หนึ่งในคุณสมบัติใหม่ที่ Google เปิดให้กับ Chrome OS ก็คือการทำให้แอพ Android ขึ้นมาทำงานบน Chrome OS อย่างเต็มที่พร้อมกับ Play store ซึ่งแม้เบื้องหน้าจะดูเหมือนว่าเป็นการต่อยอดจากโครงการเมื่อปี 2014 (ข่าวเก่า) แต่เบื้องหลังกลับเป็นการเปลี่ยนแนวทางใหม่ทั้งหมด ทำให้แอพ Android ขึ้นมาทำงานบน Chrome OS ได้

ArsTechnica ได้ตีพิมพ์รายงานพิเศษซึ่งไปสัมภาษณ์ทีมงานของ Chrome OS ที่งาน Google I/O 2016 โดย Zelidrag Hornung ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของ Chrome และ Android ระบุว่าในครั้งนี้ ทีมงานตัดสินใจเปลี่ยนจาก ARC (Android Runtime for Chrome) ที่อิง NaCl (Native Client) ไปเป็น container แทน เพราะแอพที่เขียนด้วย NDK (Native Developer Kit) ที่ส่วนใหญ่เป็นเกม ไม่สามารถทำงานได้บน ARC นอกจากนั้นแล้วยังต้องผ่านการแก้ไขแอพเยอะมาก แถม ARC ทดสอบแล้วก็ไม่ผ่าน CTS (Compatiblity Test Suite) ของ Google เองด้วย ปัจจัยทั้งหมดทำให้ทีมงานตั้งเป้าหมายใหม่ว่า จะต้องรองรับแอพ Android โดยที่นักพัฒนาแทบจะไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย (ดาวน์โหลดจาก Play store แล้วต้องใช้ได้ทันที) เลยตัดสินใจใช้แนวทาง container ที่ใช้ Android Framework แทน

ทางทีมงานระบุว่า การเปลี่ยนมาใช้ Android Framework ในรูปของ container ทำให้แอพหลายตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขียนด้วย NDK ทำงานได้ทันที นอกจากนั้นแล้วยังทำงานลึกลงไปถึงระดับ Hardware Abstraction Layer ด้วย ทั้งหมดทั้งปวงทำให้แอพ Android เข้าถึงคุณสมบัติของ Chrome OS ได้อย่างเต็มความสามารถ นอกจากนั้นแล้วตัว Android Framework ที่รันใน container ก็จะได้รับอัพเดตโดยตรงไม่ต่างจาก Nexus ซึ่งทีมงานตั้งเป้าหมายว่าจะอัพเดตให้ได้ใกล้เคียงกับ Nexus มากที่สุด ซึ่งรวมถึงอัพเดตความปลอดภัยรายเดือนด้วย

อย่างไรก็ตาม Hornung ระบุว่าจะยังไม่เปิดเผยโค้ด (open source) ในตอนนี้ เพราะจะทำให้ทีมงานทำงานได้เร็วขึ้น ส่วน Puneet Kumar ผู้อำนวยการฝ่าย Chrome ระบุเพิ่มเติมว่าที่ยังไม่เปิดเผยโค้ดในตอนนี้ เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะทำงานได้ดีจริงๆ แค่ไหน (แปลว่าหากผลออกมาไม่ดีก็มีสิทธิโดนยกเลิกได้แบบเดียวกับ ARC)

ทางทีมงานระบุว่าจะปล่อยคุณสมบัตินี้สู่ผู้ใช้ทุกราย ภายในช่วงกันยายน-ตุลาคมปีนี้ และสำหรับเครื่องในองค์กรหรือโรงเรียน สามารถสั่งปิดความสามารถนี้ได้เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ติดตั้งหรือใช้งานแอพ Android บนเครื่องขององค์กรครับ

ที่มา - ArsTechnica