Ben Bernanke อดีตประธานธนาคารกลางของสหรัฐ ไปพูดที่งานสัมมนาของบริษัท Ripple และให้ความเห็นว่า Bitcoin จะไม่ประสบความสำเร็จ
เขาบอกว่า Bitcoin เป็นความพยายามมาแทนที่เงินกระดาษที่ออกโดยรัฐ (fiat money) แล้วหลบเลี่ยงการกำกับดูแลหรือแทรกแซงโดยรัฐ แต่เขายังไม่เห็นว่า Bitcoin จะถูกใช้ในการทำธุรกรรมจริงจังนัก ส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไรมากกว่า (mostly speculative venture)
Bernanke ปฏิเสธแนวคิดว่าเงินดิจิทัลจะมาแข่งกับเงินที่ออกโดยรัฐ โดยให้เหตุผลว่าอีกไม่ช้า รัฐบาลจะออกมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เงินดิจิทัลไปถึงจุดนั้น
อย่างไรก็ตาม เขาสนับสนุนการใช้งาน Blockchain และบอกว่ามันเป็นประโยชน์มากในการจ่ายเงินข้ามประเทศ รวมถึงชม Ripple ว่าพยายามเข้าไปร่วมมือกับภาครัฐด้วย
ที่มา - Fortune, ภาพจาก Ben Bernanke's Blog
Comments
แน่นอน เพราะถ้าบิทคอยสำเร็จขึ้นมา ดอลล่าที่ขึ้นรถฟรีจะล่มสลาย
ขยันเขย่าหิ้งกันจริงๆวันนี้เลยร่วงอีกรอบให้คนช้อนกันสบาย
Flash Sales ดูจากสภาพถอยไปดักแถวๆ จุด Hight เก่าเพียบเลยแฮะ
แต่ที่พูดก็ถูกเพราะสภาพตอนนี้มันเอาไว้เกงกำไรอย่างเดียว BTC ที่มีหมุนเวียนในตลาดไม่ถึง 5% ของทั้งหมดด้วยมั้ง ถ้าปล่อยมาในตลาดซัก 30-40% อาจจะเหลือมูลค่าเท่าราคาพิซซ่า 2 ถาด
ปล. พูดถึง XRP (Ripple) งานประชุมจัดไม่สมศักศรี เหรียญมูลค่าหลายพันล้าน USD แต่จัดงานยังกะโกดังห้องแถว เจอภาพแรกนักลงทุนเหวอโดดกันเป็นแถว -*-
ราคา XRP ร่วงสุดๆเลยครับ เหมือนทาง ripple ไม่ใส่ใจเท่าไหร่แล้ว กะระบบ Decentralization
จัด 3 วัน ร่วงทั้งสามวัน สุดๆ
แต่ผมชอบ concept เขานะ แต่จะสำเร็จได้ทางธนาคารต้องร่วมมือกันด้วย
เอ่อ เหรียญ XRP ก็คือเหรียญที่ใช้อะไรไม่ได้แบบที่มันพูดโจมตี BTC นั่นแหละ
(ตลกอ่ะ พูดโจมตี BTC ทั้งๆที่ XRP ก็อยู่ในสถานะเดียวกัน)
XRP ถ้าไม่พูดถึงมูลค่า มันดีนะโอนใช้เวลาแป๊ปเดียวไม่ช้าแบบ BTC ควบคุมได้เพราะมันขุดไม่ได้เนี่ยล่ะ แถมที่อยู่ในตลาดแค่ไม่กี่ % เองน้อยมากเมื่อเทียบกับ BTC และ XRP เหรียญมันเยอะมากครับ ส่วนการใช้งานแบงค์มันเอาไว้ใช้กับ backend ไม่ได้ถือไว้เก็งกำไร
ก็อาจเพราะพิมพ์ออกมาเฉยๆแบบดอลล่าไม่ได้ละมั้งครับ แต่ก็จริงที่ว่ามันแกว่งมากเกินกว่้าจะไช้ทั่วไปได้
ปัญหาคือจะควบคุมยังไงนั้นแหละ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จุดเด่นของบิตคอย์นก็คือไม่มีใครเป็นคนควบคุมนี่ครับ
หมายถึงมาตรการควบคุมจากภาครัฐในการใช้ หรือเปล่าครับ
ก็รวมทั้งการควบคุมค่าเงินด้วยครับ
คนแถวนี้ที่ถูกมองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ และมีศักยภาพสูง
หลายๆคน ยังไม่มีความพยายามทำความเข้าใจมันเลย
นับประสาอะไรกับคนรุ่นเก่าขนาดนั้น?
ข้อมูลมีเยอะแยะเต็มเนท
อยากได้(ข้อมูล)ต้องทำ(หาอ่าน)เอง
ไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ก็แค่ตกรถ เท่านั้น จบ
"First they ignore you.
Then they laugh at you.
Then they fight you."
ที่เค้าพูดถึงระบบ Blockchain ก็น่าจะแปลว่าเขาเข้าใจเทคโนโลยีเบื้องหลังมันระดับนึงนะครับ และการที่บอกว่าตอนนี้มีแต่คนไปเก็งกำไรก็เป็นสภาพตลาดจริงในตอนนี้ ความพยายามควบคุมโดยรัฐก็จริงอีก
คนไม่สนใจก็คงตกรถแน่ๆ ครับ แต่รถคันนี้ (BTC) ก็มีขับๆ เบรคๆ หวาดเสียวอยู่นะ ไม่มีอะไรจะรับประกันว่ามันจะไม่คว่ำหรือเลี้ยวตกเหวในอนาคตนะครับ
ผมว่าลองอ่านความเห็นเค้าดีๆ ก่อนนะครับ เหมือนที่คอมเม้นมาคนละเรื่อง เค้าพูดในมุมการที่มันจะเอาไปใช้งานจริงแทนกระดาษ และเค้าก็ยังให้ความเห็นว่า blockchain มีประโยชน์ ไม่ใช่การมาพูดโดยไม่รู้จักหรอกครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าเขาเข้าใจนะครับ แต่เขาแค่ไม่ชอบมัน
The Dream hacker..
อย่ามัวแต่เถียงกันเลยครับ
มองคนละมุม เถียงกันจนหมดเวลาชีวิตก็ไม่ได้ข้อยุติ
ทางใครทางมันกระเป๋าใครกระเป๋ามันครับ
จบ
งั้นก็คงต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนเลยครับ
ตรงไหนที่ผมเถียงครับ?
หรือตกรถจนสมองมีปัญหาในการใช้ Logic?
จ้า
ในมุมที่ว่า BTC ไม่ประสบความสำเร็จในการจะมาแทนเงินกระดาษตามนิยามของเขา จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ผมว่าเขาก็พูดถูกอยู่นะ
จะโทษว่า Bitcoin ว่าไม่ดีอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะคนที่ทำให้ Blockchain เป็นที่ยอมรับและกำลัง disrupt สิ่งต่าง ๆ ได้ตอนนี้ต้องยกให้ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin และ ethereum โดย Vitalik Buterin และทีม ซึ่งก็เป็นคนร่วมพัฒนา Bitcoin มาก่อน
ความหมายของลุงบีนันเก่แกคงหมายถึง Bitcoin มันไม่สามารถประสบความสำเร็จในการที่จะมาแทนเงินแบบเดิมของแต่ละประเทศได้ เพราะคงไม่มีประเทศไหนยอมฝากชีวิตไว้กับเงินที่ไม่มีเสถียรภาพ และควบคุมด้วยตัวเองไม่ได้
และมันก็เป็นไปได้และเป็นได้สูงที่แต่ละประเทศจะอาศัยเทคโนโลยี Blockchain มาช่วยให้การเงินของประเทศตัวเองมีศักยภาพขึ้นรวมถึงการสร้างสกุลเงินดิจิตอลของตัวเองขึ้นมาด้วยเพื่อให้สามารถควบคุมได้
อย่าบอกเลยว่าเงินดิจิตอลไม่ต้องการควบคุม หรือให้ประเทศตัวเองฝากชีวิตและไว้เนื้อเชื้อใจระบบ Decentralized ที่บอกว่าไม่สามารถมีคนควบคุมได้
ไอ้ที่ Hardfork ทั้ง ethereum และ Bitcoin กันอยู่นี่ไม่ใช่การควบคุมเหรอ? ยิ่ง Ripple ยิ่งมีความเสี่ยงสูงเพราะ Ripple เป็น not decentralized และ Ripple คนเดียวมีถือ XRP ไว้ถึง 61% ส่วน Bitcoin และ ethereum ก็มี Pool ใหญ่ๆ 4-5 Pool ที่ทำการขุดน่าจะคิดเป็นมากกว่า 50% ถ้า 4-5 Pool นี้ร่วมมือกันควบคุมเพื่อทำอะไรสักอย่าง อันนี้ก็คือความเสี่ยง
Ethereum ต้อง Hard Fork เพื่ออัพเกรดระบบ/แก้ bug ครับ ส่วน Bitcoin ไม่เคยเกิดการ Hard Fork จนระบบเสียความน่าเชื่อมั่น (กรณี Bitcoin Cash เป็นการแตกเชนไม่ได้ยุ่งกับเชนหลัก)
เรื่อง Pool ที่ควบคุมกำลังขุด ไม่ได้หมายความว่าถ้าใครมีกำลังขุดเกิด 51% จะทำให้เกิดความเสี่ยงนะครับ ระบบ Bitcoin ไม่ได้ถูกควบคุมโดย miner อย่างเดียว ยังมี users (node) / exchange / wallet / developer ที่ยังเป็นผู้เล่นในระบบคอยคานอำนาจกันอยู่
หรือต่อให้ใครซักคนควบคุมกำลังขุด 100% ก็ hard fork ระบบให้เป็นไปในแนวทางที่ตัวเองต้องการไม่ได้ครับ
ส่วนเรื่องการเงินมาแทนที่เงินระดับประเทศเป็น "ความเชื่อ" ของบุคคลล้วนๆครับ หลายคนเชื่อว่าจะไปถึงได้ หลายคนเชื่อว่าจะไม่มีทางไปถึง ขึ้นว่า "ความเชื่อ" ของคุณขึ้นอยู่กับอะไร? ขีดความสามารถในการพัฒนาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์? เทคโนโลยี? หรือความเชื่อในอำนาจการควบคุมเงินของรัฐ?
ปัญหาคือ เงินนี้ไม่มีการรับรองจากรัฐครับ รัฐไม่ได้ผลิต รัฐไม่ได้ควบคุม รัฐจึงไม่ต้องรับผิดใด ๆ ถ้าเงินนี้เกิดไร้ค่าขึ้นมา ความน่าเชื่ถือตอนนี้ก็อยู่ในวงที่จำกัดมาก เรียกว่าคุณเดินไปซื้อของที่ร้านค้าทั่วไปด้วยเงินนี้ไม่ได้
แถมปัญหาเรื่องการควบคุมว่าเงินนี้ใครมีเยอะกว่าประเทศก็ไม่ได้เพราะปั่นราคากันสะบั่น
ดังนั้น เงินนี้จึงไม่มีทางเป็นสกุลเงินหลักได้ นอกจากเป็นเงินที่ปันราคาขายเหมือนเงินในเกมออนไลน์แหละครัรบ
ถ้าเอาตามตรง ผมว่ารุ่นเรายังเร็วเกินไปสำหรับ Practical Use จริงๆครับ และเค้าพูดก็ถูกครับว่าสถานการณ์ตอนนี้ BTC เป็นตัวเก็งกำไรซะมากกว่า เอามาทำธุรกรรม จับจ่ายซื้อขายจริงน้อย พอพูดถึงตัวกลางในการแลกเปลี่ยน คนส่วนใหญ่ยังต้องการความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่น และตัวกลางที่ยังสามารถจับต้องได้อยู่
คิดว่าคงประมาณรุ่นลูกรุ่นหลานแหละ ที่จะเห็นผลจริงๆ
ถ้าสิ่งที่พูดมามันถูกต้องแล้ว ถ้าเหรียญมันไม่ได้เรื่อง แล้วจะออกเหรียญ XRP มาทำไม
ตลกตรงที่ "ไปพูดที่งานสัมมนาของบริษัท Ripple " ทั้งๆที่เหรียญ XRP ก็อยู่ในสถานะเดียวกันกับ BTC
ปัญหาคือ เงินนี้ไม่มีการรับรองจากรัฐครับ รัฐไม่ได้ผลิต รัฐไม่ได้ควบคุม รัฐจึงไม่ต้องรับผิดใด ๆ ถ้าเงินนี้เกิดไร้ค่าขึ้นมา
แน่นอนธนาคารทั่วไปก็เป็นแบบนั้นด้วย รับฝาก แต่ถ้ามีความเสียหาย เค้าสามารถไม่รับผิดชอบได้ เพราะเงินนี้ไม่มีการรับรองโดยรัฐบาล
อย่างที่บอกความน่าเชื่อถือตอนนี้ก็อยู่ในวงที่จำกัดมาก เรียกว่าคุณเดินไปซื้อของที่ร้านค้าทั่วไปด้วยเงินนี้ไม่ได้ แต่คุณถือเพื่อฟอกเงินที่ได้จากกิจกรรมผิดกฎหมายได้
จริง ๆ ถ้าผมเป็นรัฐบาลผมจะสั่งห้ามซื้อขายในทันทีเลยนะ เพราะมันทำให้เศรษฐกิจประเทศเสียหายหนักมาก ทั้งเรื่องภาษี ทั้งอะไรมากมาย
แต่ประเทศนี้น่าจะเฉย ๆ มีคนเก็งกำไรจากของพวกนี้เกลื่อน
Blockchain น่ะมีประโยชน์ แต่ Bitcoin น่ะ แย่