Uber รายงานผลประกอบของไตรมาสแรกปี 2017 มีรายได้ 3,400 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2016 และยังคงขาดทุนสุทธิ 708 ล้านดอลลาร์ หรือราว 24,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 991 ล้านดอลลาร์
ตัวแทนของ Uber กล่าวว่าการขาดทุนที่ลดลงเรื่อยๆ ในทุกไตรมาส สะท้อนว่า Uber จะอยู่ในหนทางที่ดีและสามารถมีกำไรได้ในอนาคต
ถึงตรงนี้อาจสงสัยว่าแต่ละไตรมาสขาดทุนขนาดนี้ทำไม Uber ยังอยู่ได้ นั่นเป็นเพราะ Uber ได้เงินจากนักลงทุนรวมแล้วถึงกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ (511,000 ล้านบาท) และตอนนี้บริษัทก็ยังมีเงินสดในมือถึง 7,200 ล้านดอลลาร์ (245,000 ล้านบาท)
นอกจากนี้ Uber ยังแจ้งว่า Gautam Gupta หัวหน้าฝ่ายการเงินของบริษัทได้ยื่นใบลาออกมีผลเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ซึ่งเป็นการออกของผู้บริหารระดับสูงใน Uber ต่อเนื่อง ตั้งแต่ หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์, ประธานบริษัท, หัวหน้าฝ่ายแผนที่, หัวหน้าฝ่ายยานยนต์ ล่าสุดคือหัวหน้าฝ่ายรถยนต์ไร้คนขับ จนทำให้ซีอีโอ Travis Kalanick ต้องประกาศหาซีโอโอมาร่วมงานด้วยนั่นเอง
ที่มา: WSJ
Comments
ตอกแรกผมอ่านแล้วก็งงว่ามีเงินสดในเมือ 7,200 ล้านดอลลาร์ มันเยอะตรงไหนเพราะขาดทุนไปตั้ง 24,000
คิดว่าน่าจะเพิ่มหน่วยบาทหลังประโยค "และตอนนี้บริษัทก็ยังมีเงินสดในมือถึง 7,200 ล้านดอลลาร์" หน่อยนะครับจะได้เปรียบเทียบง่ายขึ้น
หรือผมคนเดียวที่งง
เพิ่มเติมตามที่เสนอแนะแล้วครับ
15,000 ล้านดอลลาร์ (511,000 ล้าน
ดอลลาร์บาท)แก้ไขแล้วครับ
ยังเหลือเงินให้ถลุงอีกเท่าไหร่หว่า
ช่างดูยากจริง ๆ จะรุ่งหรือจะร่วง
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผู้บริหาร ค่อยๆออกไปทีละคน
อันนี้น่ากลัวนะครับ