Suzuki Motor ยอมรับว่าทางบริษัทได้ใช้ผลการทดสอบการประหยัดน้ำมันรถยนต์ที่ไม่ถูกต้องกับรถยนต์ 16 รุ่นที่ขายในญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าการทดสอบที่ใช้แบบนี้ไม่ใช่การชี้นำลูกค้าไปในทางที่ผิด และผลที่ได้จากการทดสอบที่ไม่ถูกต้องนี้ไม่ได้แตกต่างกับการทดสอบแบบที่ถูกต้องมาก โดยทางบริษัทยังไม่มีแผนการเปลี่ยนผลการทดสอบที่เผยออกไปแล้ว
Osamu Suzuki ประธานบริษัทได้ยอมรับผิดกับลูกค้า โดยกล่าวว่าทางบริษัทได้ทำการทดสอบรถยนต์ใหม่แล้วและไม่พบความแตกต่างมากนักกับผลลัพธ์ที่ได้เผยแพร่ออกสู่สาธารณะไปแล้ว
ผลลัพธ์ที่ Suzuki ยอมรับว่าผิดพลาดนี้ คือการที่วิศวกรใช้วิธีทำงานอย่างไม่รอบคอบ โดยการใช้ระยะทางวิ่งจากการทดสอบเดิม ซึ่งผิดกฏข้อบังคับ แต่ไม่ได้มีค่าผิดพลาดที่มากนัก
เหตุผลที่เรื่องของ Suzuki แดงขึ้นมาเพราะหน่วยงานรัฐในญี่ปุ่นสั่งให้ผู้ผลิตรถยนต์ทำการทดสอบใหม่ทั้งหมดหลังจากเกิดเรื่อง Mitsubishi ขึ้นมา โดยเมื่อข่าวออกแล้ว หุ้น Suzuki ในโตเกียวตกลง 9% ทันที
ที่มา - The New York Times
Comments
honda toyota จะเป็นไงหนอ
เรื่องการทดสอบประหยัดน้ำมัน ถ้าเป็นในประเทศไทยผมว่าน่าจะมั่วทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะรถบรรทุก แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง เพราะไม่มีใครควบคุมเป็นเรื่องเป็นราว ตอนแรกก็ดีหน่อยเอา ราคาน้ำมันที่กรอกลงไปหารกิโลที่วิ่งได้ ซึ่งก็แอบบอกคนขับให้เพลาๆตลอดทาง ตอนหลังๆเริ่มมีแบบพอ ผลออกมาไม่ได้อย่างที่หวังก็ไปขับใหม่แล้วเอาค่าหลายๆทีมาเฉลี่ยเอา ต่อมาอีกชักจะปัดเศษขึ้น ตอนหลังสุดเริ่มเลอะเทอะ ปิดแอร์ ปิดวิทยุ ทดสอบไปเหงื่อแตกไป เพื่อให้การตลาดทำงานสะดวก หลังๆรถบรรทุกจีนมาหนักสุด อยากได้เท่าไหร่กรอกเอาเลย ใบรับรองเขาออกให้ได้หมด
ป.ล. แต่ก็มีบางเจ้าขับจริงประหยัดกว่าในโบรชัวร์ด้วยนะครับ
ผมเชื่อจิมมี่ ชัวร์สุด ทดสอบจริง
แต่ผมไม่เห็นด้วยที่แกอัดเกิน 90 ครับ
ที่แย่กว่านั้นคือลูกน้องแกแทนที่จะรีวิวรถแบบละเอียดดันไปโชว์มุกรสนิยมส่วนตัวซะมากกว่า (ซึ่งผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร)
คุณ Jimmy มีความเป็นกลางมากกว่าหลายท่านครับ (โดยเฉพาะที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์) คือ อันไหนที่ไม่ดีก็พูดมา เราไปลองขับดูก็คิดว่ามันไม่ดีเหมือนกัน ส่วนที่ขับเกิน 90 ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็ขับเกิน 110 ครับ น่าจะเกินที่กฏหมายกำหนดมากเลยครับ หลายคนหาแต่รถเครื่องแรงทั้งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่คงไม่มีใครเอาไปขับในสนามแต่คงเอามาใช้กันบนท้องถนนมากกว่า
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ผมว่าคนที่อัดเกิน 110 ได้นี่น่าจะต้องเป็นทางพิเศษกันนะครับ ถนนในเมืองน่าจะทำไม่ได้นะ
ถ้าเป็นถนนใน US ก็คงไม่ต่างกันมากมั้ง ?
ขับเกินขนาดนั้นผมว่าส่วนใหญ่แถวคุณละครับ ส่วนแถวผมเหลือแต่ซากเกือบหมดละ
ขออภัยที่ผมอ่านไม่ละเอียด ที่ว่าเกิน 90 นี่หมายถึงทางโค้งเหรอครับ ผมนึกว่าทางตรง
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
โค้งปราบเซียน บ้านผม ตายกันมาเป้น ร้อย ศพ จริงๆนะ ครับ
แต่ทุกวันนี้ตั้งแต่ เค้าปรับความลาดเอียงให้ และทำ ถนนใหม่
ทุกวันนี้ผม สาดโค้งนั้นไป 140 ได้โดย ไม่มีอาการ หลุดแต่ อย่างใด
ที่ผม ทำเพราะผม อยากทราบ ครับ และขับ ผ่านอยู่บ่อยๆ
และทุกครั้งที่ จะทำ จะดูว่ามีรถ ไหมถ้ามีก็ไม่ทำ ครับ ผมก็ ทำ บ่อยๆ
จนทุกวันนี้ เปลี่ยนยางไป 2 รอบแล้วครับ หน้าหลัง
*** ที่จะบอกคือ จะความเร็วไหนๆ ถ้าประมาท ก็ จบ แล้ว ครับ
**** ผม ชอบ การทด สอบของทีมงานคุณ จิมมี่ เพราะผม ว่าเค้า ขับรถได้ ตามการขับจริงๆ ของคนส่วนใหญ่
ไม่ใช่ในเมือง
อันนั้นคือมอง black & white นะครับ มีแค่ประมาท-ไม่ประมาท เกิดเหตุ-ไม่เกิดเหตุ ถ้ามอง greyscale มันยังมีอย่างอื่นอีกเยอะ โอกาสที่จะเกิดเมื่อประมาท ระดับความประมาท ระดับความเสียหายที่เกิดกับตัวเอง ระดับความเสียหายที่เกิดกับผู้อื่น
ขับ 60 ประมาทปานกลางสักพักนึงหันมาเห็นคนตัดหน้าเบรคไม่ทันหยุดกระแทกไปก็อาจจะสะโพกเคลื่อนกระดูกร้าว ขับ 140 ประมาทนิดเดียวแว้บเดียวล้อตกหลุมกระเด็นไปชนทางอื่นนี่ศพยังแทบไม่เหลือสภาพให้ทำพิธีเลยครับ
มีหมดครับ รวมพวกที่ชอบแซงทางลงเนินด้วย
ผมขอเถอะพวกขับแหกเนี่ยผมไม่ไหวจริงๆ ตายคนเดียวจะไม่ว่าเลย ยิ่งห้องรัชดานี่สุดยอดกว่าเพื่อนเลย ทั้งเชียร์ให้ติดฟิล์มปรอทเอย(ติดมืดก็มี ข่าวรถไฟชนเพราะฟิล์มมืดนี่ไม่เข้าหัวกันเนอะ) โชว์ขับ140เอย ซื้อ eco car มาแล้วบ่นว่าอัดเกินร้อยไม่ได้เลย ภูมิใจมากที่ได้แหก
ปล.ผมชอบเรียกห้องนี้ว่ารัชดาหน้าโx เพราะไม่เคารพกฎหมายกัน
ผมเชื่อที่เขาพูดครับว่าส่วนใหญ่เกิน 90
คือ ด้วยเทคโนโลยีของรถสมัยนี้การขับให้เกิน 90 มันไม่ยากเลยครับ ยิ่งถ้าเป็นรถดีๆแม้ไม่ต้องแพงแบบรถยุโรปแต่ก็เพียงพอที่คนขับจะรู้สึกเหมือนตัวเองขับช้ามากด้วยซ้ำครับ เพราะช่วงล่างที่นิ่งและเสียงที่เงียบจนแทบไม่ได้ยิน คันเร่งไฟฟ้าอีก 90 นี่เผลอๆเพิ่งแตะคันเร่งไปไม่ถึง 1ใน3 เลยมั้งครับ
ผมว่า การขับรถแบบ วิ่ง 90 แล้วเบรคทุก ๆ 500 เมตรตามสัญญาณไฟนี่เป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดมากครับ คือเรื่องรอบเครื่องมันขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์รถเป็นหลักก็จริง แต่การเบรคเพื่อลดความเร็วกลับมาเหลือ 0 นี่คงไม่แตกต่างกันมากในรถแต่ละคลาส (เผลอ ๆ รถที่หนักกว่าจะเกิดอาการเหวี่ยงแรงกว่าด้วย อันนี้ผมไม่แน่ใจนะ)
ทั้งนี้ไอ้การเหยียบเบรคหน้าทิ่มแบบที่แท็กซี่ชอบทำกันเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดสุด ๆ เลยครับ สำหรับผู้โดยสารนะ เด้งไปเด้งมาเป็นสปริงอยู่ในรถนี่ไม่สนุกเอาซะเลย
ถ้าขับในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น ผมทำได้ไม่ค่อยเกิน 60 น่ะครับ พอเริ่มเร็วกว่านั้นแล้วต้องมาเร่งๆ เบรค ๆ นี่มันเป็นอะไรที่เมื่อยขามากเลยนะ
แต่ถ้าขับทางยาว ๆ มี Cruise Control ก็คงไม่รู้สึกอะไรมั้ง
การทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะทำแล้วป่าวประกาศเป็นสาธารณะ ไม่ควรนำคนส่วนใหญ่มาอ้างว่าใครๆก็ทำกันนะครับ จะกลายเป็นจากผิดเป็นถูก จากถูกเป็นผิดเสียเปล่าๆ ควรจะช่วยกันตักเตือนมากกว่า
กฎหมายเรื่องความเร็วในการขับรถเป็นกฎหมายที่สมเหตุสมผลในตัวมันอยู่แล้วครับ ไม่ใช่กฎหมายที่มีปัญหา ไม่ใช่กฎหมายควรถูกปรับแก้
อย่าลืมว่าบนท้องถนนไม่ได้มีแต่คนขับกลุ่มผู้ชายวัยปกติและโสดอย่างเดียวนะครับ ยังมีผู้หญิง ยังมีคนแก่ ยังมีผู้ชายที่มากับครอบครัว ยังมีกลุ่มคนพึ่งหัดขับรถได้ใบขับขี่มาหมาดๆ และอื่นๆอีกครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
"กฎหมายเรื่องความเร็วในการขับรถเป็นกฎหมายที่สมเหตุสมผลในตัวมันอยู่แล้วครับ"
ตรงนี้ผมเห็นต่างครับ ลองไปขับบนทางด่วนช่วงที่ถนนโล่งๆดูสิครับ จะพบว่ารถที่ขับตามกฏหมายกำหนดนี่แหล่ะอันตรายต่อตัวเองและเพื่อนร่วมทางขนาดไหน? ยิ่งประเภทที่ถือว่าตนขับตามกฏหมายกำหนด แล้วแช่ขวาสุดยิ่งแล้วใหญ่
หรือไม่ต้องช่วงถนนโล่งก็ได้ครับ ช่วงที่รถกำลังถูกเร่งระบายก็ได้ครับ ผมได้ยินมาว่าในต่างประเทศถ้าเราขับรถทิ้งช่วงจากคันหน้าเกินไป เราอาจจะถูกใบสั่งได้ นี่ตะหากครับคือสิ่งที่ควรจะเป็นในประเทศไทย ไม่ใช่อิงตามตัวอักษรเป๊ะๆแบบที่กำลังเป็น
ใน กทม. กฏหมายกำหนดให้วิ่งไม่เกิน 80 นะครับ ไม่ใช่ 110 ไม่ใช่ 90 แบบที่ข้างบนคุยๆกัน คนรอบตัวผมหลายคนนึกว่าเขาให้ถึง 120 ด้วยซ้ำในต่างจังหวัด
ขับแช่ขวาสุดตลอด มันไม่เป็นการขับขี่ตามกฏหมายนะครับ
ขับตามกฏหมายเป๊ะๆนั่นแหละปลอดภัยสุดแล้วครับ ที่ว่าการขับตามกฏมันอันตรายนะ มีแต่พวกที่ขับแหกกฏหมายทั้งนั้นแหละชอบเอามาอ้าง
ขับ80 หมดทุกคันมันอันตรายยังไง ผมงง
คือต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผมกำลังพิมพ์คำว่าตามกฏหมายกำหนดบนสิ่งที่มันกำลังเป็นไปนะครับ ไม่ใช่ในทางอุดมคติ
ขับแช่ขวามันไม่เป็นการขับขี่ตามกฏหมาย แต่ในเมื่อกฏหมายให้ 80 แล้วจะขับแช่อยู่ที่ 80 มันจะผิดกฏหมายยังไงกันล่ะครับ เพราะถ้าเลนซ้ายมีรถ (ซึ่งก็มีอยู่เรื่อยๆ) และ เลนขวามีไว้เพื่อเร่งแซง ก็แปลว่าต้องการจะแซงยาว(บอกไม่ได้ว่าจะเข้าตรงไหน ขออีกหน่อยๆ) ก็เหมือนมีช่องว่างทางกฏหมาย นี่คือ จุดนึงที่ผมบอกว่ากฏหมายจราจรไม่สมเหตุสมผลเสมอไป
ขับ 80 ทุกคันมันอันตรายยังไง? ก็มันไม่ได้ขับ 80 กันทุกคันน่ะสิครับมันถึงอันตราย เขามากันเกิน 80 แล้วให้ผมมาทำเป็นทองไม่รู้ร้อนขับอยู่เท่านั้น ผมก็เคยทำนะครับ แต่บอกตามตรงงว่าเสียวครับ โดนชนตูดขึ้นมาถึงเป็นฝ่ายถูกแต่ไม่มีรถใช้ไป 2 อาทิตย์ก็จุกแล้วครับ และเอาจริงๆผมก็ไม่เชื่อว่ามีถนนที่ไหนในโลกที่มีผู้ขับขี่ทุกคันขับได้เท่ากันหมดแบบนั้นนะครับ (ดีที่สุดที่เห็นคือในอังกฤษ รถทุกคันในแต่ละเลนจะขับตามด้วยความเร็วเท่ากัน นี่ล่ะมั้งครับอย่างที่คุณอยากให้เป็น ผมก็อยาก แต่มันไม่เป็น และ คงไม่มีทางเป็นได้ในพริบตา แต่ว่ายังไงเลนขวาสุดของเขาก็ยังไปได้ไวกว่า 80 นะครับ) อย่างไรก็ตาม เท่าที่สังเกตุที่มันเกิน 80 มันก็ไม่ได้เกินไปมากขนาดเสี่ยรถเบนซ์ซะทุกคัน โดยมากเท่าที่เห็นไหลๆตามกันไปก็ป้วนเปี้ยนแถวๆ 100 - 120 เท่านั้นเองครับ (แต่นั่นก็มากพอจะโดน 1000 บาทแล้ว) ถ้าไม่เชือผมก็ไม่ต้องเชื่อครับ แต่อยากให้ลองมองหลายๆมุมครับ มันไม่ได้มีแค่ ขาว กับ ดำ ไม่ใช่ว่าคนขับเกิน 80 ทุกคน คือ พวกอยากจะแหกกฏครับ
ผมหมายถึงกฎหมายความเร็วนะครับ ไม่ได้หมายถึงกฎหมายจราจรทั้งหมด
อย่างที่บอกครับ คนบางกลุ่มกำลังทำให้ถูกเป็นผิดและผิดเป็นถูก ในกรณีของคุณเองก็เช่นกันที่ถูกบังคับให้ทำผิด
ส่วนปัญหาการขับขี่ในประเทศไทยนี่ ผมว่ามันเป็นเพราะการบังคับใช้กฎหมาย และระบบที่ใช้มากกว่า'คนขับถูกกฎหมาย'ครับ ต่างประเทศทำผิดโดนปรับอาน บางประเทศมีการตัดแต้มใบขับขี่ คนของเค้าจึงไม่ค่อยมีใครกล้าทำฺผิด การบังคับใช้กฎหมายที่ไร้ประสิทธิภาพจึงทำให้คนทำผิดมีอำนาจมากกว่าคนทำถูกครับ
แล้วเราควรจะทำอะไรดีครับ ชื่นชมคนที่ทำผิดว่าทำถูกแล้ว หรือช่วยกันทำให้มันถูกดี? ไม่ใช่คนทุกคนนะครับที่จะเป็นคนไม่มีภาระและพร้อมรับกับ'ความเสี่ยง'ที่เพิ่มขึ้น
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ที่เค้ากำหนดไว้ที่80มันก็มีเหตุผลนะครับ
เพราะความเร็ว80มันเอาไว้อ้างอิงกับอีกหลายๆอย่างเช่น เวลาของไฟเหลือง ระยะห่างระหว่างรถที่เหมาะสม ระยะห่างของป้ายเตือนก่อนถึงสถานที่ ขนาดของตัวอักษรที่ใช้บนป้ายต่างๆ ความโค้งและความเอียงของโค้ง ระยะที่ควรเปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยว ไหนจะความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้นอีก
ถ้าจะให้แก้กฏหมายใหม่ให้วิ่งได้100-120 คุณว่าเมืองไทยจะขับรถห่างกันมากขึ้นเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุมั้ย คนไทยเห็นไฟเหลืองแล้วจะชะลอแต่เนิ่นๆไหม(ผมว่าเหยียบมิดกว่าเดิมเพราะไฟเหลืองนานขึ้น) คันที่จอดรอก็จะแหกไฟแดงเพราะไฟเหลืองอีกฝั่งนานขึ้น
การจำกัดความเร็วเป็นการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ต้นเหตุที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้วครับ
หลักฐานก็มีให้เห็น ยกตัวอย่างง่ายๆก็ที่เวียดนามครับ ผมบอกตรงๆเลยว่า การขับขี่บนท้องถนนของเวียดนามมันไกลห่างจากคำว่าระเบียบเรียบร้อยอยู่หลายปีแสง แต่ทำไมท้องถนนที่นั่นถึงไม่ได้รับการกล่าวขานเรื่องความอันตรายเท่าที่เมืองไทย เพราะที่นั่นเค้าจำกัดความเร็วแค่40km/hr ครับ ซึ่งมันลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุได้หลายอย่างครับ ที่นั่นทางม้าลายเค้าก็ไม่หยุดให้คนข้าม แต่คนเค้าก็ยังสามารถข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย ทางแยกที่นั่นเค้าปล่อยออกมาที่ละหลายๆแยก แต่รถมันก็ยังไปกันได้ไม่เห็นชนกัน
ถ้าคุณอยากให้เมืองไทยแก้กฏหมายให้ขับได้100-120 ถ้าผมเป็นคนออกกฏหมายผมก็จะบอกว่า ให้คุณไปแก้วินัยการจราจรของคนทั้งประเทศให้ได้ก่อน
ถ้าจะเอากฏหมายต่างประเทศมาใช้เพื่อให้ถูกใจคุณ คุณก็ควรปรับปรุงคุณภาพของประชากรให้มันเข้ากับกฏหมายนั้นๆก่อนครับ ถ้าคุณจะเอากฏหมายจราจรประเทศนั้นมาใช้ที่เมืองไทย คุณคิดว่าเมืองไทยพร้องเหรอครับ
-ผู้ขับขี่พร้อมแล้วเหรอครับ (มีคนที่มีที่จอดรถส่วนตัวแบบไม่เบียดเบียนถนนสาธารณะหน้าบ้านกี่%)
-จราจรพร้อมแล้วเหรอครับ (ทุกวันนี้กวดขันวินัยจราจรบ่อยไปก็โดนด่าแล้วครับ)
-คนเดินถนนพร้อมแล้วเหรอครับ (ข้ามถนนกันให้เป็นที่เป็นทางได้หรือยัง)
-แม่ค้าพร้อมแล้วเหรอครับ (ประเทศนี้จะกวาดล้างพวกที่ขายของบนทางเท้า และบนถนนทั่วประเทศ ได้เหรอ)
-ไหนจะพวกขนส่งมวลชน ขนส่งสาธารณะทั้งหลายแหล่อีก
ถ้าพิจารณาปัจจัยทั้งหลายแหล่ของประเทศไทยแล้ว
ผมว่าเมืองไทยเหมาะกับ 40km/hr มากกว่า 100-120km/hr ครับ
ผมจะบอกว่าถนนโล่ง ๆ นี่ล่ะอันตรายมาก เวลาใช้ความเร็วสูง ๆ เพราะว่าคุณคาดหวังว่า "ถนนโล่ง ไม่มีอุปสรรค" แล้วคุณก็เหยียบไปเลย 140 (สมมติ) ทั้ง ๆ ที่ถนนในเมืองจำกัดไว้ที่ 80
และถ้าดันมีอุปสรรคสักอย่างเกิดขึ้นบนพื้นถนนพอดี ถามว่า ณ. จุดนี้คุณจะตัดสินใจทันมั้ยระหว่าง จะหักหลบ หรือจะเบรค หรือจะเหยีบฝ่าไปเลยแล้วหวังว่าอุปสรรคนั้นจะผ่านไปจากเลนคุณพอดี (เช่น คนข้ามถนน)
อย่าลืมปัจจัยเสี่ยงพวกนี้ครับ ไม่ใช่มีแต่คนขับรถที่ใช้ถนน
ถ้าจะขับเร็ว ไปใช้ทางพิเศษครับ ปัจจัยเสี่ยงมันลดลง ก็ใช้ความเร็วได้มากขึ้น ... แต่ 140 ก็เร็วเกินไปอยู่ดี ผมเคยเจอ BMW มาจากเลนขวาตรงด่านท่าเรือ จะหักเข้าซ้ายเข้าไปทางพระราม 3 หมอนี่ใจร้อนก็เหยียบไปน่าจะราว ๆ 160-180 เพื่อจะแซง ผมล่ะเสียวจริง ๆ ว่ามันจะแซงพ้นมั้ย ... เพราะถ้ามันแซงไม่พ้นผมซวยคนที่สองแน่นอน (รถเพิ่งผ่อนหมดนะเฟ้ย)
ถ้าขับเร็วกว่าที่กำหนดไว้นี่เรียกเห็นแก่ตัวแล้วครับ เอาสนุกเข้าว่า เห็นแก่ความสะดวกตัวเอง ไร้น้ำใจกับคนใช้ถนนคนอื่น ๆ อ้อ ถ้าซื้อรถแรงมากจนขับช้าไม่ได้ ก็ขายทิ้งไปซื้อคันที่ขับช้าได้ดีกว่าครับ รับผิดชอบกับสังคมนิดนึงนะ
คือผมเข้าใจที่พิมพ์มาทั้งหมดนะครับ แต่ว่าอันที่จริงผมก็มีสถานการ์ณที่ผมเจอะเจออยู่ทุกวันที่อยากจะนำเสนอ แต่เมืีอคุยกันมาถึงตรงนี้ทำให้ผมคิดได้ว่า ถนนแต่ละเส้น ช่วงเวลาแต่ช่วง มีผลให้การตีความของเราอาจจะไม่เหมือนกัน เช่น คำว่าถนนโล่งของผม ผมนึกถึง บนดอนเมืองโทลล์เวย์ขาเข้าช่วงเที่ยง แต่คุณอาจจะกำลังนึกถึงวิภาวดีขาออกตอนตี 5 จริงอยู่มันใช้คำว่าโล่งทั้งคู่แต่โล่งไม่เหมือนกันไม่สามารถขับขี่ลักษณะเดียวกันได้เลย รึอย่างคำว่าเร่งระบายของผม ผมนึกถึงบนทางด่วนที่ตำรวจมาบล็อครถไว้ทางนึงแล้วรีบโบกให้ทุกคนไปอีกทาง แต่คุณอาจจะนึกถึงไฟแดงแยกไหนสักแยกที่มีรถเข้าออกออฟฟิสด้านข้างตลอดช่วงถนน ดังนั้นมันจะคุยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่ได้ข้อสรุปครับ เพราะภาพที่ผมเห็นในหัวผมมันนึกตามไม่ออกเพราะผมโยงไปคนละเหตุการ์ณกับที่คุณคิดเห็น อันนี้เป็นเพียงข้อสังเกตุนะครับ ส่วนประเด็นขับตามกฏหมายกำหนดนี่ผมจะเลิกแลกเปลี่ยนความเห็นตรงนี้ครับ ไม่ใช่อะไรเขาให้โควต้าผมพิมพ์แต่ละวันไม่เยอะเท่าไหร่ แล้วก็มันก็ไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวกับข่าวโดยตรงมาก เดี๋ยวจะยืดยาวไปเรื่อย เกรงใจครับ ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเสวนาครับ
เรื่องโควต้าการโพส ผมว่าน่าจะเพิ่มสัก 10 โพสนะ เพราะวันนึงมีข่าวเกือบสิบข่าว อยากตอบทุกข่าวก็ทำไม่ได้ ครั้นจะแลกเปลี่ยนความเห็น ก็ไม่อยากตอบ เพราะโควต้าหมด
ผมไม่รู้ทุกคนได้เท่ากันเปล่า แต่ผมได้วันละ 5 คำ
ขับเร็ว != ระบายรถได้เร็วนะครับ หลายกรณีการขับเร็วทำให้การระบายรถเป็นไปได้ช้าลงด้วย
อันนี้ +1 ครับ การที่มีรถใช้ความเร็วสูงทำให้คนที่จำเป็นต้องขับช้าไม่สามารถไปได้ และกลายเป็นคอขวดทำให้กันไม่ให้รถคันอื่นไปได้
นึกถึงคุณยายข้ามถนนอ่ะครับ ...
ในทางบ้านๆแล้วคุณจิมมี่ถือว่าพยายามทำให้การทดสอบมีมาตรฐานดีนะครับ แต่ในทางวิศวกรรมแล้วยังมีตัวแปรที่แกไม่ได้คุมอีกเยอะเหมือนกัน เช่น อุณหภูมิ ความชื้น อัตราเร่งก่อนที่จะถึง 110 กม/ชม. ระยะทางที่วิ่ง
แต่สุดท้ายแกก็บอกว่า อยากได้แม่นกว่านี้ไปทำเองสิว้อยยยยยย ซึ่งก็จริงของแก
Jeremy Clarkson from (former) Top Gear?
Get ready to work from now on.
ISUZU เลิกโฆษณาวิ่่งจากเหนือลงใต้น้ำมัน 1 ถังรึยัง เบื่ออยากให้วิ่งจากใต้ขึ้นเหนือมั่งน้ำมัน 1 ถังคงเอาไม่อยู่
ทำไมต่างกันครับ
ถ้าผมเดา น่าจะภาคเหนือส่วนใหญ่อยู่ที่สูง ขับลงเขาประหยัดกว่า ไม่ต้องเร่งเครื่อง
เจ้านี้พี่แกทั้งปล่อยไหล ปิดแอร์ ดับเครื่อง สารพัด มาหมด จนมีอยู่หลังๆต้องโฆษณว่าเดี๋ยวนี้เปิดแอร์ทดสอบแล้วนะ โถ..
แต่ใช้จริงน่ะ ถ้าเทคโนโลยีแบบเดียวกัน มันก็พอๆกันทุกยี่ห้อแหละ
รุ่นใหม่เครื่อง 1.9 อันนี้รู้สึกได้เลยว่าประหยัดกว่าคู่แข่ง ส่วนเรื่องประเด็นโฆษณาเหมือนกับว่า Isuzu ทำตลาดแบบบ้านๆ มากกว่า เมื่อก่อนก็อคติไม่อยากซื้อ Isuzu ครับ สมัยเมื่อไม่กี่ปีก่อน ขายรถราคาไม่รวมแอร์ ตอนหลังมาเปลี่ยนราคาใหม่เป็นราคารวมแอร์เรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยลองซื้อมาใช้ดูคันนึง (ซื้อรถส่งของรุ่นถูกสุดเลย 490,000)
หลังจากซื้อ Isuzu ก็โทรมาถามความพึงพอใจ ก็เหมือนรถอื่นปกติทั่วไป แต่วันนี้เมื่อกลางวันตัวแทนขายแวะเอาของฝาก (เงาะจากสวน) มาฝากลูกค้าด้วย ผมรู้สึกได้ว่าดูแลกันดีกว่ายี่ห้ออื่นพอสมควร เพราะ Isuzu ลูกค้าเยอะมาก ผมเปรียบเทียบกับอีกยี่ห้อนึงที่เมื่อก่อน Indy ที่ไม่เน้นขาย ปีนึงขายแค่ไม่กี่สิบคัน (ตอนนี้ปีนึงขายได้หลายพันคันแล้ว) เจอผู้จัดการใหญ่ตอนไปซื้อรถคันที่ 2 ยังไม่ยอมทักทายกันเลยครับ พอมาซื้อคันที่ 3 ต้องการเคลมชิ้นส่วนที่มีปัญหาก็เรื่องมากไม่ให้เคลมอีก ตอนนี้จะซื้อคันที่ 4 ขอต่อราคาอยู่ แต่รู้สึกว่าเหมือนจะไม่ยอมลดให้เลยสักบาท
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
คันที่ 4 นี่ ยี่อ้ออะไร ครับ
ยุ่นโกงอีกแล้ว
รอดูว่าจะมีคนไปโยงกับวอลเล่มั๊ย
นับได้หนึ่งคนแระ
ผมว่าไม่ควรโยงด้วยซ้ำ เพราะมันไม่เกี่ยวกันมาตั้งแต่แรก แม้จะเหมือนว่ามีการโกงทั้งคู่ก็เถอะ
Get ready to work from now on.
ทำไมไม่ให้มีหน่วยงานกลางมาทดสอบให้ล่ะครับ? ถ้าจะจริงจัง และซีเรียสขนาดนี้ ตัดเรื่องการโกงและใช้ตัวแปรที่ต่างกันด้วย
ผมรอดูฝั่ง Honda ว่าจะมีเรื่องแบบนี้หรือเปล่า (ส่วนหนึ่งเพราะเคยเป็นเจ้านวตกรรมด้านนี้ก่อน อีกส่วนหนึ่งคือผมขับอยู่ 555)