หลังจากสทช. แถลงข่าวการปิดเว็บไซต์กว่า 6,000 เว็บไซต์ในวันนี้ พร้อมกับระบุถึงเฟซบุ๊กโดยตรงว่าไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ล่าสุดเฟซบุ๊กก็แจ้งกับคุณสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ว่าทางเฟซบุ๊กได้รับหมายศาลในคดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (ตามพ.ร.บ. ฉบับ 2550 ไม่ใช่ฉบับใหม่) ระบุถึงโพสหนึ่งของคุณสมศักดิ์ว่าผิดกฎหมายไทย
คุณสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นหนึ่งในสามบุคคลที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมออกประกาศขอให้ประชาชนทั่วไปเลิกติดตาม
ทางเฟซบุ๊กระบุกับคุณสมศักดิ์ว่าหมายศาลที่ได้รับออกโดยผู้พิพากษาทรรศนีย์ ลีลาพร และผู้พิพากษาสมยศ กอไพศาล แต่ไม่ได้แสดงข้อมูลอื่นใดอีก เช่นตัวหมายศาลฉบับเต็มหรือหมายเลขเอกสารอื่นๆ ในจดหมายไม่ได้บอกมาตรการเฟซบุ๊กต่อหมายศาลนี้ตรงๆ แต่ตอนนี้โพสในจดหมายก็เข้าถึงจากประเทศไทยไม่ได้แล้ว และแนะนำให้คุณสมศักดิ์ติดต่อกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือศาลอาญาของไทยโดยตรง
หมายเหตุ: เนื่องจากที่มามีข้อมูลอื่นนอกประเด็นพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่อาจจะสุ่มเสี่ยง จึงขอละที่มาข่าวนี้เอาไว้
Comments
ติดตามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง = ติดคุก
เป็นเรื่องธรรมดาของระบอบประชาธิปไทย
คำใหม่!!
อันนี้ประชดประชันหรือเมาหรือเปล่าครับ
ผมตามไม่ทัน
การกดติดตามหรือกด Like ไม่ติดคุกแน่นอนครับ เป็นเพียงแค่คำขู่จากรัฐบาลทหาร แต่การ comment หรือแชร์ มีความสุ่มเสี่ยงครับ ไม่ใช่ถือว่าผิดซะทีเดียว ขึ้นอยู่กับว่าผู้ต้องหาขึ้นศาลพลเรือนหรือศาลทหารด้วย
อันที่จริงแล้ว blognone ควรจะยกเลิกการนำเสนอข่าวประเภทนี้ให้หมด เพื่อความปลอดภัยของเว็บนี้และผู้ใช้เว็บนี้เอง (ยกเว้นแต่ว่าทางเว็บมั่นใจในการรักษาความ anonymous ของผู้ใช้แม้จะถูกบีบโดยศาล)
ข่าวนี้มีอะไรที่คิดว่าผิดกฎหมายไทยหรือครับ อันนี้แนะนำได้นะครับ ผมจะได้แก้ไข (ถ้าเห็นด้วย)
ส่วนผู้ใช้อื่นถ้าผมเห็นว่าคอมเมนต์ผิดกฎหมายผมก็ลบครับ ถ้าผมพลาดไปก็แจ้งได้อีก แต่ถ้าเป็นคดีขึ้นมาผมก็ต้องส่ง log ตามกระบวนการ (ซึ่งตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไม่ต้องมีหมายศาลด้วย)
lewcpe.com, @wasonliw
ไม่ใช่ว่าผิดกฏหมายหรอกครับ แต่เห็นชัดว่าเขาไม่ต้องการให้เราคุยเรื่องนี้ และเขาเอาเรื่องได้แม้ไม่มีกฏหมายรองรับ
ไม่ผิดกฎหมายครับ แต่ละเว้นเรื่องการเมืองน่าจะดีกว่าครับ ข่าวไม่เท่าไรแต่ comment นี้สิครับเสี่ยงมาก
ผมเห็นด้วยเหมือนตั้งหัวข้อให้คนแตกแยกกันด่ากันทั้งที่เป็นเว็บไอที เราควรอยู่ห่างๆ ของพวกนี้ดีกว่า
นี่ก็ข่าวไอทีครับ แล้วหนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บนี้เป็นคอการเมืองระดับนักวิเคราะห์ คนในนี้หลายคนก็สนใจการเมือง การเมืองก็เกี่ยวข้องกับไอทีอย่างใกล้ชิดด้วยครับ
ไม่ต้องห่วงทั้งตัวคนเขียนข่าว / ผู้ก่อตั้ง / ตัวเว็บหรอกครับ คนเหล่านี้ตัดสินใจมาดีแล้วว่าจะทำอะไร และตระหนักรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ
บางทีความห่วงใยเหล่านี้ผมมองว่าเหมือนเป็นการดูถูกวิจารณญาณด้วยนะครับ
+1 คุณนกขาวใหญ่ครับ
+1,024K
+44
เราไม่จำเป็นต้องปิดหูปิดตาตัวเอง+คนอื่นทุกคนเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสงบนะครับ การอยู่ร่วมกันที่แท้จริงการร่วมมือ ระดมความคิดกันกำหนดบรรทัดฐานว่าสิ่งใดคือสิ่งที่รับได้ สิ่งใดรับไม่ได้ (a.k.a. กฎหมาย) จากนั้นเมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็นำข้อเท็จจริงมาเปิดเผย แล้วตัดสินกันด้วยบรรทัดฐานนั้น ไม่ใช่เกิดเรื่องอะไรก็ปิดมันไว้ หยวนๆ ปล่อยไปหมดซะทุกเรื่อง เพื่อความปรองดอง
ส่วนที่ว่าเว็บนี้เป็นข่าวไอที ข่าวนี้ก็มีประเด็นที่เกี่ยวกับวงการไอทีอยู่ไม่น้อยนะครับ นอกจากนี้ ยิ่งประชาชนเมินเฉยเรื่องการเมืองเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการเปิดช่องให้นักการเมืองทำอะไรได้ตามใจเท่านั้นครับ
ประชดใช่เปล่าครับ?
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ไปกันหมดแล้วครับแบบนี้ สื่อมีหน้าที่แสดงข้อเท็จจริงให้เป็นประจักษ์ ตราบใดที่เป็นข้อเท็จจริงย่อมไม่ผิด แต่หากตกแต่งบิดเนื้อความใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปให้เสียใจความ หรือ การพาดพิงกล่าวถึงโดยไม่มีหลักฐาน ไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน ไม่เป็นที่เชื่อถือในวงกว้าง แบบนี้ผิด งดเว้นพูดถึงการปกปิดโดยรัฐนะครับ หากมีการขอความร่วมมือมาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ตรูเขียม
เห็นด้วยครับ blognone เป็นเว็บเกี่ยวกับ IT ข่าวนี้ค่อนข้างเกี่ยวกับการเมืองมากกว่า IT ครับ และค่อนข้างทำให้เกิดความแตกแยกเห็นได้จากบาง comment ที่ค่อนข้างสุ่มเสี่ยง เพื่อความปลอดภัยของเว็บนี้และผู้ใช้ ไม่ควรลงข่าวลักษณะนี้ครับ
ผมว่ายังไงมันก็ข่าวไอทีนะ เรื่องการบล็อคเว็บไซต์เนี่ย คนที่อ่านเป็นข่าวการเมืองได้นี่ในหัวต้องมีเรื่องการเมืองเป็นหลักหรือเปล่า
ผมว่าตัวข่าวสารควรนำเสนอได้ตามปกตินะครับ
แต่เรื่องของการแสดงความคิดเห็นนั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้โพสต์เอง จะมาร้องขอความ anonymous จากเว็บนี่มันไม่แฟร์นะ
แต่เพื่อไม่ให้ทางเว็บโดนข้อหาสนับสนุน ในกรณีที่มีการแสดงความคิดเห็นที่ผิด หรือขัดต่อกฏหมาย ก็ควรมีการคัดกรอง หรือตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอด้วย
ซึ่งเว็บในรูปแบบ blognone เราผู้ใช้ก็ควรต้องตรวจสอบร่วมกันครับ
ถ้ารัฐคิดว่าข้อมูลไหนเท็จ วิธีที่ดีที่สุดคือป้อนข้อมูลจริงเข้าสู้
ไปไล่ปิดไปในยุคทองของข้อมูลข่าวสารอย่างนี้ ปิดยังไงก็ไม่หมด
บางทีเราก็ต้องยอมรับว่าความจริงก็คือความจริง แม้จะเจ็บปวด
ตอนนี้คล้ายๆ จะกลับกันครับ อันไหนจริงแต่รัฐไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจแบบนั้น รัฐก็ปล่อยข่าวเท็จ หรือข่าวลือสู้
ไม่ก็เบี่ยงประเด็น สร้างข่าวร้อนอื่นๆ แทน
welcome to north korea 2nd
ทั่วโลกเขาจะเอาคลิปหลุดไปทำข่าวก็ไม่เป็นไร ขอแค่ชาวไทยยังอยู่ในกะลาก็พอ
สร้าง Login ใหม่ก็โพสได้เหมือนเดิมปะครับ
ส่วนฝ่ายรัฐก็ทำเรื่องทางราชการ ศาลอีกรอบ
ผมเห็นใจนะ ที่หน่วยงานรัฐ
ต้องมาลำบากทำงาน เก็บกวาดตรงนี้นะ
เพราะต้นเหตของเรื่อง ไม่เคยทำตัวดีเลย
ทำแต่เรื่องประหลาดๆ ให้คนเค้าด่าตลอด
ทำตัวดีๆ ก็ไม่มีใครต้องมาลำบากแล้ว
อายุก็เยอะ พูดง่ายๆก็แก่่มากแล้ว
ไม่สำนึกตัวเลยหรือ ?
ที่พูดทั้งหมดนี้ อ.สมศักดิ์นะครับ
จะได้เข้าใจตรงกัน
+112
สะดุ้งเฮือก พอเห็นย่อหน้าสุดท้ายค่อยโล่งใจ
อยู่เป็นนะครับ คคห นี้
ผมสังเกตมานานแล้วครับ
อ.สมศักดิ์ แกจะมีปัญหาประหลาดๆ ส่วนตัว
ที่แก้ไม่หายสักที คือ เอาเรื่องส่วนตัวมาเล่น
หรือ อยู่ดีๆ ก็ลากเข้าเรื่อง.. ซึ่งบางเรื่อง ไม่เกี่ยว
หรือไม่มีหลักฐาน แกก็สรุปให้ไปทางนั้น อย่างเรื่องหมุด
โครตไม่เห็นด้วยอ่ะครับ
นักวิชาการท่านอื่น อย่าง อ.ยิ้ม
ผมไม่เห็นเค้าเป็นนะ มีประหลาดอยู่คนเดียว
คือแกไม่รู้ตัวจริงๆหรือ ว่าบางเรื่องไม่ควรเล่น
แต่มีดีอย่างหนึ่ง คือ ข้อกฏหมาย แกแม่นจริงๆ
อันนี้ยอมรับ
ปล. จะโพสกระทู้ อ.เจียม ต้องกำกับให้ดีครับ
เพราะเข้าใจไปอีกทางง่ายมากฮะ
น่าจะเพราะแกฝังใจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ 6 ต.ค. ที่แกอยู่ในเหตุการณ์ด้วยครับ
แกเลยตามจิกกัดเรื่องนี้แบบไม่ปล่อยเลย
ผมง้างมาไกลมาก ถ้าไม่อ่านบรรทัดสุดท้าย
ผมนี่ง้างไปดาวอังคารเลยครับ
เรามารวมตัวเลิกใช้ Facebook กันเถอะ จะได้ให้รู้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการช่วยเหลือรัฐบาลไทยแบบนี้
นี่ไม่ใช่การช่วยเหลือครับ นี่ผิดตัวกฎหมายชัดเจน และกฎหมายนี้ค่อนข้างจะเป็นสากลด้วย ... มันไม่ใช่ ม.112 ครับ
+1
กฎหมายสากลเรื่องอะไรเหรอครับ? หมายศาลนี้มาจากกฎหมาย lese majeste ไม่ใช่เหรอ? ถ้าใช่ ไม่ใช่กฎสากลนะ ประเทศอื่นๆ เค้าไม่ทำกัน
ขอเสียมารยาทด้วยการก็อปแปะนะครับ
ส่วนที่เหลือถ้าจะตีความให้เป็น lese majeste ก็คงพอกล้อมแกล้มได้ แต่เนื้อหาสาระของตัวบทมันไม่ใช่ครับ
Interpretation มันกว้างนะครับ
เอาเป็นว่ามันไม่ใช่ ม.112 ครับ และตัวบทกฎหมายแบบนี้ก็เป็นสากลทุกประเทศก็น่าจะมีพรบ.คอมที่เกี่ยวกับความมั่นคงทั้งหมด ส่วนการบังคับใช้และแนวทางการพิจารณาคงเป็นอีกเรื่อง อย่าจับมาปนกันครับ
จะไม่พอใจตัวม.112 ก็ได้ครับ แต่อย่าเอามาปนกันเพราะเห็นว่าโพสต์ที่โดนบล็อกมันเกี่ยวกับบุคคลใด แล้วก็โมโหแบบรวมๆ
สมศักดิ์ เจียมฯ แกเป็นพวกแอนตี้เจ้ามานานแล้วไม่แปลกที่แกจะโดน ม.112 แกหมกหมุ่นสนใจเรื่องเจ้ามานาน ศึกษาจากหลักฐานบ้างมโนเอาเองบ้าง ที่ผ่านมาแกมักจะฟันธงเรื่องที่ว่า ร.8 สวรรคตเพราะอะไร.... ไม่รูู้้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่ที่แน่ๆแกเป็นแฟนคลับ อ.ปรีดีย์ แกคงจะไม่พอใจอย่างมากที่ อ.ปรีดีย์ถูกใส่ร้ายในเรื่องนี้ นี่อาจจะทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แกแอนตี้เจ้าอยู่เรื่อยๆ
ปัจจุบันนี้แกก็โพสโจมตี ร.10 รัวๆ
เท่าที่ดูผ่านๆ SJ แกก็ไม่เคยมโนอะไรเองนะครับ แกอ้างอิงหลักฐานตลอด วิเคราะห์จากหลักฐานที่แกมีอยู่ แกชอบถกปัญหาและโต้แย้งคนที่มาโต้แกด้วยเหตุด้วยผลนะครับ
การเอาหลักฐานเอาหลักการมาโต้แย้ง มาถกเถียงกัน ผมว่าทำให้โลกเราพัฒนาไปข้างหน้านะครับ ถามมัวแต่เงียบๆห้ามพูดห้ามตอบ หากว่ามีปัญหาก็เก็บปัญหาไว้ใต้พรม ปัญหาก็ไม่ถูกแก้และบางทีก็บานปลายไปใหญ่โต
ผมว่าหลายๆอย่างแกก็ใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรมทั้งที่หลักฐานอ่อนมากๆหรืออาจจะมโนด้วยซ้ำ
ผมอยากจะให้ อ.สมเจียมฯให้เสนอด้านดีๆของในหลวงที่ให้ผลต่อปวงชนชาวไทยบ้างแต่ ดูเหมือนแกมุ่งโจมตีดิสเครดิตลูกเดียว
ทุกครั้งที่สจ.ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ผมเห็นเขาก็ระบุตลอดนะครับว่าคาดเดาหรือวิเคราะห์เอาเอง
และว่ากันตามตรงผมเห็นสจ.ไม่เคยใส่ร้ายอะไรเลย เขารายงานตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นครับเวลาจะโพสอะไรที่เป็นด้านลบจะมีหลักฐานประกอบตลอด
ไม่เคยใส่ร้าย ???
รายงานตามความเป็นจริง ???
คุณเชื่อหลักฐานที่สมเจียมยกมานั้นจริงแท้ล้วน ไม่มีเสริมแต่งปลอมแปลงจากอคติอย่างนั้นเชียวหรอ ?
ถ้าไม่เชื่อก็เอาหลักฐานมาหักล้างกัน พิสูจน์กันได้ครับ จะได้เป็นที่ยอมรับกัน
ถ้าใช้กำลังปิดก็จะยิ่งกลายเป็นการสนับสนุนอีกฝ่ายเปล่า ๆ ซึ่งจริง ๆ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้นะ
มีคนยกหลักฐานอีกด้านมาแย้งอยู่เรื่อยๆครับ โดยเฉพาะเรื่องปี 2489 แต่สมเจียมก็ไม่สนใจเอามาพิจารณา
คนอ่านมีสิทธิจะพิจารณาและนำพาเองได้ครับ ถึงบาโฟแกจะเชื่อหรือไม่เชื่อหลักฐานไหน แต่คนอ่านก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามแกไปหมดเหมือนกันนะครับ
เรื่อง 2489 รู้ได้ยังไงครับว่าสจ.ไม่เอามาพิจารณา
ผมเห็นว่าแกเคยพูดถึงเรื่องนี้อย่างเป็นเหตุเป็นผลมาหลายรอบมาก
อย่างไรก็ตามผมคิดว่าคนรับสารสามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อหรือเชื่อแค่บางส่วนครับ
.
เป็นเหตุเป็นผลหรืออ้างหลักฐานจับแพะชนแกะกันแน่
ดูแล้วน่าจะเป็นแฟนบอยเจียมใช้ได้ :D
ต้องคิดให้ดีนะครับ ว่าเขารับฟังคนอื่น หรือเรื่องราวของคนอื่นที่คุณกล่าวถึงมันไม่มีค่าพอที่จะสนใจ
อย่ากล่าวโดยที่ยังไม่เห็น ลองไปค้นสิ่งนั้นในเพจเจียม แล้วคุณจะรู้นั้นมีค่าพอที่สนใจหรือไม่
ถ้าคุณติตามอ่านทุกอันแล้วมันไม่น่าสนใจผมก็เข้าใจได้ครับ
ผมคิดว่าเจ้าของโพสต์ข่าวนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึงปฏิกิริยาของเฟซบุ๊คต่อการร้องขอหรือสกัดกั้นข้อมูลของรัฐบาล ถ้าเปลี่ยนเป็นรัฐบาลประเทศอื่นในเรื่องอื่น ก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาในการโพสต์ในนี้
ส่วนโพสต์ของคุณสมศักดิ์ (รวมถึงคุณแอนดรูว์ ม. มาร์แชล และคุณปวิณ) จะเชื่อหรือไม่ ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคลครับ
ข่าวที่คุณ Lew นำเสนอ เป็น Fact เฉยๆนะ ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร หรือวิจารณ์อะไร
คนที่ Comment มากกว่าที่ควรจะระวัง
เห็นด้วยครับ
ตัวข่าวเหมาะสมแล้ว แต่commentบางอันนี้สุ่มเสี่ยง
จากเม้นบนๆ ที่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการโพสข่าวนี้บนเว็บนี้ โดยส่วนตัวผมคิดว่า มันก็เป็นนโยบายของเว็บนี้อยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่ถูกใจหรือถูกจริตในการเสพข่าวเหล่านี้ เราไม่สามารถบังคับใครได้ แต่เรามีวิธีเลี่ยงได้คือ
1. ไม่เสพข่าวที่เกี่ยวกับการเมืองบนเว็บ IT (รวมทั้งการอ่านคอมเม้น)
2. ไปอ่านข่าวจากเว็บอื่น
สรุป แบนเฉพาะโพสต์ที่มีปัญหาเองครับ
อยากให้เพิ่ม [การเมือง] และ tag การเมือง ในหัวข้อด้วยครับ คนไม่สนใจจะได้ข้ามไป
จริงๆมันไม่เกี่ยวกับการเมือง อะไรเลยนะครับ เนื้อหาข่าวมีแค่
"fb บล๊อกโพสของ member ท่านนึงให้ไม่สามารถเข้าดูจากประเทศไทยได้"
แค่นั้นเอง
เนื้อหาดูแล้วเกี่ยวเนื่องกับข่าวก่อนด้วยซ้ำที่ กสทช. ไล่ปิดเว็บไปหลายพันเว็บแต่บอกว่า fb ไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน เพียงแต่ member ท่านนั้นเป็นคนดังที่มีจุดเด่นเรื่องอย่างว่า คนอ่านบางคนเลยพาลไปว่าเป็นข่าวอย่างว่า แต่จริงๆแล้วข่าวเสนอเพียงเรื่องการปฏิบัติตาม กฎหมายไทยของ fb เท่านั้น
บางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่า คนที่บอกว่าไม่สนใจการเมือง มีวิธีคิดกับการดำเนินชีวิตเป็นแบบไหน ทั้งๆ ที่เรื่องการเมืองนี่แหละส่งผลต่อการดำเนินชีวิตไม่ทางตรงก็ทางอ้อมแท้ๆ
+1
บางคนเลือกที่จะมองข้าม...ซุกปัญหาไว้ใต้พรม...โรยหน้าด้วยผักชี
ยิ่งเรื่องแบบนี้ควรจะวิจารณ์ได้ แต่เรากลับต้องมาหลบๆซ่อนๆคุยกัน
ขอตอบในฐานะคนที่ไม่สนใจการเมืองนะครับ
ก็ดำเนินชีวิตปกติ เช่นตื่นเช้ามาทำงาน กลางวันหาอะไรกิน เลิกงานกลับบ้าน เวลาว่างก็ดูหนังฟังเพลงเล่นเกมตามสมควร สิ้นเดือนรับเงินเดือน ก็ประมาณนี้อ่ะครับการใช้ชีวิต เน้นโฟกัสการทำชีวิตตัวเองให้ดีมากกว่าอ่ะครับ คิดดี ทำดี แค่นั้นพอครับ แต่ไม่บังคับให้คนอื่นทำดี(ในแบบที่เราคิด) ผมเชื่อว่าสังคมมันจะดีได้ต้องเริ่มจากตัวเราครับไม่ใช่ด่าคนอื่นที่ทำไม่ดี
ส่วนวิธีคิดผมมองว่า หน้าที่การงานผมไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรทางการเมืองได้ด้วยตัวคนเดียว การรับรู้ข่าวสารก็รับรู้ตามสมควร แต่ไม่ได้ "อิน" กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องการเมืองยอมรับว่าส่งผลต่อการดำเนินชีวิต (สำหรับผมทางอ้อม) แต่การเอาตัวเข้าไปไฝว้กับคนอื่นโดยไม่จำเป็นนี่ส่งผลทางตรงและไม่เกิดประโยชน์อันใดกับการดำเนินชีวิตเลยอ่ะครับ อย่างน้อยถ้าเรามีอคติแค่นี้ก็หัวร้อนเป็นทุกข์แล้วอ่ะครับ ขนาดเค้ายังไม่ได้ทำที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับตัวเราเลย
การสนใจการเมืองผมมองว่ามันทำให้เรามีเรื่องทะเลาะกับคนอื่นมากขึ้นน่ะครับ จากลูกชายผู้มีพ่อที่โคตรอินกับการเมือง เห็นวัน ๆ หัวร้อนกับเรื่องคนนู้นคนนี้แล้วไม่เกิดประโยชน์อันใดกับหน้าที่การงานเลยบางวันชวนคนในบ้านทะเลาะด้วยหาว่าไม่ร่วมมือทั้งที่ในบ้านก็ปลงแบบผมไม่ยุ่งการเมืองแต่ก็ไม่วายโดนด่าจนได้
ความหมายของเขาอาจจะหมายความว่า การเมืองมันอยู่ในชีวิตของเราเป็นปกติอยู่แล้วครับ ทุกครั้งที่คุณต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่นนั่นคือมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว ทั้งที่ทำงานและที่บ้านของคุณมันมีการเมืองแทรกอยู่เสมอ
แบบนั้นไม่ต้องมีหน่วยงานอะไรก็ได้ครับ ทุกคนทำตัวให้ดี พูดแล้วก็แยกย้าย
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
แล้วมีเรื่องอะไรในชีวิตที่คนส่วนมากก็เถียงกัน แล้วคุณเลยไม่สนใจมั้ยครับ
เช่น คอมพิเตอร์ก็มีดราม่า แมค พีซี ลินนิกส์ (ลินุกซ์) วินโดวส์ มือถือก็มีแอนดรอยด์ ไอโอเอส ฯลฯ ซึ่งคนก็เอามาเถียงกันได้ทั้งหมด
คุณเลิกของเกี่ยวกับอะไรบ้างครับ อันนี้ถามแบบสงสัยจริงๆ นะ
เราเคยพยายามเปลี่ยนทัศนคติของคนอื่น แล้วเค้าก็ไม่ฟัง จนวันนึง เราอยู่ในจุดที่ ฟังได้ แต่ไม่ได้เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย คือเราถอนตัวเอง ออกจากการโต้เถียงทั้งสิ้น ในหัวมันก็ว่างเปล่า เพราะมันไม่เข้าไปทางใดๆเลย ทั้งเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
ถูกครับ นี่แหละครับที่ผมอยากชี้ให้เห็น เราสนใจ แต่เราไม่ต้องโต้เถียงใดๆ ก็ได้ เพราะทุกเรื่องในโลกมันเถียงกันได้หมด ถ้าจะบอกว่าไม่สนใจเพราะกลัวเถียงกัน ผมว่ามันแปลกๆ ไปหน่อย
ประเด็นที่บอกว่าทำตัวเป็นคนดี ก็ยังเถียงกันได้เลยว่าดีอย่างไร ... ถ้าใช้ตรรกะเดิมก็คงต้องเลิกสนใจที่จะเป็นคนดีอีกแหละครับ
คือผมอยากให้ทุกคนสนใจ และใส่ใจการเมือง ทุกคนจริงๆ ครับ แต่จะไปเถียง ไปถกด้วยรึเปล่านี่ก็แล้วแต่ครับ
เสียงมันแตก และเสียงที่หายไปส่วนนึงก็จากคนที่ไม่สนใจการเมืองนี่แหละ
RDF ครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมคิดว่า เพราะเราโดนปลูกฝัง ให้เกลียดกลัวคำว่า"การเมือง" จนคิดว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี สำหรับคนไม่ดี ทั้งๆที่จริงแล้ว "การเมือง" คือสิ่งที่ใกล้ชิดเราที่สุด เพราะมันคือการบาลานซ์ผลประโยชน์ของแต่ละคนในชาติ
และคนที่บริหารประเทศ ก็คือ"นักการเมือง" ไม่ว่าจะเรียนจบรัฐศาสตร์หรือจปร. มาด้วยการเลือกตั้งหรือแต่งตั้งมา ก็คือ"นักการเมือง"
แต่นั่นแหละนะ มันบิดเบี้ยวตั้งแต่พื้่นฐาน เพราะเราไม่ได้ถูกสอนหรือชี้ให้เห็นว่า ประเทศคืออะไร ผลประโยชน์ของประเทศ และผลประโยชน์ของแต่ละคนคืออะไร แต่กลับพร่ำสอนถึงนามธรรมว่าต้องทำหน้าที่เสียสละให้ประเทศ(ของใคร?)แล้วถึงจะได้รับการประทานผลประโยชน์กลับมาเอง? ในขณะที่หลายประเทศเขาบอกว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง(บางประเทศถึงกับบอกว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะปกป้องชีวิตของตัวเองด้วยอาวุธ ไม่ใช่ยอมจำนนอย่างเดียว) และการทำหน้าที่เพื่อชาติเพื่อส่วนรวมคือการปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองไปพร้อมๆกัน ฟังดูคล้ายกัน แต่แนวคิดต่างกันอย่างสุดขั้วเลยก็ว่าได้
ปิดกั้นการเข้าถึงไปแค่โพสต์เดียว
ถ้าจารแกจะตอบโต้ด้วยการ re-post ก็จบ ไปขออำนาจส่งเรื่องมาใหม่อีกรอบ XD
ผมยังไม่เคยอ่าน term ของ facebook ดีๆ แต่ปกติพวกนี้มันก็มีมาตรการของมันอยู่นะครับ content ที่ผ่านการพิจารณารอบแรกไปแล้วว่าต้องโดนแบน รอบต่อไปน่าจะกระบวนการสั้นลง ดีไม่ดีไปโพสซ้ำๆ จะโดนเฟซบุ๊กแบนทั้งบัญชีไปได้ง่ายๆ
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าข่าวก็โอเคอยู่แล้วนะครับ เป็นข่าวสำหรับคนไอทีว่า จะต้องระวัง หรือปรับตัวยังไง ในการใช้ social media นี้ และก็ได้ดูในด้านเทคนิคว่า fb มีนโยบายบล็อคไม่ให้เข้าแค่จากบางประเทศได้
My Blog
ขออนุญาต tag #สมแล้ว