New Balance ผู้ผลิตรองเท้ากีฬา และรองเท้าผ้าใบที่สตีฟ จอบส์ชอบใส่ เปิดตัวแผนกใหม่ Digital Sport สำหรับพัฒนาสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์กับกีฬา พร้อมกับเปิดตัวสินค้าชิ้นแรกจากแผนกนี้คือสมาร์ทวอทช์พลัง Android Wear
สมาร์ทวอทช์พลัง Android Wear จาก New Balance ที่ปัจจุบันไม่มีแม้แต่ชื่อนั้นมีฟีเจอร์หลักคือการเก็บข้อมูลการวิ่ง และเส้นทางการวิ่งด้วย GPS พร้อมกับเปิดเพลงเข้ากับจังหวะการวิ่งโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เริ่มวางขายจริงในช่วงหยุดยาวปลายปี
หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วสำหรับ TAG Heuer Carrera Connected นาฬิกาอัจฉริยะหรูของ TAG Heuer ที่ใช้ Android Wear ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตของนาฬิการุ่นนี้
Jean-Claude Biver ซีอีโอของ TAG Heuer ตอบคำถามเรื่องดังกล่าวนี้กับอีเมลที่ส่งถึงสำนักข่าว Bloomberg โดยระบุว่าทางบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมที่ 1,200 เรือนต่อสัปดาห์ เป็น 2,000 เรือนต่อสัปดาห์ และระงับการจำหน่ายผ่านออนไลน์ไว้ชั่วคราวจนกว่าจะถึงช่วงมีนาคมของปีหน้าเป็นอย่างน้อย เพื่อให้หน้าร้านปกติมีสินค้าขายได้ โดยระบุว่าเสียงตอบรับดีมาก
กูเกิลอัพเดตความสามารถให้ระบบปฏิบัติการ Android Wear สามารถเชื่อมต่อเน็ตผ่านเครือข่ายมือถือได้โดยตรง จากเดิมที่ต้องใช้ Bluetooth หรือ Wi-Fi
Android Wear จะยังสามารถติดต่อกับโทรศัพท์ที่ pair เอาไว้ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ ตราบเท่าที่ทั้งคู่ต่อเน็ตได้ (เช่นเดียวกับการคุยผ่าน Bluetooth/Wi-Fi) ความสามารถอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาคือเราสามารถใช้นาฬิกา Android Wear คุยโทรศัพท์ได้ด้วย ถ้าหากอุปกรณ์รองรับ
นาฬิการุ่นแรกที่มี LTE ในตัวคือ LG Watch Urbane รุ่นที่สอง
ที่มา - Official Android Blog
หลังจากซีอีโอออกมาให้ข่าวก่อนหน้าไม่นานนัก ในที่สุดที่นครนิวยอร์กวันนี้ TAG Heuer ได้ประกาศเปิดตัว Carrera Connected นาฬิกาอัจฉริยะของตัวเองอย่างเป็นทางการ
หลังจากเริ่มต้นวางจำหน่ายไปช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาสำหรับ Huawei Watch มาตอนนี้ทาง Huawei ก็เริ่มนำมาจำหน่ายในประเทศอื่นนอกจากสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว แต่จนบัดนี้ยังไม่มีการวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากผมอยู่ที่ออสเตรเลียพอดี และ Huawei Watch เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว จึงได้มีโอกาสลองเล่นอยู่เป็นเวลาสั้นๆ ครับ ทั้งนี้สำหรับตัวซอฟต์แวร์ที่เป็น Android Wear นั้นคงไม่กล่าวถึง (เพราะไม่ต่างอะไรจากตัวปกติ) ส่วนราคาเปิดเริ่มต้นที่ 546 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 14,000 บาท) ไปจนถึง 746 (ประมาณ 19,000 บาท) ตามราคาของสายและสี
หลังจากที่ผู้บริหารออกมาให้ข่าวอย่างไม่เป็นทางการครั้งหนึ่ง วันนี้ TAG Heuer ได้ทำการอัพโหลดภาพบางส่วนของนาฬิกาอัจฉริยะที่จะเปิดตัวในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ผ่านทางทวิตเตอร์ทางการของบริษัท (@TAGHeuer) พร้อมกับเปิดตัวเว็บไซต์นับถอยหลังอย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถใส่อีเมลเพื่อลงทะเบียนขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้
นอกจากจะเปิดตัว V10 สมาร์ทโฟนสุดหรูที่มาพร้อมกับความแปลกแล้ว บนเวทีเดียวกัน LG ยังถือโอกาสมาเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ตัวหรูรุ่นใหม่อย่าง Watch Urbane 2nd Edition
Watch Urbane 2nd Edition เป็นรุ่นแรกที่เสริมระบบปฏิบัติการ Android Wear ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ Watch Urbane LTE ซึ่งพัฒนามาจาก webOS ให้สามารถใช้งานฟีเจอร์บางอย่างของสมาร์ทโฟนได้โดยตรงจากสมาร์ทวอทช์ เช่นการโทรศัพท์ ฟังเพลง ฯลฯ ด้วยการเชื่อมต่อกับเครือข่ายด้วยตัวเองทั้ง LTE และ Wi-Fi นั่นเอง
Moto 360 กลายเป็นผลิตภัณฑ์ Android Wear ตัวแรกที่วางขายในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกูเกิลไม่มีบริการ Google Play/Google Now ในจีน ทำให้ Moto 360 ต้องปรับเปลี่ยนมาเชื่อมต่อกับบริการสั่งงาน-ค้นหาด้วยเสียงจากบริษัทจีน Mobvoi แทน (เปลี่ยนจาก OK Google มาเป็น Ni hao Android)
งานนี้กูเกิลจะช่วยสนับสนุน Mobvoi ในการเชื่อมต่อกับ Android Wear แทนบริการของตัวเอง โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ดัน Android Wear เข้าเมืองจีนภายใต้ข้อจำกัดที่กูเกิลยังมาเองไม่ได้ (แม้จะมีข่าวลือว่ากูเกิลเตรียมกลับเข้าจีนในเร็วๆ นี้)
Mobvoi เป็นบริษัทประมวลผลเสียงพูดภาษาจีน และก่อตั้งโดยอดีตพนักงานกูเกิลในปี 2012
เราเห็นข้อมูลหลุดของ Moto 360 รุ่นที่สอง กันมาหลายรอบ เมื่อวานนี้ Motorola ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Moto 360 รุ่นที่สองอย่างเป็นทางการ
Moto 360 รุ่นที่สองยังคงเอกลักษณ์หน้าปัดกลม (พร้อมแถบดำ) เหมือนรุ่นแรก การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือแยกรุ่นผู้ชาย ผู้หญิง (ขนาดเล็กลง) และรุ่นสปอร์ตสำหรับใส่เล่นกีฬา มีสีสันตัวเรือนและสายให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งแบบสเตนเลสและสายหนัง นอกจากนี้ยังรองรับการปรับแต่งมาจากโรงงานผ่าน Moto Maker แบบเดียวกับ Moto X อีกด้วย
เคยเอา ZenWatch 2 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ทั้งสองขนาดไปโชว์ในงาน Computex เมื่อช่วงกลางปี วันนี้ในงาน IFA ทาง ASUS มาเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่นี้อย่างเป็นทางการแล้ว
หน้าตาของ ZenWatch 2 เราเห็นกันมาหลายเดือนแล้ว จะขอพูดถึงรายละเอียดใหม่อย่างสเปคที่เพิ่งประกาศมาในวันนี้ ทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอ AMOLED รุ่น 49 มม. จะใช้หน้าจอขนาด 1.63" ความละเอียด 320x320 พิกเซล ส่วนรุ่น 45 มม. จะใช้หน้าจอขนาด 1.45" ความละเอียด 280x280 พิกเซล สเปคภายในของทั้งสองรุ่นใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 400 (APQ8026) ควอดคอร์ความถี่ 1.2GHz หน่วยความจำภายใน 4GB แรม 512MB รุ่นจอใหญ่แบตเตอรี่จุ 400 mAh ส่วนจอเล็กจุน้อยกว่าที่ 300 mAh โดย ASUS เคลมว่าใช้งานได้ 2-2.5 วัน
หลังจากที่มีข่าวว่ากูเกิลจะทำให้ Android Wear สามารถใช้งานร่วมกับ iOS ได้นั้น ล่าสุดกูเกิลได้ทำเสร็จตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว
โดยในวันนี้กูเกิลได้ปล่อยตัวเชื่อมต่อ Android Wear กับ iPhone ลงใน App Store อย่างเป็นทางการ โดยเงื่อนไขการใช้งานคือต้องใช้งานร่วมกับ iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 5c, iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่ใช้งาน iOS 8.2 ขึ้นไปเท่านั้น และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จ ก็จะสามารถใช้งาน Android Wear ที่มีอยู่คู่กับ iPhone ได้ในทันที
แม้จะเปิดตัวไปตั้งแต่เดือนมีนาคมแต่จนบัดนี้ Huawei Watch ซึ่งเป็นนาฬิกาอัจฉริยะสาย Android Wear ของ Huawei บริษัทโทรคมนาคมจากจีนก็ยังไม่มีวางจำหน่าย จนกระทั่งเมื่อวานนี้ที่มีข้อมูลของนาฬิกาดังกล่าว หลุดขึ้นไปอยู่บนเว็บไซต์ของ Amazon พร้อมเปิดให้สั่งจอง ก่อนที่จะโดนเอาออกจากระบบไปในภายหลัง
ฟีเจอร์ใหม่ของ Android Wear ที่เพิ่มมาในวันนี้ ไม่ได้มีแต่ หน้าปัดนาฬิกาชุดใหม่ แต่ยังรวมถึงการผนวกเอา Google Translate เข้ามารวมอยู่ในตัวรอม Android Wear ด้วยเลย
การใช้งานก็แค่พูดกับนาฬิกา เพื่อแปลงเสียงพูดเป็นข้อความในภาษาต่างๆ ตามที่ตั้งไว้ กูเกิลมีระบบตรวจจับภาษาอัตโนมัติว่าจะต้องแปลระหว่างคู่สองภาษาใดบ้าง ช่วยให้การสื่อสารกับคนต่างชาติง่ายขึ้นมาก
ที่มา - Google Translate Blog
Google ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Android Wear คือ interactive watch faces เป็นความสามารถที่ทำให้ผู้ใช้ Android Wear เล่นกับหน้าปัดนาฬิกาได้มากขึ้น เพิ่มความสะดวกให้ชีวิตประจำวัน เช่น
สำหรับอุปกรณ์ Android Wear ทุกรุ่นจะได้รับอัพเดตนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ไมโครซอฟท์ประกาศออก-อัพเดตแอพชุดใหญ่ให้อุปกรณ์สวมใส่ทั้ง Apple Watch และ Android Wear
หลังจากที่เคยมีข่าวว่าทีมงาน Niantic Labs ของ Google กำลังพัฒนา Ingress ให้รองรับ Android Wear (ข่าวเก่า) มาวันนี้ Niantic Labs ได้ปล่อย Ingress รุ่น 1.81 พร้อมกับรองรับ Android Wear ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว
คุณสมบัติหลักของ Ingress บน Android Wear คือแจ้งเตือนและทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การแฮกเสา หรือแจ้งเตือนการถูกโจมตีเสาได้เป็นต้น แต่การเล่นเกมที่เป็นกิจกรรมหลักยังคงต้องใช้โทรศัพท์อยู่
อัพเดตถูกปล่อยแล้วบน Play Store ซึ่งอาจจะต้องรออีกสักพักหนึ่งจึงจะปรากฎบนเครื่องครับ
หลังจากที่ Google ได้เผยลายหน้าปัดกว่า 1500 ลายให้เลือกใช้สำหรับ Android Wear เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกเหมือนได้ใช้นาฬิกาเรือนใหม่ทุกวันและยังสามารถเลือกให้เหมาะกับการเเต่งตัวหรือโอกาสได้ด้วย คราวนี้ ได้เผยโฉมหน้าปัดแบบใหม่เพิ่มอีก 17 แบบ โดยมีลายตัวการ์ตูน เช่น Angry Birds, Hello Kitty และ Moomin หรือว่าจะเป็นแนวหรูหรา อย่าง Cynthia Rowley, Lulu Frost และ Triwa ก็มีมาให้เลือกเช่นกัน
ที่มา : Official Android Blog
ASUS ยังคงพยายามกับ ZenWatch ต่อไปในปีนี้ โดยเปิดตัว ZenWatch 2 ในงาน Computex ในรุ่นใหม่ทนทานน้ำและฝุ่นในระดับ IP67 มีสองขนาดคือขนาดสาย 18 มิลลิเมตร และ 22 มิลลิเมตร
ตัวเรือนมีให้เลือกสามสี่ ได้แก่ เงิน, เทา, และทองกุหลาบ (rose-gold) ส่วนสายมีให้เลือกทั้งยาง, หนัง, และโลหะ นอกจากนี้ยังมีสายหนังรุ่นพิเศษประดับคริสตัล Swarovski
รุ่นตัวเรือนใหญ่จะมีแบตเตอรี่เสริมเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ซื้อเพิ่มได้อีกด้วย
ที่มา - Engadget
เพิ่งปล่อยอัพเดต 5.1.1 ให้ Android Wear สามารถต่อ Wi-Fi ได้ไม่นาน ก็มีข่าวของฟีเจอร์ใหม่ที่กูเกิลจะใส่มาใน Android Wear รุ่นต่อไปแล้ว
ฟีเจอร์ใหม่ที่ลือมาในครั้งนี้มาจาก Artem Russakovskii แหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกับทีม Android Wear ระบุว่า Android Wear รุ่นใหม่จะรองรับลำโพงในตัว รวมถึงสามารถรับสายได้โดยตรงจากสมาร์ทวอทช์แล้ว ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาสมาร์ทวอทช์ที่สามารถใส่ซิมได้ อย่างที่ LG เพิ่งทำกับ Urbane ไปเมื่อไม่นานมานี้
ทว่ายังไม่มีการยืนยันว่าฟีเจอร์ใหม่นี้จะมาทันงาน Google I/O ที่กำลังจะจัดในช่วงปลายเดือนนี้หรือไม่
Google Fit แอพข้อมูลสุขภาพของกูเกิลบนแอนดรอยด์ อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ (ที่ควรจะมีนานแล้ว) คือเพิ่มการแสดงผลค่าแคลอรี่ที่เผาผลาญไป โดยคำนวณคร่าวๆ จากเพศ ส่วนสูงและน้ำหนักที่ป้อนเข้าไป และยังเพิ่มการแสดงผลกิจกรรมทั้งหมดที่ผ่านมาแบบรายสัปดาห์ และรายเดือนในรูปของไทม์ไลน์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นกูเกิลได้เพิ่ม widget ของ Google Fit บนสมาร์ทโฟน และหน้าปัดนาฬิกาบน Android Wear อีกด้วย
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Jean-Claude Biver ซีอีโอของ TAG Heuer ประกาศว่าจะทำนาฬิกาบนแพลตฟอร์ม Android Wear ก็ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับนาฬิกาออกมาเลย ล่าสุดมีข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่ายออกมาแล้วครับ
Jean-Claude Biver ให้สัมภาษณ์ว่านาฬิกา Android Wear ของ TAG Heuer จะวางจำหน่ายประมาณเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนของปีนี้ โดยสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 1,400 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 42,000 บาท โดยแบตเตอรี่ของตัวนาฬิกาสามารถอยู่ได้ถึง 40 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
LG Watch Urbane สมาร์ทวอทช์เรียบหรูพลัง Android Wear จาก LG เริ่มวางขายอย่างเป็นทางการแล้วบน Play Store ด้วยราคาเปิดตัวสูงเอาเรื่องที่ 349 เหรียญ
สเปคของ LG Watch Urbane ใช้หน้าจอกลม P-OLED ขนาด 1.3" ซีพียู 1.2GHz แรม 512MB รัน Android 5.1.1 เป็นรุ่นแรกของ Android Wear ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยตรงแล้ว
พร้อมกับการมาของ LG Watch Urbane ที่ขึ้นแท่นเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นสูงสุดบน Play Store ในตอนนี้ (แต่ราคาเท่ากับ Apple Watch รุ่นถูกสุด) รุ่นก่อนหน้าที่วางขายอยู่ก็ลดราคาทันที โดย LG G Watch R ลดจาก 299 เหรียญ เหลือ 249 เหรียญ ส่วน Moto 360 ลดจาก 249 เหรียญเหลือ 179 เหรียญ
กูเกิลอัพเดตแอพจดโน้ต Google Keep บน Android Wear จากเดิมผู้ใช้สามารถเรียกโน้ตด้วยคำสั่ง "OK Google, open Keep" แต่เพิ่มโน้ตเองไม่ได้ การอัพเดตคราวนี้ทำให้ Keep จดโน้ตด้วยคำสั่ง "OK Google, take a note" แล้วพูดได้เลย
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือสามารถเพิ่มการแจ้งเตือน (reminder) สำหรับโน้ตใดๆ ได้จาก Android Wear เลยเช่นกัน
ที่มา - Android Official Blog, Android Police
กูเกิลเผยความสามารถของ Android Wear อัพเดตรอบใหม่ (เริ่มปล่อยในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ได้อัพเดตกันทุกรุ่น) ดังนี้
นึกตามไม่ออก ดูภาพแอนิเมชันประกอบข่าวครับ
หน้าจอขาวดำ
ถ้ายังจำกันได้ Android Device Manager คือระบบที่แสดงรายชื่อมือถือ Android ทั้งหมดที่เรามี และสามารถระบุตำแหน่งได้ว่ามันอยู่ที่ไหน กูเกิลเปิดตัวระบบนี้ในปี 2013 และออกเวอร์ชันแอพตามมาในภายหลัง
ล่าสุดกูเกิลเพิ่มช่องทางเข้าถึง Android Device Manager อีกทางหนึ่งคือ Android Wear มีแอพ Find my phone เพิ่มเข้ามา ช่วยให้เราสามารถตามหามือถือหายได้จากนาฬิกาข้อมือ (ถ้ามีและยังไม่หายไปพร้อมกัน)
สำหรับคนที่ชอบใช้คำสั่งเสียงยังสามารถสั่ง "Ok, Google. Start. Find my phone" ได้อีกทางหนึ่งครับ