เหมือนจะเป็นข่าวดีสำหรับคนที่พัฒนาโปรแกรมสำหรับ Android นะครับ
คือตอนนี้ Google ได้เพิ่ม ส่วน Statistic สำหรับโปรแกรม ของเราเพิ่มเติมขึ้นมาครับ
แม้จะยังไม่ได้เก็บรายละเอียดมาก เหมือนกับ Google Analytics บนเว็บ แต่ก็ละเอียดขึ้นมากพอสมควรเลยครับ
จากเดิมที่บอกแค่ยอด Download Total กับ Active Install ซึ่งข้อมูลนั้นดูย้อนหลังไม่ได้ด้วยแต่ตอนนี้บอก ยอดผู้ใช้เป็นกราฟ ย้อนหลังทั้งหมด พร้อมกับบอกสถิติตัวอื่นอีกหลายอย่าง ซึ่งสามารถดูภาพประกอบเพิ่มเติมได้ที่ท้ายข่าวนะครับ
ป.ล. อยากได้ตัวดูสถิติมานานแล้ว จะได้ไม่ต้องไปใช้ AppBrain ดูเหมือนทุกที
เมื่อปี 2009 เว็บ Engadget เคยรายงานเกี่ยวกับบริษัท Larva Labs ที่ได้ออกมาบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาเงินเพียงพอต่อการใช้ชีวิตไปวัน ๆ จากเกมขายดีอันดับแรก ๆ บน Android Market แต่ในวันนี้ เมื่อ Android กลายเป็นแพลตฟอร์มที่โตเร็วที่สุด หลาย ๆ สิ่งก็ได้เปลี่ยนไป
Spacetime Studios บริษัทที่ผลิต MMORPG บนมือถือชื่อ Pocket Legends ยังตกใจกับตัวเลขที่พวกเขาเห็น โดยบริษัทของเขานั้นทำกำไรจากผู้ใช้ Android มากกว่าผู้ใช้ iOS ถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วผู้ใช้ Android ยังใช้เวลาในการเล่นเกมมากกว่า และยังไล่ดาวน์โหลดแอพต่าง ๆ บ่อยกว่าด้วย ซึ่งข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าในตลาด Android นั้นอาจจะเป็นแหล่งที่เหมาะสมสำหรับแอพคุณภาพมากกว่าตลาดที่โตมาก่อนอย่าง iOS
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีผู้ใช้จากเว็บ Android Police ค้นพบแอพปลอมจำนวนหลายสิบตัวบน Android Market ที่ก็อปปี้แอพตัวอื่นแล้วแอบใส่ root exploit ซึ่งจะส่งข้อมูล IMEI/IMSI ของเครื่องมือถือไปยังที่หมายปลายทางแห่งหนึ่ง (รายชื่อแอพได้จาก Android Police ส่วน root exploit ตัวนี้จะมีผลเฉพาะ Android รุ่นที่เก่ากว่า 2.2.2)
นักพัฒนาซอฟต์แวร์บน Android กลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจนโยบายของกูเกิล รวมตัวกันตั้ง "สหภาพนักพัฒนา" (Android Developers Union) และยื่นข้อเรียกร้องให้กูเกิลปรับเปลี่ยนนโยบาย 7 ข้อ ถ้าไม่เกิดผลก็จะถอนแอพของตัวเองออกจาก Android Market ไปยังร้านขายแอพอื่นๆ หรือไม่ก็ขายผ่านเว็บแทน
ในบล็อกของ Android Developers Union สมาชิกคนหนึ่งระบุว่าตัวเองหารายได้จากการขายแอพเป็นหลัก เขาพบปัญหาว่าแอพโดนถอดจาก Market โดยไร้สาเหตุ และการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของกูเกิลก็ทำได้ยากมาก ได้รับแต่ข้อความอัตโนมัติ ไม่มีคนจริงๆ มาตอบแต่อย่างใด
ข้อเสนอทั้ง 7 ข้อได้แก่
Google TV รุ่นแรกยังมีปัญหาอีกหลายประการที่กูเกิลต้องแก้ไข แต่ข้อมูลล่าสุดจาด Logitech ระบุว่าปัญหาเรื่อง "ไม่มีแอพ" กำลังจะหมดไปในเร็วๆ นี้
Ashish Arora ผู้บริหารของ Logitech ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ใกล้ชิดของกูเกิลที่ร่วมขายผลิตภัณฑ์ Google TV ตัวแรก ตอบคำถามในงานสัมมนา OTTCon ว่า "Logitech Revue" จะสามารถดาวน์โหลดแอพจาก Android Market ได้ในเร็วๆ นี้
เขายังไม่ระบุวันที่ที่แน่นอน แต่ใช้คำว่า "a very short term"
ที่มา - Gear Live
ดูเหมือนว่าแอปเปิลไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการให้มีการจ่ายค่าบริการของแอพอย่าง "ถูกวิธี" ซะแล้ว แอพ The Visual VoiceMail ที่ถูกดาวน์โหลดไปแล้วเป็นล้านครั้งได้ถูกถอดออกจาก Android Market และนักพัฒนาได้ถามหาเหตุผลที่แอพถูกถอดถอน กูเกิลก็ได้อ้างข้อตกลงข้อ 3.3 จาก Developer Distribution Agreement
ข้อตกลงข้อ 3.3 ที่ว่านี้ได้เขียนไว้ว่า "หากนักพัฒนาต้องการที่จะเก็บค่าบริการหลังจากช่วง Free Trial แล้ว นักพัฒนาจะต้องเก็บเงินเวอร์ชั่นเต็มผ่านระบบ Payment Processor ของ Android Market เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าค่าบริการที่นักพัฒนาได้รับจากสินค้าที่ขายผ่าน Android Market จะต้องผ่านระบบ Payment Processor ของ Android Market"
ถ้ายังจำกันได้ ผมเคยลงข่าวว่า Disney กำลังทำ Galapagos 3D แบบเปลี่ยนกรอบใหม่ยกชุดมาจำหน่าย ซึ่งในนั้นจะแถม Launcher UI ที่มีชื่อว่า "Disney Wonderland" ให้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น Disney ถึงตัดสินใจปล่อยของแถมของตัวเองลง Android Market ของญี่ปุ่นแทน ซึ่งก็จำกัดให้ดาวน์โหลดได้เฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าล็อกเครือข่ายหรือไม่ เพราะถ้าล็อกก็จะดาวน์โหลดได้แค่ Softbank และ MVNO ที่ทำสัญญากับ Softbank เท่านั้น ซึ่งเป็นเพราะว่า.. Android Market นั้นมอง MVNO เป็นเครือข่ายใหญ่เครือข่ายเดียว อย่างที่ผมใช้ i-mobile 3gx โหลด App ใน Market ดู มันก็มองว่าเป็น TOT3G เข้ามาโหลด App ครับ
เรารู้กันมานานมากแล้วว่าสักวัน Android Market จะต้องขายหนัง เพลง หนังสือ ฯลฯ แบบเดียวกับ iTunes Store เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรเท่านั้น (กูเกิลเองก็เคยนำ Music Store มาโชว์ด้วยซ้ำ)
แต่ล่าสุดมีคนพบลิงก์บนหน้าเว็บของ Android Market ดังนี้
Engadget รายงานว่าหน้า /books เข้าได้และมีรายการหนังสือให้เลือกแล้ว แต่พอข่าวออกไป กูเกิลก็นำลิงก์เหล่านี้ลงเช่นกัน นี่เป็นสัญญาณว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้?
สรุปงานแถลงข่าว Android Honeycomb เมื่อคืนนี้ กูเกิลโชว์ของดังนี้
เมื่อเทียบกับ Android 3.0 SDK ที่เพิ่งปล่อยออกมาไม่กี่วันก่อน ก็แทบไม่มีอะไรใหม่มากนัก กูเกิลเน้นโชว์ System Bar/Action Bar เป็นหลัก อย่างอื่นๆ ได้แก่
Eric Chu ผู้บริหารฝ่าย Android ของกูเกิล ขึ้นเวทีงานสัมมนา Inside Social Apps และยอมรับว่า "ไม่พอใจ" กับยอดขายแอพใน Android Market โดยเขาเปิดเผยแผนการบางส่วนของกูเกิลดังนี้
อาจเป็นเรื่องตอกย้ำว่าระบบการจ่ายเงินด้วย Google Checkout ของ Android Market ล้มเหลว เพราะบริษัท Rovio เจ้าของเกม Angry Birds อันโด่งดัง หันไปพัฒนาระบบจ่ายเงินของตัวเองใช้แทนแล้ว
ระบบจ่ายเงินนี้มีชื่อน่ารักว่า "Bad Piggy Bank" (ช่วยกันตั้งชื่อภาษาไทยก็ดีนะครับ) ใช้วิธีหักเงินผ่านบิลของโทรศัพท์มือถือ (carrier-billing) แทนการจ่ายด้วยบัตรเครดิต โดยโอเปอเรเตอร์รายแรกที่เข้าร่วมคือ Elisa ของประเทศฟินแลนด์
ผู้ใช้สามารถซื้อ Angry Birds รุ่นไม่มีโฆษณาผ่าน Bad Piggy Bank ได้ หรือจะซื้อไอเทมในเกมก็ได้เช่นกัน โดยสินค้าอย่างแรกคือตัวละคร Mighty Eagle ทั้งหมดจะเริ่มบริการช่วงต้นปีหน้า
โปรแกรม Android Market เพิ่งปรับหน้าตาไปนิดหน่อยเมื่อไม่นานมานี้ (ข่าวเก่า) แต่กูเกิลก็ออกมาโชว์ภาพหน้าจอของ Android Market ตัวใหม่แล้ว
โปรแกรม Android Market รุ่นใหม่จะใช้ได้กับ Android 1.6 ขึ้นไป และจะทยอยอัพเดตไปยังผู้ใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือเปลี่ยนหน้าตาให้สดใสขึ้น, เลื่อนดูแอพแนะนำได้ง่าย, เพิ่มหมวดร้านค้าของโอเปอเรเตอร์ (ดูตรง T-Mobile ในภาพ)
ไหนๆ ก็ใกล้จะคลอดเต็มทีกับเจ้าขนมปังขิง (Gingerbread) ระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดของระบบปฏิบัติการ Android และตอนนี้เองก็ได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจาก Google ให้เห็นกันบ้างแล้ว นั้นก็คือ Android Market ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปดังนี้
สามารถดูรูปภาพภาพประกอบได้หลัง Break ครับ
หลังจากที่โดนโจมตีมานานว่า Android Market มีเนื้อหาไม่เหมาะสมมากมาย ทางกูเกิลก็ประกาศนโยบาย "จัดเรต" โปรแกรมที่อยู่ใน Market แล้ว
เรตทั้งหมดจะมี 4 แบบคือ All, Pre-teen, Teen และ Mature (วิธีการจัดเรตอ่านได้จาก Rating your application for Android Market)
นักพัฒนาโปรแกรมจะต้องอัพเดทโปรแกรมของตัวเองให้รองรับระบบเรตติ้ง ถ้าไม่ทำภายในเวลาที่กำหนด จะได้เรต Mature โดยอัตโนมัติ กระบวนการอัพเดทจะเริ่มในสัปดาห์หน้า
ที่มา - Android Developer Blog
ปัญหาเรื้อรังอันหนึ่งของ Android คือ Market ที่ไม่สมบูรณ์มากนัก เมื่อครั้งเปิดตัว Android 2.2 Froyo ในเดือนพฤษภาคม กูเกิลเคยเดโมหน้าเว็บของ Android Market ที่ซื้อโปรแกรมได้จากบนเว็บเลย แต่มันก็เงียบหายไปเลย (แม้ที่ผ่านมากูเกิลได้เพิ่มฟีเจอร์ใน Market หลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหญ่สักเท่าไร)
แต่ล่าสุดกูเกิลออกมาประกาศแล้วว่า ให้นักพัฒนาโปรแกรมบน Android กลับไปอัพเดตโปรแกรมของตัวเองใน Market ให้ระบุ metadata มิฉะนั้นผู้ใช้มือถือบางรุ่นในอนาคตอาจมองไม่เห็นโปรแกรมตัวนี้
แม้ตัวเลขที่แต่ละแพลตฟอร์มมักใช้มาข่มกันคือจำนวนแอพลิเคชั่นในตลาด แต่อีกประเด็นที่น่าสนใจคือตลาดไหนของถูกกว่ากัน ในประเด็นนี้บริษัท Distimo ที่ให้บริการสำรวจตลาดก็แสดงผลออกมาแล้วปรากฏว่า Android Market ชนะในเรื่องของสัดส่วนแอพลิเคชั่นฟรี
รายงานฉบับนี้พูดถึงแง่มุมต่างๆ อยู่มากมาย แต่ประเด็นที่สำคัญคือ Android Market นั้นมีแอพลิเคชั่นฟรีถึง 57% เทียบกับ Apple App Store ที่มีเพียง 28%, Blackberry 26%, Nokia Ovi 26%, Palm App Catalog 34%, และ Windows Marketplace 22%