Tags:
Node Thumbnail

เมื่อเช้าเราเพิ่งลงข่าว Tesla ช่วยชีวิตเจ้าของรถกันไป ตอนนี้มีข่าวอุบัติเหตุออกมาอีกแล้ว คราวนี้เหตุเกิดที่กรุงปักกิ่งเมืองหลวงของประเทศจีน ขณะที่นาย Luo Zhen โปรแกรมเมอร์อายุ 33 ปีกำลังเดินทางไปทำงานด้วยรถยนต์ Tesla Model S ที่เปิดใช้งานโหมด Autopilot อยู่นั้น รถของเขาก็แล่นไปเฉี่ยวเข้ากับรถ Volkswagen ที่จอดอยู่ริมทางซึ่งล้ำเข้ามาในเลนครึ่งคัน ทำให้กระจกมองข้างหลุดออกจากตัวรถ และเกิดรอยครูดด้านข้างรถ

อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุคราวนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยโฆษกของ Tesla ก็ออกมาระบุว่านาย Luo ไม่ได้จับพวงมาลัยเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่คาดคิดขณะที่รถเกิดอุบัติเหตุ ตามที่มีข้อความเตือนจากรถแล้วว่าฟีเจอร์นี้เป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น และผู้ขับขี่ต้องเอามือจับพวงมาลัยไว้ตลอด

ทางฝั่งนาย Luo กล่าวโทษบริษัท Tesla อย่างหนักว่าโฆษณาเกินจริง โดยเขากล่าวว่าพนักงานขายบอกว่ารถ Tesla มีคุณสมบัติ "ขับอัตโนมัติ" (self-driving หรือ zidong jiashi ในภาษาจีน) ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเพียงระบบช่วยเหลือ แต่เขาก็ยอมรับว่าตอนเกิดอุบัติเหตุเขาเล่นโทรศัพท์หรือมองจอที่คอนโซลกลางอยู่ และเงยหน้าขึ้นมามองถนนเป็นพักๆ

ที่มา - The Straits Times

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 10 August 2016 - 21:56 #931860

คงเป็นโปรแกรมเมอร์ ที่ไม่เข้าใจคำว่า Beta สินะครับ

By: saratlim
ContributorAndroid
on 10 August 2016 - 22:03 #931862 Reply to:931860
saratlim's picture

เหมือน Tesla เคยบอกว่าที่จริงระบบสมบูรณืมากๆแล้ว แต่ใส่คำว่า Beta เพื่อให้รู้ว่าสามารถพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นอีก


blog

By: Bluetus
iPhone
on 10 August 2016 - 22:05 #931865
Bluetus's picture

เล่น Pokemon Go ใช่ไหม สารภาพมาาาาา

By: Remma
AndroidWindows
on 10 August 2016 - 23:02 #931878
Remma's picture

กะแล้วว่าถ้าไปทดสอบที่จีนไม่น่าผ่าน

อีกเรื่องคือ พอเรื่องเกิดที่จีนแล้วกลับโทษคนขับที่เปิดใช้โหมดนี้แล้วไม่จับพวงมาลัย ไม่หักหลบเองเวลาที่ระบบผิดพลาดเนี่ยนะ เรื่องหลบสิ่งกีดขวางที่มนุษย์ไม่คาดคิดจะตอบสนองได้ทันพวกนี้ระบบควรจะทำงานได้ดีกว่าคนนะ ถ้าจะให้จับพวงมาลัยตลอดเวลาก็อย่ามีเลยครับระบบนี้น่ะ

By: somphong.s
AndroidWindows
on 11 August 2016 - 06:25 #931927 Reply to:931878

เห็นด้วยกับท่านอย่างยิ่ง
ตัวผม สงสัยว่า ระบบตัดสินใจผิดกี่ครั้ง กี่% กันแน่
ที่เรารับรู้กันไม่กี่ครั้งนี่ เพราะ เกิดเหตุ
ส่วนที่ไม่เกิดเหตุ อาจมีมากกว่านี้ 100เท่า 1000เท่า 10000เท่า ก็เป็นไปได้ ทั้งนั้น
ผู้ผลิต บอกเป็น Feature แต่ไม่รับผิดชอบใดใดทั้งสิ้น
แล้ว จะทำออกมาขาย เพื่ออะไร ระบบนี้

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 11 August 2016 - 08:19 #931937 Reply to:931878

ไม่เกี่ยวกับเกิดที่จีนครับ เกิดในอเมริกาอื่นที่อื่นเค้าก็ตอบแบบนี้คือระบบไม่ใช่ fully automatic คนขับต้องดูตลอดเวลา


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: menu_dot on 11 August 2016 - 10:38 #931985 Reply to:931878

อายุ มันพึ่งเริ่มครับ มีปัญหาก็แก้กันไป

ถ้าให้เวลาพัฒนาผมเชื่อว่า มันทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ที่มีขีดจำกัดแน่ๆ

ประเด็นคือมันไม่พร้อมแต่ปล่อยออกมาขายนี้แหละครับ

By: nisit
iPhoneUbuntuWindows
on 11 August 2016 - 00:56 #931909

ถ้าเป็นรถผม ผมก็ปล่อยใหม่มันวิ่งเองนั้นละ ไม่งั้นจะมีมันไปทำไม่

แต่ระบบยังไม่สมบูรณ์จริงๆ เอามาวิ่งในไทยคงได้แก้ bug กันปวดตับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 11 August 2016 - 07:58 #931935 Reply to:931909
lew's picture

เช่นเดียวกับเกียร์ auto, cruise mode, ระบบสั่งงานด้วยเสียง ฯลฯ ครับ มันเป็นเรื่องของความตระหนักว่าความรับผิดชอบยังเป็นของคนขับ

แบบเดียวกับคนเป็นหัวหน้าแล้วลูกน้องส่งงานมาให้เซ็น ความรับผิดชอบก็ยังเป็นของหัวหน้า ถ้าบอกว่าจะไม่ตรวจงาน ไม่งั้นจะมีลูกน้องไปทำไม ก็คงได้แต่ความรับผิดชอบจะหลุดจากตัวรึเปล่าก็อีกเรื่อง


lewcpe.com, @wasonliw

By: au8ust
AndroidSymbianWindows
on 11 August 2016 - 11:18 #931997 Reply to:931935

+1

By: Lennon
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 11 August 2016 - 12:46 #932024 Reply to:931935

ครับ แต่ถ้ามีลูกน้องแต่ต้องคอยนั่งประกบกันตลอดเวลา เผลอเมื่อไหร่ผิด แบบนี้ผมว่าก็ทำเองเถอะครับ

By: john dick
iPhone
on 11 August 2016 - 14:21 #932063 Reply to:932024
john dick's picture

+10

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 11 August 2016 - 15:17 #932091 Reply to:932024
lew's picture

ลูกน้องก็มีหลายระดับครับ เลือกหากันได้ แต่การใช้งานผิดประเภทนี่ก็ต้องรับกันเอง


lewcpe.com, @wasonliw

By: vitnu
iPhone
on 11 August 2016 - 03:08 #931921

พฤติกรรมการขับรถของคนแต่ละชาติมันต่างกัน ระบบมันคงยังรับมือได้ไม่ดีเท่าไหร่

By: loptar on 11 August 2016 - 10:03 #931970
loptar's picture

แสดงว่า ระบบของ Tesla แตกต่างจากของ Google หรือเปล่า
ผมเข้าใจว่าของ Google จะพยายามทำให้เป็นแบบ ไร้คนขับจริงๆ แต่เหมือนระบบของ Tesla ทำมาแค่ช่วยคนขับให้สะดวกมากขึ้น

By: nrml
ContributorIn Love
on 11 August 2016 - 10:42 #931986 Reply to:931970
nrml's picture

เป้าหมายน่าจะเหมือนกันครับ แต่แนวทางคงจะเป็นคนละแบบ Tesla นี่ดูเหมือนจะต้องการให้เอาออกมาใช้งานจริงบนถนนให้ได้เร็วที่สุด

By: gab
Windows PhoneAndroidWindows
on 11 August 2016 - 16:14 #932107 Reply to:931970
gab's picture

ในด้านอุปกรณ์ Google ใช้ lidar ส่วนของ Tesla เข้าใจว่าเป็นการประมวลผลภาพจากกล้องซึ่ง lidar ให้มิติความลึกได้ถูกต้องกว่ากันมาก
เป็นอย่างที่คุณพูดถึงเลยเป้าของ Google คือไร้คนขับจริงๆ

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 11 August 2016 - 16:27 #932110 Reply to:932107

ของ Tesla เป็นกล้อง + Radar ครับ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: iNin
iPhone
on 11 August 2016 - 11:12 #931995

มันอาจจะช่วยผมตอนกำลังง่วงๆเวลาขับก็ได้ อย่างน้อยๆ ก็ปลอดภัยขึ้นกว่าหลับในไปเลย

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 11 August 2016 - 13:38 #932048
btoy's picture

ยังไงก็อยากได้นะ อยากเอามาช่วยตอนรถติดๆบนทางด่วน เราแค่จับพวงมาลัยดูทางอย่างเดียว ไม่ต้องเบรคหรือเร่งบ่อยๆ

แต่...ไม่มีเงินซื้อ 555


..: เรื่อยไป