ประเด็นความปลอดภัยของ Face ID ยังเป็นเรื่องน่ากังขา เมื่อมีรายงานการใช้ใบหน้าคนละคนสามารถปลดล็อกโทรศัพท์ แม้ว่าแอปเปิลจะอ้างความปลอดภัยว่าสูงกว่า (โอกาสปลดล็อกโดยคนอื่น 1 ใน 1,000,000 เทียบกับ Touch ID 1 ใน 50,000) และฟังก์ชั่นการใช้งานส่วนใหญ่ก็สามารถใช้ Face ID แทน Touch ID ได้ แต่ตอนนี้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งก็รายงานว่าฟีเจอร์ให้พ่อแม่จ่ายเงินแทนคนในครอบครัวที่เคยใช้ Touch ID ได้ กลับไม่สามารถใช้ Face ID ได้
ฟีเจอร์ Ask to Buy ของ iOS เปิดให้พ่อแม่สามารถจ่ายเงินค่าแอปแทนที่ลูกหรือคนอื่นในครอบครัวได้ โดยก่อนหน้านี้ผู้ใช้สามารถยืนยันจ่ายเงินด้วย Touch ID ได้ แต่ฟีเจอร์นี้ถูกตัดออกไปใน iPhone X
แอปเปิลยอมรับในเอกสารของบริษํทเองว่า ความน่าจะเป็นที่จะปลดล็อกโทรศัพท์ด้วย Face ID โดยคนอื่นได้เมื่อเป็นคู่แฝดและพี่น้องนั้นจะ "แตกต่างออกไป" (ไม่ใช้คำว่าแย่กว่า หรือโอกาสปลดล็อกได้ง่ายกว่า) และไม่มีการพูดถึงกรณีลูกกับผู้ปกครองว่าโอกาสปลดล็อกได้ง่ายกว่าแต่อย่างใด จึงน่าแปลกใจว่าทำไมแอปเปิลจึงเลือกปิดฟีเจอร์นี้ในฟังก์ชั่นการจ่ายเงินของตัวเอง
ที่มา - ArsTechnica, Apple Discussions
Comments
ลองเรียบเรียงใหม่นะครับ อ่านแล้ว ไม่เข้าใจเลยครับ
งงด้วยคน เหมือนไม่ใช่ภาษาไทย
ผมลองปรับดูเท่าที่จะนึกออกนะครับ ถ้ามีคำแนะนำที่ชัดเจนกว่านี้ก็บอกได้ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เออเขียนภาษาอะไรเหมือนอยากจะเขียนด่าเอามันส์ แต่เนื้อหาไม่ค่อยจะสอดคล้องกันเลย โดยเฉพาะหัวข้อเหมือนจั่วเอามันส์
เป็นสไตล์ของแก พาดหัวมีเอกลักษณ์แบบนี้
งง
สรุปจากในที่มาคือ iPhone มีฟีเจอร์ ask to buy เอาไว้ให้เด็กชื้อของใน App store แล้วให้ผู้ปกครองยืนยันการชื้อโดยใช้ Touch ID แล้วใน iPhone X กลับใช้ Face ID ยืนยันการชื้อไม่ได้ต้องยืนยันโดยใช้รหัสผ่าน Apple account เท่านั้น ซึ่งต้องรอApple อธิบายอีกทีว่าทำไม
.//คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ละมั้ง
อ่านเข้าใจนะครับแต่เพราะคำพูดแข็งๆเลยแปลกๆ
อ่านเข้าใจปกตินะ ไม่เห็นมีอะไรเข้าใจยาก
ความหมายคือ Apple เลือกที่จะนำ feature จ่ายเงินค่าแอปให้คนอื่นในครอบครัวออกไป เมื่อใช้กับ iPhone X ซึ่งมี Face ID แม้ว่าจะเคลมว่าปลอดภัยกว่า Touch ID
ผมสรุปแบบนี้ถูกไหมหว่า
ผมอ่านเข้าใจ แต่ก็เห็นด้วยว่าอ่านยากนิดๆเหมือนกัน คือเนื้อหาที่เป็นส่วนเสริมมันค่อนข้างเยอะเลยเหมือนเขียนหลายๆเรื่องมาแทรกกันเอง
(จริงๆตั้งใจอ่านก็รู้เรื่องนะ)
ผมไม่เข้าใจตรงย่อหน้าสุดท้าย อาจจะเพราะผมไม่ได้ใช้ Face ID แล้วก็ไม่เคยใช้ฟีเจอร์ Ask to Buy
คืองงตรงที่ เนื้อหาในข่าวมันคือการจ่ายเงินแทนกันของผู้ปกครอง ซึ่ง Touch ID ปกติน่าจะใช้ วิธีลงทะเบียนลายนิ้วมือพ่อแม่เสริมไว้ก่อนหรือเปล่าครับ
พอเป็นกรณี Face ID แล้วไปพูดถึงเรื่องคู่แฝดมันชวนสับสนว่า เกี่ยวอะไรกับเคสนี้ เพราะเคสนี้มันเอาหน้าผู้ปกครองซึ่งต้องลงทะเบียนหน้า Face ID ไว้ก่อนหรือเปล่า ถ้ามันเป็นแบบนั้นทำไมมันถึงมีปัญหา ปัญหาอยู่ตรงไหนกันแน่ โทรศัพท์มันบันทึก Face ID ได้แค่หน้าเดียวหรืออย่างไร อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ
การขอและซื้อสินค้าด้วยคุณสมบัติขออนุญาตซื้อ (Ask to buy)
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
งงด้วยครับ คือเข้าใจว่าว่าไอ้ฟังก์ชันจ่ายแทนกันนี่ใช้ไม่ได้แต่คำอธิบายเรื่องฟังก์ชันนี้ค่อนข้างงงครับ
คือมันไม่พอครับ ไอ้จ่ายแทนกันนี่คือมันทำงานยังไงที่เครื่องไหน
1.ลูกส่งรีเควสขอให้พ่อจ่ายตังให้ (จะใช้ iP หรือไม่ก็ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้) ไปยังพ่อที่ใช้ iPX สามารถเปิดรีเควสทรานเซคชั่นแล้วชำระเงินได้จากระบบยืนยันตัวตน
2.ลูกอยากจ่ายเงินผ่าน iPX ของตัวเองแต่สามารถลงทะเบียนการ์ดของพ่อและหน้าหรือนิ้วของพ่อเพื่อชำระเงินได้ ก็สามารถให้พ่อมากดยืนยันที่เครื่องลูกชำระได้เลย
3. ฯลฯ
พอเราไม่เข้าใจกระบวนการพวกนี้ทำให้อ่านข่าวแล้วงงครับ ว่าเออรู้ว่าใช้ไม่ได้แต่มันไม่ได้ยังไงล่ะ
edited อ่านเม้นคุณ elysium ข้างบนเข้าใจละครับเป็นแบบข้อ1. นี่เอง แต่คงต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของ iOS ทั้ง2ฝ่ายเชื่อมกัน
Face ID ผิดพลาด 1 ใน 1,000,000 จริงหรือ
ใครรู้บ้างตัวเลขสถิตนี้มีวิธีได้มายังไง รู้สึกเหมือนว่าสถิตินี้มันไม่จริง
พอใช้งานจริงถึงจะมองเห็นจุดอ่อน(เรื่อย ๆ) รุ่นหน้าอาจนำ Touch ID กลับมา แต่อาจอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
ถ้าสแกนนิ้วบนจอตรงๆ มัน work ดี, แล้วแอปเปิลเอามาใช้.. คนที่สอย X ไแตอนนี้, จะคิดยังไงกันบ้างหนอ? ?
นี่ไม่ได้อวยนะครับ ผมว่า Face ID มันเหมือนเปลี่ยนจาก การฟังเพลงมีสาย ไปเป็น Bluetooth คือแค่มองจอ ก็เข้าใช้ได้เลย ผมปลื้มตรงนี้มาก แต่ถ้ารุ่นหน้าออกมา เปลี่ยนกลับไปใช้ Touch ID คงต้องตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าตกลง Face ID มันดีจริงหรือเปล่า?
ผมว่าเทียบต่างกันเกินไปนะครับ เฟซไอดี ยังไงมือคุณก็ต้องจับเครื่องอยู่ดี แทบไม่ต่างกับทัชไอดี แค่เวลาจับเครื่องนิ้วต้องเลื่อนไปจับปุ่มสแกนด้วย มันไม่เหมือนมีสายกับไร้สายต่างกันค่อนข้างเยอะแค่เปิดเครื่องก็ซิงค์เองแถมวางเครื่องไว้ห่างๆก็ยังได้ไม่มีสายรกรุงรัง ข้อดีมีมากกว่าเยอะเลย
ถ้าให้เทียบผมว่าน่าจะเหมือนจ่ายสินค้าด้วยเงินสดกับใช้บัตรเงินสดจ่ายซื้อของมากกว่า การกระทำเหมือนเดิม แต่ลดขั้นตอนนิดหน่อยแบบนับเงินกับทอนเงิน
เวลาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน ถ้าไม่มองจอ เวลาแจ้งเตือนจะไม่แสดงข้อความ (เนื่องจากข้อมูลค่อนข้างสำคัญ และไม่ต้องการให้คนโต๊ะข้าง ๆ เห็น) พอหันไปมอง ข้อความจะแสดงขึ้นมา โดยไม่ต้องเอื้อมมือไปแตะเครื่อง ถ้าเป็นลูกค้าที่ต้องรีบตอบ ถึงจะเทคแอ็คชั่น / ส่วนการเข้าเครื่อง หยิบขึ้นมา ตวัดนิ้วก็เข้าใช้ได้เลย แรก ๆ ก็ไม่ไวมาก พอใช้นานเข้า รู้สึกไวขึ้นเรื่อย ๆ ครับ รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่รหัสผ่านเลย ?
ผมว่าไม่เหมือนนะ เรื่องรู 3.5 มันคือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์และวิธีการใช้งานไปเลย จากหูฟังมีสายกลายเป็นหูฟังไร้สายที่ต้องชาร์จแบตด้วย คืออุปกรณ์สองอย่างนี้มันคือหูฟังเหมือนกันแต่วิธีการใช้งานมันต่างกันสิ้นเชิง
ผมยังยืนยันกับตัวเองว่าสาเหตุที่เค้าเอา Touch ID ออกเพราะเค้าจะทำจอเต็มเครื่อง ต้องตัดปุ่ม Home ออก แล้วยังไม่สามารถสแกนนิ้วใต้จอได้มากกว่า เมื่อไหร่ที่สแกนนิ้วใต้จอใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพยังไงก็เอากลับมา
อันนี้รอชมต่อไปครับ แต่โดยส่วนตัวปลื้ม Face ID มาก คาดว่า iOS 12 อาจไม่ต้องตวัดนิ้วเพื่อเข้าเครื่องแล้ว (แค่มองแล้วเข้าเลย เหมือน Touch ID ช่วงแรก ที่ต้องแตะและกด ถึงจะเข้าได้)
ผมซื้อ X เพราะมันประหยัดพื้นที่นะ เครื่องเท่าตัวปรกติแต่พื้นที่ใช้งานพอๆ กับ +
ผมสรุปให้ เนื้อหาของข่าวคือ
คุณ lew พยายามตั้งข้อสังเกตุว่า ถ้ามันปลอดภัยกว่า แล้วทำไมถึงไม่เอามาให้ใช้ยืนยันตัวตนพ่อแม่ผู้ปกครอง
แต่ผมยังมีข้อสงสัยว่า ที่แอปเปิลไม่ยอมเปิดให้ใช้ Face ID กับฟีเจอร์ดังกล่าว มันเป็นปัญหาเรื่อง possibility 1 ใน 1,000,000 หรือเป็นปัญหาอื่นๆ กันแน่
เช่น (อันนี้ผมมั่วแบบสุดๆ) แอปเปิลกลัวว่าลูกๆ จะสั่งซื้อแอพฯ แล้วเอามือถือไปจ่อหน้าผู้ปกครองตอนหลับอะไรแบบนี้ คือถ้าใช้ Touch ID นี่ผู้ปกครองมีโอกาสรู้สึกตัวมากกว่า ย้ำอีกที ผมมั่ว
(แอบแซวคุณ lew) เห็นหลายเม้นอ่านข่าวนี้ไม่เข้าใจ แต่ผมดันเข้าใจ ผมผิดปกติหรือไม่ 5555
เข้าใจตามนี้ครับ
บอกให้ลูกค้าเชื่อ Face ID แต่ว่ากลับดูไม่น่าเชื่อถือในเวลาเดียวกัน
Face id ไม่ทำงานตอนหลับตานิครับ
ลูก : พ่อจ๋ายิ้มหน่อย .. แอ๊บแอ้
พ่อหันไปยิ้มให้กล้องนึกว่าลูกเชลฟีด้วย :3
อ่านแล้วงงๆ อ่านซ้ำหลายรอบมาก (เวอร์ชั่นใหม่) ก็ยังงงว่ามันสอดคล้องกันยังไง จนต้องไปอ่านต้นฉบับ ผมคิดว่าใส่ไปในข่าวว่า Apple อาจจะกลัวว่าลูกจะสามารถ Bypass Password แทนพ่อแม่น่าจะเห็นภาพนะครับ
ผมว่าผมเริ่มงงตรงนี้ “ฟีเจอร์ให้พ่อแม่จ่ายเงินแทนคนในครอบครัวที่เคยใช้ Touch ID ได้ กลับไม่สามารถใช้ Face ID ได้” เหมือนมันแธิบายกระบวนการไม่กว้างพอว่าแทนแบบไหน ? คนละเครื่องไหม ? แล้วถูกเปลี่ยนไปยังไง เลยอ่านแล้วงงครับ
ถ้าใช้ไอโฟนอยู่แล้วจพอเข้าใจข่าวอยู่เหมือนกัน แต่พอดีต้องการยอดเม้นหรือเปล่าไม่รู้ เลยต้องพาดหัวแรงๆ ก็เลยหลงประเด็นลงข้างทางเลยเชียว
ส่วนตัวคิดว่า face id กาก ยังไงก็สู้ทัชไอดีไม่ได้ เพราะตอนนี้ได้พิสูจน์มาแล้วเดือนกว่า มีข่าวความกากมาเป็นระยะๆ
ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าจะไปบอกว่าพาดหัวเรียกยอดความเห็นก็ไม่ถูกนะครับ ในเมื่อที่การเขียนหัวข่าวเป็นสไตล์ของแต่ละคน
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
สรุปว่ารอ Apple ออกมาอธิบาย... ลืมทำหรือปิดกั้น ยังไม่รู้
คิดเดาเอาเองทั้งนั้น ทั้งใน forum ข่าวต้นทาง ข่าวแปล...
อ่านแล้วดู ประเด็นไม่ค่อยเกี่ยวกับ Face id ไม่ปลอดภัยเท่าไร
น่าจะเพราะคนในครอบครัวหน้าจะคล้ายกัน โอกาสปลดล็อคด้วยคนในครอบครัวมากกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สรุปง่าย ๆ ว่า นักข่าวสันนิษฐานว่า ระบบยืนยันใบหน้าของแอปเปิ้ล อาจจะมีปัญหากับคนในครอบครัวที่หน้าคล้ายกัน เลยปิดระบบยืนยันจ่ายเงินจากผู้ปกครองโดยระบบยืนยันใบหน้าแหละ ในขณะที่ระบบสแกนลายนิ้วมือเมื่อก่อนทำได้ แล้วก็ทั้งที่แอปเปิ้ลยืนยันว่า ระบบยืนยันด้วยใบหน้ามีความแม่นยำมากกว่าระบบสแกนนิ้วหลายเท่า (แต่ไม่เปิดระบบที่บอกว่าปลอดภัยกว่าให้ทำงาน)
และยังไม่มีคำชี้แจงเรื่องนี้จากแอปเปิ้ล ก็ต้องรอคำชี้แจงต่อไป
อ่านจับใจความเอาก็ได้ แหม๋
กำลังสงสัยว่า 1/1000000 นี่เป็นการวัดผลทางสถิติ หรือแค่ PR
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
บริษํท -> บริษัท
ข้อมูลสถิติที่อ้างโดยผู้ขาย ฟังหูไว้หูละกันครับ
อ่านแล้วเข้าใจ.. ทำให้รู้สึกภูมิใจกับสกิลการอ่านเอาเรื่องของตัวเอง 555
ถ้าทำได้นะ พ่อแม่กำลังดู TV อยู่ ก็ยกไอโฟนมาไว้ตรงหน้า
ซื้อแอปได้สบายเลย
ปล. มโนเอา ไม่มีใช้
มาเข้าใจอีกเสียง แค่ไม่เข้าใจวิธีการทำงานของฟังก์ชั่นนี้เฉยๆ พออ่านคอมเมนต์ของคุณ Elysium ก็เก็ตเลย
ทำไมลายนิ้วมือเป็น1/50000 มันไม่ใช่ของใครของมันรึ
The Last Wizard Of Century.
ตัวแปรหลักคือ อัลกอริธึมครับ
ทั้ง tourchid faceid
ลายมือของใครของมันจริง แต่ระบบไม่ได้จำลายมือทั้งเส้นแต่จำแค่บางเส้น และจำแค่บางจุดด้วย
คนลายมือไม่เหมือนกันก็อาจจะปลดล๊อคได้เช่นเดียวกับ Face ID นี่แหละ (เพราะมันก็จำแค่บางจุดบนใบหน้าเหมือนกัน)
อ๋อครับ ผมเข้าใจว่าละเอียดยิบเหมือนเก็บหลักฐานซะอีก
The Last Wizard Of Century.
ผมเคยบอกเพื่อน ๆ ไว้ตั้งแต่แรกละว่าเทียบแค่ 1/50,000 กับ 1/1,000,000 ไม่ได้ ใช้ลายนิ้วมือโอกาส 1/50,000 แต่มันเป็นการ random ล้วน ๆ เทียบกับใช้หน้าโอกาส 1/1,000,000 แต่มันขึ้นอยู่กับพันธุกรรม
ไปบอกให้หาคนที่ลายนิ้วมือเหมือนกันมานี่คิดไม่ออกเลยว่าจะไปหาจากไหนยังไง แต่บอกว่าให้ไปหาคนหน้าเหมือนกันมานี่ง่ายกว่ากันหลายเท่าตัว
ถูก ตามนี้เลย ลายนิ้วมือโอกาสผิดอาจจะมีมากกว่าแบบแอพเปิลพูดจริง แต่มันพิสูจน์ยาก ไม่เหมือนหน้าตา ที่เราเห็นชัดว่ามันค้ลายกัน เป็นรูปธรรรม
อ่านเข้าใจนะครับ แต่ภาษามันไม่ลื่น อ่านแล้วต้องมาคิดเป็นภาษาไทยอีกที ... นี่ผมลุ้นอยู่ ว่ารุ่นหน้าจะมี Touch ID ไหม ถ้ามีนี่รู้เลย ว่า Face ID ไม่ดีพอ