สายการบินระดับท็อปของสหรัฐฯ เริ่มออกกฎเกี่ยวกับกระเป๋าไฮเทคแล้ว เนื่องจากปัจจุบันกระเป๋าประเภทนี้เริ่มเป็นที่นิยมมาก และกระเป๋าสมาร์ทแบคมักจะมีแบตเตอรี่ภายในซึ่งมีความเสี่ยงที่จะระเบิดหรือไหม้ได้
American Airlines ได้ออกกฎใหม่เกี่ยวกับกระเป๋าไฮเทค โดยกล่าวว่าตั้งแต่ 15 มกราคมเป็นต้นไป ลูกค้าที่เดินทางและใช้กระเป๋าสมาร์ทแบคจะต้องถอดแบตเตอรี่ออกมาในจุดตรวจสอบระหว่างการเดินทาง ซึ่งหากแบตเตอรี่ไม่สามารถถอดออกจากกระเป๋าได้ กระเป๋าใบนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้โหลดใต้เครื่อง โดยทางสายการบินอ้างถึงความเสี่ยงแบตเตอรี่ไหม้ที่อาจเกิดขึ้นได้จึงต้องออกกฎดังกล่าวเพื่อป้องกัน
กฎการแบนกระเป๋าไฮเทคของ American Airlines จะเน้นที่กระเป๋าเช็คอินโหลดใต้เครื่องเท่านั้น ส่วนของถือขึ้นเครื่องยังไม่จำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกมา แต่ต้องยังคงต้องปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามข้อกำหนดของ Federal Aviation Administration
ส่วนสายการบินอื่นอย่าง Delta และ Alaska นั้นก็ออกกฎใหม่ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมีใจความในลักษณะคล้ายกับ American Airlines ส่วน United และ Southwest ก็เตรียมออกกฎในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งสายการบินทั้งหมดนี้มีทราฟฟิกการบินคิดเป็นประมาณ 80% ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ Tomi Pierucci ซีอีโอของ Bluesmart ผู้พัฒนากระเป๋าสมาร์ทแบคกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการก้าวถอยหลังไม่ใช่เฉพาะในด้านเทคโนโลยีการเดินทาง แต่เป็นการขัดขวางการปรับปรุงประสิทธิภาพในการเดินทางอีกด้วย ถ้าสายการบินต้องการจะแบนสมาร์ทแบค ก็ควรจะแบนกล้อง, แล็ปท็อป และมือถือที่เช็คอินหรือถือขึ้นเครื่องด้วย เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ก็มีปัญหาแบตเตอรี่ที่อาจระเบิดได้
ที่มา - TechCrunch, American Airlines
ภาพโดย American Airlines
Comments
ผมกม็ว่าโอเคนะเพราะโคตรเสี่ยงเลย
คือที่ไม่แบนการถือขึ้นเครื่อง เพราะมันมีคนเห็นไง ไหม้ก็ดับได้ทัน แต่ถ้าโหลดใต้เครื่องมันไม่มีคนดู ถ้าไหม้ก็ไปหมดอันตรายกว่าเยอะ
ไม่น่าเถียงข้าง ๆ คู ๆ
เถียงข้างๆ คูๆ เนอะ คือใต้ท้องเครื่องห้องเก็บสัมภาระมันเสี่ยงกว่าตรงไม่มีคนดูแล ถ้ามันมีอะไรระเบิดตูมตาม หรือเกิดอะไรไหม้ขึ้นมามันเข้าถึงไปจัดการได้ยากกว่ามาก ส่วนในห้องผู้โดยสารมันยังเข้าถึงและจัดการได้ง่ายกว่า
ทำแบบถอดแบตได้ออกมาก็น่าจะโอเคนะ รุ่นก่อนหน้าใครซื้อมาก็ซวยไปซะงั้น
พึ่งรู้จักกระเป๋าแบบนี้ ก็เพราะข่าวนี้เลยนะครับ
ผมก็ด้วยครับ
จะทำแบตแบบถอดออกไม่ได้เพื่ออะไรหว่า ใช้ไปสักปีสองปี แบตเน่าก็ทิ้งทั้งกระเป๋าเลยซิ ปกติกระเป๋าดีๆ มันทนอยู่ได้นานนะ
ถ้าจ้างยามซัก 3 คน ผลัดเวรเฝ้าระวังใต้ท้องเครื่อง ในมือก็ถือถังดับเพลิงเตรียมฉีดดับไฟ 3 กะ 24 ช.ม. ค่าตั๋วจะเพิ่มขึ้นซักกี่บาทกันเหลอครับ ?
เป็นความคิดเห็นที่เห็นแก่ตัวมากครับ เมื่อเทียบกับความเสี่ยง คุณคิดว่าพื้นที่ปิดบนอากาศยาน เวลาเกิดเหตุไฟไหม้มันดับง่ายๆหรือครับ และมันไม่สามารถจอดทันทีเพื่ออพยพคนได้นะครับคุณ ถ้าลองไปสังเกตข้อบังคับอื่นๆก็เป็นข้อบังคับที่หักดิบไปเลยทั้งนั้น ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมมันดีที่สุดสำหรับอากาศยาน
ฝากไว้อีกนิด
คำว่า"เหรอ" มันพิมพ์ยากหรือครับ?
คิดได้ไง สงสัยเป็นผู้ถือหุ้นกระเป๋ามาเอง หรือไม่ก็...สุดๆ
ใต้ท้องเครื่องไม่ได้ออกแบบมาให้คนอยู่อาศัยครับ ระบบปรับความดันระบบระบายอากาศระบบที่นั่ง ถ้าจะทำแบบนั้นต้องเอาเครื่องทุกสายการบินมาทำใหม่ถามว่ากี่บาทหรอครับ ราคาพอจะทำสายการบินทั้งโลกเจ๊งพร้อมกันในครั้งเดียวได้เลยครับ
อยากให้คุณไปอยู่ใต้ท้องเครื่องสักครั้งครับ
The Dream hacker..
เพิ่มตรงที่โหลดของได้น้อยลง 50% เพราะต้องทำให้เดินได้
เดาว่าน่าจะขึ้นอย่างน้อย 2/3 ครับ :)
จริงๆ ตอนนี้สายการบินก็ห้ามโหลด Laptop และ อุปกรณ์ที่มี Battery ขนาดใหญ่ ไว้แล้วนะครับ คงไว้แค่กล้อง (แต่เสี่ยงเลนส์แตกมาก) กับ พวกอุปกรณ์ขนาดเล็ก
เขาพยายามทำให้ปลอดภัยต่อการบินให้ได้มากที่สุด แต่คนทำกระเป๋าพวกนี้นี่ก็พยายามป้องกัน...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เถียงได้น่าเขกหัวมาก จริงๆ เรื่องนี้น่าจะเป็นข้อแรกๆ ที่ควรคำนึงถึงเมื่อเริ่มต้นออกแบบกระเป๋าเดินทางด้วยซ้ำ