Tim Cook ให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษ The Independent ในประเด็นหลักเกี่ยวกับ AR ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่มากในอนาคต โดย ARKit ของแอปเปิลเป็นผู้นำในตลาดนี้ และจะมีนักพัฒนาจำนวนมากแห่กันมาทำแอพ AR ในลักษณะเดียวกับความสำเร็จของ App Store
ประเด็นสำคัญอยู่ที่คำถามว่าแอปเปิลสนใจทำแว่น VR/AR หรือไม่ คำตอบของ Cook คือเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่ดีพอสำหรับการทำแว่นที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมุมมองการแสดงผล (field of view) หรือคุณภาพของหน้าจอ ซึ่งแอปเปิลจะยังไม่ทำแว่นหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็น VR/AR ออกมาจนกว่าจะได้คุณภาพระดับที่แอปเปิลต้องการ
Cook บอกว่าแอปเปิลไม่ต้องการเป็นรายแรกที่ทำ แต่ต้องการทำผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด ตอนนี้ในตลาดยังไม่มีผลิตภัณฑ์ VR/AR ตัวไหนที่ผู้บริโภคพึงพอใจกับมัน
เขายังบอกว่าจุดแข็งของ ARKit คือฐานผู้ใช้ iPhone/iPad ที่มีอยู่จำนวนมาก อุปกรณ์เหล่านี้พร้อมใช้ ARKit ทันที ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสินค้ากลุ่ม VR/AR โดยเฉพาะที่ต้องสร้างฐานผู้ใช้-นักพัฒนากันใหม่หมด
ที่มา - The Independent, ภาพจาก Apple
Comments
รอคนอื่นทำก่องแล้วค่อยลอกมาแล้วบอกว่า
This is innovation!!!
ทำออกมาทีหลังแต่ดีกว่ามาก เช่น สแกนใบหน้า
ปล.ก่อนคอมเม้นได้อ่านข่าวก่อนหรือยังครับ?
ก็มีแสกนดีๆ อยู่แล้วนิครับ
บอกความจริงก็บอกว่าทำได้ดีกว่า ถามวัวตอบควาย ลอกคือลอกไม่ใช่รึครับ ตะก่อนเคยด่ายันสี รูปร่าง ตอนนี้ลืมกันหมด
…แบนดีมั้ย? หยาบคายมากๆ
ถ้าหมายถึงตรง "ถามวัวตอบควาย" อันนี้ผมเข้าใจว่ามันเป็นสำนวนชาวบ้านและไม่น่าหยาบนะครับ คือหมายถึงถามอย่างตอบอย่าง (ซึ่งคำนี้ก็สุภาพกว่าแหละ อันนั้นมันแรงแต่ส่วนตัวผมไม่คิดว่าถึงขั้นหยาบคาย ผมอาจจะเข้าใจผิด) เหมือนถามถึงเรื่องวัวแต่ตอบเรื่องควายน่ะครับ
ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ตอบใครครับ น่าจะแค่แสดงความคิดเห็นหน่ะ
อันนี้คือขู่หรือยังไงอะครับ ถ้าเป็นการเสนอให้แบนนี่ผมว่าติดต่อผู้ดูแลเว็บมาแบนเลยดีกว่ามั้งครับ (แต่ผมไม่เห็นว่าตรงไหนหยาบคายนะ)
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ลอกก็คือลอกเนอะ ไม่ต้องเขิน ถ้าพิจารณาจริงๆ จะรู้ว่าอันไหน มันตั้งใจลอก (เช่น โทรศัพทสีชมพู) มันคอมมอนเซ้นมากๆ ไปดูหน้าตาแอนดรอย ซัมซุง เก่าๆ รวมถึงปัจจุบัน ก็ยังมีพวกแบรนจีน แค่แอปเปิลเขาไม่สนใจจะฟ้องแค่นั้นแหละ เรื่อง apperance มันชัดเจน เพราะไม่มีเทค อัลกอริธึมเบื้องหลัง
ผมยกตัวอย่างให้เห็นชัดละกัน เช่น xperia ของ sony ที่รูปร่างมีเอกลักษณ์ ไม่เกลื่อน ไม่ทั่วไป ถ้าใครมาทำโทรศัพท์ หน้าตาแบบนี้ ก็คือตั้งใจลอกแน่นอน
ส่วนพวกฟังกชัน ที่มีอัลกอริธึม ถ้า copy เขาฟ้องกันบรรลัยอยู่ละ (โนเกีย โมโต กูเกิล ก็ฟ้องแอบเปิล เช่น เรื่อง GSM) ถ้าไม่สามารถตกลงจ่ายเงินกันได้ ไมโครซอฟยังเก็บค่าต๋งแอนดรอยชิลๆ จาวาก็ฟ้องกูเกิลเรื่อง api เรื่องพวกนี้มีประเด็นทำให้บางแบรนไม่กล้าขายที่เมกา ( กลัวโดน แอบเปิล กูเกิล โมโต ฟ้อง ) เพราะเล่นกอบปี้แหลก บางแบรนก็ต้องตัดฟังชัน ที่ขายนอกเมกา (อย่าง สแกนนิ้วปุ่ม power ของ sony --อันนี้ผมไม่ชัวร)
เอาเป็นว่าถ้าไม่มีไอโฟน แอนดอยรจะ = blackberry อะนะครับ 55+
ผมว่า apple สร้างมาตราฐานที่ควรจะเป็นมากกว่า ไม่ใช่สักแต่มีให้เร็วไปงั้นๆ แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ เพราะคุณภาพห่วยเกิน
ตามสไตล์แอปเปิ้ล ไม่เน้นพัฒนาของใหม่ เน้นเอาของปัจจุบันมาทำให้ดีแล้วขายราคาแพง ๆ รวย ๆ กันไป
ถ้าเป็นจ๊อปก็คงแนวๆ ฉันอยากได้แบบนี้แกไปทำมาให้ได้
+99
ชอบ Apple ในฐานะนี้มากกว่า จากเป็นผู้จูงตลาดอย่าง iPhone
ตอนนี้กลายเป็นว่า รอของพร้อม ค่อยทำขายแพงๆ เพราะฐานลูกค้าพร้อมสนับสนุน
+1 คนอย่างจ๊อป พอเห็นของชาวบ้านปุ้ป พี่แกรู้เลยว่าจะทำให้เจ๋งกว่าได้อย่างไง
+1
ตัวย่าง ก็ Google Glass , HoloLens ยังดีไม่ได้ขาย User ทั่วไป
ทำออกแล้วทำให้ ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดี อาจจะทำให้สินค้าชิ้นต่อๆ ไปคนไม่ซื้อ
อย่าง Google Glass คงเป็นเรื่องประเด็นความเป็นส่วนตัว (ของคนอื่นที่ถูกแว่นมอง) ซึ่งกลายเป็นการล้อปบี้ยิสต์ของกูเกิล ที่ต้องแก้เกม หรือต้องดูทัศนติของคนในสังคม ไม่ใช่เรื่องคุณภาพของเทคโนโลยีรึเปล่าครับ ;)
my blog
Focus is key
แต่ ARkit ใน iOS 11 ออกมา Android นี่มองตาปริบๆ เลยนะครับ
แอปใช้ AR แบบเนียนๆ บน iPhone ตามออกมาเยอะมาก แล้วแต่ละตัวไม่ใช่ของเล่นขำๆ เกมก็เป็นเกมจริงจัง แอปทำงานก็ใช้งานได้จริง
ใช่ครับ ทำออกมาดีมากจริงๆ
ฝั่งแว่น VR นี่ผมก็บอกมาตลอดว่ามุมมองมันแคบเกินไปเหมือนกับที่ในข่าวนี้บอกนี่แหละ แล้วแว่นที่จับลูกตาได้ก็มีอยู่ไม่กี่ตัวด้วย
+11 ครับ ไม่รู้ที่พูดๆกันอยู่นี่มีใครเคยไปใช้จริงมั่ง เกมสบางเกมส์ที่ แอพสโตรดันอยู่ ตอนนี้ นี่เทพมากๆ
เกมก็คือเกม ถ้ามันน่าสนใจมากจริงๆสาวกหุ่นก็ย้ายค้ายเอง แต่ที่ไม่ย้าย เพราะเกมไม่ได้มีแค่ ar ในไอโฟนจะมาตาปริปให้เสียเวลาไม ถ้ามันดีและมีค่าพอ สาวกหุ่นก็ย้ายค่ายเอง . ไม่ใช่มีอะไรแปลกใหม่ก็ต้องตาปริบๆไปหมด แบบนี้คนไม่เคยมี เครือง วี สวิส นินds ก็ตาปริบๆกันทั้งวันเลยซิ
ก็เหมือนกรณี iphone แหละครับ ยุคนั้นโทรศัพท์ไม่ดีพอ (เช่น ui หรือปุ่มกด) ก็เลยออก iphone มา อะไรที่ไม่ดีพอก็ออกสิ่งที่ดีกว่าก็ไม่แปลก
ไม่ต้องรีบนั่นแหล่ะดีแล้ว
แว่น AR เจ้าไหนๆก็ยังไม่เป็นมาตรฐานเลย ยังไง Apple ก็คงไม่เล่นด้วยจนกว่าเทคโนโลยีมันจะนิ่งจริงๆ แบบ face ID นั่นล่ะ
เทคโนโลยีน่าจะใกล้ถึงแล้วนะ จอ 8k ไม่น่าจะนาน แค่นี้มุมมองก็มโหราฬแล้ว
ถ้าแอปเปิ้ลไม่ออกคนแรกๆก็ไม่ใช่แอปเปิ้ล
ก็แค่ข้ออ้างของ apple
ถ้าดูความละเอียดจอของ iphone 8 ห่วยมากสำหรับ vr ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆฝั่ง andriod
ส่วนแว่น fov กว้างๆก็มีออกมาหลายเจ้าแล้ว starvr อย่างตอนนี้ก็ pimax 8k ที่กำลังระดมทุนอยู่ แต่ยังเป็น 4k อัพสเกลต่อตา ถ้า 4k native ต่อข้างต้องรออีกรุ่น
หรือถ้าจอละเอียดมากๆระดับ human eye resolution ก็แนะนำไปดูข้อมูลของ varjo
ios มี ARkit แอนดรอยด์มี ARcore
ถ้าเทียบในเรื่อง vr, ios ก็คงมองฝั่งแอนดรอยด์ตาปริบๆก่อนหน้านั้นแล้ว
โอ๊ะ ถ้างั้น Android ก็น่าจะมีเกม มีแอป AR เจ๋งๆ เยอะแล้วสิครับ ออกมาก่อน iOS อีก
android เน้น vr มาก่อนครับ ไม่ได้บอกว่าออก AR มาก่อน AR มันก็มาไล่ๆกันนั่นแหละ
daydream ราวๆหนึ่งปี ส่วน AR ยังต้องรอมือถือรองรับมากขึ้น เคยมีฝรั่งทำ video compare แล้วให้คะแนนต่างกันนิดเดียว
ลองเทียบการเอามือถือไปเล่น vr กับ steam vr
android มี riftcat, ios ใช้ trinus หรือ ivry แต่ไม่ดีเท่า
ทั้งนี้ทั้งนั้น ความละเอียด iphone มันก็ยังต่ำอยู่ดี iphone 8 plus หน้าจอแค่ hd ลองดูมาตรฐาน daydream 2k กันทั้งนั้น
เอาแค่ความประทับใจ 2k ก็เกือบไม่เห็นพิกเซลเท่าไหร่แล้วครับ คนละเรื่องกับ hd เลย
ARKit ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกตัวจริงและรองรับแค่สี่รุ่นน่ะนะครับ
จะหมายถึง arcore?
ใช่ครับ เมา
ทีทิมพุดเขาน่าจะหมายถึง แว่นแบบจริงจังเลยนะครับ ไม่ได้จะตั้งใจเอาไอโฟนไปเปนจอเหมือน เดยดรีม
ถ้าพูดถึง ar, fov หน่ะใช่ครับ ยังต่ำจริง
แต่ถ้าพูดถึง vr นี่ก็ผิดแหละครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พูดแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีความคิดที่ริเริ่ม ถ้าทุกคนคิดแบบที่ทิมพูดหมด แล้วใครจะเป็นคนเริ่มอ่ะครับ
ถ้าพูดว่า มันยังไม่ดีพอ เรากำลังพัฒนามันอยู่ แบบนี้ค่อยดูเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี พูดแบบนี้เป็นแค่ผู้ตาม แต่เอามาพัฒนาต่อให้กว่าด้วยกำลังทุนทรัพย์ที่มี
ไอ้การที่บอกว่าทุกวันนี้ไม่มีใครพึงพอใจ ยิ่งเป็นอะไรที่ไร้สาระ ถ้าไม่มีใครพึงพอใจ วงการมันไม่ก้าวกระโดดมาขนาดนี้หรอกครับ เขามีความพอใจ แต่คาดหวังสิ่งที่ดีขึ้นไปอีก ทิมพูดยังกะว่าจะออกทีเดียวได้สินค้าเพอเฟกต์จนไม่ต้องพัฒนาต่อแล้วงั้นแหละ เพราะใครๆก็พอใจกับมันแล้ว มนุษย์มีความพอใจครับ เป็นความพอใจในช่วงเวลาหนึ่ง พี่แกพูดเหมือนเคยเล่นแค่ vr box ของแถมมือถือถูกๆอย่างงั้นแหละ
แต่ก็เข้าใจได้นะ ไม่มีใครอยากพูดให้ตัวเองดูด้อยศักยภาพหรอก เดี๋ยวเสียอิมเมจบริษัท เราเป็นคนภายนอกก็วิจารณ์กันไปตามความจริง
เดี๋ยวใครทำไรดี พี่แกก็ไปซื้อเองแหละ
ผมว่าที่เขาบอกว่ายังไม่ทำคือยังไม่ทำขายออกมาเพราะมันยังไม่ได้คุณภาพมั้งครับ ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเลย อย่าง AR ที่ปล่อยออกมามันก็ต้องผ่านการสร้างการทดลองปรับปรุงคุณภาพจนได้ระดับตามมาตรฐานของ Apple ที่วางเอาไว้ถึงได้ปล่อยออกมาให้ consumer ได้ใช้งาน ไม่ใช่ว่าใช้ระยะเวลาอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก่อนเปิดตัวซะหน่อย
เขาก็ทำแหละครับ แต่ยังทำได้ไม่ดีพอ แต่ยกเจ้าอื่นว่ายังไม่ดีพอคนยังไม่พอใจ มาลดมุมมองความด้อยของตัวเอง ผมพูดถึงได้พูดว่ามันเป็นแค่ข้ออ้าง อ้างผู้บริโภคโดยทำเหมือนว่าผู้บริโภคสนใจแค่ความดีเลิศของ apple เท่านั้น ซึ่งนั่นแลดูตลก
เอาจริงๆ ARcore หรือ ARKit มันก็ยังไม่ได้เรียกว่าอยู่ในจุดที่คนพึงพอใจทีเดียวนั่นแหละ ถ้ายกคำพูดของเจ้าตัวมาเอง มันอาจเป็นความพอใจในรูปแบบการใช้งานในลักษณะนั้น แต่ถามว่าคนจะพอใจแค่เอามือถือเอาไอแพดมายกหนักๆไปมาไหม ก็ไม่ คนต้องการแว่น ฉะนั้นคำพูดของทิมจึงขัดแย้งในตัวเองจากการอ้างผู้บริโภคแค่บางส่วน
ถ้าจะพูดแค่ว่าคนยังไม่พอใจ เราเลยยังไม่ทำ แล้วถามว่ามีใครพอใจกับไอ้หน้าจอแหว่งๆของ iphone x บ้าง ออกมาได้ยังไง หรือกลัวไม่ทันฉลอง 10 ปีก็ไม่รู้เหมือนกัน
ผมว่าเขามองในภาพรวมนั่นแหละ ทั้งส่วนของประสบการณ์ของผู้ใช้งานกับส่วนของกำไร ดีไม่ดีตอนนี้เขาอาจจะได้คุณภาพที่น่าพอใจแล้วแต่ติดตรงส่วนของต้นทุนอยู่เลยยังไม่ทำออกมาขาย
เรื่องการพูดถึงแนวทางหรือวิธีคิดของ Apple เขาก็แสดงออกมาให้เห็นมาในแนวทางนี้ตลอดนะครับ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์ พอมีการยิงคำถามเข้าไปแบบนั้น คำตอบที่ได้มาก็ดูสมเหตุสมผลดีรวมถึงทำให้ภาพลักษณ์ของ Apple เองก็ไม่ได้ออกมาในแง่ลบด้วย จะให้บอกว่าเจ้าอื่นกำลังพัฒนาและทำได้ดีกว่ามันก็คงไม่ใช่อะครับ
ถ้าว่ากันตรงๆ ผมรู้สึก apple ขายสินค้าของตัวเองเหมือนสินค้า mlm บางรายการที่มีราคาเกินมูลค่าแห่งความเป็นจริงอ่ะครับ ก็ต้องอาศัยบิ้วๆโมทิเวตกันอยู่ตลอด แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้มีอะไรที่รู้สึกให้น่าอิจฉาเลย อาจจะมีบ้างคือคนใช้รุ่นเก่าอยากเปลี่ยนไปรุ่นใหม่ แต่แรงจูงใจให้กระโดดไปใช้ข้ามค่ายนี่ไม่มีนะ
ARkit น่าอิจฉาไหม ก็ไม่ เพราะ google มี ARCore และต่อให้ google ยังไม่มี AR จริงๆมันก็ยังไม่ได้หวือหวาจนถึงต้องรีบไปใช้เท่าไหร่ด้วย
เคยมีคนเอา ARkit มาดัดแปลงให้แสดงผลสองจอเพื่อใช้ผสมกึ่ง VR/AR ได้ ทำเหมือน inside-out tracking แต่ก็อย่างที่บอก หน้าจอมันห่วย เอามาใช้ในโหมด VR ก็ยังไม่น่าประทับใจ คือต่อให้แว่น VR ยังไม่ดี ก็ไม่ได้หมายความว่า apple จะไม่พัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกให้คนที่ต้องการนำไปใช้ได้ประสปการณ์ที่ดีขึ้น และนั่นแลดูเป็นการกั๊กสเป๊กบวกขายราคาที่เกินจริงไปเยอะ
โดยส่วนตัวผมในฐานะ consumer ทั่วไปไม่รู้ว่าในวงการ AR VR เขามีการตื่นตัวหรือพัฒนากันไปในระดับไหนแล้วนะครับ อย่าง starvr varjo ผมก็เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจากคุณใน reply ด้านบน ซึ่งนั่นมันก็น่าจะสะท้อนอะไรบางอย่างให้เห็นแล้วล่ะว่า มันยังไม่สามารถทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางด้วยปัจจัยอะไรที่ผมก็ไม่อาจจะทราบได้
ซึ่งผลิตภัณฑ์สายนี้ที่ผมเคยได้ยินมาก็มีไม่กี่เจ้าใหญ่ๆ เช่น oculus HTC Samsung และดูแล้วมันก็ยังมีส่วนที่ยังต้องปรับปรุงอยู่อีกมากจริงๆ แต่ไม่ว่าสถานการณ์ของ AR VR ตอนนี้จะเป็นยังไง ผมเองก็ยังไม่ได้มีความสนใจ อิจฉา ต้องการที่จะไปใช้งานตรงนี้เลยตราบใดที่การใช้งานส่วนใหญ่มันยังต้องเพิ่งพาอุปกรณ์มากมาย อารมณ์เหมือนทีวี 3 มิติที่ต้องใส่แว่นดูจนสุดท้ายก็ดันไม่ไหว
ซ้ำ
ถ้าตามข่าวลือที่พนักงาน Foxconn ออกมาแฉ
Apple ทดลองแว่นนี่มานานละ โค้ดเนม Apple Iris
พนักงานถึงกับบอกเองว่าถ้าสำเร็จจะปฎิวัติวงการแบบ iPhone
รอบแรกตอน WWDC บอกมีโอกาสพับโครงการ 70%
รอบ 2 ก่อนงาน iPhone บอกละว่าโครงการพับแล้ว
ตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่พอตาทิมมาย้ำ
เออ คงพับละจริงๆ
เหมือนกระจกหลังที่คุยไว้ว่าใช้กระจกที่ดีที่สุด แข็งที่สุด เพิ่งใช้เพราะเทคโนโลยีเพิ่งผลิตได้ถึงนำมาใช้
แล้วพอเค้าเอาไป drop test เทียบกะ n8 แล้วแตกก่อนเค้าอะเหรอออ ??