คดีระหว่าง Uber และ Waymo ทำให้มีการรื้อค้นเอกสารภายในบริษัทเพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเปิดเผยในศาล ล่าสุดพบจดหมายของ Richard Jacobs ที่ระบุว่า Uber ทำผิดกฎหมายหลายอย่าง
จดหมายเขียนโดยทนายของ Jacobs ระบุว่าเขาพยายามรายงานการทำผิดกฎหมายของทีม ThreatOps แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ
ในจดหมายเขาระบุว่าทีม ThreatOps เจาะเข้าไปยังเครือข่ายของคู่แข่งเพื่อขโมยข้อมูลและดักฟังการสื่อสาร, ปลอมตัวเป็นคนขับรถของแพลตฟอร์มอื่นเพื่อหาฟีเจอร์ของแอปฝั่งคนขับ, ขโมยโค้ดของคู่แข่ง บางทีมงานแอบเข้าไปในงานประชุมที่มีผู้บริหารคู่แข่งเพื่อดักฟังการพูดคุยระหว่างผู้บริหาร
นอกจากนี้จดหมายยังระบุว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้งานโดยผู้บริหารของ Uber โดยตรง
Jacobs เป็นพนักงานที่ถูกไล่ออกไปตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่าน โดยจดหมายนี้ระบุว่าเขาถูกไล่ออกเพราะไม่ทำตามคำสั่งที่ผิดจริยธรรมและผิดกฎหมาย ทางฝั่ง Uber ระบุว่ายังไม่ได้มีการตรวจสอบข้อกล่าวหาทั้งหมดตามจดหมายฉบับนี้ และภายใต้ทีมบริหารใหม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะแข่งขันอย่างเป็นธรรม
ที่มา - Business Insider
Comments
mission impossible
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล
ถ้าจะมีหนังจากซิลิคอนวัลเลย์เรื่องใหม่... ก็คงนี่แหละ
my blog
อันนี้จริงๆ ก็ดูไม่น่าผิดอะไรรึเปล่าครับในมุมว่าถ้าสมัครเข้าเป็นผู้ขับตามขั้นตอนปกติ
คงต้องดูเงื่อนไขผุ้สมัครว่าห้าม พนง/ผกข ของ บริษัท/หน่วยงาน ลักษณะไหนบ้างรึป่าว.. ถ้าอาอู๋เข้าเกณฑ์ข้อห้าม, การฝืนสมัครก็คงถือว่าผิดเพราะละเมิดข้อกำหนด ?
ผมก็ว่าไม่น่าจะผิดนะ ถึงจริงๆแล้วต้องมีมารยาทต่อคู่แข่งในการประกอบธุรกิจก็เถอะแต่ถ้าไม่มีกฎข้อไหนห้ามก็ไม่ผิด
เอาจริงๆแล้วถ้าออกมาเป็นแอพที่ End User ใช้แล้วก็ไม่มีอะไรเป็นความลับอีกต่อไป การใช้งานโปรแกรมก็ดูแค่เพียงไอเดียยังไม่ได้เข้าไปแกะโปรแกรมด้านในเสียหน่อย ถ้าเข้าไปปลอมตัวเป็นโปรแกรมเมอร์แล้วเอาโค้ดโปรแกรมฟีเจอร์นั้นออกมา แบบนี้ล่ะผิดแน่
กรณีแบบนี้ก็มีให้เห็นทั่วไปในธุรกิจ มือถือค่ายไหนออกมาใหม่วันแรกค่ายอีกฝั่งก็ซื้อไปทดลองใช้ฟีเจอร์จนไปถึงแกะดูข้างในจนเกลี้ยง
นี้ uber หรือ CIA