แอปเปิลถูกฟ้องร้องในจีนอีกครั้ง ครั้งนี้จากบริษัท Pisen ที่ผลิตอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนต่างๆ ซึ่งรวมถึงสายเคเบิลสายชาร์จต่างๆ ด้วย โดย Pisen ยื่นฟ้องกับศาลทรัพย์สินทางปัญญาในกรุงปักกิ่งว่า ข้อกำหนดมาตรฐานสายชาร์จของแอปเปิล (MFi Program) ที่ผู้ผลิตอื่นจะต้องขอใบรับรองจากแอปเปิล เพื่อการวางขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายและด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1 หยวน
Pisen ระบุว่า MFi Program ไม่ได้ช่วยให้สายชาร์จปลอดภัยขึ้น แต่กลับปิดกั้นการแข่งขันตลาดชิ้นส่วนอุปกรณ์เสริมในจีน โดยก่อนหน้านี้ทาง Pisen เองก็เคยยื่นขอใบรับรองจาก MFi Program หลายครั้งแต่ถูกแอปเปิลปฏิเสธโดยไม่ให้เหตุผล ก่อนจะโดนแอปเปิลยื่นเรื่องให้เว็บอีคอมเมิร์ซเอาผลิตภัณฑ์ของ Pisen ลงจากเว็บ เนื่องจากละเมิดสิทธิบัตรแอปเปิล ทำให้ Pisen มองว่าแอปเปิลผูกขาดและแทรกแซงการแข่งขันของตลาด
ทั้งนี้ Pisen เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์เสริมขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งค่อนข้างสร้างความงุนงงให้กับนักวิเคราะห์เหมือนกันว่าเหตุใดจึงถูกปฏิเสธใบรับรองจาก MFi Program
ที่มา - South China Morning Post
Comments
น่าจะ 1 หยวนต่อ 1 ชิ้นรึป่าว
คิดว่าเป็นการฟ้องเชิงสัญลักษณ์มากกว่าต้องการได้รับเงินจริงๆ นะครับ
ฟ้องเพื่อบังคับมั่งครับ บ. จีนฟ้องในจีนโอกาสชนะสูงอยู่ พอ apple ห้ามขายไม่ได้ตลาดก็เปิด
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไม่ได้อยากได้เงินจาก Apple มั้งครับ เพราะถ้าชนะ ก็ทำของขายได้เยอะแยะ
เห็นเจ้าอื่นก็ขายกันได้ บางรุ่นไม่ผ่าน MFI ก็มีขายได้นะ
คนควบคุมมาตรฐานเค้าไม่ได้ลงมาเล่นไงครับ เหมือนของไม่มีมอก.บางที่ก็มีวางขาย ขนาดบ้านเรามีกฎหมายชัดเจนนะ
rem@x ขายเกลื่อนไม่มี MFI บางทีขายแพงกว่าสาย MFI อีก
โฆษณาเว่อวังอีกตะหาก
หาก apple ยอมรับรอง mfi ให้ผู้ผลิตจีนเป็นจำนวนมาก
พวกยี่ห้อดังๆที่ขายเป็นพัน
คงอยู่ไม่ได้
โดยเฉพาะ pisen
ที่ข่าวบอกว่าเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์เสริมขนาดใหญ่
ถ้าได้ใบรับรองเมื่อไร
ก็เหมือนเสือติดปีก
ถ้าผู้ผลิตจากจีนสามารถทำตามมาตรฐาน MFi ที่ Apple เป็นคนกำหนดได้ Apple ก็ต้องรับรอง ถ้าไม่รับรองทั้งๆ ที่ผ่านมาตรฐานก็ต้องบอกมาตรงๆ ว่าไม่อนุญาตให้ผลิต หรือไม่ก็ไม่เปิดมาตรฐานครับ
มาตรฐานนี่มันก็มีหลายมาตรฐานจริงๆนะ อาทิ กำหนดให้ต้องเป็น A , แต่กลับสร้างเป็น B โดยทำงานทดแทนกันได้ และเพราะมันเป็น B ไม่ใช่ A ก็เลยไม่ผ่าน
ถ้าแค่ ทำงานทดแทนได้ ก็สมควรโดนอยู่ครับ แต่ถ้า ทำงานเหมือนกันทุกประการ แล้วยังไม่รับรอง ส่วนตัวผมมองว่าเหมือนจงใจกีดกันครับ
USB เดิมๆส่วนมากอาจจะแค่ชาร์จ iPad เวลาใช้งานไปด้วยไม่ทัน A ไม่ถึง แต่ Type-C นี่ถ้ายอม Apple คงพิสูจน์กันวุ่นวายเลยว่าเครื่องพังเพราะสายชาร์จไม่ดีหรือเปล่า ต้องมีปัญหาใหม่มาเป็นเรื่องเป็นราวอีกทีถ้าต้องรับผิดชอบเพราะของไม่ได้มาตรฐาน สายยี่ห้อจีนเกือบทั้งตลาดที่ซื้อๆมาจากที่วัดไฟมากับใช้จริงแทบไม่มีอันนี้ควรเรียกว่าได้มาตรฐานเลยจริงๆ
อุปกรณ์ Apple ใช้ Lightning port หรือเปล่าครับ
ต้นทางเป็น C ก็ชาร์จเร็วตาม C
ไม่เกี่ยวครับ
ตามคุณ hisoft ว่าครับว่าไม่เกี่ยว
ตัวชาร์จบนมือถือมันมี voltage control+current control อยู่แล้วว่าจะดึง power เท่าไหร่ คือถ้าต้นทางเป็น A แล้วปลายทางที่เป็นมือถือเป็น C แล้วสายมั่ว ก็จะเกิดปัญหาที่ต้นทางได้ครับ โดยมือถือไม่เป็นอะไร
แต่ถ้าต้นทางเป็น C ซึ่งรองรับ watt สูงๆอยู่แล้ว มือถือจะเรียกเท่าไหร่(ซึ่งก็ขึ้นกับมือถือ) ทาง port ที่เป็น C ก็สามารถจ่ายให้ได้ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
สอบถามเป็นความรู้เพิ่มเติมหน่อยครับ ตัว volt ถ้าการสื่อสารระหว่าง device กับ adapter มีปัญหาจะมีการป้องกันให้ device ไม่เกิดปัญหาได้ใช่ไหมครับ
แล้วแต่ device ครับ คือตัวมือถือที่เอามาต่อเนี่ย'ไม่น่าจะ'มีปัญหาเพราะมี voltage/current control ในตัวแยกจากการสื่อสารผ่าน USB อยู่แล้ว
แต่ถ้าสายไม่ดีต่อวงจรไม่ได้มาตรฐาน บางครั้งไม่คืนค่าไฟฟ้าเป็นค่าปกติหลังถอดอุปกรณ์ที่ใช้ชาร์ต(เช่นมือถือ)ทำให้จ่ายไฟสูง แล้วเกิดใส่อุปกรณ์ที่ดันใช้ไฟน้อยและไม่มีตัว control ก็อาจทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นเสียหายได้ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
USB-C to Lightning Cable ก็มีนะครับ
1 หยวนนี่นึกถึงคดีของเทเลอร์ รายนั้นก็ฟ้อง 1 ดอลลาร์
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ผูัผลิต => ผู้ผลิต
ก็สายชาร์จพี่แพง แถมพังง่าย ใช้สายราคาหลักร้อย กับหลักพัน ก็พังใกล้ๆ กัน
นี่ใช้สายแท้ adapter แท้ วันดีคืนดีเด้งที่หน้าจอมาบอกว่าอุปกรณ์ไม่ support ไรซักอย่าง
เพลียกะเค้าจริมๆ
แต่ข้อดีของ MFi ก็ดีอย่างคือมั่นใจว่าสายมันใช้ได้ 100% นะครับ จริงอยู่ว่ามันแพงกว่าแต่ถ้าเทียบพวกสายถูกๆอย่าง eloop Remax (เส้นละ 50-200) ใช้ไปสักพักพังซะงั้น (จากใจซื้อมาหลายสิบเส้น พังไปแล้วครึ่งนึง) แต่พวก MFi ยังไม่เคยพังเลย ยกเว้นของ Apple ที่ใช้จนเปื่อย
แต่ถ้าตัด MFi แล้วราคาถูกลงก็น่าสน หันไปดูพวกแบรนด์บนๆเช่น Belkin แทน