นอกจากสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel 9 และสมาร์ทวอทช์ Pixel Watch 3 แล้ว กูเกิลก็เปิดตัวหูฟัง Pixel Buds Pro 2 รุ่นถัดจากรุ่นแรกที่ออกมาเมื่อสองปีที่แล้ว ที่ปรับปรุงการออกแบบ เพิ่มคุณภาพเสียง และเป็นหูฟังตระกูล Buds ตัวแรกที่สร้างมาเพื่อทำงานกับ Gemini
กูเกิลบอกว่า Pixel Buds Pro 2 มีขนาดเล็กลง 27% จากรุ่นก่อนหน้า และเบาลง 24% ในการออกแบบนั้นได้ศึกษารูปแบบใบหูถึง 45 ล้านรูปแบบ ออกมาเป็นหูฟังที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งแบบเน้นความสบายใส่ได้ทั้งวัน และแบบแน่นกระชับเวลาออกกำลังกาย โดยมีตัวปรับแบบบิดเพื่อเลือกรูปแบบที่ต้องการ
กูเกิลประกาศอัพเดตหูฟังไร้สาย Pixel Buds Pro โดยไม่ได้ออกรุ่นใหม่ เป็นการเพิ่มความสามารถให้กับรุ่นเดิมที่ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ผ่านการอัพเดตซอฟต์แวร์ ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านฮาร์ดแวร์มีเพียงเพิ่มสองสีใหม่ Bay และ Porcelain เพื่อให้เข้ากับตัวเลือกสีของ Pixel รุ่นใหม่
ความสามารถและฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาได้แก่ รองรับบลูทูธ Super Wide Band (SWB) ของ Pixel 8 และ Pixel 8 Pro ทำให้แบนด์วิธของการคุยเสียงมีมากขึ้น เสียงที่ได้จึงชัดและมีรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งรอบ Clear Calling ตัดเสียงรบกวนด้วย
กูเกิลประกาศปล่อยฟีเจอร์สลับการใช้งานหูฟังไร้สาย กับอุปกรณ์ Android หลายเครื่อง (audio switching) เช่น ดูหนังอยู่บนแท็บเล็ต มีคนโทรเข้ามือถือ ก็กดปุ่มรับสาย แล้วสลับไปคุยโทรศัพท์ผ่านหูฟังได้ทันที
ฟีเจอร์ audio switching ต่อยอดจากฟีเจอร์ Fast Pair การเชื่อมต่อหูฟังไร้สายข้ามอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว เบื้องต้นจะรองรับหูฟังไร้สาย Google Pixel Buds Pro รุ่นใหม่ เป็นอย่างแรก และจะรองรับหูฟังบางรุ่นของ Sony กับ JBL ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ฮาร์ดแวร์อีกตัวที่กูเกิลเปิดตัวเมื่อคืนนี้คือ Pixel Buds Pro หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ ที่เพิ่มฟีเจอร์ Active Noise Cancellation (ANC) เช่นเดียวกับหูฟังไร้สายคู่แข่งรุ่นอื่นๆ ในราคาที่เพิ่มขึ้นอีกนิดเป็น 199 ดอลลาร์ (Pixel Buds 2 ตัวเดิมของปี 2020 ขาย 179 ดอลลาร์)
กูเกิลโฆษณาว่าใช้ชิปเสียง 6 คอร์แบบคัสตอมที่ออกแบบเอง รันอัลกอริทึมของกูเกิลเอง ปรับแต่งลำโพงเอง รวมกันเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Silent Seal ปรับแต่งการทำงานของ ANC ให้เหมาะกับหูของแต่ละคน มีเซ็นเซอร์วัดระดับความดันในรูหูเพื่อให้ใส่ได้สบายเป็นเวลานานๆ
กูเกิลเปิดตัวหูฟังไร้สาย Pixel Buds A-Series ที่จับตลาดล่างลงมาจาก Pixel Buds รุ่นปกติ ขายในราคา 99 ดอลลาร์ (รุ่นปกติขาย 179 ดอลลาร์)
ดีไซน์ของ Pixel Buds A-Series คล้ายกับ Pixel Buds Gen 2 ทั้งตัวหูฟังและเคส มีให้เลือก 2 สีคือ ขาว Clearly White และเทา Dark Olive
จุดต่างในแง่ฮาร์ดแวร์คือ Pixel Buds A-Series กันน้ำเฉพาะตัวหูฟัง (รุ่นใหญ่กันน้ำที่เคสด้วย), ไม่รองรับการชาร์จเคสแบบไร้สาย, มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนตอนคุยโทรศัพท์ แต่ไม่ตัดเสียงลม และไม่สามารถใช้ท่า swipe เพื่อปรับระดับเสียงได้ ทำได้แต่แตะเพื่อหยุดหรือเล่นเพลงต่อเท่านั้น
วันนี้ Pixel Buds หูฟัง True Wireless จาก Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลากหลายฟีเจอร์ผ่านการอัพเดตซอฟต์แวร์ ช่วยให้การใช้งานครอบคลุมและปรับแต่งได้มากขึ้น คล้ายกับการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของมือถือตระกูล Pixel
ฟีเจอร์ bass boost ให้ผู้ใช้ปรับเพิ่มเสียงเบสได้ในช่องทางตั้งค่า ฟีเจอร์ sharing detection ที่ Pixel Buds จะสามารถรับรู้ได้อัตโนมัติ เมื่อเราแชร์หูฟังกับเพื่อนคนละข้าง และทำให้สามารถปรับระดับเสียงแยกข้างได้ด้วยระบบสัมผัสบนหูฟังข้างนั้น
9to5Google ทำการแกะ APK ของแอป Google Pixel Buds เวอร์ชั่นล่าสุดบน Play Store แล้วค้นพบชุดโค้ดจำนวนหนึ่งที่อาจเป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Pixel Buds ที่จะถูกเพิ่มมาในอนาคต นั่นคือฟีเจอร์ “attention alerts” ในโค้ดมีสตริงพูดถึงเสียงเด็กร้อง (key_baby_cry_switch_pref)
สุนัขเห่า (key_dog_bark_switch_pref)
หรือสัญญาณเตือนไฟไหม้จากเครื่องจับควัน (key_smoke_alarm_switch_pref)
ซึ่งคาดว่าอาจเป็นฟีเจอร์ช่วยเตือนผู้ใช้ที่ใส่หูฟัง และเปิดเสียงดังจนไม่ได้ยินเสียงภายนอกที่เป็นอันตราย
หลัง Google โชว์ฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มใน Fast Pair (ระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth ของแอนดรอยด์) ไปในงาน I/O เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ล่าสุด Google เพิ่มฟีเจอร์เหล่านี้ให้กับ Fast Pair อย่างเป็นทางการ หลังเปิดตัว Pixel Buds 2
ฟีเจอร์ Find Device ช่วยผู้ใช้ค้นหาหูฟัง โดยกดให้หูฟังข้างซ้ายหรือขวาส่งเสียงได้ และสามารถติดตามตำแหน่งล่าสุดของหูฟัง ในแอป Find My Device ได้ หากผู้ใช้เปิด Location History ไว้
แทบลืมไปเลยว่าเคยเปิดตัวกับ Google Pixel Buds (2020) ที่ล่าสุดผ่านมาครึ่งปีหลังเปิดตัว สื่อต่างประเทศเพิ่งเริ่มได้ทดลองใช้และปล่อยรีวิวกันออกมาแล้ว (ขอเรียกสั้น ๆ ว่า Pixel Buds 2)
ในภาพรวม Pixel Buds 2 พอจะเทียบชั้นได้กับ AirPods (ที่ไม่โปร) และที่ราคาตัวค่า 179 เหรียญ (AirPods 159 เหรียญ) คุณภาพถือว่าดีและรับได้ในเรตราคานี้ แต่ด้วยความที่ตลาดหูฟังไร้สายมีรุ่นที่เหนือกว่าและแพงกว่า โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพเสียงและฟีเจอร์ Noise Cancelling ก็หนีไม่พ้นที่ Pixel Buds 2 จะถูกนำไปเปรียบเทียบด้วย
แม้จะไม่มีข่าวหลุดออกมาแต่ก็ไม่น่าแปลกใจกับการเปิดตัว Pixel Buds หูฟังรุ่นใหม่แบบ True Wireless ตามสมัยนิยมด้วยดีไซน์แบบโค้งมนที่ Google ยืนยันว่าจะไม่หลุดออกจากหูแม้ออกกำลังกาย รวมถึงมีช่องลมเล็ก ๆ (spatial vent) ป้องกันการหูอื้อ
Google บอกแค่ว่า Pixel Buds ให้คุณภาพเสียงที่ดี มาพร้อมระบบ Adaptive Sound ที่ไม่ได้ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก แต่ช่วยปรับเพิ่มหรือลดเสียงให้ตามสภาพแวดล้อมภายนอก (เสียงดังก็ปรับเพิ่มเสียงให้อัตโนมัติ) และไมโครโฟน 2 ตัว ที่คอยจับเสียงพูดโดยเฉพาะพร้อมด้วยตัดเสียงภายนอกไปในตัว ร่วมกับ accelerometer สำหรับจับการสั่นสะเทือนของขากรรไกรด้วย
Google เปิดตัว Pixel Buds หูฟังไร้สายที่รองรับการใช้งาน Google Assistant ในตัว สายหูฟังเป็นผ้าถัก ไม่มีปุ่มแต่รองรับระบบสัมผัสบริเวณหูฟังด้านขวา ใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง (รวมแบตหูฟังและแบตจากเคส)
ไฮไลท์ของ Pixel Buds คือการรองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์สูงสุด ณ ตอนนี้ถึง 40 ภาษา แต่ต้องใช้งานคู่กับ Pixel ด้วยการกดค้างที่ทัชแพดด้านขวาของหูฟังเพื่อเปิดและสั่งให้ Google Assistant แปลภาษา และเมื่อพูดเสร็จ Google Assistant จะแปลเป็นอีกภาษาที่สั่งไว้ให้ผ่านลำโพงของ Pixel ส่วนการตอบกลับก็สามารถพูดได้ผ่าน Pixel และจะถูกแปลออกมาผ่านทาง Pixel Buds