หลังเริ่มวางขายในสหรัฐไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้สื่อในสหรัฐหลายๆ เจ้าก็เริ่มปล่อยรีวิวของ HomePod ลำโพงไร้สายอัจฉริยะของแอปเปิลออกมากันแล้ว โดยจุดเด่นที่เป็นเอกฉันท์ของ HomePod คือเรื่องเสียง ส่วนจุดด้อยก็หนีไม่พ้นความสามารถของ Siri และการใช้งาน HomePod ในฐานะ Smart Speaker ที่นอกเหนือจากการฟังเพลง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดเด่นของแอปเปิลที่ทำค่อนข้างดีและโดดเด่นมาตลอดคือเรื่องของฮาร์ดแวร์ เช่นกันใน HomePod จุดเด่นนั้นยังคงอยู่ จากทั้งชิปประมวลผลแยก ลำโพง 8 ตัว ไมโครโฟน 6 ตัวและซัพวูฟเฟอร์ ที่ทั้งหมดทำงานร่วมกัน โดยลำโพงและไมโครโฟนจะจับทิศทางการสะท้อนของเสียงและสร้างโมเดลขึ้นมาว่าตัว HomePod วางอยู่ตำแหน่งไหนของห้อง อยู่ใกล้หรือไกลกำแพงแค่ไหน ทำให้สามารถกระจายเสียงได้ทั่วห้องและมีมิติ ที่สำคัญคือ เสียงเบสแน่นมาก
เมื่อเทียบคุณภาพเสียงกับแบรนด์อื่นๆ แล้ว หลายๆ เว็บระบุตรงกันว่า HomePod คือที่สุด ตามที่แอปเปิลขายตั้งแต่แรกว่าเน้นการฟังเพลง
เริ่มนาทีที่ 1.27
เริ่มนาทีที่ 1.46
อย่างไรก็ตามข้อด้อยในฐานะ Smart Speaker คือมันยังไม่ Smart เท่าไหร่นัก หลักๆ ก็มาจากความสามารถของ Siri ที่ค่อนข้างจำกัด ขณะที่การสั่งงานต่างๆ ผ่าน iPhone ก็ยังค่อนข้างจำกัด อาทิ สั่งโทรออกก็ยังไม่ได้ ต้องกดโทรผ่าน iPhone และสั่งให้เปิดลำโพงผ่าน HomePod
นอกจากนี้ HomePod รองรับคำสั่งเสียงกับ Apple Music อย่างเดียว ไม่สามารถสั่งให้ Siri เปิด Spotify ได้ (แต่สามารถเปิด Spotify ผ่าน AirPlay ได้) รวมไปถึงไม่สามารถทำงานแบบ multi-room หรือเล่นเพลงเดียวกันพร้อมๆ กันหลายเครื่อง และที่สำคัญที่สุดคือรองรับผู้ใช้งานแค่คนเดียว ผู้ใช้คนอื่นๆ สามารถสั่งให้ Siri บน HomePod อ่านข้อความของเจ้าของเครื่องที่ผูกเอาไว้และตอบกลับไปได้ง่ายๆ โดยไม่มีอะไรป้องกันเลย
สรุปคือ HomePod โดดเด่นอย่างจริงจังเรื่องเสียง แต่เมื่อพิจารณาจากราคาแล้ว Sonos ก็อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า ขณะที่ข้อด้อยต่างๆ ดูจะแก้ไขได้จากการอัพเดตซอฟต์แวร์ในอนาคต โดยหลายเว็บแนะนำตรงกันว่า ผู้ที่ควรซื้อ HomePod ควรจะเป็นคนที่อยู่ใน ecosystem ของแอปเปิลเต็มตัว และใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ HomeKit เป็นหลัก
ที่มา - CNBC, The Verge, Apple Insider
Comments
น่าจะเป็นเหตุผลให้ตั้งชื่อว่า HomePod เน้นการฟังเพลงในบ้าน ไม่ได้คั้งชื่อ ว่า Apple Home ตอนเปิดตัวก็ชูแต่ Apple Music
ขึ้นชื่อว่า "ลำโพง" ถ้าเสียงไม่ดีก็ไม่รู้จะซื้อมาทำไม
มันก็แล้วแต่กลุ่มเป้าหมายครับ บางคนขอแค่มีเสียงดังออกมาก็พอ
Google Home mini หรือ Alexa Echo
ก็เป็นลำโพงแต่ออกแบบมาเน้นเรื่องราคาและ Personal Assitant มากกว่าไงครับ
รีวิวเรื่องเสียงดีกว่า Google Home Max ที่แพงกว่าและเน้นเรื่องลำโพงเหมือนกันด้วยเฮะ
แต่จริงๆ อยากได้ $50 เวอร์ชั้น เอามาใช้แค่ Siri แบบ Google Home mini อะ
ถ้ามันเด่นแค่เสียงก็เป็นลำโพงธรรมดาไปก็ได้ครับ แต่นี่มันดันเป็น Smart Speaker
ไม่ซื้อเพราะราคาก็มีนะครับอย่าง
B&W ตัวชุด 5.1 ที่ขาย 70,000 เปลี่ยน Sub เป็น Active Sub Woofer ราคาพุ่งไป 130,000 เลยซื้อยี้ห้ออื่นแทน
แต่ตอนนี้คงไม่ราคานี้แล้วหละ
มีแววเข้าไทยไหมครับ
คงไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่ม Audiophile
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
เป้าหมายมันคือคนที่ต้องการอยู่ในระบบของ apple เต็มตัวเลย เพราะตอนคำสั่งเสียงใช้ได้กับแค่ apple music
Audiophile ก็ชมกะนนะครับ
Audiophile Review: HomePod 'Sounds Better' Than $999 KEF X300A Digital Hi-Fi Speakers
ต้นทาง
Apple HomePod - The Audiophile Perspective + Measurements!
ถ้าไม่เลวร้ายจริงๆ ใครจะเขียนด่าหล่ะครับ
ได้ฟังแล้วน่าตื่นตะลึงกับ เสียงทุ้มเก็บตัวดีเยี่ยม
นุ่มลึก กลางฟังชัด แหลมฉ่ำหวาน ก้องกังวานนน
มีลูกกุ๊งกริ๊ง เก็บตัวนิดหน่อย ส่วนราคาก็แสนคุ้ม
เทียบชั้นลำโพงราคา 3 เท่า การรับประกันก็ดี
Software ก็ดี iPhone ก็ดี Siri ก็ดี
สติฟจ๊อป ยิ่งดีใหญ่ ซื้อเลยจะรออะไรอยู่อีก
แแสดงวา เอเปิลรุ้ว่า ปัญหาคือตรงไหน แต่พยายามดันออกมาให้ทันตลาด เน้นชุจุดเด่น ไปที่เสียงดีกว่า ในประเภทของสินค้าเดียวกัน ซอฟแวร์ มันอัพได้ทีหลัง ถ้าได้ภาพจำว่า เป็นลำโพงเสียงดี ก่อน ให้คนชอบก่อน น่าจะดีกว่า
หลักๆ มันแย่ตรงใช้เป็นลำโพง Bluetooth ธรรมดาไม่ได้นี่ล่ะ -_-"
ต่อ bluetooth ฟังเพลงกับคอมธรรมดาไม่ได้เลยหรอครับ
ได้เฉพาะ Mac ครับ ส่วน PC ไปเชื่อมกับ HomePod ด้วย Bluetooth ตรงๆ ไม่ได้
คิดว่าเป็นสินค้าที่ขายได้น้อยที่สุดที่มีมาในเวลานี้ของ Apple อีกทั้งต้องมีการพัฒนาอีกมาก ไม่น่ารีบออกมาเลย!