Google เผยว่าได้ทำการทดลองรถไร้คนขับใน 4 เมืองในสหรัฐฯ มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยวันนี้ Dmitri Dolgov หัวหน้าส่วนรถไร้คนขับของ Google ออกมาเผยผลการทดลองว่า ทดลองให้รถขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยตัวเองไปแล้วกว่า 2 ล้านไมล์บนถนนหลัก ใช้เวลาบนท้องถนนโดยประมาณ 300 ปีเมื่อเทียบกับเวลาของมนุษย์ในการขับรถ
Dolgov เผยอีกว่าได้แก้ไขปัญหาของรถไร้คนขับไปแล้ว 90% ภายในสองปีแรกที่ทำการทดลอง ส่วนอีก 10% ก็จะเป็นช่วงเวลาต่อจากนี้ โดยวิศวกรต้องเน้นหนักไปที่ทักษะการขับรถในเขตพื้นที่ก่อสร้าง การทำความเข้าใจสัญญาณมือจากนักปั่นจักรยาน ปฏิกิริยาโต้ตอบต่อรถด่วนฉุกเฉิน เช่น รถพยาบาล รถตำรวจ นอกจากนี้ ยังจะเตรียมพร้อมให้ซอฟต์แวร์เรียนรู้การรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝั่น เช่น เป็ดเดินข้ามถนน เป็นต้น
ภาพจาก Google Self-Driving Car Project
ที่มา - Fortune
Comments
พัฒนาต่อไป เดี๋ยวนะอีกเจ้าเขาวิ่งในเมืองละ555
เป็ดเดินข้ามถนน ><
ใช้วิถี แยกร่างเงา เรียนรู้ใช่ไหมเนี้ย นึกถึงนารุโตะเลย
เหมือน Alpha GO คนเล่นกันมาเป็นพันปี จับประวัติยัดลงคอมไม่กี่ปี คอมเก่งกว่าคนแล้ว
300 ปีเจ้าเก่า โช๊ะๆ
คำนวณมายังไงนะว่าคนใช้เวลาขับรถเท่าไหร่ต่อปี
300 ปีนี่เค้าคิดยังไง
ใช้ร่างแยกครับ (รถหลายคัน)
tesla เขาลงถนนวิ่งจริงไปเกิน 300 ปีแล้ว
300 ปี เพิ่งได้ 2ล้านไมล์เองเรอะ ขับช้าเป็นเต่าเลยนะเนี่ยราวๆ 1km/h เอง แท็กซี่บ้านเราวิ่งกันแค่สองสามปีไมล์ตีกลับแล้ว หรือว่าจอดอยู่เฉยๆก็นับ?
ในข่าวใช้คำว่า "ใช้เวลาบนท้องถนนโดยประมาณ"
ซึ่งหมายความว่ารถจอดติดไฟแดง รถติด มันนับหมด
เวลาทดลองส่วนใหญ่จะเป็นในเมืองทำความเร็วไม่ได้เยอะ
ที่เน้นในเมืองเพราะตัวแปรมันเยอะ รถเยอะ คนเยอะ
สามารถดูความสามารถของรถได้ดีกว่าวิ่งทางไกลถนนโล่ง ๆ
แหม่ มันก็ช้าเกินไปล่ะครับ รถบ้าน เวลาส่วนใหญ่ก็จอดอยู่ที่บ้านไม่ได้วิ่งอยู่ถนน ถ้าวิ่งปีละแค่หมื่นโล(เฉลี่ยวันล่ะราว 30 กิโล) ความเร็วเฉลี่ยทั้งปียังเยอะกว่าเลย
ไม่คาดฝั่น => ไม่คาดฝัน