แม้ราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ (ล่าสุดทะลุ 7,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC ไปแล้ว หลังข่าว CME เพิ่มฟิวเจอร์ให้ Bitcoin) ท่ามกลางกระแสผู้คนในแวดวงการเงินที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลนี้อยู่เรื่อย ๆ เช่น Warren Buffet นักลงทุนชื่อดัง, Jamie Dimon จาก JPMorgan Chase, Ben Bernanke อดีตประธานเฟด
ล่าสุดก็เป็นคิวของ Tidjane Thiam ซีอีโอของ Credit Suisse Group AG สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่จากสวิสได้ให้ความเห็นว่า Bitcoin ถือเป็น “คำนิยามของฟองสบู่” เพราะว่าทุกวันนี้เหตุผลเดียวที่ทุกคนซื้อขาย Bitcoin คือเพื่อทำเงิน ซึ่งถือเป็นนิยามของการเสี่ยงโชคและฟองสบู่อย่างชัดเจน และในประวัติศาสตร์การเงินนั้น การเสี่ยงโชค “หายากที่จะจบอย่างสวยงาม” และธนาคารส่วนใหญ่มีความสนใจน้อยหรือไม่มีเลยที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสกุลเงินนี้ เพราะว่ามีความท้าทายเรื่องการฟอกเงิน
แต่ทั้งนี้ Thiam กล่าวว่าในด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นมีประโยชน์มากในด้านการธนาคาร โดยตอนนี้ Credit Suisse ถือเป็นหนึ่งในธนาคารนับร้อยแห่งที่เข้าร่วมกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน R3 ด้วย
ที่มา - Bloomberg
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ Credit Suisse
Comments
เหมือนทุกข่าวเนื้อข่าวจะเหมือนกัน เปลี่ยนแค่ชื่อผู้กล่าว
ก็มันไม่มีพื้นฐาน ราคาวิ่งขึ้นลงจาก speculation (การพนัน) ล้วนๆ
อยู่ที่ความพอใจของคนซื้อและคนขาย
ผมว่าอันนี้ล่ะที่เป็นปัญหา ถ้าเกิดว่าทุกคนคิดว่ามันควรจะราคาร้อยดอลขึ้นมาล่ะครับ มันไม่เหมือนอย่างทองที่มีค่าของตัวเอง หรือดอลล่าห์ที่ปั๊มจริงใช้จริงทั้งประเทศ ถามว่าบิทคอยได้มามันเอาไปใช้อะไรได้บ้างล่ะครับ
อันนี้การลงทุนมีความเสี่ยงจริงๆเลยล่ะครับ
ทอง กับ bitcoin ผมว่ามันก็เหมือนๆ กันนะ
ทอง ไม่มีค่าในตัวมันเอง มันก็คือเหล็กชนิดนึงเท่านั้น แต่คนเราให้ราคามันเอง
bitcoin ก็เหมือนกัน ตัวมันไม่มีค่าอะไร แต่เรากำหนดค่าให้มันเอง
พอมันหายาก จำนวนมีน้อยกว่าความต้องการ ราคาก็สูงขึ้น
ใครใคร่ซื้อ ก็ซื้อกันไป มีคนกำไรก็ต้องมีคนขาดทุน โบรคนิ่งยิ้มนับตังกันไป
ทองมีค่าเพราะมันเป็นโลหะที่มีคุณค่าในทางเทคโนโลยีครับ
ในอวกาศเราก็ใช้ทองคำเคลือบป้องกันการเกิด corrosion
ซีพียูของเราก็มีทองเป็นส่วนประกอบ
และทองคำที่โลกขุดได้แทบทั้งหมดเป็นทองที่มาจากนอกโลก มาจากอุกกาบาต
ทองดั้งเดิมบนโลกมันใหลไปรวมใจกลางโลกหมดแล้ว
ทองจึงมีจำนวนที่จำกัดอย่างแน่นอน แต่กลับมีความต้องการใช้มหาศาลขึ้นเรื่อยๆ
ในอดีตคนถือว่า ทองเป็นโลหะที่ไม่เกิดสนิม
เป็นโลหะประหลาด เป็นโลหะอมตะ แต่ในปัจจุบันมันยิ่งกว่านั้นเยอะ
เพราะกันได้กระทั้งการเกิด corrosion ในอวกาศ
ดังนั้นสรุปได้ว่า ทองคำเป็นวัตถุที่มีอยู่จริง มีคุณสมบัติที่หาสิ่งทดแทนไม่ได้จริง
แต่ bitcoin มันเหมือนคูปองฟูดคอร์ทเท่านั้น
ด้วยข้อจำกัดในปัจจุบันที่ไม่สามารถหาวัสดุทึ่มีคุณสมบัติเท่าเทียมทองคำได้
ถ้าคนทุกคนบนโลกไม่ยอมรับมูลค่าของทองคำเอาทองคำมาทิ้ง
จะมีคนรีบมาเก็บทองคำเอาไปใช้งานต่างจากบิตคอยน์ถ้าทุกคนบนโลกไม่ยอมรับ
มันจะหมดค่าไปในทันที บิตคอย์นและทองคำ ผมว่าต่างก็มีข้อดีข้อด้วยแตกต่างกันไป
แต่ข้อดีของทองคำคือตัวมันเอาไปใช้ทำประโยชน์ได้ทำให้มีค่าเสมอแล้วแต่ยุกต์สมัย
ซึ่งบิตย์คอย์นไม่มีคุณสมบัตินี้
ทองมีค่าในตัวเองเหรอครับ อย่าบอกนะว่าเป็นเครื่องประดับ
ถ้ายังอ่านไม่แตกฉานก็อย่าเพ่งรีบ comment ครับ
...
ไม่ต้องกลัวไม่ได้เม้นครับ
ตอบสามคนบนนะครับ
อ่านตรงไหนไม่แตกครับ ? ช่วยดูลำดับและเวลาคอมเม้นด้วย
ตามคุณสมบัติของทอง คุณคิดว่าราคาปัจจุบันสะท้อนกับคุณสมบัติของมัน ?
ก็มีอะไรที่ราคาถูกกว่า แต่ใช้แทนได้ดีล่ะครับ
ทอง "มีค่าในตัวเอง" แต่ "อาจจะไม่มากเท่าราคาซื้อขาย" ครับ
ไม่ใช่เฉพาะทอง พวกของที่หายากทั้งหลาย อัญมณี งานศิลป์ ก็จัดอยู่ในหมวดนี้ครับ
จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินว่าไงบ้างผมเชื่อคนนี้ :P
Credit Suisse อภิมหาคนละชั้นกับโซรอสเลยนะครับ
มันคือการเก็งกำไร พวกที่เข้าตลาดแล้วถือครองก่อนก็บอกว่าดี จะไม่ให้ดีได้ไงก็กำไรแล้วนี่ยิ่งขึ้นยิ่งดี แต่พวกเม่าที่มาทีหลังเทรดรายวันมันคือการเสี่ยงโชค และส่วนมากก็ซื้อกันแบบมึนๆ ต่อให้เม่าปีกทองฝังเพรชมาเทรดรายวันก็เหอะ จบไม่สวยซักราย กราฟเห็นขึ้นๆ แต่ลงถ้าซูมเข้าไปดูจะเห็นว่ามันบันเทิงรายวัน ลง 20% แล้วขึ้นไปดองจันทร์ภายในไม่กี่นาที เสร็จแล้วย่อต่อ ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
แต่แย่สุดก็คือเหรียญ ALT ที่เหลือ 99% คือ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ไม่มีธรุกิจรองรับ บางตัวก็ได้มาฟรีแต่ปั่นยับ แล้วก็เทขาย ถ้า volumes เยอะคนเข้าไปก่อนก็ยิ้มไป กำไรหลายเด้งในระยะเวลาอันสั้น แต่พวกเข้าไปที่หลังพอปลาวาฬขายเสร็จลุกช้าก็โดนเผาไป
ได้เวลาช้อนอีกแล้ว
ผมว่า มันคืองานอดิเรกสำหรับกีกที่มีอันจะกิน
ยังหลั่งๆไหลมาแบบไม่ขาดสาย หัวเห็ดในสายการเงิน อาจจะตายเรียบเพราะบิตคอยก็ได้นะ
แบบนี้ใครก็พูดได้ครับ แน่จริงระบุเวลาเลยดีกว่า กี่ปีก็ว่าไป
เคยลองคำนวณเล่นๆ ถ้ามันโตกว่านี้ซักประมาณ 300 เท่า แล้วโตอย่างต่อเนื่องน่าจะโดนรัฐบาลแต่ละประเทศไล่เก็บแล้วนะ เพราะถึงตอนนั้นจะกลายเป็นว่า มันเริ่มดึงเงินจากตลาดหุ้นไปหลายเปอร์เซ็นต์จนกระทบต่อการลงทุนภายในประเทศล่ะ
ทำไมตอนผมเล่นไม่เคยโชคดีบางเลย 5555
ดูกันยาวๆครับ
พออ่านเรื่อง Bitcoin ในทางนี้ทีไรก็ชวนให้ถึงนึก Great Depression ทุกทีเลยแฮะคือตอนนี้ "ลงทุน" กันเพราะหวังจะพนันกับราคามากกว่ามาลงทุนเพราะคุณค่าของตัวมันในฐานะที่จะเป็นสื่อแลกเปลี่ยนในอนาคตเลยแฮะ และยิ่งอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแบบนี้คุณค่าของมันในฐานะที่จะถูกใช้เป็นสื่อแลกเปลี่ยนของมันยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ
ไม่เกี่ยวปะครับ ในตลาดก็มีนักลงทุนหลายแบบแตกต่างกันไป ถ้ามีแต่นักลงทุนประเภทแบบที่คุณว่าตลาดคงซบเซามากครับ
Blockchain คือสุดยอดเทคโนโลยี Bitcoin คือฟองสบู่?
สำหรับผม Blockchain คือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกได้
ส่วน Bitcoin เป็นสิ่งที่เสกขึ้นมาจากอากาศ โดยเอาคำว่ามีการสูญเสียค่าไฟขุดไปแล้วมาบังหน้าไว้
ส่วนตัวผมเล่นเทรดทำกำไรหาค่าข้าวไปเรื่อยๆพอครับ ไม่คิดจะฝากเงินระยะยาวหรือฝากชีวิตไว้ที่ Bitcoin
ลองดู อันนี้ กับ บทความนี้ แล้วเปิดใจให้กว้างๆ ลดอคติดูครับ
Bitcoin ไม่ได้เกิดขึ้นจากอากาศ แต่เกิดจากการเอาสิ่งที่มีมูลค่าในโลกจริงของเรา(พลังงาน+เวลา)ไปเป็นกลไกป้องกันการถูกโจมตีให้ระบบ และได้รางวัลตอบแทนเป็นเหรียญ Bitcoin แทน
ผมมองว่าทุกสิ่งที่ถูกสร้างมาในโลกนี้ใช้พลังงาน+เวลาทั้งนั้นครับ
โดยพลังงาน+เวลาในการสร้างคือต้นทุน (Cost) ครับ
แต่ต้นทุนที่เราต้องจ่ายนั้นแลกสิ่งที่มีคุณค่า/มูลค่า (Value) ในตัวเองมาได้หรือไม่คืออีกเรื่องครับ
ถ้าเราจ่ายต้นทุนไปแล้วได้สิ่งที่ไม่มีคุณค่าในตัวเองเลย มันก็ไม่ต่างอะไรจาก waste หรือ sunk cost ครับ
โดยวลียอดฮิตที่บอกว่า เพราะคนเห็นคุณค่าจึงเกิดความต้องการและเป็นไปตามหลัก demand/supply นั้นก็มีส่วนที่เป็นจริง
แต่ demand ที่บอกนั้นเป็นของจริงหรือของเทียมที่เกิดการปั่นกระแสจนมันไปไกลเกินจุดสมดุลหรือไม่ครับ
คุณค่าของ bitcoin ณ ตอนนี้ไม่ได้เกิดจากการขุดเสกจากอากาศครับ
แต่เกิดจากความโชคดีที่มันเกิดมาเป็นตัวแรกทำให้เหรียญอื่นๆต้องมา pair ค่าเงินเข้าไปด้วย
ถ้าวันไหนโลก crypto เห็นว่ามีสิ่งอื่นที่เหมาะจะเอามา pair ค่าเงินมากกว่า bitcoin เมื่อนั้น bitcoin เองจะไม่เหลืออะไรในตัวเลยครับนอกจาก sunk cost ที่เป็นค่าไฟ+เวลาจ่ายเปล่าๆเพื่อได้ binary data ที่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
เห็นด้วยเลย
อ้างว่าขุดมาแพง แต่ทำไมผมต้องซื้อมัน ในเมื่อมันเอาไปแลกอะไรไม่ได้เลย?
ที่รับ เรตก็เหมือนไม่เต็มใจรับ สู้กำเงินสดไปซื้อยังดีกว่า
ต้อนนี้ทุกคนซื้อ-ขาย มันด้วยเหตุผลเดียว
"หวังว่ามันจะขึ้นต่อไป"
ผ่านไปจะสิบคนแล้วมันยังไม่แตกเลย ยิ่งจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คงอีกนานกว่าจะแตก
อ่านกระทู้แบบนี้อารมเหมือน กระทู้แช่งหุ้นอิชิตันสมัยก่อน มันลงจริงแต่กว่าจะลงก็รวยกันไปหลายเด้ง