จากข่าว กูเกิลเปิดเผยช่องโหว่ Windows แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับสูง หลังแจ้งไมโครซอฟท์ 10 วัน ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่พบการโจมตีแล้ว ล่าสุดฝั่งไมโครซอฟท์ออกมาให้ข้อมูลแล้ว
หน่วยเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย Microsoft Threat Intelligence อธิบายว่าพบกลุ่มแฮกเกอร์ที่ถูกเรียกว่า STRONTIUM โจมตีผ่านช่องโหว่นี้จริง
รูปแบบการโจมตีคือใช้ช่องโหว่ของ Flash ร่วมกับช่องโหว่เคอร์เนลของ Windows ทำงานร่วมกัน กระบวนการคือใช้ช่องโหว่ของ Flash เพื่อเข้าถึงโพรเซสของเบราว์เซอร์ก่อน แล้วใช้ช่องโหว่ของ Windows ยกระดับการเข้าถึงจากเบราว์เซอร์มายังเคอร์เนลอีกที
ตอนนี้ Adobe ออกแพตช์อุดช่องโหว่นี้แล้ว และเบราว์เซอร์อย่าง Chrome ก็ป้องกันช่องโหว่นี้แล้วเช่นกัน ฝั่งของไมโครซอฟท์บอกว่า Edge บน Windows 10 Anniversary Update ก็ปลอดภัยจากช่องโหว่นี้ ส่วนตัวแพตช์ของระบบ Windows กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ โดยจะออกในรอบการอัพเดต Patch Tuesday ครั้งต่อไป วันที่ 8 พฤศจิกายน
ผู้ใช้ Windows 10 Anniversary Update ที่เปิดฟีเจอร์ Windows Defender Advanced Threat Protection (ATP) จะสามารถตรวจจับการแฮกผ่านช่องโหว่นี้ได้
ไมโครซอฟท์ยังวิจารณ์การเปิดเผยข้อมูลของกูเกิลก่อนแพตช์ออกว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ใช้งาน
ที่มา - TechNet
Comments
คิดถึงข่าวนี้เลย
เส้นใหญ่ Project Zero เลื่อนการเปิดเผยช่องโหว่บน OS X ไปหนึ่งเดือนหลังผู้บริหารขอร้องโดยตรง
แล้วท่านทำไมไม่ติดต่อ Google แบบที่ Apple ทำหล่ะ
ถึงติดต่อไปก็คงไม่ค่อยมีผลเท่าไรครับ เพราะเดี๋ยวยังไงก็มีคนนอกเผยอยู่ดี
Coder | Designer | Thinker | Blogger
นี่คืออยากให้กูเกิลยอมเลือนกับทุกคนหรือครับ
lewcpe.com, @wasonliw
แต่ประกาศเร็วก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้ทันทีหลังประกาศนี่ครับ
คนนอกเผย กูเกิลเผย น่าจะต่างกันมากครับ
ลำตะแคง
ลำเฉียง!
ลำไม่ตรง
ลำยอง งิ!
ลำใย!!
ลำเจียก
ได้ไหม?
ลำแข้ง!!!
ลำน้ำโขง
เห็นด้วยกับทั้งสองฝ่าย แต่โน้มเอียงไปทาง MS
ถึงจะมีการโจมตีแล้ว แต่การเปิดเผยช่องโหว่แล้วจะปลอดภัยมากขึ้นจริงเหรอ
จากการโจมตีกลุ่มน้อยๆ กลายเป็นเพิ่มปริมาณการโจมตีจากกลุ่มคนทั่วไป
มันน่าจะยืดหยุ่นกฏมากกว่านี้ ถ้าคนที่ถูกโจมตีไม่กระตือรือร้นก็ว่าไปอย่างนะ
ประกาศ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องพร้อมรับมือ
แล้วตามข่าวคือถูกโจมตีแล้วดังนั้น คนที่เป็นสายโจมตีก็มีแนวโน้มว่ารู้อยู่แล้ว
ตอนนี้พอประกาศมา พร้อมกับบอกแนวทางป้องกันระยะแรก (Chrome แก้แล้ว Adobe แก้แล้ว) ก็น่าจะดีกว่าไม่รู้เลยนะครับ
ประกาศ เพื่อให้คนที่ไม่รู้ตัวว่าโดนโจมตีแล้ว ได้รู้ตัว
ยังไงครับคนโดนโจมตีช่องโหว่นี้กี่คนที่จะเข้าไปอ่านประกาศกูเกิล ถ้าแจ้งไปยังคนที่ถูกโจมตีก็อีกเรื่องไม่ต้องประกาศออกสาธารณะก็ได้
ถ้าประกาศเพื่อกดดันให้เร่งออกแพตแก้ไขก็พอเข้าใจ แต่มันก็เหมือนดาบสองคมคนที่ไม่รู้ว่ามีช่องโหว่ พอรู้ก็จะมาโจมตีมากกว่าเดิม
ผมถึงบอกว่าโอนเอนไปทาง MS มากกว่า
คนที่ยังไม่โดน หรือโดนแล้วไม่รู้ตัว ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอ่านประกาศกูเกิ้ลก็ได้นี่
อ่าน blognone ก็พอแล้ว :P
ไมโครซอฟ รอบก่อนมีการเจรจากูเกิลไม่ยอมยังพอเข้าใจ รอบนี้เงียบ ช่วยไม่ได้
ฝั่งของไมโครซอฟท์บอกว่า Edge บน Windows 10 Anniversary Update ก็ปลอดภัยจากช่องโหว่นี้ ส่วนตัวแพตช์ของระบบ Windows กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ โดยจะออกในรอบการอัพเดต Patch Tuesday ครั้งต่อไป วันที่ 8 พฤศจิกายน
ก็ไม่เงียบนะครับ แต่ไม่ทันใน 7 วัน
worst case ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่มากกว่า mac เยอะมาก ดังนั้นมีโอกาสสูงกว่ามากที่จะโดนโจมตี
รอกันไปอีก 6วันครับ
คิดว่ากลุ่มบริษัทพวกนี้ควรทำให้มันชัดเจนคือ "ช่องโหว่ที่พบการโจมตีแล้ว" และ "ช่องโหว่ที่ยังไม่พบการโจมตี" ควรจะมีมาตราการที่แตกต่างกันอย่างไร อันไหนเลื่อนได้ อันไหนไม่ควรเลื่อน ไม่งั้นลูกค้าก็ถูกทำเป็นเหมือนหมากตัวหนึ่งในเกมบ้าบอนี้ไปเสียมากกว่า (ในฐานะลูกค้า มันไม่ตลก)
โอเค ถ้าบอกว่า ช่องโหว่ที่เกิดขึ้นใน macOS มีกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่า และยังไม่พบการโจมตี ซึ่งก็ไม่รู้จริงไหม ก็แค่ไม่มีรายงาน เทียบกับ Windows ในอัตรา 1:10 หรือ 1:20 ที่พบการโจมตีแล้ว หากปัจจัยในการเผยแพร่มีการใช้ตัวแปรข้างต้น บวกกับสัดส่วนของส่วนแบ่งทางการตลาดของ OS ไปด้วยในการประเมิณระยะเวลาในการเปิดเผยความเสี่ยงให้สั้นลง ก็น่าจะออกมาเป็นสูตรสำเร็จ เพื่อช่วยในการประเมิณความเสี่ยงและช่วยเร่งให้บริษัทที่ถูกแจ้งได้รับทราบและตั้งมาตราการภายในให้มันสอดรับกันทั้งกระบวนการ
คือจะ 90 วัน 60 วัน 14 วัน 7 วัน อะไรก็ว่าไป ให้มันตรงไปตรงมา ไม่ใช่อยากจะใช้ตัวเลขไหนก็ทำไปเป็นเคสๆ ถ้าแบบนั้นก็แจ้งให้มันรู้ๆ กันไปว่า เออ ต่อไปจะไม่มีมาตราฐานนะ เดี่ยวแจ้งเป็นลำดับความสำคัญเอา แล้วก็ลุ้นว่าจะเผยแพร่วันไหนอีกที
เผื่อในอนาคตมีช่องโหว่ร้ายแรงกว่านี้มาเคสเดียวกันแบบนี้ แต่ 3 วันเผยแพร่เลย จะได้ทำตัวถูก
MS เร่งหาทีมเจาะแอนดรอยส์กะ Chrome OS ด่วนเลย .. เอาคืน -..-'
my blog
มีประเด็นหนึ่งคือการจัดความสำคัญของช่องโหว่ไม่เท่ากันนัก Microsoft มักมองว่าช่องโหว่รันโค้ดจากระยะไกล (RCE) เป็นช่องโหว่ร้ายแรงสุด (critical) และมักออกแพตช์นอกรอบให้หากพบการโจมตีแล้ว กรณีแบบนั้นต่อให้เป็น 7 วันไมโครซอฟท์เองก็น่าจะจัดการปัญหาได้
แต่กรณีนี้เป็นการยกสิทธิ์ของ process บนเครื่องซึ่งไมโครซอฟต์มักจัดอยู่ระดับ "สำคัญ" เลยไม่พอที่จะออกแพตช์นอกรอบ
ในภาพรวมก็เข้าใจไมโครซอฟท์ได้ ถ้าต้องออกแพตช์นอกรอบให้กับทุกแพตช์สำคัญ ก็คงไม่ต้องมีรอบกันเลย ฝ่ายไอทีลูกค้า (ที่จริงจังเรื่องความปลอดภัย ไม่ใช่เซ็ตอัพแล้วทิ้งไว้แบบนั้น) จัดการรอบกันไม่ได้แน่ๆ
lewcpe.com, @wasonliw
ทำการบ้านไม่ทันครูจะตีมั๊ย
กูเกิล...ไมโครซอฟท์ น่าจะพูดกันให้เคลียร์ เพราะอันตรายทั้งไม่บอกหรือบอกแล้ว..ด้วยแต่ละค่าย ก็มีวิธีการของตน ในด้านตื้นและลึก
MS ไม่ฉลาดเลย วันหลังก็ขอให้ Apple เจรจาให้แทนสิ อิอิ
คือเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับ 2 บริษัท ฯ คือ Adobe และ MS ทีนี้ปัญหาจริง ๆ ของช่องโหว่นี้มาจากอะไร เราต้องค่อย ๆ ไล่ลำดับกัน
เท่าที่อ่านคือ ใช้ช่องว่าของ Flash เพื่อเข้าถึงโพรเซสของเบราว์เซอร์ก่อน แล้วใช้ช่องโหว่ของ Windows ยกระดับการเข้าถึงจากเบราว์เซอร์มายังเคอร์เนลอีกที
ซึ่งถ้า Adobe ออกแพตช์อุดช่องโหว่เริ่มต้นไปแล้วตามข่าว ช่องโหว่ระดับเคอร์แนลของ Windows แม้จะยังอยู่ แต่ช่องทางในการเจาะระบบเริ่มต้นหายไปก็เท่ากับ ความปลอดภัยในตัว Windows คืนกลับมาในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งสามารถใช้เวลาในการปิดช่องโหว่ (ซึ่งไม่มีช่องทางเริ่มต้นจากปัญหาการโจมตีแล้ว) ได้ในระดับหนึ่ง
แต่การที่กูเกิ้ล รีบร้อนออกมาแจ้งช่องโหว่นี้ในช่วงระยะเวลาในการทำแพตช์นี้ มันสามารถมองได้ว่าเป็นการดิสเครดิตตัว Windows ของ MS มากกว่าทำเพื่อแจ้งเตือนระดับความปลอดภัย เพราะช่องทางเริ่มต้นในการเจาะระบบโดนปิดไปแล้วในระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับข่าวของแอปเปิ้ลแล้ว ยิ่งทำให้เป็นความไร้มาตรฐานแบบชัดเจนในการวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขปัญหา
เรื่องนี้ MS พูดถูก และว่า MS แทบไม่ได้เลยเรื่องไม่รีบปรับปรุง ถ้ามองปัญหาตามลำดับความสำคัญจริง ๆ
+1
คือเป็นช่องโหว่ของ flash ที่ทำให้โดนโจมตีได้ การที่ adobe ออกแพตช์มาแล้วก็เท่ากับความรุนแรงลดลงไปแล้ว
ถึงฝั่ง Google เองจะไม่ได้ตั้งใจ discredit แต่ผมก็มองว่าดูน่าเกลียดที่จะอ้างว่ารีบออกเพื่อกดดันให้ไมโครซอฟท์ออกแพตช์
onedd.net
slow life จิมๆ
Microsoft ก็ตั้งโปรเจ็คเจาะกูเกิลเอาคืนบ้างสี ตั้งทีมงานแฮกเกอร์สัก 300 คน เล่นงานแอนดรอยด์กับกูเกิลเสริชโดยเฉพาะ
เจาะได้ให้เวลาแก้ 24 ชม. :D
เค้าทำไปนานแล้วครับ คนทั้งบริษัทไมโครซอฟพยายามเจาะทุกอย่างที่กุ๊กเกิ้ลทำแล้วดีแล้วตีให้แตก แต่สุดท้ายซีอีโอต้องลาออกไปแทน เนื่องจากลงเงินไปเท่าไหร่ มันก็ว่างเปล่า
ปล. หรือคุณว่าเค้าไม่ได้ทำอะไรเลย