ปัญหาแบรนด์ใหญ่ๆ แสดงความไม่พอใจที่ YouTube นำโฆษณาไปแสดงบนวิดีโอที่เนื้อหารุนแรงกำลังทำให้จนกระทั่งเริ่มกระทบต่อรายได้ ตอนนี้ YouTube ก็ออกมาตรการเบื้องต้นด้วยการปิดโฆษณาสำหรับช่องวิดีโอที่มียอดชมรวมน้อยกว่า 10,000 วิว
ก่อนหน้านี้กระบวนการแสดงโฆษณาเป็นระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด ซอฟต์แวร์ของ YouTube จะเลือกให้เองว่าจะแสดงโฆษณาใดบนวิดีโอใดบ้าง การสร้างข้อกำหนดช่องที่ต้องมี 10,000 วิวจะจำกัดวิดิโอที่ได้รับโฆษณาลง และในอนาคตกระบวนการรีวิววิดิโอด้วยคนหรือซอฟต์แวร์ที่วิเคราะห์ระดับลึกได้ก็น่าจะง่ายลงมาก
ที่มา - TechCrunch
Comments
555 แก้ได้ถูกจุดมาก
ไม่ยอมรีวิววิดีโอแต่จำกัดแทน สุดยอด
ด้วยปริมาณวิดิโอที่เข้าไปไม่หยุด ถ้าจะรีวิวก็ต้องจำกัดอยู่ดีนี่ครับ?
lewcpe.com, @wasonliw
ก็จริงเนอะ ลืมนึกไป
นั่งแบน VDO ก็เหนื่อยน่ะ บาง VDO อาจจะยาวมาก ไม่รู้ ความรุนแรงจะออกมาตอนนาทีไหน ถึงรับแบนเฉพาะที่มีคนแจ้ง ก็เพียบเหมือนกันวนไปนั่งดูเหมือนเดิม
จากข้อมูลที่ทางนั้นมีวิดีโอประเภทมีความรุนแรงส่วนใหญ่อาจจะอยู่ที่ต่ำกว่า 10000 วิวก็เป็นไปได้นะครับ
แล้วคุณจะพิสูจน์สมมติฐานนี้ได้อย่างไร 5555+
ผมว่าเขาฉลาดมากที่แก้บัญหาด้วยสถิติซึ่ง...ฟรี ถ้าแก้ด้วย algorithm ต้องลงทุนกันหมื่นล้านแสนล้าน
คิดว่าสุดท้ายก็อาจจะต้องทำ แต่อันนี้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เร่งด่วนไปก่อน
น่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านะครับ :)
ให้คนดูใน 10,000 วิวแรกนี่แหละช่วย มีโอกาสที่จะได้รับรายงานความไม่เหมาะสมต่างๆ ในช่วงแรก ก่อนที่จะเริ่มแสดงโฆษณา
ลูกค้าก็ปัญญาอ่อน เอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ
???????
มันกระทบภาพลักษณ์สินค้าครับ
หือ เจ้าของเงินไม่มีสิทธิกำหนดได้หรือครับว่าฉันอยากให้สินค้าฉันแสดงที่ไหน Brand มีมูลค่ากว่าเงินที่ลงไปเยอะ หาก Brand เสียหายต้องใช้เงินอีกกี่เท่าเพื่อให้กลับมาอยู่ที่เดิม ผมว่าเขาก็ทำหน้าที่ของเขา เมื่อลูกค้าร้องขอ หน้าที่ของเจ้าของสินค้าก็ต้องหาวิธีแก้ไขเพื่อดึงลูกค้ากลับก็เท่านั้น เพียงแต่ก่อนนี้อาจเคยต่อรองกันแล้วแต่ Google คงไม่ยอม ก็เลยรวมตัวกัน ก็เป็นเรื่องปกติของธุรกิจเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง
อยู่ๆมีคนเอาชื่อคุณไปใส่เป็นบุคคลที่ให้การสนับสนุนแนวคิดก่อการร้าย รับได้หรือครับ?
คิดแบบนี้แนะนำว่าอย่าทำธุรกิจนะครับ
ปิดเทอมแล้วเหรอครับ ดูท่าจะว่างมาก
ไม่บอกก็รู้ว่ายังเรียนมัธยมอยู่
ต้องคิดให้กว้างและลึกขึ้นกว่านี้หน่อยนะครับ
เป็นคอมเม้นที่ปัญญาอ่อนมาก ตั้งแต่อ่านเว็บนี้มา
เนื้อข่าวผิดนิดนึงครับ ต้นฉบับบอกว่า "will not allow ads on channels that have fewer than 10,000 views total" หมายถึงยอดวิวรวมทั้งช่องครับ
ต้นฉบับ
YouTube is taking measures to help ensure its user-generated content doesn’t end up positioning ads by big brands next to questionable content. The social network will not allow ads on channels that have fewer than 10,000 views total
ไปอ่านใน wsj ก็ตามนี้เลยครับ รบกวนแก้ไขด้วยนะครับ ความหมายผิดไปเยอะเลย
YouTube said Thursday that video channels on its site must now have more than 10,000 total views before the company will place ads on their videos
ที่เว็บ online-station ก้ลงข่าวนี้ครับ เขาเป็น MCN ผมว่าน่าจะน่าเชื่อถือที่สุดแล้วครับ
http://www.online-station.net/news/it/266
"สำหรับนโยบายใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แชนเนลใดก็ตามที่มียอดวิวรวมจากคลิปที่มีอยู่ในช่องต่ำกว่า 10,000 วิว (รวมถึงแชนเนลที่มีสังกัดกับ MCN) จะไม่เห็นโฆษณาขึ้นบนคลิปของแชนเนลนั้นๆ และถึงแม้ว่าจะกดเปิดรับรายได้ก็จะไม่ได้รับเงิน กระทั่งเมื่อไหร่ก็ตามที่แชนเนลนั้นมียอดวิวรวมของคลิปที่มีอยู่ในช่องเกินตามที่กำหนด จึงจะได้รับการประเมินจากทาง YouTube โดยอัตโนมัติ"
ผมว่าเรียงประโยคงงๆ ครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เม้นท์นี้เขียนคำแนะนำนี้มา เลยขออนุญาตฟีดแบคต่อเลยล่ะกัน
สำนวนการเขียนข่าวของคุณ lew ส่วนใหญ่ผมอ่านแล้วงงหลายข่าวมากเลยครับ คืออ่านแล้ว ผมต้องมาแปลงและเรียบเรียงอีกที ประมาณว่ามีการใช้คำและเรียงคำพูดที่ดูสับสนน่ะครับ
แต่ของคุณ mk โอเคเลยครับ อ่านง่าย เรียบเรียงประโยคได้ดี ชอบๆ
ถ้าคุณ lew อ่านเจอ อยากให้ปรับปรุงจุดนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
ปล. ติเพื่อก่อนะครับ มิได้มีเจตนาอื่นใด หากผิดพลาดส่วนใด ขออภัยล่วงหน้าครับ
ควอนตัม + ai + recognition
ว่าทำไม google เน้นเรื่องนี้จริงๆ จะมาเอา filter video นี้เอง เสียดายลูกค้าใจร้อนไปหน่อย เสร็จไม่ทัน
เรื่องแบบนี้ผมว่าใช้คำว่าใจร้อนคงไม่เหมาะครับเพราะเป็นเรื่องที่ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด ผลลบที่เกิดขึ้นภาพลักษณ์ที่เสียไป มันต้องใช้เวลานานกว่าจะกู้คืนมาได้
เข้าไปอ่านของ Google แจ้งว่านับจาก ยอดชมรวมของทั้งช่องถึง 10k โดยดูจาก lifetime views
https://youtube-creators.googleblog.com/2017/04/introducing-expanded-youtube-partner.html
ฟู่ ... รอด แต่ FB นี่แหละ คู่แข่ง YT ที่น่ากลัวสุดละ
my blog
คงจะได้เห็นวิดีโอแนวหลอกให้คลิกให้ชมมากขึ้น พวกใช้ภาพตัวอย่างหลอกๆก็คงจะเยอะขึ้น