จากข่าว Ubuntu, SUSE, Fedora ลง Windows Store ไมโครซอฟท์ออกมาอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมว่าความสามารถนี้ใช้ไม่ได้กับ Windows 10 S แม้ว่าจะเป็น "แอพ" จาก Store ก็ตาม
เหตุผลของไมโครซอฟท์คือไม่ใช่แอพทุกตัวจาก Store ที่จะใช้งานได้กับ Windows 10 S ตัวอย่างแอพเหล่านี้คือคอมมานด์ไลน์ เชลล์ คอนโซล ซึ่งรวมถึง cmd.exe, PowerShell และ WSL ด้วย
ไมโครซอฟท์อธิบายว่า Windows 10 S ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ใช่กลุ่มเทคนิค (non-technical users) เช่น ครู นักเรียน ศิลปิน ฯลฯ ที่ไม่ต้องการปรับแต่งแก้ไขคอมพิวเตอร์ของตัวเองมากนัก แต่เน้นคอมพิวเตอร์ปลอดภัย เสถียร ทำงานได้เร็ว
ส่วนกลุ่มนักพัฒนาแอพ แอดมิน หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ไมโครซอฟท์แนะนำให้ใช้ Windows 10 ตัวปกติแทน
ที่มา - Microsoft
Comments
มีแววจะตามรุ่นพี่ Windows RT
+1
ส่วนตัวมองว่าไมโครซอฟท์มีแผนรอแล้วล่ะครับ ขนาดไปทำให้ iTunes มาลงได้นี่ ผมว่าแอปอื่นๆ (i.e. Adobe Suite) น่าจะตามมาครับ
ไม่มาหรอกมั้งครับถ้าเน้นการศึกษาจริง ขนาด shell ยังตัดออกเลย
shell นี่ศึกษาด้วยหรอครับ ผมเรียนมาไม่เคยได้ใช้
ลองเรียนสายไอทีสิครับ
สายไอที "ส่วนมาก" "ที่ผมรู้จัก" มักจะมี DreamSpark, MSDNAA อยู่แล้วนี่ครับ?
ซึ่งสายไอทีมันมีการใช้งานไม่เหมือนสายอื่นๆ จะให้ทำเหมือนกันหมดก็คงลำบากนะครับ
แต่ละสายมีการใช้งานไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับอย่างน้อยถ้าเปิด shell ได้ก็ dev ได้ 10 s มีดีที่ราคาถูกทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์โปรแกรมเมอร์ต้นทุนต่ำยังมีอีกเยอะครับในทางกลับกันถ้า 10 s เอามา dev ไม่ได้ แต่ถ้าเอามาเปิด adobe ได้นี่สิแปลก เครื่องราคาแค่ 3000-4000 บาทเปิด photoshop ก็ค้างแล้วมั้งครับ
ถ้าจะเอามาแข่งกับ Chromebook ต้องเรียกว่าต่างกันพอสมควรเพราะเดิมที่ chromebook เน้นราคาถูกใช้ web app ทั่วไป มาจนถึงยุคนี้ก็พัฒนาให้สามารถใช้ play store ได้ และเร็วๆนี้ก็กำลังเตรียมเอา android studio ลงแล้วด้วย
ต่างกันที่ผมพูดถึงคือการเข้าใช้ฟีเจอร์ครับ มันเข้าใช้ฟีเจอร์ลึกจนทำให้ dev ได้ทำฟีเจอร์ต่างๆ เองได้จนทำให้การพึ่งพาแอปผ่านสโตร์ลดลง
ผมว่าไมโครซอฟท์ต้องการทำตัวนี้มาเพื่อดัน Store นั่นแหละครับ
แล้วจะซื้อเครื่อง 3,000 - 4,000 บาทมาเปิด Photoshop ทำไมล่ะครับ?
ประเด็นคือเครื่องมืออันนั้นมันต้องใช้เฉพาะกลุ่ม การศึกษาไม่ได้มีแค่ไอที เป็นแค่ส่วนเล็กๆของการศึกษาด้วยซ้ำ ถ้าจะศึกษาจริงๆ shell ไม่พอหรอกครับ สำหรับนักศึกษาไอที
ปล. ผมเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์
ถ้างั้นคงเรียนไมเ่หมือนกันครับ อาจารย์ผมสอนเน้นการทำผ่าน command line ตลอดแรกๆก็ดูน่าเบื่อยุ่งยาก จนมีช่วงที่ต้องใช้ linux ถึงรู้ว่ามันสำคัญ อย่างที่คุณว่าแหละครับจะให้มันครอบคลุมทุกสาขาก็ไม่ได้ จริงๆอย่างน้อยเพิ่มมาอีกฟังก์ชันเดียวก็ได้ใจคนเรียนไอทีทั่วโลกแล้ว เป็นผลดีกับ MS เองด้วยซ้ำ
shell ผมไม่ได้ใช้เลยครับ เรียน software engineering จบมาแล้ว ที่มหาลัยให้ ssh เข้าไปทำใน server ของมหาลัยครับ นั่นถึงได้ใช้ command line เวลาทำงานผมก็ทำบนเครื่อง dev แทบไม่ต้องทำบนเครื่องเลยครับ ดังนั้น shell สำหรับผมบนเครื่องส่วนตัวแทบไม่จำเป็นเลยครับ
ผมเรียน Internet Studies แทบจะไม่ได้แตะ Command Prompt/Powershell เลยนะครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
แทบจะไม่ได้แตะ == there exists?
แปลว่าสุดท้ายก็มีบางสถานการณ์ที่ต้องได้ใช้อยู่ดี?
ได้ใช้ครั้งเดียว คือตอน probe ไปเว็บส่วนตัวอาจารย์ที่รวบรวมเปเปอร์ เพื่อดู DNS ว่าล่มหรือไม่ (และนั่นก็นอกเหนือจากหลักสูตร...)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
อยากเป็นมืออาชีพก็ต้องใช้เครื่องมือของมืออาชีพสิครับ
I need healing.
เรียนสายไอทีก็ไปใช้ Windows 10 สิครับ เขาไม่ได้ห้ามเลยนะ การศึกษา ไม่ได้มีแต่ IT กับสายออกแบบ. ที่ต้องใช้อะไรเต็มที่ขนาดนั้น
คำถามคือในวงการการศึกษาจำนวนมากน้อยแค่ไหนที่จำเป็นต้องใช้ shell
แค่จะเอาคอมพ์ไปพิมพ์งาน พิมพ์เลคเชอ ก็มีเยอะแยะครับ
การศึกษาก็มีตั้งหลายคณะ แพทย์ อักษร รัฐศาสตร์ มากมายครับ
นี่ว่าจะไม่พูดแล้วนะครับ แต่เห็นการเชื่อมโยงตรรกะแย่ ๆ แบบนี้แล้วต้องมาตอบ เอาง่าย ๆ เรื่องที่ท่าน nexusZanith พูดกับสิ่งที่คุณพูดมันไม่เกี่ยวหรอกครับ
แล้วคุณทราบไหมครับว่า Adobe เขา all in กับ UWP ถึงขนาดเอา Photoshop Elements, Premiere Elements ขึ้น Windows Store แล้วยังพัฒนา Adobe Experience Design ด้วยเฟรมเวิร์คของ UWP (แบบเพียว ๆ)
ฉะนั้น Adobe มีโอกาสที่จะนำ Photoshop ตัวเต็ม และซีรีส์ Creative Cloud, Document Cloud, Marketing Cloud มาลง Windows Store ได้ โซลูชั่นค่อนข้างพร้อมกว่า Chromebook (เพราะมันรันโปรแกรม x86 ได้ตามปกติทุกอย่าง ไม่ได้ emulate ซอฟต์แวร์ผ่านเซิร์ฟเวอร์แบบ Chrome OS)
จุดโฟกัสของ Windows 10 S ไม่ได้อยู่ที่นักศึกษาสายไอทีนะครับ (เพราะส่วนใหญ่ก็มีตัว Imagine อยู่แล้ว) แต่เป็นนักเรียนระดับประถมศึกษา - มัธยมศึกษา ซึ่งเป็นตลาดหลักของ Chromebook
ซึ่งข้อดีหลัก ๆ ของมันคือ ถ้าหากเคยใช้งาน Windows อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องปรับตัวเยอะ เพราะมันหน้าตาเหมือนกัน แค่มีข้อจำกัดบางอย่างแค่นั้น และไมโครซอฟท์ไม่ได้บังคับว่าจะต้องให้ลงแค่ Windows Store ถ้าหากมีปัญญาก็อัปเกรดเป็น Pro ง่าย ๆ แค่ไม่กี่คลิก
ผมว่าตอนนี้คุณกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะ defend แบรนด์ที่คุณรักอยู่ ผมเปิดใจนานแล้ว (แต่ก่อนผมไม่ชอบแอปเปิล แต่ตอนนี้ผมก็ใช้มันอยู่เหมือนกัน) แต่ตอนนี้คุณยังคงอยู่ในจุดที่เกินเลยอยู่นะครับ ลองเปิดใจ และปรับทัศนคติของคุณดูนะครับ ผมเชื่อว่าคุณหลุดออกมาได้ และคุณจะไม่ได้มองเจ้าอื่นว่าแย่ฝ่ายเดียว
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อันนี้หมายถึงอะไรอ่ะครับ?
หมายถึงว่า ปกติแล้ว ถ้าหากจะรัน x86 บน Chrome OS จะต้องใช้ VM รันครับ แต่บน Windows มันรองรับแบบเนทีฟ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมว่าไม่นะครับ เพราะมันก็แค่คอมธรรมดาเครื่องนึง แบบ Windows 10 Home มีฟีเจอร์จำกัด ใครจะใช้ฟีเจอร์ครบกว่าก็จ่ายเงินอัปเป็น 10 Pro อ่ะครับ (คอมผมก็ให้มาแค่โฮม แล้วก็อัปเป็นโปรเอา) อันนี้ก็เหมือนกันนั่นแหละครับแค่เอา 10 Home ไปตัดออกอีก ใครจะใช้ฟีเจอร์เยอะก็จ่ายอีกที
ในความเห็นผม เร็วเกินกว่าจะพูดครับ
To be fair จากประสบการณ์ส่วนตัว user หลายคนเองยังไม่เข้าใจเลยว่าอะไรคือ Command Prompt เพราะคนพวกนี้คือคนที่อิงอาศัย GUI เป็นหลัก และ Windows 10 S มันก็ตอบโจทย์กลุ่มนี้ ผมไม่คิดว่าคนกลุ่มนี้มีปัญหากับเรื่องที่จะไม่มี Command Prompt, Powershell หรือ Linux
เขาสนใจคำถามอมตะมากกว่าว่า พออัพเดตครบ 100% แล้วจะหมุนวนหรือรอไปอีกนานไหม
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมว่า RT ตายเพราะไม่มี app ครับ เครื่องมือพวกนี้ไม่ได้จำเป็นสำหรับคนทั่วไป
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แต่ว่า RT มี Command Line ให้ใช้เน้อ555
...จากคนที่ตอนนี้ Surface RT เอาไว้ใช้เป็น remote desktop เท่านั้น
มันดีไหมอ่าครับ (ถามจากคนไม่รู้จริงๆ)
ดีในจุดที่ไม่จุกจิก เน้นความปลอดภัยครับ เพราะลงแอพได้แค่ผ่านสโตร์เท่านั้น (ปลอดไป่ตู้แน่นอน)
แต่ต้องถามว่าตัวเองซื้อมาใช้ทำอะไรน่ะครับ ถ้าทำงาน เอกสารทั่วไป ตัวนี้คือพอ
คือผมว่าก็ออกมาแข่งกะโครมบุ๊คหนะหละครับ แต่ตอนเปิดโครมบุ๊คตัว
Eco GG มันเริ่มแข็งแล้วทั้งไดรฟ์ ออฟฟิศ เมลล์ เพลเยอร์(ยูทูป/โครม)
แต่ที่ดูไม่ดีเพราะ Eco system ของ W10 มันยังดูง่อนแง่น(Store)
มีแต่พวก office ที่พอมีความหวังจะได้ลงสโตร์ค่อนข้างชัวร์
ดูหนังฟังเพลงก็ดูผ่านเอดจ์/เอ็กพลอเร่อร์
อ่านเอกสารก็พอได้ ถามผมส่วนตัวถ้าใช้งานธรรมดา
W10s พร้อม(ขาดออฟฟิศ แต่พอถูไถกับเว็บแอพไปก่อนได้)
โอเค ตัดทุกอย่างไม่ว่ากัน คำถามล้านดอลลาร์คือเวลาอัพเดตแต่ละทีมันจะหมุนๆ อยู่ที่ 100% นานๆ เหมือนเดิมไหม
lewcpe.com, @wasonliw
+99%...
ถ้าตัดออกแล้วรอค่าลงให้ให้คนทำงานทั่วไปจับต้องได้ผมว่าก็โอเคนะครับ
จ่าย 3 พันอัพ License เป็น Pro ได้ไหม
ถ้าทำแบบนี้ได้มันก็โอนะ (แค่ค่าเครื่องต้องถูก)
ได้ครับ กดไม่กี่ทีก็อัพเสร็จแล้ว คุ้นๆ ว่าถูกกว่านั้นด้วยนะครับ
เหตุผลจริงๆคือกลัวคนซื้อมาใช้ linux แล้วไม่ยอมใช้ store สินะ
มันจะฟรีไหม เผื่อใครอยากประกอบคอมเองแต่อยากใช้วินโดวส์แท้แบบไม่เสียตังค์ที่ไม่ผิดลิขสิทธิ์
ไม่ฟรีครับ
ถ้าอยากได้ความสามารถโปรขนาดนั้น ก็ซื้อ Pro สิครับ เฮ้อ แปลก
คนซื้อไม่ได้ใช้
ใครใช้ก็ไม่ต้องซื้อ
ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้คอม จะอยู่ในวงการIT
สุดท้ายเป็นเรื่องของกลยุทธ์ทางราคา
ตราบเท่าที่ยังอัพเกรดได้ การมี Minimal Feature Product ก็ช่วยตลาดที่ "ไม่จำเป็นได้"
ส่วนคนที่จำเป็นก็ไป Home/Pro กันซะ
สาย windows ที่เป็น non-technical ที่ต้องใช้ CMD คือกลุ่มไหนกัน นึกไม่ออกจริงๆ
ส่วนสาย Technical เค้าน่าจะมองว่า ก็ใช้ทำงาน ใช้หาตัง ก็ควรจ่ายเพิ่มขึ้นกว่านี้
อยากรู้ว่า Surface 3 จะถอยไป Windows 10 S ได้รึเปล่าและจะทำให้เครื่องเร็วขึ้นมั้ย ช่วงนี้รู้สึกมันอืดๆขึ้น
รู้สึกจะไม่ได้นะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คุกหน้าต่างนิรภัย
ตะรางทศบัญชรคมกฤษตรีวิมล
ตะรางทศบัญชรกันตพงศ์บำรุงรักษ์
ตะรางทศบัญชรวรฤทธิ์ไวยเจียรนัย
ตะรางทศบัญชรกรุงศรีวิไลสุทินเผือก
คือทำให้เข้าใจยากไปอีกละ งานถนัด MS เลย
มหา'ลัยบางที่ใช้ Windows จาก Dreamspark ได้ทั้ง ม. เลยนะครับ //
นิสิตสาย dev ก็ MSDN` เถอะครับ แหม่