บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปในบ้านเรามีข้อดีสำคัญคือการตัดเงินผ่านบัตรเครดิต ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลาจ่ายเงินหรือทอนเงินกันตอนลงจากรถ แต่ขนส่งลอนดอน (Transport for London - TfL) ก็ออกมาประกาศว่านับจากวันจันทร์ที่ผ่านมา แท็กซี่ทั้งหมดในลอนดอนจะรับจ่ายด้วยบัตรเครดิตทั้งหมด ทั้งแบบบัตรชิปและ contactless
แท็กซี่บางส่วนในลอนดอนรับจ่ายด้วยบัตรเครดิตมาแล้วหลายปี แต่ TfL เพิ่งบังคับทั้งหมดได้ในปีนี้ ทำให้ผู้โดยสารที่ไม่ได้พกเงินสดไม่ต้องกังวลว่ามีแต่บัตรเครดิตจะจ่ายค่าโดยสารได้หรือไม่
นอกจากการบังคับให้แท็กซี่ต้องติดตั้งเครื่องรับจ่ายผ่านบัตรเครดิต กฎใหม่ของ TfL ยังห้ามแท็กซี่เก็บค่าบริการจ่ายผ่านบัตรเครดิต ทำให้ผู้โดยสารสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตตามราคามิเตอร์ได้เลย ข้อบังคับนี้ TfL แลกเปลี่ยนกับผู้ขับรถแท็กซี่ด้วยการยอมให้ขึ้นค่าโดยสารเริ่มต้นเป็น 2.6 ปอนด์
ข้อบังคับครั้งนี้ทำให้การเดินทางในลอนดอนสามารถจ่ายผ่านบัตรแบบ contactless ได้ทั้งระบบ
ที่มา - Transport for London
Comments
ผู้โดยสามารถ ?
55555+ งานด่วน งานเร่งจริงๆ
ตอนไปเที่ยวนอร์เวย์กับไอซ์แลนด์ที่นั่นก็รับแต่บัตรเครดิตเหมือนกัน สะดวกมากเลยแทบไม่ต้องใช้เงินสดเลย
บ้านเรายังต้องเซ็นชื่ออยู่เลย
ใช้ Wireless Payment แล้ว ลืมเศษเหรียญไปได้เลย
พร้อมเพย์ประยุกต์มาใช้แบบนี้ได้ผมว่าโอเคเลยต่อไปจะได้ใช้แทนเงินสด
อย่างแรกต้องไม่มีค่าธรรมเนียมหรือลดให้ต่ำมากๆก่อนไม่งัน ภาระนี้จะตกอยู่กับผู้บริโภคล้วนๆ
"กฎใหม่ของ TfL ยังห้ามแท็กซี่เก็บค่าบริการจ่ายผ่านบัตรเครดิต" ตามข่าวเค้าห้ามเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มอยู่แล้วครับ ต่างประเทศหลายที่เค้าก็ไม่ชาร์จเพิ่มนะครับ ในไทยเองพวกห้างหรือร้านใหญ่ๆ ก็ไม่เก็บ (โลตัส max value ซื้อ 20 ผมก็เคยจ่ายบัตร)
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
โทษนะครับ เข้าไม่ให้ taxi charge เพิ่ม แต่ธนาคารก็เรียก charge จากการจ่ายอยู่ดี แล้วสุดท้ายก็ไปตกอยู่ที่ผู้บริโภคคับ
"ข้อบังคับนี้ TfL แลกเปลี่ยนกับผู้ขับรถแท็กซี่ด้วยการยอมให้ขึ้นค่าโดยสารเริ่มต้นเป็น 2.6 ปอนด์" เขาไม่ใช้ charge แต่เข้าใช้วิธีไปขึ้นในค่าโดยสารแทนเลยครับ แล้วมันต่างกันตรงไหนครับ
พวกค่ามิเตอร์ taxi มันก็ยังมีคนคุมเดี๋ยวมันก็นิ่งแหละครับ ราคามันคงต้องขึ้นด้วยหลายๆ ปัจจัยแต่ไม่มีค่าชาร์จก็ทำให้จ่ายสดและจ่ายเครดิตเท่ากัน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แต่สุดท้ายผลประโยชน์ก็วิ่งเข้าธนาคารแล้วโยนภาระให้กับคนใช้
ลองถ้าธนาคารเรียกเก็บจากการจ่ายสัก 0.5% ผมว่าคนเปลี่ยนมาใช้กันทั้งประเทศ แต่นี้อะไร ขั้นต่ำ 1.75-3% สุดท้ายคนเสียประโยชน์ก็คือ ผู้บริโภค ซึ่งอาจจะเป็นในรูปแบบไม่ในทางตรงก็ทางอ้อมอยู่แล้วครับ
+1 no such thing as a free lunch
คนเราเวลาเถียงเรื่องการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์กับต้นทุน % ที่เพิ่ม ชอบลืมไปว่าการใช้เงินสด การต้องเตรียมเงินทอน ฯลฯ จริงๆแล้วมันก็มีต้นทุน และค่าความเสี่ยง ที่เอาจริงๆแล้วเมื่อเปรียบกับสัดส่วนที่มีต้นทุนส่วนแบ่ง % ของธนาคารเพิ่มขึ้น มันอาจจะคุ้มกว่าที่ไม่รับเงินสดก็ได้
@TonsTweetings
+1 ครับ เงินสดรั่วไหล ต้องนับต้องสอบทาน
+1
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แท็กซี่หลายคันไทยก็เลิกทอนเงินไปนานแล้วนะครับ
จริงครับ
เคยเจอครั้งนึงครับ ขึ้นแท๊กซี่ ค่าโดยสารประมาณสี่สิบกว่าบาท ให้แบงค์ห้าสิบไป เราก็เกรงใจเพราะค่าโดยสารมันไม่เยอะเลยบอกพี่ไม่ต้องทอนนะครับ คนขับหัวเราะแล้วบอกว่า แค่นี้ผมไม่ทอนอยู่แล้ว!
เพราะแบบนี้อ่ะสิ คนเขาถึงรังเกียจและหันไปใช้ uber กัน
อยากรู้จริงจังว่าแท๊กซี่เมืองไทยนี่รู้ตัวกันไหมว่าภัยกำลังมา เห็นก็ไม่ได้พยายามกอบกู้ชื่อเสียงอะไรขึ้นมาเลย
แท็กซี่ลอนดอน ผมมักจะนึกถึงซีรี่ย์เชอร์ล็อคโฮล์ม แต่ทำไมในซีรี่ย์เค้าเรียกว่า cab
http://english.stackexchange.com/questions/129990/difference-between-taxi-and-cab
กลัวอะไร บ้านเราไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทอนหรอก เพราะแท็กซี่บ้านเราถ้าให้เงินเกินมันไม่ทอน แต่ถ้าให้ขาดเมื่อไหร่แมร่มทวงครบทุกบาท
ถามนิดสิครับ แล้วพวกเด็กๆ ม ปลาย นี่เขาจะขึ้นแท็กซี่กันไง พ่อแม่ออกบัตรเสริมให้หรือยังไงกัน ?
เค้าให้รับได้ แต่ไม่ได้บอกว่ายกเลิกรับเงินสดหนิครับ น่าจะเป็นจ่ายได้ทั้งสองแบบนะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว