จะบอกว่ากำลังเป็นกระแสก็คงไม่ผิดนัก กับคำพูดที่บอกว่าแอปเปิลอิ่มตัวแล้วบ้าง ขาลงแล้วบ้าง ไม่มีอะไรน่าสนใจในงานคีย์โน้ตแล้วบ้าง ซึ่งประเด็นนี้แม้แต่อดีตคนภายในเองก็ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ว่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมองค์ ที่เปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่ที่เขาเคยทำงานอยู่ในยุคที่ Steve Jobs เป็นหัวเรือ
Bob Burrough อดีตวิศวกรของแอปเปิลให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ในยุคที่ Jobs กลับมาเป็นซีอีโอรอบที่สอง อย่างในช่วงของการพัฒนา iPhone ชิ้นแรกนั้น วัฒนธรรมขององค์กรคือการให้ความสำคัญกับโปรเจ็คมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ตัวองค์กรทั้งหมด มีการแข่งขัน มีไดนามิก
เขาเล่าว่าเขาได้รับงานในแอปเปิลในตำแหน่งผู้จัดการดูแลอะไรซักอย่างเป็นการเฉพาะ แต่งานที่เขาทำแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบในตำแหน่งผู้จัดการเลย ทำให้เขารู้สึกว่า การทำงานในแอปเปิลในช่วงมัน คือการช่วยกันแก้ปัญหาในโปรเจ็คหนึ่ง ที่แต่ละคนจะทำได้ ไม่เกี่ยงตำแหน่ง หน้าที่หรือว่าขึ้นตรงกับใคร ทำให้ภาพของการทำงานออกแนวเถื่อนๆ ไม่มีกฎมีเกณฑ์ (Wild West) เท่าไหร่นัก
ตรงกันข้ามกับในยุคของ Tim Cook ที่ Burrough บอกว่าพลังและชีวิตชีวาในการทำงานแบบยุคนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง องค์กรมีลักษณะเป็นลำดับขั้นมากขึ้น (hierarchical) แต่ละคนมีภาระหน้าที่ของตัวเอง ไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน และการเข้าช่วยกันแก้ปัญหาหนึ่งๆ แทบจะหาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม Tony Fadell อดีตวิศวกรของอีกคนของแอปเปิลและผู้ก่อตั้ง Nest แย้งว่าภายในแอปเปิลไม่เคยมีการแข่งขันกันอยู่แล้ว สิ่งที่พนักงานแอปเปิลทำร่วมกัน คือช่วยกันหาโซลูชันที่ดีที่สุด Jobs แค่ให้พนักงานช่วยกันทดสอบและทดลองทุกความเป็นไปได้แค่นั้นเอง
ทั้งนี้มีผู้เปรียบเทียบแอปเปิลในยุคของ Cook ด้วยว่าเปรียบเสมือนไมโครซอฟท์ในยุคของ Steve Ballmer ที่รับช่วงต่อจาก Bill Gates และทำให้ไมโครซอฟท์มีรายได้เติบโตขึ้นถึง 3 เท่า (เหมือน Cook ทำได้กับแอปเปิล) แต่กลับทำให้ไมโครซอฟท์สูญเสียโอกาสครอบครองตลาดซอฟต์แวร์ด้านต่างๆ ไป
ที่มา - South China Morning Post
Comments
ที่จริงก็ไม่เคยคาดหวังอะไรใหม่ๆในตัวป้าติ๋มมาตั้งแรก เพราะแกมาจากสายการตลาด แต่ที่แอบหวังเอาไว้เสมอก็คือหวังจะเห็นโปรเจกต์เก่าๆที่ลุงจ็อบทำค้างไว้แต่ยังไม่สำเร็จ หวังว่ามันจะยังมีอะไรเจ๋งๆหลงเหลืออยู่บ้าง แต่หลายปีที่รอคอยมา ก็ผิดหวังมาตลอด แม้กระทั่ง เรือที่ทำค้างไว้ ก็ไม่เห็นมีใครสานต่อ
ขออนุญาตนอกเรื่องครับ เรียก คุณทิม หรือ ทิม เฉยๆ น่าจะเหมาะสมกว่ารึเปล่าครับ
ก็อาจจะเหมาะกว่าครับ แต่ผมชอบแบบนี้ ขอบคุณครับ
ทิมคุกอาจจะไม่ได้ชอบแบบนี้ครับ และหลายๆคนก็อาจจะไม่ชอบเช่นกันครับ
ขออภัยเม้นท์ผิดครับ
For your information นะครับ คำว่า "ป้าติ๋ม" เข้าข่ายเหยียดเพศและพื้นที่บนบล็อคนัน intolerant ต่อการใช้คำเหยียดคนอื่นในลักษณะนี้นะครับ
เกย์คุยกัน ผู้ชาย/เพศที่สาม เรียกนางเรียกป้ากันเป็นปกติ
คนคุยกันก็คงรู้จักกันในระดับนึงพอที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายยินดีให้เรียกว่าอะไรนะครับ เจอหน้ากันครั้งแรกก็คงไม่เรียกป้าหรอกมั้ง? (ถ้าเรียกก็เสียมารยาทเต็มที)
ในที่นี้ทิม คุกไม่ได้มารับรู้ว่าเราเรียกเขาว่าอะไร และไม่ได้มาอนุญาตให้เรียก ก็ควรเรียกอย่างสุภาพตามสากลนะครับ
มันก็ไม่ได้ลบล้างการเป็นคำที่เหยียดเพศครับ
เพียงแต่ว่าการที่พวกเขาคุยกัน มันอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขา มันก็มีเป็นกฎร่วมของพวกเขาในพื้นที่นั้นครับ ว่าจะไม่จริงจังกับคำเหยียด รับได้ เป็นต้น
แต่เมื่อใช้คำนั้นในที่สาธารณะ ที่มันมีระเบียบแบบแผนร่วม มันจะเป็นอีกกรณีเลยครับ
จะได้เข้าใจให้ชัดเจน ในแต่ละสังคมมีสิ่งที่สามารถที่จะยอมและไม่ยอมรับแตกต่างกันไป สังคมที่คุณยกตัวอย่างอาจจะเป็นเรื่องปกติก็จริงไม่มีใครว่าครับ แต่ในพื้นที่ของ blognone ทางผู้ก่อตั้งได้เคยชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า คำพูดในเชิงเหยียดเพศผิวชาติพันธุ์อะไรก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์และไม่เป็นที่ต้องการในพื้นที่แห่งนี้นะครับ
+100
น่าจะบินเร็วๆ นี้
ปล. คำพูดลักษณะนี้จริงๆ ผิดกฎของที่นี่นะครับ
มารยาทคุณแย่มาก
โดนลบaccountไปละ
ผมชอบ blognone ก้เพราะแบบนี้เลย
มีทีมแอดมินที่เข้มแข็งมาก เป็นเว็บบอร์ดเดียวที่อ่านคอมเม้นท์แล้วได้สาระ
+1
อ่านข่าวแล้วตามอ่านคอมเม้นต์ นี่ได้ความรู้เพิ่มจริงๆครับ +1
จริงๆ Cook มาจากสาย Operations นะครับ ไม่แน่ใจว่าการทำงานเลยเน้นที่ผลลัพธ์เป็นตัวเลข หรือเงินเป็นสำคัญหรือเปล่า เลยขาดสปิริตเดิมๆ
ปล. ตั้ง remarks แบบนี้ เป็น sexism ไหมครับ จริงๆ เห็นใน blognone คุยเรื่องนี้กันมาหลายรอบแล้ว ก็เหมือนจะเห็นว่าไม่เหมาะสม
เปลี่ยนจากไม้โท เป็นไม้ตรี ก็น่าจะน่ารักนะครับ เป็น ป๊า ฟังดูน่าเคารพเพิ่มขึ้นเยอะ
รูปแบบการบริหารของ Apple มันออกแบบมาใช้งานกับ Job ไง คนอื่นที่ไม่เคยบริหารแบบนี้คงเข้าใจและใช้งานมันได้ยาก องค์กรในไทยก็มีเอามาลองใช้ แต่ก็ดูเหมือนมันไม่ได้ผลนะ
เพิ่งย้อนไปอ่านยุคที่ Tony Fadell ทำไอพอดอีกรอบ กับตอนตั้งทีมทำ iPhone รุ่นแรก กับข่าวคนใน Apple เริ่มไหลออกไป Tesla ก็คิดว่าจริงแหละ คนที่กระตือรือร้นจริงๆ พอมาอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรแบบ Tim Cook คงหมดไฟ อยากเปลี่ยนที่ทำงาน
คน พิเศษ กับ คนเก่ง ช่องว่างห่างกันราวฟ้ากับดิน
ดราม่าอะไรกันหว่า
"ทำให้เขารู้สึกว่า การทำงานในแอปเปิลในช่วงมัน" => ช่วงมัน?
เข้าใจว่าระบบของ Jobs คือการเอาโจทย์เป็นที่ตั้ง...ใครแก้ได้ก็เสนอไอเดียมา...งานไม่เป็นระบบ...แต่ผลลัพธ์ก้าวกระโดด
แต่ของ Cook ระบบคือการแบ่งหน้าที่...งานใครงานมัน...บริหารงานเป็นระบบ...ผลลัพธ์ตามเป้า...เลยน่าเบื่อ
ฮาลายเซ็นต์ครับ 555555
วัฒนธรรมองค์ ?
x
เอาง่ายๆ ตอนนี้ผมยอมไปซื้อ Macbook Air ดีกว่าเสียงตังซื้อ Macbook หรือ Macbook pro ซึ่งออกProduct ไม่ตอบโจทย์ผมเลยสักนิด คือรอบจน Pro ออก หมดความหวัง เดินเข้า Store ซื้อ Air ทันที คิดง่ายๆเลยครับ Product 2-3 รุ่นนี้มาจากคนละยุคอย่างชัดเจน ผมยังยอมไปซื้อของเก่าที่ออกมานานแล้ว เพราะตอบโจทย์ผมมากกว่าเยอะ
ผมซื้อ rMBP 15" Mid 2015 หลังเปิดตัว ตัวใหม่ได้สามวัน จนวันนี้ยังคิดว่าตัดสินใจไม่ผิด
คิดเหมือนกันเลย อยากได้จอ 15 + มีปุ่มฟังก์ชัน
ผมคิดต่างนะ ผมว่าผมกำตังไปซื้อ Windows 10 Notebook ดีกว่า RazorBlade เอย XPS เอย ผมว่าไม่ต่างมากแต่คุ้มกว่า ...ยกเว้นจะเอาไป Develop iOS นะ
แปลกนะ สำหรับผม macbook air ไม่ตอบโจทย์ครับ แต่ macbook ตอบโจทย์ผมมากกว่า
เครื่องแต่ละรุ่น มันก็ทำมาตอบโจทย์คนละอย่างกัน
Macbook สำหรับผมคือพกพาง่ายมาก และจอ retina ส่วนความเร็วผมว่าพอใช้ได้ สำหรับงานทั่วไปและ programming
เคยคิดจะซื้อเหมือนกัน แต่ติดตรงคีย์บอร์ดนี่แหละ ไม่ชอบอย่างแรง ลองพิมพ์ไปซักพักเมื่อยนิ้วเพราะมัน flat ยังไงไม่รู้แฮะ
วันก่อนไปลองคีย์บอร์ดรุ่นใหม่มา รุ่นนี้นี่พิมพ์มันส์ดีนะ (มีระยะกดเพิ่มมานิดนึง แต่พิมพ์แล้วแน่นๆ มันส์มือดี) เสียดายไม่มีจอ 15 + ปุ่มฟังก์ชัน
เป็นระเบียบเกินไปก็ขัดขวางทีมเวิร์คสินะ
ผมว่าเรื่อง creativity ปัญหาหนักกว่าอีกครับ
หรือนี่จะเป็นสัญญาณของการ...
ผมเกือบจะเผลอเรียก ป้า ไปแล้วสิ... เอาเป็นว่าในยุคคุณทิมในมุมมองของผม ทำให้แอปเปิ้ลรู้สึกแตกต่างออกไปจากคอนเส็ปต์เดิม คือเจ้า Apple watch นี่แหล่ะ design แบบว่าไม่มีแรงจูงใจให้ซื้อเลย
เหมือนจิตวิญญานตอนนี้มันขาดความเด็ดเดี่ยวความขบถความทะเยอทะยานและความเผด็จการไป
+1
ขาดเสาหลักก็แบบนี้แหละ
ผมว่ามันไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไรแล้วนะ Apple ตอนนี้ iPhone ก็เหมือนเดิม ๆ iOS ก็เดิม ๆ อาจจะมีการปรับแต่งจุดเล็กน้อยบ้างแต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น Siri ก็เหมือนเดิม Macbook Pro แย่กว่าเดิม (จริง ๆ ถ้าไม่ได้ตัดปุ่ม function ออกไปแต่เลือกที่จะเพิ่มแถบ touch มาอย่างเดียวน่าจะดีกว่านี้) OSX ก็เหมือนโดนลดความสำคัญ iWork ก็เหมือนหยุดการพัฒนาไปและยังเข้ากันไม่ได้กับ MS Office เหมือนเดิม ส่วน software ด้าน multimedia ต่าง ๆ ผมไม่ค่อยมีความรู้แต่เท่าที่อ่านจากคนอื่นมาก็เหมือนจะมองว่าไม่ได้มีอะไรเหนือกว่าของ Windows เท่าไรแล้ว
ยังรอคอยที่จะว้าวอะไรสักอย่างจาก Apple อยู่เหมือนกันแต่เท่าที่เห็นไม่น่าจะมี
That is the way things are.
ตั้งแต่ยุคพี่ทิม ผมรู้สึกได้คำเดียวคือ "กินบุญเก่า" ล้วนๆ
จากองค์กรวัยรุ่น สู่องค์กรวัยกลางคนซินะ
อันที่จริง ถ้าในแง่การทำงานผมว่า ทิม คุก ทำถูกนะที่แบ่งงานและไม่ก้าวก่ายกันแต่มันก็คือรูปแบบเดียวกับราชการนั่นล่ะ ส่วนของ Jobs ถ้าคนมีไฟก็คงชอบไปเลย ถ้าไม่ชอบก็ว่าแย่ไปเลย คือมันลูกทุ่งน่ะ
อย่างไรก็ตาม ผมว่าบริษัทใหญ่โตมาขนาดนี้ถ้ายังจะลูกทุ่งอยู่คงไม่ดีในระยะยาวแน่ๆครับ
งวดนี้ต้องไปตามใครกลับมาดีล่ะ Steve Wozniak?
มีระเบียบมากไป ในระยะยาวจะขาด creativity และจะไม่มีผลงานระดับ innovation ออกมานะสิครับ อันนี้ผมว่าแย่แน่ องค์กรใหญ่ๆ เป็นแบบนี้ทั้งนั้นเลย
เห็นด้วยครับ Job เองก็อยู่นานจนพิสูจน์แล้วว่าการทำงานแบบของเดิมมันสร้างอะไรได้มากมายมาแล้ว
ผมว่าแม้แต่ในยุค Job เองก็มีจังหวะที่แต่ละฝ่ายไม่ก้าวก่ายกันอยู่ แต่ไม่ได้ตลอดเวลา เวลาลุยโปรเจคก็ลุยแบบไม่สนแผนก ขอให้ Project มันเยี่ยมและขายได้พร้อมๆกัน
เห็นด้วยครับผมว่าบริษัทไอทียุคใหม่เข้าใจถึงข้อนี้ดีเลยพยายามพากันลดลำดับชั้นในองค์กรเพื่อตัดปัญหาที่มาจากโครงสร้างในยุคเก่าออกให้มากที่สุด
ความเป็นระบบระเบียบ หลายครั้งจะไปปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วมในการสร้างผลงานครับ เพราะวัฒนธรรมของ Apple คือการสร้างสิ่งที่ใหม่ ไม่ใช่เลียนแบบสิ่งที่มีแล้ว
แต่การทำให้ทุกอย่างมีโครงสร้าง Apple จะกลายเป็นผู้ตามทันที ลองยกตัวอย่าง Microsoft ก็ได้ครับ โครงสร้างมีระบบ และโครงสร้างที่ดีมาก แต่ก็สูญเสียความเร็วในการพัฒนานวัตกรรมให้เป็นผลงานจริง จนมี Surface กับ Xbox ที่แหกกฏโครงสร้างขึ้นมาและ Microsoft พลิกขึ้นมาบนตลาดเกมส์ และ Convertible ได้
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง Apple ก็จะไม่แตกต่างจากบริษัทอื่นแล้วล่ะ innovation คงหวังได้ยาก