จากกรณีแอปเปิลยอมรับว่ามีการปรับการทำงาน iPhone รุ่นเก่าให้ช้าลงเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องดับ สิ่งที่ตามมาอย่างไม่เกินคาดก็คือ ผู้ใช้บางส่วนที่ไม่พอใจก็ฟ้องแอปเปิลทันที
โดยตอนนี้มีการยื่นฟ้องร้องแอปเปิลในอเมริกาแล้วอย่างน้อย 3 ราย โดยกรณีแรกเป็นยื่นฟ้องที่ศาลใน Illinois ระบุว่าการเจตนาทำให้ iPhone ช้าลงนั้นเป็นอุบายเพื่อให้ไปซื้อ iPhone รุ่นใหม่
อีกสองกรณีเป็นการยื่นฟ้องใน California โดยมีรายละเอียดคล้ายกันคือ แอปเปิลเจตนาให้ผู้ใช้งานสับสนเกี่ยวกับปัญหาแบตเตอรี่ เพื่อให้สุดท้ายแล้วคนจะตัดสินใจซื้อ iPhone รุ่นใหม่แทน
ที่มา: CNET
Comments
ส่วนตัวคิดว่าเป็นการสอดไส้ที่น่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมือถือเลย
ผมว่าเหตุผลมันก็ฟังขึ้นนะ แต่ควรแจ้งลูกค้าหน่อย เป็น popup ขึ้นมาเตือนก็ได้ วิธีมีตั้งเยอะดันไม่ทำ
ควรทำเมนูให้ลูกค้าตั้งค่าเอง แจ้งว่าแบตเหลือเท่าไหร่ จะให้ลด cpu เท่าไหร่ คิดเป็น%
แต่ผมไม่ได้เดือดร้อน ไม่คิดจะใช้ i แอบสะใจด้วยซ้ำที่เมื่อก่อนพากันเถียงคอเป็นเอ็นว่าอัพเดตแล้วเร็วขึ้น
แล้วคุณรู้ได้ยังไงครับว่าทุกคนทุกเคสที่คุณเถียงด้วยหลังจากอัพเดตแล้วมันไม่เร็วขึ้นจริง ถ้าตามอ่านข่าวจริงๆ ก็จะเห็นว่าตัวแปรหลักคือแบตเตอรี่ ถ้าหากว่าแบตของเขายังดีอยู่มันก็มีความเป็นได้ว่าอัพแล้วเร็วขึ้นจริงๆ อยู่นะครับ
และมันก็มีความเป็นไปได้ที่เค้าจะโกหกด้วยนะครับ เพราะถ้าแบตหมดระหว่างวันบ่อย ๆ แล้วใช้เพาเวอร์แบงค์มันก็จะทำให้แบตเสียได้เร็วขึ้น ซึ่งเราก็สามารถคาดเดาคนที่ชอบเทคโนโลยีมากพอที่จะเข้ามาตอบใน Blognone ก็น่าจะใช้มือถือบ่อยจนแบตเสื่อมได้ในเวลาไม่นาน เมื่อแบตเสื่อมไปถึงระดับที่ iOS ลดความเร็ว CPU ลงอัดเดตมาก็ทำให้เครื่องช้าลง แต่ยังไงคนใน Blognone ก็มาดูความเร็วเครื่องเราไม่ได้อยู่ดี ก็โกหกซะจะเป็นไร ซึ่งคุณ nrml ก็ปฏิเสธความเป็นไปได้ข้อนี้ไม่ได้เหมือนกันนะครับ หรือคุณจะพิสูนจ์ว่าทุกคนอัพเดท iOS ไปแล้วเร็วขึ้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยครับ
ข้อนี้ผมไม่เถึยงครับ เพราะถ้าเงื่อนไขมันเข้ากับที่ตั้งไว้ก็มีโอกาสที่จะทำให้เครื่องช้าลงได้จริงๆ ซึ่งในเรื่องนี้การใช้ความรู้สึกมาตัดสินโดยที่ไม่มีสถิติที่เป็นตัวเลขมาอ้างอิงมันก็พูดยากเหมือนกัน
การตั้งข้อสังเกตุมันควรจะทำได้โดยมีเหตุผลและตรรกะสนับสนุนนะครับ ไม่ใช่ห้ามเสนอความเห็นที่เป็นข้อสังเกตุต้องมีการพิสูจน์และวัดค่าก่อนแล้วเท่านั้นผมว่ามันเป็นแค่กลยุทธ์ใช้ในการเอาเปรียบในการโต้เถียงนะครับ การเอาเหตุผลและตรรกะมายันกันน่าจะก่อประโยชน์มากกว่า
เห็นด้วยครับ ซึ่งผมก็อยากรู้ว่าเหตุผลและตรรกะสนับสนุนด้านบนมันคืออะไร
คนใช้มือถือเยอะ มีโอกาสแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
แบตเสื่อม iOS ลดความเร็ว CPU
คนเดิมมือถือช้าลง แต่ไม่มีใครรู้จัก มีโอกาสโกหกในบอร์ด
คุยเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่าครับ เปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย
ผมหมายถึงความเห็นด้านบนของคุณ kadeep ครับ
ตามสเปกของมือถือแล้ว อาจจะยังใช้เครื่องต่อไปได้อีก 1-2 ปี
แต่เรายังอยากให้คุณเปลี่ยนอยู่ดี เราจึงหาเหตุผลอะไรก็ได้ ที่ฟังขึ้น
มารองรับเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนฟ้อง
Apple คิดว่าคนจะจับไม่ได้? หรือมั่นใจว่าฝ่ายกฏหมายจะชนะ? หรือคำนวณแล้วว่ายอดขายที่ได้จากคนแห่ไปซื้อรุ่นใหม่เพราะรุ่นเก่าช้าลงจะมากกว่าเงินที่ต้องจ่ายเวลาแพ้คดี?
เริ่มสงสัยยี่ห้ออื่นแล้วสิ เพิ่งไปเปลี่ยนแบ็ตมา อยู่ๆ มันก็เร็วผิดหูผิดตาเหมือนกัน....
ถ้าไม่ติดว่าทำ UI และ eco system ได้ดีกว่าแอนดรอยด์ล่ะก็ย้ายค่ายไปนานละ
UI อาจจะดีกว่าจริง แต่ Ecosystem ดีกว่ายังไงนะครับ?
SPICYDOG's Blog
น่าจะเป็นบริการต่างๆที่พ่วงมากับการซื้อเครื่อง เช่น iCloud และ AppStore
เพราะที่ผมใช้ iPhone ทุกวันนี้ก็เพราะ ecosystem นี่แหละ จะย้ายการทำงานไปฝั่งแอนดรอยด์ทีนี่คิดหนักเลย แต่ก็ยังอยากย้ายไปอยู่นะ อยากไปใช้ Huawei หรือ Oppo ดูบ้าง แต่ติดที่มันไม่มี tweetbot เนี่ยแหละ เลยยังใช้ iPhone อยู่
มีแนะนำแอป twitter client บน android ไหมครับ ที่ดีๆและไม่ใช่ตัว official แบบเสียเงินก็ได้ครับ ตอนนี้ใช้ note 5 อยู่ด้วย โหลด Flamingo มา เวลากด save รูปแล้วมันช้าๆ แต่ดีที่มัน save วิดีโอได้ด้วยนี่แหละ
เป็นอุปทานหมู่ ฟังคนพูดก็เอออตาม ยกเว้นว่าได้ซื้อเพลง หนัง หนังสือ แอพหมดไปเยอะแล้ว
อุปทานหมู่จริงๆน่ะแหล่ะ
UI แบบ pure android ก็ใช้ง่ายแล้วก็ลื่นไหลดี
Ecosystem ผู้พัฒนาบางคนทำแอพลงแต่iOSแล้วพอหาชื่อแอพเดียวกันบน Android ไม่ได้ก็กลาย
เป็นไม่ดีล่ะ ทั้งๆที่แอพที่ทำงานแบบเดียวกันก็มีเยอะแยะเต็ม Playstore
Google Drive ก็ให้พื้นที่เยอะกว่า iCloud
ผมหาซื้ออุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone ที่ผมอยากได้ ง่ายกว่าสมัยผมใช้ Android เยอะแยะมากครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมว่าผมย้ายมา iPhone แล้วชีวิตดีขึ้นนะ แอพหลายตัวดูมาตรฐานขึ้น
May the Force Close be with you. || @nuttyi
คนที่ใช้ iOS ไม่นานพอจะแย้งว่า Android ก็ทำได้ Ecosystem ก็ดี แต่จริงๆ มันสู้กันไม่ได้เลยครับ โดยเฉพาะคุณภาพแอป Android แย่กว่าเยอะ
เอา facebook ก่อน แอปของ Android ไม่เคยดีเท่า iOS แอปอย่าง page manager ขาดความสามารถหลายอย่างเช่นปรับเวลาโพสต์ล่วงหน้าในแอปไม่ได้ ต้องไปทำผ่าน browser แถม facebook live ก็ทำได้ไม่ดีเท่า google Pixel 2 ยังไลฟ์แย่มาก แสงเหวี่ยงตลอดเพราะ facebook ทำแอปมาไม่ดี สรุปถ้าทำเพจ หรือค้าขายต้อง facebook live ให้ซื้อ iPhone
ตัดต่อวิดีโอ แอปที่ดูดีที่สุดของ android คือ powerdirector แต่ก็ยังไม่เก่งเท่า iMovie หรือ splice (แถมค่าตัว power director แพงด้วย) โชคดีที่ Android มีแอป Quik เหมือน iOS ไม่งั้นแย่
แต่งภาพ แอป Android มี 3 ตัวที่เข้าท่าคือ Snapseed, Afterlight, VSCO แต่จะหาแอปแต่งสีฟิล์มแบบ RNI หรือทำภาพให้ได้อย่าง Hipstramatic ผมหามาเป็นปีแล้วยังไม่เจอเลย
แอป Facebook ผู้เปิดแฟลชกล้องหน้าไม่ได้ orz
ถ้าต้องแจกแจงแอพแบบนี้ ก็ไม่ค่อยยุติธรรมนะครับ ถ้าจะบอกว่าคนที่พูดแบบนั้นคือคนที่ใช้ iOS ไม่นานพอ
คนที่บอกว่าสู้กันได้อาจจะเป็นคนที่ใช้ 'ประเภทของแอพ' ที่บน Android มันดีกว่าก็เป็นได้ ไม่ได้ใช้ประเภทที่คุณลิสท์มา
อย่างผมซื้อ The New iPad ตัวแรกสุด ก็เพราะตอนนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และคนใช้ iOS มักบอกว่า app ดีกว่าเยอะ ปรากฏว่าผมใช้เวลานานมากในการหาแอพ File Explorer ที่สามารถเชื่อม Samba และเล่นไฟล์หนังได้ดี เพราะปัญหาที่เจอคือ
สุดท้ายก็ไปซื้อ Android Tablet แล้วโหลด ES File Explorer มาใช้ จบเลยทำได้ทุกอย่าง (ตอนนี้แอพนี้ก็จบเลย เต็มไปด้วย ads)
หรือตอนนี้ผมเปลี่ยนกลับมาใช้ iPad Pro ซื้อ Apple USB3 Connector มาก็เจอปัญหาอีก (ถ้าไม่นับเรื่องที่ต้องเสียบสาย power ถึงจะใช้ได้) ก็คือเรื่องการ import รูปที่ app Photos ของ iOS จะมองไม่เห็นบางไฟล์ (เช่น XAVC ของ Sony), บางชื่อ , บาง folder structure (ไฟล์รูปที่ไม่ได้อยู่ใน DCIM/ หรือไม่ได้มี naming convention ที่ iOS รู้จัก) ทั้งๆที่ android แค่เสียบ USB OTG ก็เปิดได้ทุกอย่างที่ File Explorer รองรับ
หรือถ้าคุยกันเรื่องคุณภาพแอพ ที่ชอบบอกกันว่า Android เอาแต่ Force Close ผมใช้ iOS มาหลายแอพ ไม่ FC เลยครับ เพราะมันปิดตัวไปเลย 5555
ถ้าชอบ ES File Explorer ก็ไม่แปลกครับที่จะอึดอัดกับ ios
ผมก็ว่าเป็นแอพที่ดีนะ แต่ ผมก็ยอมรับได้กับ ios เพราะไม่ได้จัดการไฟล์อะไรขนาดนั้น
คือไม่ได้ชอบเพราะเป็น App ES น่ะ แต่ข้อเสียของ iOS สมัยนู้นคือถูกบังคับ ให้ต้องหาแอพที่ทำได้ทุกอย่างในตัวเดียว เพราะมัน Open With แบบ Android ไม่ได้
เช่น ES ตั้งให้ไฟล์หนังเปิดด้วย MX Player งี้ เราก็ได้ใช้แอพที่มันดีในประเภทของมัน
Page manager ในแอนดรอยนี่ตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าตั้งนานแล้วนะครับ
ตั้งโพสต์ล่วงหน้าได้ แต่จัดการโพสต์ล่วงหน้าในแอปไม่ได้ครับ (พวกปรับเวลาโพสต์ ลบโพสต์ ดูว่ามีโพสต์อะไรกำลังจะโพสต์บ้าง) มันจะวิ่งไปเบราว์เซอร์เพื่อจัดการ แล้วถ้าเพจนั้นตั้งเป็น Business ไว้ มันจะจัดการยากมาก
ฟอนท์ไทยแอนดรอยด์ไม่สวยเท่า iphone ส่วนตัวเลยไม่ย้าย อันนี้พูดจริง
สมควร
ผมยกกรณีนี้ของ apple ห่วยสุดเป็นอันดับ 1
ส่วนอันดับสองคือหัวเหว่ยที่มือถือรุ่นเดียวกันแต่ใช้ memory ไม่เหมือนกัน
อันนี้ ออกอัพเดทมาก็จบนะครับ ส่วนฟ้องก็ส่วนกฎหมายไป
ใครไม่โอเค ก็เชิญแอนดรอยอะนะ
เอาตรงๆปัญหา apple แก้ไขน่าจะพอได้ แต่ของพี่หัวนี้ แก้แทบไม่ได้ เปลี่ยนอย่างเดียว
เคยเล่น android เมื่อก่อน mod ลด clock speed ลงเพราะอยากประหยัดแบต แต่ปรากฎว่าปรับแล้วเครื่องชอบดับเอง สุดท้ายก็เอากลับมา settings เดิมๆถึงจะใช้ดี ไม่มั่นใจว่าจะเกี่ยวกับกรณีเครื่องดับ iPhone มั้ย
คนเดือนร้อนดันเป็นคนที่ใช้ Android
ผ่ามมม
ทำไมผมไม่เห็นคนเดือดร้อนเห็นแต่คนที่กำลังขยี้ซ้ำเติมอย่างเมามัน
คุณรู้ได้ยังไงว่าคนที่ออกมาเดือดร้อนเขาใช้แอนดรอย์ครับ? เท่าที่เห็นเขาไม่ได้ออกมาเดือดร้อน มีอต่ออกมาทับถ่ม มากกว่า 5555+
The Dream hacker..
คือต่อให้เป็นผู้ใช้แอนดรอยอย่างผมก็มีอุปกรณ์ของ Apple ด้วยครับ พ่อแม่น้องสองคนก็ใช้ iPhone ผมจะออกเสียงแทนคนที่บ้านไม่ได้ใช่มั้ยครับ ที่สำคัญในฐานะผู้บริโภคเหมือนกันต้องช่วยกันไม่ใช่ปล่อยให้บริษัทใหญ่เอาเท้ามาลูบหน้าเราได้นะครับ การกระทำของ Apple ครั้งนี้มันยิ่งกว่า Huawei กาชาปอง อีกนะครับ ถ้าเราปล่อยไปบอกไม่เป็นไรแล้วบริษัทอื่นทำตามจะว่าอย่างไรครับ
คนปกป้องดันเป็นคนที่เสียเงินให้ Apple
ผ่ามม
ผมคนนึงละที่ใช้แอปเปิ้ลแต่ไม่ได้ปกป้อง ครั้งนี้ยังเห็นด้วยกับคนที่ใช้ android บางคนที่ออกมาเดือดร้อนแทนอยู่เลยนะ
เขาเรียกมี brand royalty ไงครับ ไม่ใช่เหตุการ์ณวิปโยคอะไรครับ นักการตลาดหลายๆบริษัทพยายามทำให้สิ่งนี้เกิดกับบริษัทตัวเองทั้งนั้น
แบรนด์รอยัลตี้ก็คือการทำให้ลูกค้าลืมไปว่าตัวเองเป็นผู้บริโภคเหมือนลูกค้าของบริษัทคู่แข่งที่ควรจะจับมือกันสู้กับบริษัทใหญ่เหล่านี้เมื่อเขามาเอาเปรียบพวกเรา ถ้าดูโฆษณาเก่า ๆ ของ Apple จะรู้เลยว่า Apple จะสร้างภาพคู่แข่งไว้ในโฆษณาบ่อยกว่าบริษัทอื่นเพื่อลูกค้าของตนแบ่งฝั่งกับบริษัทคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าออกตัวปกป้องแบรนด์จนลืมไปว่าโดนแบรนด์เอาเปรียบอยู่
จากความเห็นนี้ของคุณ ผมอ่านจับใจความได้นัยยะจะสื่อว่า ลูกค้าแอปเปิ้ลถูกปลูกฝังให้เชื่อว่าของตัวเองดีกว่าคนอื่น ผมจึงขออธิบายนิดนึงว่า Brand Royalty คือการที่ลูกค้าได้”ประสบการ์ณตรง” ครับ หาใช่ “ถูกล้างสมอง” ผมคิดว่า ลค แอปเปิ้ลมีหลายแบบครับ อย่างที่คุณว่ามาก็คงมี แต่ถ้าเป็นแบบ ปสก ตรง นี่ผมว่าเขาไม่ได้ลืมไปหรอกครับว่าโดนเอาเปรียบหรือเปล่า แต่เขาให้น้ำหนักยังไงระหว่างที่ได้มากับที่เสียไปมากกว่า การจะบอกว่าคุณต้องคิดแบบนั้นสิ แบบนี้สิ คือบางคนช่างน้ำหนักแล้วอาจจะเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ได้คอขาดบาดตายขนาดนั่นละมังครับ
ก่อนจะไปกันไกล brand royalty -> brand loyalty ครับ ?
เอ้อ จิงด้วย 55
นี่ก็คิดไปเอง ผมคนนึงล่ะที่ไม่เห็นด้วย ไม่ปกป้อง และตำหนิการตัดสินใจทำแบบนี้
อคติ อะไรกันนะ 55 อ่านแล้วขำครับ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ผมว่าหลายคนรู้มานานละนะ เพราะ Mac มีระบบนี้มานนานแล้ว แค่ Apple พึ่งออกมายอมรับสำหรับ ios เฉยๆ แต่ผมว่าประเด็นหลักคือ ios ใหม่ต่างหากที่ทำให้เครื่องรุ่นเก่าช้าลง
ผมเชื่อเลยละต่อให้เป็น fanboy ก็ไม่มีใครยอมรับได้หรอก เวลาลูกค้าซื้อสินค้าเขาคาดหวังให้เป็น fully performance and experience อยู่แล้ว นี่เล่นวางยามาให้ drop นี่ อื้มมมมมมม!!
ปล.แบตจะไม่พอใช้อะไรก็ชั่งมันหน้าที่ user คือเปลี่ยนหรือ charge ไม่ใช่ผู้ผลิตมาแก้ไขให้แบบนี้!!
สมควรโดน !!
That is the way things are.
ดีครับ ฟ้องเลย iOS 12 จะได้มีตัวเลือก ว่าจะใช้วิธีนี้ไหม ถ้าแบตเสื่อม
ประเด็นของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าแอปเปิลทำอะไรหรอกครับ แต่อยู่ที่ว่าทำแล้วไม่บอกต่างหาก
ต่อให้ชนะคดี.. แอปเปิลก็คงไม่เอาระบบนี้ออกหรือทำให้ตั้งค่าได้หรอก คงแค่เพิ่ม Noti ขึ้นมาบอกให้รู้แค่นั้นแหละ
ไม่แน่ครับ ถ้าศาลบังคับ (อาจจะได้แค่ประเทศที่มีการฟ้องร้อง)
จัดหนักๆ
รอค่ายใหม่ที่ทำ overall UX ได้ดีแบบ iOS จะย้ายทันที เคยหนีไปใช้แอนดรอยไปพักนึงแล้วมันไม่ใช่...
อยากให้มีมาเป็นตัวเลือกเลยครับ
Maxinum Performance
Intelligence
Power Saving
Ultra Power Saving
จะได้เลือกใช้ในแต่ละสถานการณ์ได้ถูก
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ทำไมผมนึกถึงแลบทอบวินโดว์
เอาให้หนักๆเลยครับ
แบตเสื่อม แทนที่จะขึ้นข้อความแจ้งให้ไปศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนแบต ดันมากดเครื่องให้ช้าซะอย่างนั้น
เกิดวันดีคืนดีแบตบวมจนระเบิดไฟใหม้บ้านขึ้นมาจะว่ายังไง
apple เขามี เคลม batt ด้วยเหรอครับ นึกว่ามีแต่เคลมเครื่อง
เปลี่ยนแบตสามพันกว่าบาทครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
มีแจ้ง ใน Setting นะครับ
ประเด็นคือแบตมันไม่ได้เสื่อมครับ แต่เค้าคิดเอาเองว่าเครื่องมันเก่า แบตมันมีโอกาสที่จะเสื่อม เค้าเลยปรับให้ซะเลย ส่วนถ้าแบตเสื่อมจริงๆมันมีบอกอยู่
แต่ส่วนตัวผมยังเชื่อว่าเหตุผลจริงๆคือต้องการกดประสิทธิภาพเครื่องเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่มากกว่า
อ่าว แล้วข่าวที่ว่าปลี่ยนแบตใหม่แล้วมันเร็วขึ้น? ไม่ใช่เพราะแบตเสื่อมเหรอครับ ระบบมันเลยไปใช้โหมดประหยัดพลังงาน?
อันนี้ผมเข้าใจผิดเอง ก็ตามนั้นครับ แต่แบตเสื่อมถึงจุดนึงมันมีบอกใน Setting นะ ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมมันไม่สอดคล้องกันทำให้มันขึ้นแจ้งเตือนก่อนจะปรับลดประสิทธิภาพ
it's feature.