Sir Jon Cunliffe รองผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษรับผิดชอบด้านเสถียรภาพทางการเงินเตือนว่านักลงทุนควรทำการบ้านและคิดให้รอบคอบที่จะลงทุนในบิตคอยน์หลังราคาทะลุ 11,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้
บิตคอยน์ทำราคาสูงสุด 11,155 ดอลลาร์ต่อ BTC เมื่อวานนี้ เมื่อวันที่ 1 ธันวา 2016 ราคายังอยู่ที่ 753 ดอลลาร์เท่านั้น
อย่างไรก็ดี Cunliffe ยืนยันว่ามูลค่าของบิตคอยน์ยังเล็กเกินไปที่จะสร้างปัญหาให้ระบบเศรษฐกิจ และมองว่าบิตคอยน์นั้นเหมือนสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) มากกว่าเงินตามชื่อของมัน
กระบวนการกำกับดูแลบิตคอยน์ต่างกันไปในแต่ละประเทศ สหรัฐฯ มองบิตคอยน์เป็นเงิน ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลเกาหลีใต้มองเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ และญี่ปุ่นมองเป็นช่องทางการจ่ายเงิน
ที่มา - BBC
Comments
สิ้นปี 15,000
จะฟองสบู่หรือไม่ แต่มันก็ทำให้วงการการเงินระหว่างประเทศสั่นสะเทือนได้เนอะ เหลือเชื่อจริงๆ
..: เรื่อยไป
นักลงทุนมันก็ต้องทำการบ้านอยู่แล้ว เล่นหุ้นก็ต้องทำ ไม่งั้นก็เอาเงินไปละลาย
บางคนก็ไม่นะ เห็นเขาว่าดีก็ซื้อจนขาดทุนก็เยอะ ไม่งั้นคงไม่มีคำว่าเม่าหรอก
เสียงแช่ง แผ่วลงๆ สวนทางกับราคาที่เพิ่มขึ้น
กำลังรอดู ว่าเสียงแช่งจะหมดไปที่ราคาไหน..
ราคานั้นแหละ จุดสูงสุด
...ตราบใดที่ยังมีเสียงแช่งราคาจะยังบินต่อ
ผมไม่ได้ยินเสียงแช่งมานานแล้วนะครับนี่
ส่งหน้าใหม่ มาดัน
มันเหมือนวงวนของหุ้นเมืองไทยนั่นแหล่ะ เจ้ามือจ้างปล่อยข่าวทุบเพื่อช้อนซื้อ เจ้ามือสร้างข่าวดีเพื่อปล่อยหุ้นทำกำไร มัน Order กันได้ เม่าก็ถลาตามข่าว เอาเงินไปให้เขาฟอกเล่นๆ เพราะ BTC ใหญ่มีคนถืออยู่ไม่กี่กลุ่ม ถามว่าฟองสบู่จะแตกหรือยัง ถ้าเจ้ามือยังเอาเงินนอกกฎหมายมาฟอกได้เรื่อยๆ ก็ยังยาก จะแตกก็เมื่อภาครัฐเริ่มสร้างเงินดิจิทัลของตัวเองมาแข่ง หรือมีคู่แข่งที่ทำกำไรส่ว่นต่างได้มากกว่า มันก็จะเริ่มไม่มีคนถือ BTC ไปถือเงินสกุลอื่นแทน เจ้ามือก็จะเทขายปิดจ็อบเก็บเป็นเงินสดทีนีก็หนีตายกันอุตลุด
ฟันธง
ฟองสบู่ ผมมองว่าเป็นโภคภัณฑ์อย่างนึง ไว้เก็งกำไรสร้างความร่ำรวยมากกว่า (ผมอยู่ฝ่ายแช่ง 5555 )