ตามที่ได้มีการคาดการณ์กันเอาไว้ ในงาน IFA 2014 วันนี้ ASUS ประกาศเปิดตัว Android Wear และ Wearable Computing ตัวแรกของบริษัทอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ ASUS ZenWatch ตามที่มีข่าวลือกันมาก่อนหน้านี้
ความสามารถของ ZenWatch แทบไม่แตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่นๆ มาก เพราะด้วยความที่กูเกิลต้องการควบคุมแพลตฟอร์มเอง แต่ก็มีความสามารถพิเศษที่ ASUS เพิ่มเข้าไป เช่น ผสาน ZenUI เข้าไปในตัว Android Wear, ปลดล็อก ZenFone ด้วย ZenWatch ได้เอง (ความสามารถนี้ Android รุ่นอื่นๆ ต้องรอ Android L), แตะนาฬิกาเพื่อหาโทรศัพท์, เอามือบัง ZenWatch เอาไว้ในกรณีที่ไม่ต้องการรับสาย เป็นต้น
สำหรับสเปคของ ASUS ZenWatch นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
หลังจากที่ลือกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมว่า ASUS จะทำ Zenfone 5 LTE มาถึงตอนนี้ 4 เดือนให้หลัง ASUS ประกาศราคาขายในไทยแล้ว สนนราคาอยู่ที่ 7,990 บาท
สำหรับ Zenfone 5 LTE นั้นมีจุดแตกต่างสำคัญเมื่อเทียบกับ Zenfone 5 รุ่นที่วางขายอยู่ก่อนหน้าก็คือการเปลี่ยนมาใช้หน่วยประมวลผลควอดคอร์ Snapdragon 400 ของ Qualcomm (จากเดิมที่ใช้ชิป Atom ของ Intel) และจะไม่สามารถใช้งานแบบซิมคู่ได้เหมือนรุ่นแรก ส่วนข้อแตกต่างอื่นก็มีเรื่องระบบปฏิบัติการที่จะได้ Android 4.4 KitKat มาตั้งแต่อยู่ในกล่องเลย
ก่อนเปิดตัวจริงเพียงไม่กี่วัน ZenWatch ยังคงมีรายละเอียดเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ หลังจากเพิ่งได้ชื่อแน่นอนไปไม่กี่วัน ตอนนี้เริ่มมีฟีเจอร์ของสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ออกมาบ้างแล้ว
และคนที่ออกมาเผยไต๋ในครั้งนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Jerry Chen ซีอีโอของ ASUS ที่ออกมาเผยว่า ZenWatch จะราคาต่ำกว่า 199 เหรียญ ซึ่งเป็นราคาของ Android Wear รุ่นถูกสุดในตอนนี้อย่าง Gear Live ของซัมซุง ส่วนที่ว่าต่ำกว่าจะเป็นเท่าไร คงต้องรอดูกันในงานอีกทีครับ
ว่าด้วยเรื่องฟีเจอร์แล้ว ZenWatch ร่ำลือว่าจะมีฟีเจอร์การสั่งงานด้วยท่าทาง (gesture control) มาให้ด้วยครับ
จากข่าวลือ จนมาถึงภาพตัวอย่างของ Smart Watch จากทางค่าย ASUS ล่าสุดได้เผยทีเซอร์ Smart Watch ดังกล่าวโดยใช้ชื่อทางการว่า ZenWatch ซึ่งจะเปิดตัวที่งาน IFA 2014 วันที่ 3 กันยายนนี้
ที่มา - Android Police
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ว่า ASUS เตรียมเปิดตัวนาฬิกา Smart Watch ที่งาน IFA 2014 วันที่ 3 กันยายนนี้
ล่าสุด Facebook ของ ASUS โพสต์ภาพสเกตช์ของนาฬิกาตัวนี้แล้ว โดยหน้าปัดนาฬิกาเป็นสี่เหลี่ยมมุมโค้ง ไม่ได้เป็นวงกลมตามกระแสของค่ายอื่นๆ ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่านาฬิกาตัวนี้ใช้ชื่ออะไรทำตลาด และ ASUS ยังเรียกมันว่า #ASUSwearable อยู่ครับ
ที่มา - Android Central
เพิ่งมีข่าวลือว่าเอซุสเตรียมเปิดตัว Android Wear ที่งาน IFA ต้นเดือนกันยายน ล่าสุดเมื่อวานนี้บริษัทได้ทวีตภาพ (ดูได้ที่ท้ายข่าว) พร้อมระบุวันที่และสถานที่จัดงานว่าเป็น 3 ก.ย. นี้ที่ IFA
เว็บไซต์ TechCrunch เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า นาฬิกาของเอซุสจะใช้หน้าจอ AMOLED และมีราคาถูกมากคือระหว่าง 99-149 ดอลลาร์ และเว็บไซต์ Engadget เสริมว่านาฬิกาจะมีสเปคเหมือนกับซัมซุง Gear Live และแอลจี G Watch ยกเว้นแบตเตอรี่ที่น่าจะอยู่ระหว่าง 300-400 มิลลิแอมป์-ชั่วโมง ครับ
เว็บไซต์ Focus Taiwan รายงานข่าววงในว่า Jerry Shen ซีอีโอของ ASUS พูดในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าบริษัทจะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้แพลตฟอร์ม Android Wear ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ที่งาน IFA ในเยอรมนี
ตามข่าวยังอ้างคำพูดของ Shen ว่านาฬิกาของ ASUS ได้รับการตอบรับที่ดีจากกูเกิล ทั้งในแง่ตัวผลิตภัณฑ์ที่หน้าตาดูดีกว่าคู่แข่ง และราคาที่ค่อนข้างถูก
Shen บอกว่าตลาด wearable computing อาจยังจุดไม่ติดในปีนี้หรือครึ่งแรกของปีหน้า และขอให้นักลงทุนอย่าเพิ่งคาดหวังว่ายอดขายนาฬิการุ่นแรกจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการของบริษัท
ที่มา - Focus Taiwan
หลังจากที่สร้างปรากฎการณ์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาต่ำหมื่นไป สำหรับ Zenfone ทั้งสามรุ่น ล่าสุด Asus ประกาศว่ากำลังพัฒนา Zenfone รุ่นที่ 2 และคาดว่าจะเปิดตัวในงาน CES 2015 ในช่วงต้นปีหน้า งานเดียวกับที่เปิดตัว Zenfone รุ่นแรก
Jerry Chen ซีอีโอของ Asus บอกว่า Zenfone 2 (เรียกอย่างไม่เป็นทางการ) จะปรับปรุงทั้งดีไซน์ อายุแบตเตอรี่ หน่วยความจำ คุณภาพกล้อง รวมไปถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น Zenfone 2 จะมีเพียงรุ่นเดียวที่รองรับ 3G ส่วนรุ่นที่เหลือจะรองรับ LTE ทั้งหมด
อย่างไรก็ดียังไม่มีข้อมูลว่ารุ่นใหม่จะยังมี 3 ขนาดหน้าจอเหมือนเดิมและยังคงใช้โปรเซสเซอร์จาก Intel หรือไม่
หลังจากที่วางจำหน่าย Zenfone 4 ในบ้านเราไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม (อ่านรีวิวได้) และ Zenfone 5 ตามมาติดๆ พร้อมกับเปิดตัวรุ่นใหม่ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว ไปได้ไม่นาน วันนี้ ASUS ประเทศไทย ประกาศขาย Zenfone 4 และ 5 รุ่นปรับปรุงใหม่ในไทยอย่างเป็นทางการ
โดยในรุ่นปรับปรุงใหม่นี้ สำหรับ Zenfone 4 อยู่ที่เรื่องของการเพิ่มแบตเตอรี่ จาก 1,200 mAh (แต่มีให้มาสองก้อน) เป็น 1,600 mAh ส่วน Zenfone 5 คือการเพิ่มหน่วยความจำให้ จากเดิมที่มีความจุ 8 GB เป็น 16 GB แทน นอกจากนั้นทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม รวมไปถึงราคาจำหน่ายด้วย โดยจะเริ่มจำหน่ายจริงช่วงสิงหาคมนี้
เมื่อหลายเดือนก่อน ASUS ประเทศไทยได้เปิดตัว Zenfone สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาทั้งสามรุ่น โดยมีรุ่นที่น่าจับตามองคือ Zenfone 4 รุ่นถูกสุดที่เปิดราคามาเพียง 2,990 บาท (รีวิวของ Blognone)
ใครที่ตามข่าว Zenfone จะพบว่าซีรีย์นี้แม้ว่าจะมีสามรุ่นหลักคือ Zenfone 4, 5 และ 6 แต่ก็จะมีบางโมเดลที่สเปคต่างกันอยู่บ้าง เช่นกรณีของ Zenfone 5 ที่มีทั้งรุ่นแรม 1GB และ 2GB ล่าสุดรุ่นเล็กสุดอย่าง Zenfone 4 ก็มีโมเดลใหม่ในรหัส A450CG มาแล้ว (รุ่นเดิม A400CG)
TechCrunch รายงานข่าววงในว่า ASUS อาจเป็นพาร์ทเนอร์รายที่สี่ของกูเกิล ที่จะเปิดตัวสินค้าตระกูล Android Wear ต่อจาก LG/Samsung/Motorola ที่เปิดตัวสินค้าไปแล้ว
ตามข่าวบอกว่านาฬิกาของ ASUS จะใช้หน้าจอ AMOLED และตั้งราคาถูกมากคือระหว่าง 99-149 ดอลลาร์ (Samsung Gear Live 199 ดอลลาร์, LG G Watch 229 ดอลลาร์) และตั้งเป้าจะเปิดตัวสินค้าในเดือนกันยายนนี้
ที่มา - TechCrunch
นอกจากจะเปิดตัวแท็บเล็ตหลากรุ่นในงาน Computex แล้ว ปีนี้ ASUS ยังเอาใจเกมเมอร์ด้วยการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกม นั่นก็คือหูฟังหน้าตาล้ำสมัยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนกฮูกอย่าง Strix Pro
ว่ากันด้วยเรื่องแบรนด์แล้ว Strix เป็นแบรนด์สำหรับจับตลาดคนเล่นเกมของ ASUS มาแต่ไหนแต่ไร ก่อนหน้านี้จะใช้แบรนด์ดังกล่าวกับการ์ดจอ และนี่เป็นครั้งแรกที่นำมาใช้กับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ โดยมีแผนจะออกอุปกรณ์เสริมสำหรับนักเล่นเกมภายใต้แบรนด์ Strix เพิ่มขึ้นอีกในอนาคตครับ
ถัดจากลองจับสินค้า Acer ก็เป็นคิวของฝั่ง ASUS บ้างครับ น่าเสียดายว่า ASUS เอาสินค้าตัวเจ๋งๆ ไปวางโชว์ไว้แต่ไม่ให้ลองจับ เลยมีแต่ภาพมาฝากครับ
เริ่มจาก Transformer Book T300 Chi โน้ตบุ๊กถอดจอได้ที่คุยว่า "บางที่สุดในโลก" 7.3 มม. (บางกว่า Surface Pro 3) ดูจากสายตาแล้วยืนยันได้ว่าบางจริงครับ เพียงแต่สินค้าอยู่ไกลในระยะเอื้อมไม่ถึง เลยอธิบายลำบากว่าเวลานำมาใช้จริงๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง
นอกจาก Transformer Book V ที่ใช้งานได้ถึง 5 รูปแบบ คือ มือถือแอนดรอยด์ แท็บเล็ตแอนดรอยด์ แท็บเล็ตวินโดวส์ โน้ตบุ๊กวินโดวส์ และโน้ตบุ๊กแอนดรอยด์ เอซุสยังโชว์ Transformer Book T300 Chi โน้ตบุ๊กหน้าจอ 12.5 นิ้ว ถอดแยกหน้าจอได้ที่บริษัทเคลมว่า "บาง" ที่สุดในโลกด้วยความหนาเพียง 7.3 มม. (บางกว่า Surface Pro 3!) และเมื่อรวมเครื่องกับ keyboard dock แล้วจะบางเพียง 14.3 มม.
นอกจากดาวเด่นของงานอย่าง Transformer Book V อุปกรณ์ไฮบริดที่ใช้งานได้ห้าแบบแล้ว ในเวที Computex ปีนี้ ASUS ยังขนอุปกรณ์รุ่นใหม่อื่นๆ มาเปิดตัวอีกหลายรุ่น เน้นไปที่แท็บเล็ตดังนี้ครับ
เริ่มต้นกันที่ Fonepad 8 แท็บเล็ตโทรได้รุ่นใหม่ที่ขยับไปใช้หน้าจอขนาด 8" ความละเอียดเท่าเดิมที่ 1280x800 พิกเซล ซึ่ง ASUS เคลมว่าเป็นแท็บเล็ต 8" ที่มีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 72% มากที่สุดในตลาด (ขอบจอน้อยนั่นเอง) ตัว Fonepad 8 อัพเกรดซีพียูเป็น Atom Z3560 ควอดคอร์ความถี่ 1.8GHz ซึ่งรองรับการประมวลผลแบบ 64 บิตแล้ว พร้อมกับตัวเครื่องที่บางเพียง 5.06 มม. เท่านั้น รองรับสองซิม แต่ไม่รองรับ LTE
ASUS ยังคงจริงจังกับการทำอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างหลากหลาย หลังจากเมื่อปีก่อนเปิดตัว Transformer Book Trio ที่ใช้งานได้สามรูปแบบ วันนี้ในงาน Computex ก็เปิดตัว Transformer Book V ที่ใช้งานได้ถึง 5 รูปแบบด้วยกัน
รูปแบบการใช้งาน Transformer Book V มีตั้งแต่การเป็นมือถือแอนดรอยด์ แท็บเล็ตแอนดรอยด์ แท็บเล็ตวินโดวส์ โน้ตบุ๊กวินโดวส์ และโน้ตบุ๊กแอนดรอยด์ รวมทั้งหมดเป็น 5 รูปแบบ
ASUS เพิ่งวางขาย ZenFone ชุดแรกไม่ทันไร ก็มีข่าวลือของ ZenFone ชุดที่สองออกมาจากเว็บไซต์ VR Zone ของจีนครับ
คาดว่าอุปกรณ์ทั้งสองตัวจะเปิดตัวที่งาน Computex 2014 ที่ไต้หวันในสัปดาห์หน้า
แม้ว่า ASUS เพิ่งจะวางตลาด Zenfone จริงไปได้ไม่นาน (Blognone มีทั้งลองจับและรีวิว) แต่ก็มีแผนการที่จะเตรียมส่ง Zenfone รุ่นที่สองซึ่งรองรับเทคโนโลยี LTE แล้ว โดยมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนชิปจากเดิมที่เป็น Intel ไปสู่ Qualcomm ด้วยเช่นกัน
Focus Taiwan ซึ่งเป็นสถานีข่าวท้องถิ่นในไต้หวัน อ้างคำกล่าวของ Jerry Shen ซีอีโอ ASUS ในระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นประจำไตรมาสที่ระบุว่า ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ทาง ASUS จะทำการเปิดตัว Zenfone ที่รองรับเทคโนโลยี LTE (ปัจจุบัน Zenfone รองรับเฉพาะ 3G เท่านั้น) โดยยังกล่าวต่อไปอีกว่า ทาง ASUS พร้อมที่จะทำงานร่วมกับบริษัทอื่น รวมถึง Qualcomm และ MediaTek ด้วย
สำหรับตลาดโทรศัพท์มือถือราคาถูกในปีนี้ ต้องถือว่าค่อนข้างเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดกันมาตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็น Moto E ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่วันที่ผ่านมา หรือ Nokia X ก็ตาม ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นผลเกิดจากการที่สมาร์ทโฟนสามารถผลิตได้มากขึ้นโดยมีต้นทุนที่ต่ำลง ผลพลอยได้อย่างหนึ่งคือสินค้าเหล่านี้ได้แปลงสภาพกลายเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค (commodity) และทำให้ผู้ใช้หน้าใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสสมาร์ทโฟนได้เข้าถึงสมาร์ทโฟนง่ายขึ้นกว่าเดิม
ASUS ลงมาเล่นตลาด Chromebook แล้วหลังจากเปิดตัว Chromebox ไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเปิดตัวพร้อมกันสองรุ่น ได้แก่ ASUS C200 และ ASUS C300
ASUS C200 จะมีหน้าจอ 11.6 นิ้ว ใช้ซีพียู Celeron N2830 ที่แกนภายในเป็น Atom Bay Trail แรม 2 GB หน่วยความจำแฟลช 16 GB หรือ 32 GB น้ำหนัก 1.13 กิโลกรัม
ASUS C300 มีหน้าจอ 13.3 นิ้ว ใช้ซีพียู N2830 เช่นกัน แรม 4 GB หน่วยความจำแฟลช 32 GB น้ำหนัก 1.41 กิโลกรัม
ทั้งสองรุ่นรองรับ Wi-Fi 802.11ac2, Bluetooth 4.0 และมีพอร์ต USB 3.0, USB 2.0, HDMI, และสล็อต SDXC
ราคาเริ่มต้น 249.99 ดอลลาร์ เริ่มวางจำหน่ายปลายเดือนมิถุนายนนี้
ต่อเนื่องจากงานเปิดตัว ASUS ZenFone ในงานมีตัวเครื่องให้ลองจับ และมีการเล่าที่มาของการพัฒนาซีรีย์ ZenFone ว่าเป็นอย่างไรบ้าง หยิบมาเล่าแบบพอสังเขปได้ดังนี้ครับ (โปรดระวัง ภาพเยอะมาก)
เริ่มต้นที่วิสัยทัศน์ในการออกแบบ ZenFone นั้นคำนึงถึงผู้ใช้เป็นอันดับแรก (ASUS ใช้คำว่า Start With People) ทำให้ ZenFone ทั้งสามรุ่นถูกออกแบบมาให้โค้งมน หยิบจับได้ง่าย และใช้วัสดุที่จับได้สะดวก
เปิดตัวอย่างเซอร์ไพรส์ไปในงาน CES 2014 เมื่อต้นปีไปกับซีรีย์ ZenFone ที่มาพร้อมกับสเปคพอใช้ในราคาไม่แพง ตอนนี้ ZenFone ทั้งสามรุ่นก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว พร้อมวางขายภายในเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับ ZenFone แบ่งเป็นสามรุ่น ZenFone 4, ZenFone 5 และ ZenFone 6 ทั้งสามรุ่นใช้หน้าจอต่างขนาดกัน แต่เป็นซีพียูอินเทล Atom ดูอัลคอร์ทั้งหมด พลังประมวลผลสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามราคาของแต่ละรุ่น สเปคหลักๆ ของทั้งสามรุ่นมีดังนี้ครับ
ZenFone 4
AT&T เปิดตัว ASUS Padfone X ซึ่งเป็นรุ่นใกล้เคียงกับ ASUS Padfone Infinity รุ่นปี 2013
ASUS Chromebox เปิดตัวเมื่อเดือนก่อนและประกาศวันวางขายมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้ก็ถึงวันวางขายวันแรก การเปิดนับว่าใช้ได้เมื่อมันขึ้นที่หนึ่งของเดสก์ทอปขายดีในอเมซอนทันที พร้อมกับสินค้าหมดสต็อกไปพร้อมๆ กัน
มีภาพหลุดจอยของเครื่องเล่นเกม ASUS Game Box ที่ยังไม่เปิดตัว โผล่ในฐานข้อมูลอุปกรณ์ Bluetooth ของ Bluetooth SIG (ลิงก์)
ข้อความในฐานข้อมูลระบุว่า ASUS Game Box เป็นเครื่องเล่นเกมพลังแอนดรอยด์ ตัวจอยมีแบตเตอรี่ความจุ 430 mAh เล่นเกมได้นาน 12 ชั่วโมง
คาดว่า ASUS Game Box ใช้หน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 4, แรม 2GB, ความจุ 8GB, Android 4.3 ส่วนจะเปิดตัวเมื่อไรยังไม่มีข้อมูลครับ
ที่มา - Liliputing