไหว จอเล็กก็ใช้เป็น laptop ลำบาก คนที่ซื้อคงใช้ในโหมด laptop เป็นส่วนใหญ่ กับบางกลุ่มที่เชื่อว่า 2 in 1 จ่ายหนเดียวคุ้มกว่า
แต่ผมว่าแยกกันแหละดีแล้ว ได้ 100+100 ดีกว่า 70+30
ผมใช้มือถือจอใหญ่แทน Tablet และใช้ 2 IN 1 แทน Notebook ครับ (แบตอึดและเบากว่ามากมาย ไม่มีพัดลมหรือสายให้เกะกะ) สรุปคือมันเกิดมาเพื่อแทนที่ notebook ส่วน Tablet โดนมือถือจอใหญ่แทนที่ไปหมดแล้ว
พูดตามตรงเลยนะ ยุทธศาสตร์ของ MS นี่ถือว่ามองอนาคตขาดมาก โดยเฉพาะเรื่อง UWP ที่แอพเดียวสามารถใช้ได้ตั้งแต่ Desktop, Phone, Tablet รวมถึงพวกลูกครึ่ง Tablet/Desktop ด้วย เพราะอุปกรณ์ชิ้นเดียวสามารถทำงานแบบ Tablet และ Desktop ได้เลย ไม่ใช่เป็นแค่ Tablet ง่อยใช้งานได้แค่ระดับหนึ่ง หรือ Desktop ที่แม้จะทำงานระดับ Pro ได้แต่ก็ทำหน้าที่ของ Tablet ไม่ดี แต่เสียอย่างเดียว อย่างเดียวจริง ๆ คือเรื่องแอปส์นี่แหละ ถ้า Windows Store มีแอปส์เท่า Apps Store รับรองว่า iOS ก็ iOS เถอะ ผมก็ไม่เข้าใจจริงว่าทำไม MS ถึงไม่ดันจุดนี้ เพราะตอนนี้มันสมบูรณ์เกือบทุกอย่างแล้ว เหลือแต่แอปส์นี่แหละ มันยากมากนักหรือไงให้นักพัฒนาทำแอปส์มาลง Store เนี่ย ไม่เข้าใจมาก ๆ ใจลึก ๆ ก็ยังเชียร์อยู่
ยากครับ เพราะไมโครซอฟท์สร้างศัตรูไว้เยอะมากสมัยก่อน ตอนนี้ยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่เกลียดไมโครซอฟท์เข้าไส้อยู่เลย
เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครครับ เค้าไม่มาเพราะยังรับประกันไม่ได้ว่าจะทำเงินได้
ถ้าถามผมนะครับ "ยากฉิบหายวายป่วง" เลยครับ
จำสมัย WP7, WP8, Windows 8 ได้ไหมครับ? ไมโครซอฟท์เทเงินทิ้งให้นักพัฒนาเยอะมากเพื่อเรียกแอป ไมโครซอฟท์ก็ได้แอปมาเต็มสโตร์เลยครับ แอปขยะน่ะนะ
+1 เลยครับ
มันยากมหายากเลย
และอีกอย่าง ผมว่าอย่าพึ่งไปโฟกัสที่จำนวนแอพเลย โฟกัสที่คุณภาพของแอพหลักๆที่คนเค้าใช้กันเยอะๆก่อนดีกว่า ผมว่ามีไม่เกินหมื่นตัวหรอก เอาให้มันอัพเดทไวๆ ลูกเล่นตามชาวบ้านเค้าทัน แค่นี้คนก็แห่กันไปซื้อมาใช้แล้วครับ
ผมลองเขียนแอพ UWP ดูเล่น ๆ แล้วพบว่า API มีปัญหาประมาณนึงเลยครับ คือมันทำงานไม่สอดคล้องกันเอง แล้วก็ซ้ำซ้อนด้วย เข้าใจว่าเกิดจากการเอา API เก่า ๆ มารวมกับตัวใหม่ ๆ (ที่เป็น Async) แล้วก็ทำงานด้วยกันไม่ค่อยได้ (ส่วนที่ผมเจอเป็นคลาสพวก IO ที่เกี่ยวกับ file system แล้วก็ชุดถอดรหัสไฟล์กราฟิค)
แล้วที่ทิมพูดไว้ว่า... "แอพเพิ้ลไม่ชอบทำอะไรที่มันครึ่งๆ กลางๆ" จะกลืนน้ำลายตัวเองไหม?
จริงเราก็ได้เห็นความพยายามที่จะทำแบบนี้แล้วนะ iPad Pro ไง แต่มันก็เป็นได้แค่ iPad จอใหญ่ใช้ปากกาได้
ผมว่าตอนนี้บริษัทก็โคตระจะครึ่งๆกลางๆแล้วครับ ทิ้งเทคโนโลยีไปโฟกัสแฟชั่นแทนแต่ก็เหมือนไปไม่สุด
จะเหลือรึครับ ล่าสุดก็ทำปากกามา แต่สาวกก็แถกันถลอกว่าดินสอ ของ SS มันเป็น stylus นู่นนี่นั่น ที่ผมว่าแถกเพราะ s-pen มันใช้ได้มากกว่าแค่เอาไปแทนนิ้วครับ แต่สาวกก็ไม่สนใจ ตอนไปลอกชาวบ้านก็ทำเป็นไม่เห็น พอเขาทำสีออกมาใกล้ๆ ก็ออกมาด่าขี้ลอกรัวๆ ไม่ได้แหกตาดูตัวเองเลย
จะด่า Apple ก็สุภาพกับคนอื่นหน่อยเถอะครับ การด่าคนอื่นไม่ได้ทำให้คุณดูเท่ห์ขึ้นหรือคำพูดมีน้ำหนักขึ้นเลยครับ
ไม่เกี่ยวกับเท่ห์เลยครับ ไม่เกี่ยวกับน้ำหนักด้วย ถ้ามันแรงไปผมเดาว่าคงเป็นคำว่า แหกตาดูตัวเอง ต่อไปจะสุภาพกว่านี้ละกันครับ แต่จริงๆมันเรื่องของผมนะ
ก็นั่นแหละครับ. สาวกที่คุณพูดถึงก็พงจะคิดว่าเป็นเรื่องของเค้าเหมือนกันแหละครับ
ใจเย็นๆ ครับ ทนอีกนิด วันจันทร์ก็เปิดเทอมแล้ว คนที่มาเม้นแบบนี้ก็จะน้อยลงไปเอง
อีกหน่อยคงเห็น xcode ไปลง ios ใช้ ios dev app ios เอง
Apple เคยพลาดมากเรื่องเชื่อว่าหน้าจอ 3.5" คือหน้าจอที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟน
แต่ครั้งนี้ผมว่าแนวทางของ Apple ถูกต้องมากกว่า ความคิดเห็นของผม ส่วนใหญ่ power user จะใช้ฝั่ง pc ส่วน user ทั่วไป ก็ใช้แค่ฝั่ง tablet .. คำว่า 2 in 1 คือ marketing ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย ในตลาดเดิมที่ถึ่งจุดอิ่มตัวไปแล้วครับ
สุดท้าย User จะบ่งบอกเองว่าแนวทางของใครถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
รอเช็คอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ไม่พลาดหรอกครับ ทำขนาดเล็ก แล้วก็ทำ ipad ซักพักก็ขาย ipad mini แล้วก็ขยาย iphone ใหญ่ขึ้น หาคำตอบในแต่ละช่วงเวลาล่อให้คนซื้อใหม่ทั้งนั้น ขายขนาดเท่าไหร่ก็มีคนซื้อ ทำขายแต่แรกรอบเดียวคนก็เลือกไปเลยไม่ค่อยเปลี่ยน
หลังๆ รู้สึกเหมือนกันว่า พยายามหาเหตุให้คนเปลี่ยนเครื่องใหม่มากกว่า
นั่นแหละครับที่บอกไม่พลาด เค้าไม่ได้แค่นักประดิษฐ์ที่แค่อยากคิดค้นของครับ เค้าเปิดบริษัทหากำไร แล้วนี่กำไรเน้นๆ
น่าสนใจตรงที่เปลี่ยนยุทธศาสตร์จากการกระจายกำลังไปยึดหัวเมือง เป็นการสั่งสมกำลังจากจุดเล็กๆ แล้วขยายอิทธิพลอย่างใจเย็น แต่อย่าลืมว่าแม้จะยึดได้ หากปกครองไม่ดีชาวบ้านก็อาจกบฏได้เหมือนกัน
sfb มันคืออุลตราบุคที่ถอดจอได้
สงสัยครับ ประสิทธิภาพเทียบกับพวกอัลตร้าบุค ทัชสกรีน vaio pro, vaio z (2016) ได้ไหมครับ
ผมกำลังมองว่า เป็นแลบทอบ ก็สู้ vaio z(2016) ไม่ได้ เป็นแทบเลตไอแพดกินขาด
แล้วโอกาสที่จะใช้ในโหมดอื่นนอกจากแลบทอบน่าจะน้อยมาก
แถมตอนนี้ งาน productivity ของแทบเลตก็ทำได้มากพอสมควร จากแอพของ ms เองที่ไปลง ios aos
เหลือพวกที่ใช้แลบทอบจริงๆ แค่ องกร, dev หนักๆ, กราฟฟิก hi end, hard core เกมสเมอร์
ที่โอกาสใช้มันน้อยเพราะคุณไม่ใช่เป้าหมายของเขาครับ วาดรูปคงไม่มีใครใช้โหมดแลปท็อปแน่ๆ stand meeting ไม่มีใครถือฐานคีย์บอร์ดไปเดินคุยแน่ๆ จุดที่ต้องใช้มันเยอะครับแต่คุณไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้นมันก็ไม่แปลกนะ sfp4 ผมใช้โหมดแท็บเล็ตบ่อยมากๆเลย งานประชุมกลุ่มเล็กเนี่ย นั่งโซฟานุ่มหยิบเท็บเล็ตจอใหญ่ๆมาจดงานเนี่ยเป็นอะไรที่ฟินมากครับ
ผมมองในมุมมองคนทั่วไปนะครับ เรื่องถอดจอ ( เพราะผมยังไม่มีโอกาสได้ใช้ และใจเอนไปทาง อัลตราบุค sony มากกว่า)
คล้ายๆ กับ note ที่มีปากกา แต่คนที่กดปากกาออกมาใช้น่าจะน้อยมากๆ
คนทั่วไปซื้อก็ใช้เป็นแลบทอบ (แต่ไม่แน่ใจว่าประสิทธิภาพจริงๆ สู้พรกแลบทอบเพียวๆ ได้ไหม) ถอดจอเป็นของแถม
ตอนถอดจอนี่ สลับเป็นโหมดแทบเลตให้เลยไหมอ่ะครับ ?
ตอนถอดจอ สลับให้เลยครับ ถ้าตั้งค่าไว้
เพื่อนที่เรียนบริหารก็ใช้จดครับ ช่วงเวลาทำรายงานก็ใช้ทำรายงาน พกไปมหาลัยบ่อยๆเครื่องเดียวมันสะดวกไม่ต้องแบกอะไรหลายอัน
จริงๆผมก็อยากได้นะแต่เห็น software มันยังมีปัญหาเยอะ แล้วก็ไม่มีผู้นำเข้าจริงจังในไทย ส่วน SFP ผมรับไม่ได้กับ keyboard มันพิมพ์เร็วๆแรงๆมันสั่นไม่ถนัดเลยแล้วก็เลอะง่าย ตอนนี้ก็เลยซื้อ Macbook 12 นิ้วมาใช้ไปพลางๆ รอ SFB อีกซักสองรุ่นถ้ามีผู้นำเข้าคงสั่งมาซักตัว
สำหรับงาน Dev เนื่องจากงานที่รับมามีแต่ .NET web app ผมโยนไป server ให้ compile เอาเวลาใช้เครื่องเล็ก สบายๆครับ
อย่าหาว่าผมกวนน้า ผมก็คนใช้ทั่วไปครับแ ต่ผมมองว่านิสัยคนไทยทำอะไรไม่ค่อยจดหรือเปล่า สมุดโน๊ตเลยไม่ค่อยสำคัญ ถ้าใช้ในแง่นี้เลยไม่ค่อยมากมายนัก
ปล.มันหนักกว่ากระดาษนะ แต่ถ้าใช้เป็น มันเป็นอะไรที่จดสะดวกมากๆครับ ผมใช้ Lecture ปกติจดไงก็ไม่มีทางทันครับ แต่ใช้ SFP4 แล้วก็แคปไสลด์แล้ววาดรายละเอียด ไม่เข้าใจตรงไหนแบ่งหน้าจอเปิด Edge ลากข้อมูลเข้า มันเร็วจน Labtop โหมดไม่มีทางลื่นได้เท่ากันอะครับ
น้องสาวผมก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นบุคคลทั่วไปนะ เพราะ tablet มันเอาไว้เปิดหนังเท่านั้น แต่มันใช้ surface pro 3 แบบถอดจอบ่อยมาก (และการใช้แบบไม่ถอดจอทั้งวันเช่นกัน)
งานของน้องผมต้องเคลื่อนที่บ่อย ๆ ในพื้นที่ออฟฟิต และต้องดูข้อมูล หรือปรับเปลี่ยนข้อมูลด้วยโปรแกรมบน Windows บ่อย ๆ
น้องผมเป็นพวกปรับตัวยากมาก ตอนจะซื้อ ก็คิดว่าไม่ดี ไม่คุ้ม หรืออื่น ๆ แต่ตอนใช้ไปนี่ถึงกับติดเพราะสะดวก มีทางเลือกที่สบายขึ้นกว่าเดิม จะว่าไป น้องผมยังใช้ประโยชน์จาก อะไร ๆ ของ Surface Pro 3 น้อยกว่าที่มันสะดวกกว่า Ultra Book ทั่วไปจะมอบให้ได้ในอีกหลายเรื่อง แต่อย่างที่บอก น้องผมจะปรับตัวยากหน่อย และไม่ค่อยรับอะไรใหม่ ๆ บางอย่างผมบอกไปหลายปี กว่าจะยอมลองใช้ (แบบโดนผมกึ่งบังคับให้ทำ) แล้วถึงพบว่า สิ่งที่ผมแนะนำนั้นมันเหมาะกับมันจริง ๆ
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
อีกอย่าง sfp4 มันคือแทบเลตไม่ใช่เหรอครับ มันก็ควรจะใช้โหมดแทบเลตถูกแล้วครับ
Windows 10 มี 2 โหมดครับคือโหมดปกติกับ Tablet Mode (Continuum) ครับ สำหรับ Surface Pro 4 จะเปิดให้ใช้โหมด Continuum เมื่อถอดคีย์บอร์ด
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ตั้งแต่ใช้ SF 3 มาปีกว่า แทบไม่เคยใช้โหมด Tablet เลยครับ (ใช้มากสุดคืออ่านการ์ตูน)
แต่ที่ชอบคือมันเล็กและเบาพกพาง่าย แถมที่ชาร์จเป็น Micro USB ไม่ต้องพกก้อนอิฐติดตัว ไปขอดูดพลังงานจากคนอื่นก็ได้ (บางอันอาจจะได้แค่จ่ายไฟแต่ไม่ชาร์จ)
ซึ่งจริงๆ iPad ก็ทำได้ แต่มันกากตรง ไม่มีคีย์บอร์ดกับทัชแพดซึ่งอันนี้ SF ชนะไปล้านปีแสง
กับอีกเรื่องคือการเปิดแทบ Web Browser ถ้าทำงานที่ต้องเปิดหลายแทบนี่ iPad ตาลายเลยวื้บไปวื้บมา
ข้อเสียก็คือมันค่อนข้างอืดๆนิดหน่อย ไม่ลื่นไหลเหมือน iPad Air แต่อันนี้ก็เป็นเทรดออฟที่ต้องยอมกันไป
+1 มันไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานแทน Tablet เพราะ Tablet มันไม่ได้ต่างจากการใช้มือถือจอใหญ่ซักเท่าไหร่ แต่พอเทียบกับ Notebook แล้วมันดีกว่าในทุกๆ ด้าน (ยกเว้นความแรง) ดังนั้นถ้าจะไม่เคยใช้โหมด Tablet ก็คงไม่แปลก
sf3 ข้อเสียของมันเยอะมากจากที่ผมใช้มาเดือนกว่า ๆ
sleep ไม่ได้ เพราะมันจะสูบแบต ต้อง shutdown แล้วมันก็บูทไวมากกก (ประชด) คือเปิดมาเจอหน้า windows ไวจริง แต่กว่าจะเริ่มทำงานได้ กว่าจะรออะไรต่อมิอะไรโหลดเสร็จ อืมมม
เลือกที่ชาร์จมากกกก ผมต้องพกที่ชาร์จให้มันอันนึง เพราะมันใช้กับ aukey quickcharge 2.0 ไม่ได้ เสียบไปแล้วไม่ชาร์จ ใช้แล้วแบตลดด้วย
เครื่องอืด รีสโตร์แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม (เดาว่าน่าจะเป็นเพราะความช้าของ eMMC)
จะใช้เป็นแทปเล็ตก็หนักเกิน + แอปที่จะทำงานได้ใน tablet mode ก็ไม่ค่อยมี จะใช้เป็น Notebook ก็ไม่แรง + ขาตั้งก็ไม่แข็งแรง วางบนตักลำบาก สรุปผมตัดใจกลับไป Air 11" เหมือนเดิม สบายใจ (ที่จริงใช้พวก Acer 11" ยังจะดีกว่าอีก)
อีกอย่างนึง แบตบางทีนึกอยากจะหมดไวก็ลดฮวบ ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ทำงานเดียวกันด้วยนะ
บางครั้งผมก็อยากถอดจอ Macbook ไปทำงานบนที่นอนเหมือนกัน
ยกไปทั้งเครื่อง เกะกะไปหมด
Do not ATTEMPT!!!!
ได้รับความนิยม แต่
มีนไปกินตลาดไหน Notebook หรือ Tablet
m
SFB กินโนตบุคได้ครับ แพงกว่าโนตทั่วไปบุคตลาดหน่อยแต่วัสดุก็ดูดีสมราคา ส่วน tablet นอกจากเรื่องจดเรื่องอื่นผมว่ายังต้องพัฒนาอีกพอสมควร
วัสดุดี ไดรเวอร์ดี ไม่มีอะไรมาป่วนใน notification center นี่ก็ฟินมากแล้วครับ ปกตินี่การ์จอ การ์ดเสียง ทัชแพด บางทีมีของอย่างอื่นมาร่วมแจมอีก -.-
ผมบอกตรงเลย ว่าตอนนี้ใช้ Lenovo miix300 แล้วชีวิตดีกว่าสมัยใช้ iPad เยอะครับ