เมื่อวานนี้ Uber ในไทยประกาศนโยบายการคิดค่าโดยสารแบบใหม่ โดยกำหนดมีการแจ้ง "ค่าโดยสารขั้นต่ำ" ที่ผู้โดยสารจะถูกเรียกเก็บเงินทันทีที่ขึ้นโดยสาร โดยค่าโดยสารขั้นต่ำนี้จะคำนวณตามระยะทางที่จองรถโดยสาร
Uber เรียกนโยบายนี้ว่าเป็นการแจ้งค่าโดยสารก่อนเดินทาง อย่างไรก็ดี หากรถติดกว่าที่ Uber คาด ผู้โดยสารก็สามารถถูกคิดค่าโดยสารเพิ่มเติมได้
โฆษณาของ Uber ระบุว่านโยบายเช่นนี้จะทำให้ "หมดปัญหาลุ้นค่าโดยสาร" ขณะที่ผู้ใช้จำนวนมากในหน้าประกาศออกมาแจ้งปัญหาหลายอย่างทั้งการคิดค่าโดยสารโดยไม่ได้ขึ้นรถ หรือหลายคนพบว่าค่าโดยสารแพงกว่าที่คาด
ที่มา - Facebook: Uber Thai, Uber Blog
Comments
+1 แพงขึ้น
ถึงขั้นคิดตังค์ทั้งที่ไม่ได้ขึ้นรถเลยหรอ? แล้วตังค์หายไปแบบ Uber กินเต็มเลยรึ เพราะคนขับก็ไม่มีใครได้ตังค์หนิ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เท่าที่ตามดู เข้าใจว่าเป็นการตัดเงินเลย คือ กดเรียกปุ๊บ คนขับกดรับก็ตัดเงินเลย ถ้ายกเลิกทริปถึงค่อยคืนทีหลัง แล้วถ้านั่งๆ ไปจนถึงที่หมาย ใช้เวลาหรือระยะทางอ้อมกว่าที่ระบบคิดในตอนแรก ก็ตัดเงินเพิ่มอีกรอบ
iPAtS
ยังเลือกแบบจ่ายเงินสดได้ไหม?
ลองการคิดเงินใหม่ของ Uber แบบ upfront บอกเลยว่าเลวร้ายมาก ผมหงุดหงิดมาก
คือเรากดเลือกต้นทางปลายทาง แล้วมันจะแจ้งราคาที่จะคิดเงิน พอกดเรียกรถแล้วได้รถ ระบบจะ "ตัดเงินออกจากบัตรเครดิตทันที" ถ้าเรา "กดยกเลิกภายในเวลาที่กำหนดก็จะคืนเงินให้" แต่ถ้าไม่ แล้วรถมารับ ถึงปลายทางยังไง เงินที่หักไปคือจบ แต่ถ้าระบบมันมองว่าต้องคิดเงินเพิ่ม มันจะตัดเงินเพิ่มอีกรอบนึงออกจากบัตรเครดิต (ใครใช้บัตรเดบิตนี่จะซวยมาก เพราะเงินสดโดนหักไปเลย ถ้ายกเลิกแล้วไม่รู้ว่าเงินมันจะโอนกลับมาไหม)
ซึ่งจากที่ลองระบบมันคำนวณเงินมั่วมาก เส้นทางที่เคยเดินทาง 80-90 บาท มันคำนวณไป 168.66 บาท แล้วมันตัดแบบนั้นไปเลย แล้วถ้าราคามันแพงกว่าปรกติจริงๆ มันต้องบอกว่า surge charge เท่าไหร่ แต่นี่คือไม่แจ้งแล้วนะ คือแบบเนียนมาก กะว่ากินเต็ม
ถ้ามันยังคิดเงินแบบนี้ ก็อย่าไปใช้มัน ถ้าระบบคำนวณผิดพลาด ซึ่งผิดพลาดแน่ๆ เพราะมันคำนวณล่วงหน้า ถ้าไปทางลัด หรือเส้นทางที่ไม่ได้กำหนดไว้ในการคำนวณแต่แรก กลายเป็นลูกค้าขาดทุนทันทีถ้าเราถึงเร็วกว่าที่กำหนด หรือเส้นทางนั้นสั้นกว่าตอนแรกที่มันวาดเส้นไว้
คงต้องกลับไปพึ่งพา taxi ปรกติอีกรอบซินะ ทางเลือกก็มีน้อยลง แถมทางเลือกที่ควรจะดีในตอนต้นกลับทำตัวกลายเป็นปล้นกันซึ่งๆ หน้า
ผมมา Justgrab แฮปปี้ดีครับ ลองดูๆ
ส่วนใหญ่คนขับ Grabcar ก็ควบเปิด Uber ด้วยเหมือนกัน ถ้าอันไหนถูกกว่าก็เลือกอันนั้นดีกว่าครับ
คิดเหมือนกันว่า ถ้าระบบมันคำนวณเส้นทางวิ่งอ้อม (แบบที่ google พาเราหลงประจำ) ค่าโดยสารมันจะมั่วขนาดไหน
ที่ตลกคือระบบตัดเงินไปล่วงหน้า ถ้าไม่พอกลับมาตัดเพิ่มได้อีก แต่ถ้าถึงที่หมายเร็วกว่าที่ประเมินไม่ยักกะคืนเงินให้... ซะงั้น
ออกแนวราคาเหมาที่แพงขึ้น แต่ถ้ารถติดมากสามารถเรียกเก็บเพิ่มได้ uber winทั้งขึ้นทั้งล่อง
ผมลองกดดูระยะทางไป - กลับ ราคาต่างจากเดิมมากเลยครับ
เมื่อวานขามานั่งจากบ้านแฟน กลับบ้านเป็นเงิน 115.09 บาท
ถ้าวันนี้นั่งกลับไปที่เดิม จะโดนเก็บขั้นต่ำ 175.19 บาทเลยทีเดียว (แผนที่ไม่มีซอยที่จะไป ผมเลยเลือกซอยตรงข้าม ห่างไปนิดเดียว)
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ดูตามแผนที่แล้ว ระบบใหม่ มันให้รถวิ่งอ้อมด้วยครับ ปกติเรียกแล้วคนขับเปิด Google Maps ก็ใช้ซอยทางลัดได้ ของใหม่มันอ้อมไปถนนใหญ่ แล้วค่อนวกกลับเข้ามา แบบนี้คงใช้บริการไม่ไหวแล้ว ราคาดูแล้วไม่คุ้มครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ทำไมไม่สนใจลูกค้าทั้งๆที่หลายคนก็เรียกร้องให้อูเบอร์ถูกกฏหมาย ทำแบบนี้ๆม่เห็นใจลูกค้าเลย
"หมดปัญหาลุ้นค่าโดยสาร" เพราะเราคิดเผื่อไว้แล้ว แต่ถ้าเราเผื่อไว้ไม่พอ เดี๋ยวเราเก็บเงินเพิ่มอีกเราได้ไม่ต้องลุ้น
หมดปัญหาลุ้นค่าโดยสาร ของฝั่ง Uber สินะ อ่าห์ เริ่มแล้วระบบ Monopoly
มาเฟียแทกซี่ยิ้มอยู่ในใจ สบายล่ะ uber ถีบลูกค้ากลับมาหาเอง ไม่ต้องทำอะไรเลย อุตส่าห์คิดแผนไว้แข่งแล้วเชียว
คนนั่งก็โดนถีบไปมา ประเทศเรานี่ดีนักหนา #ถีบตูดิ
คำว่า "โดนถีบไปถีบมา" นี่เรียกอีกอย่างคือ "มีการแข่งขัน" ล่ะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ต่างตรงที่ อันนี้ไม่ได้แข่งกันดึงคนเข้า แต่แข่งกันถีบออก
อันนี้จะเรียกว่า
แข่งกันดี หรือแข่งกันห่วย
ก็เรียกว่าแข่งกันได้เหมือนกันสินะ 555
อนิจจา
อันนี้ไม่แน่ใจว่าที่เรียกกันว่า "แข่งกันห่วย" นี่คืออะไรนะครับ
แต่แท็กซี่โดยปกติก็มีข้อเสียของตัวเองอยู่, Uber มีข้อดีกว่าหลายอย่าง (อย่างน้อยๆ ถ้าสู้ราคาก็กดแล้วมาแทบตลอด) ข้อเสียก็มีเช่นกรณีนี้มีการปรับนโยบายราคาโดยแทบไม่บอกล่วงหน้า แท็กซี่นี่จะปรับกันทีถกเถียงกันเป็นเดือนๆ
แต่โดยทั่วไปธุรกิจมันก็แบบนี้ล่ะครับ ผู้ขายมีแรงจูงใจจะทำให้บริการดีเท่าที่มันยังทำให้เขาทำเงินได้ดีกว่าคู่แข่ง เกิดวันหนึ่งมีคู่แข่งอีกบริษัทมาทำราคาดีกว่า แล้วให้บริการได้ดีรายเดิมก็ต้องรีบปรับ แต่ถ้าปรากฎว่าผู้ขายรู้ตัวว่าขึ้นราคาแล้วยังทำเงินได้ดีเท่าเดิม จะขายถูกทำไม?
lewcpe.com, @wasonliw
ผมมองว่า price ไม่ใช่จุดขายของ uber แต่แรกนะครับ จุดขายคือเรื่องอื่น
ค่าโดยสารขั้นต่ำ บังคับบนระบบแผนที่ ที่ "ขณะเวลาใช้งานจริง ผู้ใช้อาจไม่ได้จำเป็นต้องวิ่งทางที่เลือก+ผู้ใช้สามารถเลี่ยงเส้นได้หลังขึ้นมาแล้ว+ไม่ทอนถ้าคิดแพงเกิน+ติดนาน/วิ่งไกลขึ้นผู้โดยสารจ่ายเพิ่มอีกต่างหาก" ผมถือว่าเป็นเรื่องห่วยนะ
เพราะจริงๆ ผมมองว่า Uber มีข้อดีที่ เส้นทาง/ทุกอย่างถูกคิดตามจริง ในราคาต่อกิโลเมตร+แรกเข้า ที่แพงขึ้น
ถ้าใช้โมเดลนี้ ก็กลายเป็นว่า Uber จากที่กลายเป็น Taxi ตามทางผู้โดยสาร กลายเป็น "เหมา"
ต่างอะไรกับขึ้นแท๊กซี่แล้ว แท๊กซี่บอกว่า ไปเซ็นทรัลเวิร์ล ผมขอเหมา 150 (ทั้งที่วิ่งจริงแค่ 75) แล้วเราด่าแท๊กซี่ล่ะครับ ...
เราอาจตำหนิแท๊กซี่ จากปัญหาสารพัด แต่ลองมองอีกมุม ถ้าเรากด Uber-Fixed price คำนวณราคา แล้วเอาราคานั้นลดลงนิดหน่อย ไปบอก Taxi-meter ว่าผมกด App uber เค้ารับ 200 ผมให้พี่เหมา 160 ละกัน (ปกติมิเตอร์ 90) ... ผมว่าที่ปฏิเสธผู้โดยสารแทบทุกคันจะรับหมดแหล่ะ
... และเอาเข้าจริงๆ บน uber หลายส่วนก็อยู่บนเส้นทางที่กฎหมายไม่อนุญาตเหมือนกัน
---- ดังนั้น ในเมื่อมันไม่ดีขึ้น (จากวันแรกมา uber ผมมองว่า uber-platform ก็แทบไม่ได้ดีขึ้นมากจากเดิมเลย นอกจากเรื่องราคาขึ้น อันนี้จะใช้คำว่าแข่งกันห่วย เลยยังไม่น่าจะผิดเท่าไรนะครับ) :D
ถึงเวลาโกยเงินแล้วซินะ UBER
ได้กลิ่น cawow ลอยมาเลยครับ
เพิ่งโดนเลย ผูกเดบิตไว้ มันขึ้นว่า190ทั้งๆที่ปกติไม่เคยถึง150ด้วยซ้ำ ตอนแรกนึกว่าเพราะมันคำนวนจากที่รถติด
คือเมื่อก่อนบางทีมันก็เคยขึ้นประมาณนี้ แต่พอถึงบ้านจริงๆมักจะถูกกว้่าตลอด
แล้วมันก็ตัด190ไปเลย
ประกันราคาขั้นต่ำให้ uber สินะ ไม่ใช่สำหรับ user
แล้วจะคืนเงินให้ นี่ที่เคยได้คือคืนเป็นเครดิตใน UBER
มีแต่ได้กับได้ ใช้แค่เรียกไปสนามบินอย่างเดียวเลย
ใช้ grab รัวๆ เลยครับตอนนี้
ลองกดดู ส่วนใหญ่จะพาขึ้นทางด่วนอย่างเดียวเลย
งี้ถ้าไม่ได้ขึ้นทางด่วนก็ไม่ได้เงินคืนเหรอครับ
ไม่ได้ครับ เหมาจ่ายไปแล้ว
งั้นลองหยุดใช้ uber ไปใช้ grab กันดีกว่าครับ
คิดเงินแบบนี้ จะอยู่ได้นานแค่ไหนครับเนี้ย
GrabCar จริงก็คิดเงินก่อนเหมือนกันนะครับ แค่ ไม่ตัดเงินก่อน แถมไม่โชว์เส้นทางที่ใช้คิดเงินด้วย
คิดเงินแบบนี้ถ้าพังมานี่ อดีต CEO ยิ้มแป้น ลับดาบรอในที่ประชุมผู้ถือหุ้น แน่นอนเลยครับ
สุดท้าย uber จะเป็น nokia แห่ง ride sharing หรือเปล่าน่า เหลือแต่ชี่อไรงี้
แบบนี้ก็ย้ายไปใช้อย่างอื่นเลยครับ
grab กับ แท๊กซี่รออยู่
ห้าวดีอะ ขนาดรู้ว่ามีคู่แข่งรอกระทืบเพียบขนาดนี้