ทุกองค์กรทั่วโลกมีแต่จะใช้งานระบบไอทีมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งระบบหลังบ้านเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ไปจนถึงระบบด้านข้อมูลและการทำตลาด เพื่อประสิทธิภาพในการแข่งขัน นโยบายของประเทศยังกำหนด ประเทศไทย 4.0 ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ ทำให้ทุกองค์กรต้องมองหาการติดตั้งระบบไอทีที่มีคุณภาพและมาตรฐาน
คำถามที่ผู้บริหารองค์กรต่างๆ ได้รับคือ ปัจจัยสำคัญที่จะเลือกผู้ติดตั้งระบบไอที หรือ System Integrated (SI) คืออะไร
ยิ่งในสถานการณ์ที่ระบบไอทีคือหัวใจสำคัญของการทำงาน ผู้ติดตั้งระบบ ต้องทำหน้าที่แบบครบวงจร คือ ให้คำปรึกษา วางแผน ออกแบบ ติดตั้ง และให้บริการ ทั้งหมดคือ Total Enterprise Solutions โดยเฉพาะส่วนของบริการที่สร้างความแตกต่าง แต่ปัจจัยสำคัญยังไม่หมดเท่านี้
ศิษฏากร อุสันโน รองกรรมการผู้จัดการ Enterprise Systems and Infrastructure Division บริษัท ดาต้าโปร คอมพิวเตอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ DCS เป็นหนึ่งใน SI ที่อยู่ในวงการไอทีมากว่า 30 ปี บอกว่า สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับ SI แต่ละรายในตลาดคือ การใส่ใจดูแลในบริการหลังการขาย ที่เรียกว่าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ เพราะระบบไอที ถ้ามีปัญหาอาจส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงักไปเลย
ดังนั้น บริการด้านไอที ทั้งการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไขปัญหาต่างๆ ต้องพร้อมเสมอ
จากประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการไอที DCS เริ่มต้นจากการเป็น IBM Business Partner เพราะรู้ว่า IBM คือบริษัทไอทีระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ถ้าพูดถึง IBM ไม่มีใครไม่รู้จัก และมี Solutions ที่ครบถ้วน เช่น Power Systems, Storage หรือ Cloud Computing ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีก่อนที่จะขยายการให้บริการในหลายรูปแบบตลอด 30 ปี
“DCS ให้บริการไอทีในทุกอุตสาหกรรม แน่นอนว่ากลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ใช้ระบบไอทีอย่างเข้มข้น เช่น สถาบันการเงิน ธนาคารต่างๆ ธุรกิจประกันภัย รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคม ต่างเลือกใช้บริการของ DCS กลุ่มที่มีการใช้งานรองลงไป เช่น บริการธุรกิจบริการ สาธารณสุข การศึกษา และอื่นๆ DCS ก็เข้าไปให้บริการเช่นกัน” ศิษฏากร กล่าว
สิ่งที่ทำให้ DCS แตกต่างจาก SI รายอื่นๆ คือ การสร้างความเชื่อมั่น และความสัมพันธ์กับลูกค้าในแบบที่เรียกว่า Long term Relationship สิ่งนี้ไม่ใช่ใครจะอ้างได้ แต่ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และให้ลูกค้าที่ใช้บริการเป็นคนยืนยัน ซึ่งตลอด 30 ปีของ DCS มีหลักการที่เน้นเรื่องนี้อย่างชัดเจน
DCS ไม่ได้เน้นสร้างยอดขาย สร้างการเติบโตในธุรกิจของตัวเอง แต่ช่วยให้ลูกค้าที่ใช้บริการทุกรายมีธุรกิจที่เติบโตขึ้นไปพร้อมๆ กัน สิ่งนี้คือ การสร้างความเชื่อมั่นที่มีต่อกัน มีความพึงพอใจในบริการ เกิดการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง บอกต่อไปยังลูกค้ารายใหม่ๆ
ทั้งหมดกลายเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวที่มั่นคงของ DCS และลูกค้าที่ใช้บริการ
ความสัมพันธ์ในระยะยาวระหว่าง SI และลูกค้า มีประโยชน์ต่อธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและตลอดเวลา ซึ่ง DCS ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร เช่น IBM มาโดยตลอด สามารถนำความรู้ใหม่ๆ มาสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าได้
ขณะที่ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถโฟกัสอยู่ในธุรกิจของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี สบายใจเรื่องบุคลากรไอที ที่มีไม่เพียงพอ เพราะทั้งหมด DCS รับภาระมาจัดการให้แทน
เช่น การใช้งานระบบ Cloud Computing ซึ่งองค์กรในประเทศไทยมีการเปลี่ยนไปใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การจะย้ายข้อมูลบริษัท การจะยกระบบการทำงานแบบเดิมไปอยู่บน Cloud Computing นี่คือเรื่องใหญ่ขององค์กรธุรกิจ จะเปลี่ยนระบบอย่างไร ให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าไปตามปกติ เรื่องความปลอดภัยของระบบ และการสำรองข้อมูลในกรณีฉุกเฉินต่างๆ นี่คือเรื่องที่ทำให้หลายองค์กรคิดหนัก
“การเป็นเพื่อนคู่คิดคือสิ่งที่ DCS ทำมาตลอด องค์กรจำนวนไม่น้อยเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม การชุมนุมทางการเมือง หรือปัญหาที่คาดไม่ถึง ที่จะทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก แต่ด้วยระบบไอที เช่น Cloud Computing ทำให้สามารถทำงานได้ตลอดเวลา จากทุกที่ นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้ระบบไอที คือหัวใจของธุรกิจยุคดิจิทัล” ศิษฏากร กล่าว
ถ้าองค์กรธุรกิจกำลังมองหาผู้ติดตั้งระบบไอที และเกิดคำถามว่าจะเลือกรายไหนดี นอกจากปัจจัยพื้นฐานเรื่องการให้บริการแล้ว อย่าลืมเรื่องความเชื่อมั่น และความสัมพันธ์ที่ลูกค้ารายเดิมมีให้กับผู้ให้บริการ นี่คือสิ่งที่พิสูจน์คุณภาพได้เป็นอย่างดี
Comments
ในตัดสินใจ => ในการตัดสินใจ หรือปล่าวครับ ?