เป็นที่รู้กันว่าราคาค่าตัวของอุปกรณ์ตระกูล Mac ของแอปเปิลสูงกว่าพีซีหรือแล็บท็อปทั่วไปมาก แต่จากจัดซื้ออุปกรณ์ตระกูล Mac ให้พนักงานใช้ IBM กลับพบว่าค่าใช้จ่ายในระยะยาวนั้นถูกกว่าพีซีค่อนข้างมาก
Fletcher Previn รองประธานฝ่าย Workplace as a Service ของ IBM เผยว่าถึงแม้ราคาของ Mac จะสูงกว่า แต่เมื่อคำนวนค่าใช้จ่ายในระยะยาวแล้ว ถือว่าถูกกว่าพีซี ที่ได้ราคาที่ดีที่สุดจากไมโครซอฟท์ราว 3 เท่า เนื่องจากพนักงานที่ใช้พีซีพบปัญหาและต้องโทรเรียกซัพพอร์ทมากกว่า Mac ถึง 2 เท่า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการและติดตั้งที่มากกว่า ซึ่งทำให้ IBM ประหยัดไปได้ราว $273 - $543 ต่อ Mac 1 เครื่อง
นอกจากประหยัดแล้ว Mac ยังได้รับความนิยมในหมู่พนักงานของ IBM เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย โดยพนักงานกว่า 73% ระบุว่าต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์เป็นตระกูล Mac ซึ่งทำให้ IBM จัดซื้อ Mac เฉลี่ยราว 1,300 เครื่องทุกๆ สัปดาห์
ที่มา - MacRumors
Comments
ได้เหตุผลนำเสนอที่บริษัทล่ะ
แล้วก็เห็นเครื่องแมครันวินโดว์อยู่ดี
H/W MAC รัน Win หลายเสียงบอกเสถียนกว่าด้วยครับ
+1 แปลกแต่จริง ไม่น่าเชื่อเครื่อง mac mid 2010 ของผมยังเสถียรกว่าเครื่อง dell แฟนซะอีก แถมเครื่อง dell ที่เราไปช่วยแฟนเลือกดันแย่กว่าเครื่องmacเก่าเราโดนว่าเละเลย T T
Surface pro ยังแฮงค์บ่อยๆ แถมโดนลอยแพก่อนแม็คหลายรุ่น พูดแล้วก็แอบขำ...
+1 ตั้งแต่ลง bootcamp มา ยังไม่เคยเจอจอฟ้าเลย
MacBook Pro declared 'best-performing' Windows laptop
แล้วแต่เลย ท่าน IBM
ไม่ได้เกี่ยวกับข่าวนี้โดยตรง
แต่ตอนที่อ่านข่าวครั้งแรก...ใจนึกสงสาร thinkpad
ผมว่า thinkpad มันตายไปนานแล้วครับ
กากครับ ขอบอกตรงๆ จากคนใช้ X240
ไม่ใช่ว่าพึ่งซื้อหรอคอมเลยมีปัญหาน้อย เพราะผมลงคอมใหม่ๆมันก็มีปัญหาน้อยนะ:P
ปล. User อาจพึ่งเริ่มใช้เลยไม่กล้าแตะอะไรหรือเปล่า Windows มันชินแล้วเลยใส่เต็มที่...
ใน IBM มีใช้ Mac บางส่วนอยู่แล้วนะครับ ไม่ใช่ใหม่หมด แต่คนที่เป็น switch คงมี
ก็ถ้าติดตั้ง windows แบบ boot เลย ก็จะเป็นแบบที่คุณว่านั่นหล่ะ เดี๋ยวปัญหาก็มา แต่ถ้าใช้ OS X ยังไงก็เจอปัญหาน้อยกว่าครับ เพราาะโปรแกรมติดตั้งไม่ค่อยได้ แล้วโปรแกรมตัวเดียวกัน แต่บน windows กลับกินทรัพยากรระบบมากกว่า OS X ซะแบบนั้นเลย
แต่ราคาเขาก็แพงจริงๆ แหละครับ หมายถึง mac ครับ
ราคา corporate price ของ pc ก็ไม่ได้ถูกนะครับ
บริษัทเก่าผม ขนาด global sourcing มาแล้ว dell latitude ตัวธรรมดายัง แสนอัพทุกตัว
final price ก็สูสีกับ mac แหละครับ
อันนี้สอบถามครับ dell lat ผมเคยซื้อใช้เองอยู๋
นี่ถึงหรือครับแล้วยัดอะไรไปมั้งแบบอยากรู้ถ้ามันแตะแสนนี่
ผมค่อนข้างแปลกใจ
เพราะเวลา corporate ซื้อเค้าจะต้องรวม support มาด้วยครับ ประกัน สองปี on-site, service level แบบไหน ก็ว่ากันไป
อันนี้ผมพูดถึง deal ในสเกล ร้อยล้านพันล้านนะ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า SMEs ในไทย หรือบริษัทที่เล็กลงมา เค้าจะรับ quote ราคาแบบนี้ได้มั้ย
แต่สเกลที่ผมเจอมามันเป็นแบบนั้น
ยังไงก็ไม่ถึงแสนครับ บริษัทผมก็เคยซื้อ ถ้ารุ่น latitude ธรรมดา 3 หมื่นกว่าก็มีครับ pro service onsite next business day 3 ปี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อันนี้รวม OS และ Software Support มาด้วยหรือเปล่าครับ หรือลูกค้าต้องเอาไปทำเองทั้งหมด
Get ready to work from now on.
รวม windows pro ไม่รวม office ครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เป็นไปได้ครับ ถ้าเอาซัพพอร์ท ซอฟแวร์ด้วย และ on-site service ก็มีหลายระดับครับ
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าในธุรกิจระดับอื่นๆ ผมไม่แน่ใจว่า package เป็นยังไงนะ (ประกันกี่ปี? มี support team อยู่ประจำ client's site มั้ย? อะไรแบบนั้น)
แต่ที่ผมเคยดีลด้วยนี่ แสนนึงที่บอกคือ underrated แล้ว เพราะเครื่องธรรมดาที่ผมได้ใช้ก็สองแสนแล้วครับ -_-"
อีกบริษัทนึง คนละ industry กัน มีเครื่องให้เลือกทั้ง PC Mac และ Chromebook, Macbook Air ก็แสนอัพครับ
ปล. ทั้งคู่เป็น top10 ของ S&P500 และใช้ global sourcing เหมือนกัน
ถ้าซื้อไปแล้วติดตั้ง windows ยังไงไมโครซอฟต์ก็กินเต็มอยู่ดี
หรือต่อให้ไม่ติดตั้ง windows แต่ใช้ office ก็ได้เงินอยู่ดี
ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลย
IBM พนักงานเค้าเป้น โปรแกรมเมอร์ หรือ User
ส่วนใหญ่คงจะเป็น end user แหละครับ
Mac คือ PC ที่ดีที่สุด
แท้จริง...ขึ้นกับงานที่ต้องทำ ความสามารถดูแล และเมนบอร์ด...เมนบอร์ดดีถือว่าดีเกิน100แล้ว ดังนั้นไม่ว่า os ตัวใด...ก็แล้วแต่ความถนัด
ตรงนี้จากตัวเลขการใช้งานที่มีเก็บไว้เป็นสถิติจำนวนที่น่าจะมากพอสมควรซึ่งน่าจะสามารถเอามาเป็นตัวเปรียบเทียบได้อยู่นะครับ และคิดว่าการใช้งานน่าจะไม่ได้เป็นการใช้งานแบบเดียวกันทั้งบริษัทแน่ๆ
ในข่าวไม่มีคำว่า mac os เลยแฮะ
The Last Wizard Of Century.
ตัว Terminal มัน(แทบจะ)เหมือนกันเลย
ผมใช้Acer Apire ธรรมดา...os linux ...ตอนนี้ ผมไม่ได้ใช้เมาส์ทำงานทุกครั้งแล้ว เพราะทัชแพด ทำงานลื่นดีมาก...ใช้ทำงานทั่วไป
เพราะแมคอัพเกรดไม่ได้หรือได้ยากรึเปล่าครับ เลยไม่ต้องเสียเงินอัพเกรด
สาเหตุที่ฝั่งไมโครซอฟท์แพงก็ไม่ได้เกิดจากการอัปเกรดนะครับ
ผมยังอยากได้ Mac มารัน Windows เลย แต่ปัญหาคือ มันแพงเกินเอื้อม T-T
ยังไงผมก็ไม่ชินกับคีย์บอร์ดของ Mac ซักทีครับ ขนาดได้จ้บบ่อย อยู่กับมันเป็นสิบๆ ปี ทุกวันนี้พอจับ Mac ทีไร ก็ยังรู้สึกเกร็งมือ พิมพ์ช้าลงทุกที ผมว่ามันเป็นที่การออกแบบแล้วแหละ (ที่อาจจะไม่ถูกสรีระกับมือผมเอง) แถมยังเรื่องที่ปุ่มไม่ครบตาม standard keyboard ต้องกดสองปุ่มช่วยอีก ถ้าใช้กับ MacOS นี่ไม่มีปัญหา แต่กับ Windows นี่ปุ่มหายไปเยอะ ต้องจำให้ได้เลยว่าปุ่มที่หายไปต้องกดอะไรคู่กัน
ถ้าเป็น iMac, Mac Pro นี่ไม่กลัวเลย เสียบ Keyboard ของ PC ยี่ห้อดีๆ ใช้โลด แต่พวก notebook นี่ต้องอยู่กับ keyboard Mac ไปตลอด ผมทำใจใช้ไม่ไหวจริงๆ ติดเรื่องคีย์บอร์ดนี่ล่ะครับ
ผมอาจจะเป็นพวกติดของโบราณ คีย์บอร์ด notebook ที่ถูกจริตผมที่สุดคือคีย์บอร์ดที่ให้ feeling ใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดแบบดั้งเดิมมากที่สุด ส่วนคีย์บอร์ด chiclet keyboard ของ apple เข้าใจว่าทำวิจัยมาเยอะ ข้อดีเยอะ คนชอบก็เยอะ แต่ส่วนตัวผมเป็นคนนึงล่ะที่ใช้มาสิบปีก็ยังไม่ชินมือซักที เข้าใจว่าปุ่มมันแบนไร้มิติจนคนที่ติดคีย์บอร์ดเว้าๆ แบบผมกดแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ
ผมเห็นด้วยนะ 555 ใช้คีย์บอร์ดบนแมคบุ๊คแล้วมันมึน ๆ แต่ปกติผมไม่ได้พิมพ์เร็วอยู่แล้ว เรื่องความเร็วเลยไม่ค่อยต่าง
แต่โดยปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้คีย์บอร์ดบนเครื่องมันเท่าไรนอกจากไปข้างนอก ปกติอยู่บ้าน/office เอามาต่อ แมคคานิคอลใช้ พิมพ์มันส์กว่าแยะ
ได้ของดีที่ใช้งานได้ยาว แต่ต้องแลกกับปัญหาเรื่องการอัพเกรดอุปกรณ์แทน
เพราะเดี๋ยวนี้แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะ MacBook กับ iMac ที่เมื่อก่อนยังพอเปลี่ยนได้หน่อย ส่วน Mac Pro ก็เปลี่ยนง่ายเหมือน PC ตอนนี้เริ่มเป็นแบบเชื่อม เปลี่ยนทรงเครื่อง กลายเป็นอัพเกรดเองไม่ได้ ต้องพึ่งช่างอย่างเดียว
ส่วนการ์ดจอ หากอยากเล่นเกมหนักๆ หรือต้องการประมวลผล Graphic สูงๆ ก็เลือกเป็น Mac Pro แทน หรือต้องหาอุปกรณ์มาต่อแยกอีก แถมอุปกรณ์ที่ขายสำหรับเครื่อง Apple ก็แพงอีก
ถ้ามีเงินมากพอก็ใช้ไปเถอะ ถ้าไม่พอก็กับไปใช้ PC ตามเดิม ไม่ต้องวุ่นวายมากนัก
Get ready to work from now on.
อดีต
IBM บริษัทที่เป็นผู้ให้กำเนิด PC แก่โลกใบนี้
ป้จจุบัน
..............
ถ้าในแง่ Laptop นี่ ตั้งแต่ที่เข้าสู่ยุคUltrabook ราคาMacbookกับLaptopทั่วไปมันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากมายสุดขั้วแล้วนะ
ถ้าในแง่ Desktop ตัว iMac / Mac mini / Mac Pro มันก็ตอบโจทย์ในแง่ของการประหยัดเนื้อที่บนโต๊ะทำงาน และประสิทธิภาพที่พอเพียง
และMacทุกเครื่องยังมาพร้อมกับ MacOS ซึ่งออกแบบEcosystemมาให้ใช้งานร่วมกันค่อนข้างดีด้วย ไม่ว่าจะ
1.ส่งไฟล์ขนาดใหญ่แนบอีเมล์ได้โดยที่ไม่ต้องไปหาเว็บฝากไฟล์ เพื่อฝากไฟล์แล้วแนบลิ้งค์ในอีเมลล์
2.นั่งทำงานไกล้กัน อยากส่งไฟล์หากัน ก็โยนผ่านAirdropไปเลย ไม่ต้องหาใช้Flashdrive
3.มีiWorkมาให้ทุกเครื่อง ถ้าใช้Macกันทั้งบริษัท ผมว่าไม่ต้องไปหาMS Office มาลงเลยก็ได้ ประหยัดค่าLicenseรายปีไปได้อีกเยอะ
4.ประหยัดค่าAntivirusรายปี เพราะโอกาสโดนไวรัสน้อยพอๆกับPCทั่วไปที่ลงAntivirus
5.สมัคร Apple ID บริษัทไว้ เวลาซื้อAppครั้งเดียว ใช้ได้ทั้งบริษัท (อันนี้ไม่รู้ว่ามันผิดกฏหมายมั้ย เห็นพนักงานชอบพรีเซนต์กันจัง)
6.ระบบBackupสุดสะดวกสบาย ใช้แทนการGhost ได้ระดับนึงเลยทีเดียว
7.iWork Save ไฟล์งานแบบอัตโนมัติ เพียงแค่กดSaveครั้งแรกครั้งเดียว และยังสามารถย้อนกลับไปดูการแก้ไขแต่ละเวอร์ชั่น และสามารถเรียกคืนมาได้ด้วย
8.มี Software Support ที่รวดเร็วและยาวนานหลายปี ลดค่าใช้จ่าย Software Support ได้อีก
9.มีระบบติดตาม ล๊อคเครื่อง ล้างข้อมูล กรณีเครื่องสูญหาย ช่วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบริษัทได้ระดับนึง
10.นึกไม่ออกแล้ว รู้แต่ว่าทั้ง 9 ข้อที่ว่ามา เป็นคุณสมบัติที่มีมาตั้งแต่เปิดเครื่องใหม่ ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม
ขอแชร์ประสบการณ์ข้อ 6 เพิ่มนะครับ
เพราะเป็นเหตุผลนึงในการเลือก mac เลย
ในฐานะ end user
ตอนใช้ pc ไม่เคย ghost เลย เพราะใช้ไม่เป็นและไม่มีโปรแกรมติดเครื่อง
แต่มีประสบการณ์ที่ต้องมา format pc บ่อย เพราะเครื่องค้างเนื่องจากหลายสาเหตุ
มีครั้งนึงคือ xp sp? (จำไม่ได้ว่าเลขอะไร) มันอัพเดตอัตโนมัติ ปรากฏว่าตอนนั้นเครื่องค้างกันไปทั้งสำนักงาน
ต้องมา format กันยกใหญ่...กับบางครั้งเครื่องอืดจนต้อง format ลงใหม่
ตอนใช้ ipad ชอบมากกับการ backup&restore เพราะส่งเครื่องไปเปลียน 2 รอบ
restore กลับมา...ทุกอยากอยู่ครบ และง่ายมาก ๆ ... เป็นอีกเหตุผลที่นำไปสู่การซื้อ mac
แต่...ตั้งแต่ซื้อ mac มา... และใช้ time machine backup 2-3 เดือนครั้ง
ใช้ mac มาเข้าปีที่ 4 ... ยังไม่เคยต้อง format เครื่องเลย...เครื่องยังลื่นปกติ...ตอนนี้ก็ลง el capitan
สรุปคือเป็นเหตุผลที่ทำให้ซื้อ mac มาใช้ ... แต่ก็ไม่ได้ใช้จริงซักที
ตอนแรกผมก็ใช้Dell ลงWin7 นี่แหละ
แต่ผมเป็นพวกมือบอนครับ 2-3 เดือนนี่ต้องมีเหตุให้ลงWindowsใหม่ทุกที
จนช่วงนึงเริ่มรู้สึกว่าขี้เกียจลงWindowsใหม่ว้อยยย + เกมที่เล่นก็มีแค่DotA2 หวยเลยไปลงที่Ubuntu
เพราะมันลงระบบใหม่ง่ายกว่า เร็วกว่า เล่นเน็ตรอก็ได้ แต่ก็รำคาญบัคยิบย่อยอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ความรู้สึกโดยรวมดีกว่าตอนWin7เยอะ
จนสุดท้ายก็ได้เก็บตังค์ซื้อ Macมาใช้นี่แหละครับ OS มันลดความยุ่งยากในการบำรุงรักษาไปได้เยอะเหมือนกัน
ทำซี๊ซั๊วมากๆก็เอาHDDต่อแล้วรีใหม่แป๊บเดียวเสร็จ เหมือนกลับจุดเซฟเลย
ibm บอกเปลี่ยนใจทันไหม
May the Force Close be with you. || @nuttyi