Bitfinex ตลาดแลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์จากฮ่องกงประกาศหยุดการซื้อขายหลังถูกแฮก โดยคนร้ายได้เงินไปทั้งสิ้น 119,756 BTC หรือประมาณ 2,276 ล้านบาท
ทาง Bitfinex ระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการหาต้นตอของการแฮกครั้งนี้ และกำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ผลกระทบระหว่างนี้ทำให้ราคาบิตคอยน์ตกลงอย่างรวดเร็ว จาก BTC ละ 23,000 บาทเหลือไม่ถึง 19,000 บาทในตอนนี้
ที่มา - CryptoCoinNews, Bitfinex
กราฟราคาบิตคอยน์ในวันนี้จาก bx.co.th
Comments
Hack bitcoin ไม่ค่อยเห็นจับใครได้
น่าจะจับยาก
ผมคิดว่า ของพวกนี้เป็นเงินเก๊
พอมันโดนขโมยก็รู้สึกเหมือน อ่านนิยาย
เงินจริงคืออะไร?
lewcpe.com, @wasonliw
ลองควักลูกเหรียญในกระเป๋าไปซื้อลูกอม ร้านของชำใกล้ๆดูสิคับ ผมว่านั้นแหละเงินจริง
เอาไปซื้อของที่ประเทศอื่นได้รึเปล่าครับ?
จะพบว่าไม่ได้ คุณต้องทำการ convert ค่าของ'เงิน'ที่คุณมีอยู่เพื่อนำไปใช้อีกที
ในกรณีนี้ต่างจาก bitcoin อย่างไรครัย?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
งั้นต้องถามว่าเงินปลอมคืออะไรครับ
ถ้าผมมี BTC ใน wallet ผมแล้วกดชำระค่าบริการโฮสต์ได้ ผมได้ใช้บริการต่อจริงๆ อะไรทำให้มันไม่จริง? เพราะร้านหน้าบ้านผมไม่รับ?
lewcpe.com, @wasonliw
เราแลกเปลี่ยนสินค้า ด้วยความเชื่อมั่นต่อมูลค่า ของสิ่งนั้นๆ
ในประเทศหลายประเทศ ประชาชนนิยมซื้อของผ่านบัตร
เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ก็ใช้บัตร ซื้อของร้านข้างถนน ยังใช้บัตรได้
ที่เราเห็นเพียงตัวเลข ไม่ได้จับธนบัตร หรือ เหรียญกษาปณ์ จริงๆด้วยซ้ำ
และโลกยังมีแนวโน้มที่จะลดการใช้ ธนบัตรจริงๆ อยู่ตลอด
bit coin จึงยังมีค่า เมื่อคนเชื่อมั่นในมูลค่า
แม้แต่ธนบัตรจริงๆ ยังหมดค่าได้ ที่ดังๆคงจะเป็นกรณี ซิมบับเว
เงินตรา เอาจริงๆก็เป็นของสมมติครับ แค่มีผู้รับประกันที่ดีกว่าคนอื่น (รัฐ)
และเอาเข้าจริง ในประวัติศาสตร์เราก็เคยเห็นเงินเฟ้อ รัฐบาลแฮ็กระบบการคลังตัวเอง พิมพ์ธนบัตรจำนวนมากสู่ตลาด ค่าเงินด้อยค่ากันอย่างรุนแรงมาแล้วนะครับ
ผมว่ามันคือเงินจริง
ทุกอย่างจะมีมูลค่า ก็ต่อเมื่อ คนส่วนใหญ่ ยอมรับ
เช่น
พระเครื่อง , รูปภาพศิลปะ , หรือ กระดาษธรรมดา ที่เราเรียกว่าแบงค์
เงินเก๊คงเป็นเงินกงเต๊กไม่ก็แบ็งค์กาโม่หรือเงินปลอมครับ แต่ Bitcoin มันก็เป็นสิ่งที่มีคนจำนวนมากยอมรับเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนซึ่งก็เทียบเคียงได้กับเงินสกุลอื่นๆ แล้วนิยามคำว่าเงินจริงหรือเงินเก๊ของคุณคืออะไรครับ
เงินเก๊ในความคิดผม ก็ คือ สิ่งที่ ท่าน nrmi อธิบาย
เงิน กงเต๊ก
เงินจริงไม่ใช่เพียงแค่ คนยอมรับมันครับ
ในความคิดผม เงินจริงต้อง มี ทองรองรับมัน
แต่ ด้วยเหตุอะไรไม่ทราบ จึงมี การเอาเงิน อุปโลก มารองรับเงินอีกที
หวังว่า คงเข้าใจว่า เงินจริง คือ อะไร แล้ว เงินเก๊ คืออะไร ในความคิดผม
กรณี การขโมยครั้งนี้ บ่งบอกความอ่อนแอของ ระบบเงินbitcoin
ตั้งแต่ ตัวมันเอง มีอะไรรองรับ
มันแย่ กว่าเงินบาทไทย ที่ เอาเงิน อุปโลก และ ทองมารองรับ ซะอีก
ก็ ไม่เข้าใจว่า จะไป หมกมุ่นกับ เงินแบบนี้ ทำไมกัน
เหมือนคุณอยากจะยึดมั่นในสิ่งที่เป็นกายภาพจับต้องได้ ถ้าพูดถึงความอุปโลกอะไรผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างกันกับทองอะไรสักเท่าไหร่ครับ เปลี่ยนจากทองเป็นแร่หายากหรืออะไรอย่างอื่นก็ได้เช่นงานศิลป์ ภาพวาดหรือพระเครื่องอย่างที่บางท่านได้ยกมาหรือแม้แต่เบี้ยหอย ซึ่งดูแล้วมันก็เป็นสิ่งที่น่าจะเรียกว่าอุปโลกได้เช่นกัน แต่มันก็มีมูลค่าจากการที่คนส่วนใหญ่ยอมรับอยู่ ตรงนี้ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของรูปแบบเงินตราที่มันพัฒนาไปตามสภาพสังคม
ออกตัวไว้ก่อนว่าโดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้คลั่งไคล้หรือชื่นชอบตัว Bitcoin อย่างที่มันเป็นอยู่นะครับ จากลักษณะของมันที่เอื้อต่อการฟอกเงินหรือใช้ทำธุรกิจใต้ดิน แต่ในเมื่อมันเหมือนจะเป็นที่ยอมรับของสังคมในวงกว้างก็จำเป็นต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กับมันยังไง
ในความเป็นจริงแล้ว ระบบทองคำรองรับเงินนั้น ไม่จำเป็นเสมอไปครับ
ขออนุญาตเล่าแบบนี้ อาจยาวหน่อย
ในสมัยก่อน คนแลกเปลี่ยนสินค้า ใช้ข้าวแลก ใช้หมูแลก หาอะไรได้ก็เอามาแลกกัน
จากนั้น พอสินค้าเริ่มมีเยอะขึ้น การแลกเปลี่ยนก็ทำได้ยาก
เช่น ข้าว 100 เกวียน แลกวัว 100 ตัว กว่าจะขนกันหมด ก็แย่พอดี
เลยเริ่มจาก เอาข้าวไปฝากไว้ที่คลังแห่งหนึ่ง
และเราจะได้ใบแลกข้าว เป็นเพียงกระดาษ ที่คน "เชื่อมั่น" ( ย้ำคำว่าเชื่อมั่น )
ว่ากระดาษนี้ มีค่าพอจะแลกข้าวออกจากคลังได้เสมอ
และใช้กระดาษ ไปแลกเปลี่ยนสินค้า เพราะคน "เชื่อมั่น" ในกระดาษ จึงยอมให้แลก "วัว"
โดยกระดาษใบนี้อาจเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ โดยไม่เคยมีใครนำไปแลกข้าวจริงๆเลยก็ได้
จากนั้น รัฐบาลก็เริ่มสร้างเงิน โดยใช้แลกโลหะมีค่า (ที่อาจไม่ใช่ทองเสมอไป)
ทุกคนเชื่อมั่นว่า กระดาษเหล่านี้ สามารถนำไปแลกโลหะมีค่า ได้จากธนาคาร
แล้วก็มาถึงยุคของทอง
กระดาษ แทนมูลค่าทอง
การจะใช้ทอง แลกกล้วย 1 หวี คงจะต้องหั่นทองเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่สะดวกอีกเช่นกัน
จึงใช้กระดาษแทนทอง
แต่นักเศรษฐศาสตร์ เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า มูลค่าของเงิน ขึ้นอยู่กับ Supply / Demand ได้ด้วยเช่นกัน
เช่น สหรัฐ ไม่เคยมีทอง เพื่อค้ำประกันเงิน
แต่ทุกประเทศ ต้องการสินค้าจาก สหรัฐ เช่น อาวุธ สินค้าไฮเทค
อยากได้ ต้องใช้ดอลลาร์ ทั้งๆที่ดอลลาร์ ไม่มีทองค้ำประกัน
เมื่อมีความต้องการ ของก็มีมูลค่าเกิดขึ้น
เศรษฐศาสตร์ยุคใหม่ จึงไม่นิยามเงิน ด้วยทองคำอีกต่อไป
ส่วนกรณี เงินบิทคอย ถูกแฮก ในความเป็นจริงแล้ว เงินบาท ก็ถูกแฮกได้ไม่ต่างกัน
มีความเสี่ยงในการถูกแฮก เท่าๆกันครับ
ต่างกันตรงที่ เงินบาท มีรัฐบาลไทย รองรับ
แต่บิทคอย ไม่มีรัฐบาลใด ดูแล
แต่จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง ก็ยาวครับ เล่ายาวแน่ๆ
สนใจว่า เงินถูกแฮกได้ไง มาต่อเร็วๆนะคับ
เงินไม่ได้อยู่ในรูปของ วัตถุเสมอไปครับ
เช่น พร้อมเพย์ สร้างมาให้คนไทย หันมาใช้เงินในรูปแบบดิจิตอลกันมากขึ้น
ตัวเลขในบัตรเดบิต เครดิต บัญชี
ก็เป็นเพียงตัวเลข ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์เช่นกัน
โอกาสที่ธนาคารเงินบาทถูกแฮก
ก็มีความเสี่ยงเท่าๆกับโอกาสที่ธนาคารบิทคอยน์ถูกแฮก
จริงๆแล้ว ตามข่าว ไม่ใช่เงินถูกแฮกครับ
แต่เป็น "ตลาด" ถูกแฮก
แน่นอนว่า คำว่าตลาด อาจหมายถึง มีมาตรการรักษาความปลอดภัย น้อยกว่าธนาคาร
ผมไม่สามารถเจาะจงว่าถูกแฮกได้ยังไงนะครับ เพราะประเด็นที่จะเสนอคือ
ซอฟท์แวร์ใดๆ ย่อมมีช่องโหว่เสมอ
และการแฮก ก็ไม่จำเป็นต้องโจมตีโดยตรงก็ได้ อาจใช้การโจมตีทางอ้อม
ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น แฮกเกอร์ส่งอีเมล ไปหาภรรยาของพนักงานคนหนึ่ง เพื่อหลอกให้ติดไวรัสจากคอมพิวเตอร์ที่บ้าน
และเมื่อสามี นำ USB จากที่ทำงาน กลับมาทำงานต่อที่บ้าน
และนำ USB ที่เป็นไวรัส กลับไปเสียบในคอมพิวเตอร์ ที่ทำงาน
ก็มีโอกาสที่แฮกเกอร์ จะเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของสำนักงานได้
เป็นแค่ตัวอย่างนะครับ ของจริงอาจซับซ้อนกว่านี้
แต่ถ้าพูดถึงความยากง่าย ในการแก้ปัญหา หลังถูกแฮกนะครับ
แน่นอนว่าเงินบาท ย่อมแก้ปัญหาง่ายกว่า เพราะการโอนเงินออกจากธนาคาร
หรือการเพิ่มตัวเลขใบบัญชี ย่อมชี้ตัวผู้กระทำผิด
ต่างกันที่ bitcoin ถูกออกแบบให้ ชี้ตัวคนผิดไม่ได้
มูลค่าของทองก็อุปโลกขึ้นมาครับ ประโยชน์ใช้สอยของทองไม่ได้เยอะเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ฮาเลย มันต้องมี แบบนี้ทุกกระทู้ที่เกี่ยวกับ BTC สินะ
ของทุกอย่างมันจะมีค่า ก็ต่อเมื่อเรายอมรับ และ เห็นค่าในตัวมันแหละครับ
ถ้าจะบอกว่า เงินของรัฐบาล ที่ไปผูกกับ ทอง
จริงๆ ทองก็ สมมุติราคาขึ้นมาเองไม่ใช่หรอ
จริงๆแล้ว แร่รูบี้ ไรพวกนี้อาจจะมีราคาแพงกว่าทองก็ได้ครับ :D
เงินจริงคือโลหะเงินคัรบ ปีจจุบันต่อน้ำหนักมันสูงกว่าราคาซื้อขายแล้วครับ
ใกล้หมดอายุละ
หนังฉายซ้ำ รอดูว่าจงใจหรือคนใน
ถ้าคนในนี่ ฮาไม่ออกเลยนะครับ
จงใจเปิด backdoor โอนออกไป สามทอด นี่ก็ตามไม่เจอ ละ
ช่องทางโจร จะโดนโจรปล้นบ้างก็ไม่แปลก
โชคดีที่ออกจากวงการนี้มาแล้ว
หลายคนสับสน ตลาดโดนแฮคนะครับ ไม่ใช่ BTC โดนแฮค
Methuz'es Blog
ถึงเป็นแบบนั้น แต่ถ้าโดนแบบนี้ที แล้วมูลค่าตกทีแบบนี้ก็ตายสิครับ มูลค่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอื่นส่วนมากขึ้นอยู่กับประเทศที่ใช้ค่าเงินนั้นๆ แต่ตัวนี้ขึ้นอยู่กับ Hacker ล้วนๆ ในการกำหนดทิศทางเลยเหรอ
+1
อันนี้เป็นกับสินค้า commodity ทุกตัวที่มีมูลค่าน้อยๆ ครับ นึกสภาพหุ้นเล็กๆ ในตลาดหุ้นบ้านเรา ตัวเล็กมาก ราคาก็ไม่นิ่ง ขึ้นลงได้เป็นเท่าๆ ได้ง่ายๆ
ตลาด BTC เองมีคนเล่นมาก แต่ตัวเงิน BTC ที่หมุนเวียนในตลาดกลับไม่เยอะนัก หากมองเป็นเงิน มูลค่ารวมเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ แม้แต่ไทยบาทเองก็ยังถือว่าเล็กมาก มูลค่ารวม BTC เพียงสามแสนล้านบาทหรือ 8.73 พันล้านดอลลาร์ รวมเงินที่เคยออกมาทั้งหมด รวมถึง BTC ที่ออกมาแล้วมีคนทำกุญแจหายซึ่งหมุนเวียนไม่ได้ เทียบกับเงินบาทที่ตอนนี้มี 17.6 ล้านล้านบาท สภาพแบบนี้ตลาดก็ผันพวนเป็นปกติ
นี่ไม่นับว่าดูสกุลเงินที่ใหญ่มากๆ เช่น เยน หรือปอนด์ เราจะพบว่าเงินในโลกความเป็นจริงก็มีความผันผวนของมันที่ไม่ได้น้อย คนไปญี่ปุ่นปีที่แล้วแลกเงิน 28 บาทได้ 100 เยน ปีนี้ต้องใช้ 34.5 บาทแล้ว
lewcpe.com, @wasonliw
ผมคิดว่า Bitfinex นี้แหละ สร้างเรื่องว่าโดน hack เพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
มันเหมือนสร้างตลาด BTC เพื่อเก็งกำไรมาตั้งแต่ต้นแล้ว
พอมูลค่าสูงก็ฟันกำไรเข้ากระเป๋า โดยบอกว่าตัวเองโดน hack แบบง่ายๆ
เพราะตัว BTC มีมูลค่าสูงจนคนหน้าใหม่ๆไม่ซื้อแล้ว พอมีข่าวนี้ราคา BTC ก็ตกฮวบ
หลอกคนหน้าใหม่มาซื้อหวังเก็งกำไรอีก คล้ายๆกับวงจรหุ้นปั่นราคา