ทีมวิศวกรของ Facebook ได้อัพเดตเพิ่มเติมถึงกระบวนการจับพาดหัวข่าว Clickbait เพื่อให้แสดงผลน้อยลงใน News Feed โดยเป็นการพัฒนาต่อเนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีสิ่งสำคัญเพิ่มเติม 3 รายการดังนี้
ทีมวิศวกรของ Facebook อธิบายว่าพวกเขาได้นำพาดหัวข่าวนับแสนข่าว มาแยกหมวดหมู่จนพบรูปแบบว่าพาดหัวข่าวประเภทใดที่เข้าข่าย นั่นคือกลุ่มที่มักให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน (ตัวอย่าง: When She Looked Under Her Couch Cushions And Saw THIS...) และกลุ่มโอเวอร์เกินจริง (ตัวอย่าง: WOW! Ginger tea is the secret to everlasting youth. You’ve GOT to see this!) โดยดูจากลักษณะคำที่ใช้ในประโยค ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ระบบอีเมลใช้ดักสแปม
Facebook บอกว่าผู้ผลิตเนื้อหาที่ใช้พาดหัวข่าวแบบ Clickbait จะได้รับผลกระทบโดยตรง ส่วนเพจที่แชร์เนื้อหาประเภทนี้ก็จะถูกลดการเห็นบน News Feed จนกว่าจะลดการโพสต์ประเภทนี้ลงนั่นเอง
ที่มา: Facebook และ TechCrunch
Comments
หวังว่าจะหายไปไม่มากก็น้อย
ลาก่อนเว็บ *za ทั้งหลาย
catdumb -.-
สำหรับผม เว็บแมวไม่ clickbait นะ ยังมีความตรงไปตรงมากว่าพวกเว็บ -za
และหลังๆนี่มีความพยายามในการสร้างคอนเทนท์ และรูปแบบของตัวเองด้วย
ผม Follow เว็บนี้อยู่ ข่าวเบาสมอง พาดหัวก็ใจความครบ
clickbait ตรงไหน
ตามที่คุณ lancaster กล่าว
ผมกลางๆนะสำหรับเว็บนี้ พาดหัวให้ 7/10 แต่เนื้อหาพอไหว ส่วนมากเป็นการแปลบทความจากต่างประเทศสรุปเป็นสกู๊ปข่าวขึ้นมา หรือไม่ก็เอาวีดีโอต่างประเทศที่เป็นที่นิยมมาแปลลงเว็บ ทำเป็นบทความ สรุปเนื้อหา แล้วตามดูคลิปต่อได้เอง
น่าจะทันยุคแรกเหมือนผม catdump นี่เจ้าแรกๆ ในไทยเลยที่ทำ clickbait แบบหนักๆ ยังดีที่พอดังแล้วเลิก
ตะลึง! คุณจะไม่เชื่อเลยว่า Facebook ทำแบบนี้! แถมรอบนี้ยังเพิ่มสิ่งนี้เข้ามาอีก ยิ่งได้ฟังทีมวิศวกรอธิบายแทบจะไม่เชื่อเลย
:P
เดี๋ยวก็ไปทั้ง domain หรอกครับ 55
เป็นการ comment ได้เห็นภาพมากๆ เลย :)
แค่อ่านก็หงุดหงิดแล้วครับ ><
กำ ผมนี่ไปก็นั่งหาทีมวิศวกรอยู่นาน
ในที่สุดดดดดดด ???
ยังฮาตอนเพจจบข่าวไฟต์กับเพจ clickbait คือเหมือนเพจจบข่าวจะชนะ แต่เพจ clickbait ยังกล้าทำ clickbait ข่าวเพจตัวเองโดนชาวเน็ตด่า คือขอปรบมือให้กับความพยายาม
เพจจบข่าวจะตกงานหรือไม่!?!
+1
555
มติชน ข่าวสด ไทยรัฐ โดนบ้างเล็กน้อย
อาราบิก => อาหรับ
มติชนเชิญก่อนเลยจ้า