สิ้นสุดการรอคอยอันยาวนาน? มา "Say Hello to (the inside of) the Future" กับ iFixit หลังจากเครื่องออกวางจำหน่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทาง iFixit ได้นำ iPhone X ไปแกะดูภายในเป็นที่เรียบร้อย พบรายละเอียด ดังนี้
- บอร์ดจำนวน 2 ชิ้น วางซ้อนทับกัน ทำให้พื้นที่ในการลงลายวงจรเพิ่มขึ้นเป็น 135% และมีขนาดของบอร์ดเพียง 70% (เมื่อวางซ้อนกัน) ของ iPhone 8 Plus เชื่อมต่อโดย VIA (vertical interconnect access)
- ชิป Apple A11 พร้อมกับ neural engine และ M11 motion coprocessor
- แรม LPDDR4x ขนาด 3 GB
- กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล เลนส์ไวด์ F1.8 เลนส์เทเล F2.4 พร้อม OIS และแฟลช True Tone quad-LED
- ระบบกล้อง TrueDepth ประกอบไปด้วย Flood illuminator, กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล F2.2, IR dot projector และกล้องอินฟราเรด
- หน้าจอ OLED 5.8 นิ้ว 2436 x 1125 พิกเซล 458 ppi
- โมเด็ม Qualcomm MDM9655 Snapdragon X16 LTE พร้อมชิปจัดการพลังงาน PMD9655 PMIC
- WiFi 802.11a/b/g/n/ac MIMO, Bluetooth 5.0 และ NFC
- IC ควบคุมการชาร์จ NXP 1612A1
- Taptic Engine แบบ linear oscillator เช่นเดิม
- ขดลวดสำหรับการชาร์จไร้สาย Qi รองรับ fast charge
- แบตเตอรี่ 2 ก้อน 10.35 Wh (2716 mAh ที่ 3.81 V)
iFixit ให้คะแนนความง่ายในการซ่อมที่ 6 จาก 10 คะแนน จากวิธีการเปลี่ยนจอและแบตเตอรี่ที่ใกล้เคียงกับ iPhone รุ่นก่อนๆ และการเปลี่ยนจอซึ่งไม่ไปยุ่งกับอุปกรณ์ในระบบกล้อง TrueDepth ส่วนที่ทำให้เสียคะแนนคือคุณสมบัติกันน้ำ และการรวมสายเคเบิ้ลภายในเครื่องในบางจุดทำให้การซ่อมยากขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนกระจกหลังที่ต้องถอดทุกอย่างออกจากเครื่องก่อน
ที่มา – iFixit

Comments
นึกว่า VIA คืนชีพ
อ้าว ไม่กันน้ำเหรอ
iPhone X กันน้ำครับ
ที่หักคะแนนน่าจะเพราะถึงแม้ว่าจะทำให้ซ่อมง่ายขึ้นเนื่องจากน้ำเข้ายาก
แต่เวลาแกะซ่อมซีลยางจะยืดเสียทันที ต้องเปลี่ยนใหม่ไม่งั้นไม่กันน้ำมั้งครับ
นวัตกรรมอยู่ภายในนิเอง !!!
ปีหน้าจะมาซ้อนแผงวงจรเกทับกันมั้ยนะ
ซึ่งผมว่าดีนะ เป็นเทรนการลดการใช้พื้นที่ของแผงวงจร เพิ่มปริมาณแบต
ไฟไหม้ได้ง่ายขึ้น เยี่ยมมม