ปีก่อนบ้านเราเพิ่งตื่นตัวเรื่อง Google Earth กันไปว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง ปีนี้เรามีตัวอย่างกันที่ชัดยิ่งกว่าชัด เมื่อมีคนพบว่า Google Earth มีภาพของเรือดำน้ำขีปนาวุธลำใหม่ของจีนที่เพิ่งสร้างขึ้นในปี 2006 ที่ผ่านมารวมอยู่ด้วย
เรือดำน้ำที่ว่านั้นคือหนึ่งในเรือดำน้ำคลาส Jin ที่มีความยาวถึง 133 เมตร (ยาวกว่ารุ่นก่อน 11 เมตร) บรรทุกขืปนาวุธจำนวน 12 ลูก ขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ โดยเชื่อกันว่าจะมีการสร้างขึ้นมาจำนวน 5 ลำ
สำหรับพิกัดที่พบเรือดำน้ำดังกล่าวคือ 38°49'4.40"N, 121°29'39.82"E โดยถูกถ่ายภาพด้วยดาวเทียม Quickbird ภาพดังกล่าวถูกขายต่อให้กูเกิลที่นำมาเผยแพร่ให้เข้าถึงฟรีผ่านทาง Google Earth ในที่สุด
เราคุ้นกันดีว่าอินเดียโกยเงินมหาศาลไปจากการรับงานเอาต์ซอร์ส แต่ผลสำรวจล่าสุดพบว่าจีนขึ้นมาหายใจรดต้นคอแล้ว
บริษัท IDC ได้จัดทำ Global Delivery Index (GDI) โดยเปรียบเทียบความพร้อมของ 35 เมืองแถบเอเชียแปซิฟิกในทุกด้าน อินเดียยังครองอันดับต้นๆ อยู่เช่นเดิม แต่ IDC พยากรณ์ว่าจีนจะล้มแชมป์ในช่วงปี 2011
10 อันดับแรกมีดังนี้ครับ
รายงานฉบับเต็มยังไม่ออก เลยไม่รู้ว่ากรุงเทพอยู่อันดับที่เท่าไร
ที่มา - IDC
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศจีนไม่สามารถเข้าไปใช้ Flickr ได้ตั้งแต่วันพฤหัสที่ผ่านมา ซึ่งทาง Flickr ก็ชี้แจงว่าเว็บไซต์ไม่มีปัญหาเทคนิคแต่อย่างใด
ทางการจีนไม่มีคำตอบใดๆ กับเรื่องนี้ นักวิเคราะห์คาดเดากันว่าจีนไม่ต้องการให้เห็นภาพจากเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมิน ปี 1989 ซึ่งอาจถูกโพสต์ไว้บน Flickr ก็เป็นได้
ที่มา - SFGate
ข่าว จาก/. พูดถึงการเปิดตัว MySpace China แต่ที่แตกต่างจากบริการ MySpace ที่อื่นก็คือจะมีปุ่มให้ผู้ใช้กดเพื่อแจ้งว่าหน้านี้มีเนื้อหาที่"ไม่เหมาะสม" ซึ่งตัวอย่างของเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมก็เช่น เนื้อหาที่เป็นอัตรายต่อความมั่นคง หรือว่าเกี่ยวข้องกับความลับของชาติ ซึ่งเป็นวิธีการคัดกรองเนื้อหาที่เพิ่มเติมมาจากการคัดกรองเนื้อหาแบบปกติ เช่นการตรวจจำข้อความเช่น อิสรภาพไต้หวัน ฟาหลุนกง หรือว่า ดาไลลามะ เป็นต้น
ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ออกมาแถลงนโยบายใหม่ของคณะกรรมการโปลิตบูโร โดยจะขจัดเรื่องร้ายๆ ออกไปจากอินเทอร์เน็ต และส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ให้รู้จักกับลัทธิมาร์กซิสต์ผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
คำแถลงแบบเป็นทางการในโทรทัศน์บอกแบบอ้อมๆ ว่า
"Internet cultural units must conscientiously take on the responsibility of encouraging development of a system of core socialist values."
รอยเตอร์ให้ความเห็นว่า นโยบายนี้บอกชัดเจนว่าจีนต้องการควบคุมอินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น โดยจะจำกัดทั้งเรื่องภาพโป๊ และ "ข่าวลือ" ทางการเมืองต่างๆ
ปัจจุบันจีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 137 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้น 26 ล้านคนในปี 2006
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Google ได้ออกมายอมรับและขอโทษในกรณีที่ทางบริษัทได้นำข้อมูลส่วนหนึ่งจาก Sohu.com ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งมาใช้พัฒนาโปรแกรมของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยข้อมูลส่วนที่ Google ได้นำมาใช้นั้นเป็นส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการอินพุตภาษาจีน (Google Pinyin Input Method Editor)
ผลจากแผ่นดินไหวที่ไต้หวันนอกจากบ้านเราจะต้องทนกับเน็ตช้าเป็นเต่าแล้ว ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักๆ เช่นจีนนั้นส่งผลอย่างต่อเนื่องคือเว็บกว่าหมื่นเว็บต้องเสียสิทธิในชื่อโดเมนของเว็บตนไป เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปแก้ไขและต่ออายุโดเมนเว็บได้เนื่องจากการเชื่อมต่อที่เสียหาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกรณีเช่นนี้บริษัทให้บริการโดเมนทั้งหลายมักไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่ากรณีเช่นนี้อาจจะมีการชดเชยให้กับลูกค้า โดยยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ผมว่าต่อโดเมนเผื่อๆ ไว้สักปีล่วงหน้าก็ดีเหมือนกันนะ
ข่าวนี้มาจากความรำคาญส่วนตัวล้วนๆ ด้วยความที่ผมเองเป็นคนที่เล่น Gadgets ต่างๆ ค่อนข้างมาก เรื่องที่น่ารำคาญคือเครื่องชาร์จสารพัดแบบนั้นกองเต็มห้องไปหมด ข่าวการร่วมมือกันระหว่้างเกาหลีใต้และจีน ที่จะกำหนดให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือต้องสามารถใช้งานกับสายชาร์ตที่กำหนดจึงดูเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคอย่างชัดเจน
งานนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเจอสายประหลาดในบ้านเพิ่มอีก เพราะเท่าที่เป็นข่าวในตอนนี้ มาตรฐานที่สองประเทศจะบังคับใช้คือสาย USB นี่เอง (เข้าใจว่าเป็นแบบ Mini-A) ซึ่งจริงๆ ในตอนนี้ก็มีบางรุ่นสามารถใช้งานกันไ้ด้่อยู่แล้ว
ที่แอบหวังคือ หลังจากค่ายมือถือโดนบังคับไปก่อน อุปกรณ์อื่นๆ จะเลิกแถมเครื่องชาร์จแล้วทำให้อุปกรณ์ของตัวเองเข้ากับสาย USB ได้ืทั้งหมด
หลังจากทางการจีนเลิกบล็อกเว็บวิกิพีเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้ใช้วิกิพีเดียใจจีนก็พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึงวันละ 1200 ราย และมีการโพสบทความเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 ทำให้จำนวนบทความผ่านหลักหนึ่งแสนบทความไปด้วยความรวดเร็ว นับเป็นเวลากว่าหนึ่งปีที่ทางการจีนมีการบล็อกเว็บที่มีเนื้อหาเสรีอย่างวิกิพีเดียเนื่องจากไม่สามารถเข้าควบคุมเนื้อหาในเว็บได้ อย่างไรก็ตามไม่มีสัญญาณใดๆ จากทางการจีนว่าการปล่อยให้ประชาชนเข้าถึงเนื้อหาในวิกิพีเดียในครั้งนี้จะยั่งยืนเพียงไร
ศึกต่อสู้กับสินค้าผิดลิขสิทธิ์เคลื่อนไหวอีกรอบหลังจากเมื่อสี่เดือนก่อน ค่าย Time Warner ได้ประกาศลดราคาแผ่นดีวีดีของตนในจีนเหลือเพียง 10 หยวน หรือประมาณ 50 บาท ซึ่งเป็นราคาพอๆ กับแผ่นผิดลิขสิทธิ์ในจีน วันนี้ค่าย Twentieth Century Fox ก็เอาบ้าง ด้วยการวางขายแผ่นถูกลิขสิทธิ์จากทางบริษัทในราคาเพียง 20-25 หยวน หรือประมาณ 100 บาท
พร้อมกับการประกาศลดราคา ทาง Fox ยังระบุถึงแผนการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงภาพยนตร์ของทาง Fox ได้ง่ายกว่าเก่า
บ้านเราราคาแผ่นหนังก็ลงมาเยอะแล้ว หลังๆ ผมว่าซื้อของแท้เอาคุ้มจนไม่ได้มองของปลอม
แต่ขออย่าให้มีเทคโนโลยีกันก๊อปปี้บ้าๆ บอๆ ใส่มาก็พอแล้ว
เมื่อวานนี้ในการประชุมของทางสหประชาชาติทางการจีนมีแถลงการที่ทำให้โลกต้องประหลาดใจ ด้วยการระบุว่าทางการจีนไม่มีการบล็อกเว็บไซต์ใดๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อทางการจีนระบุว่าการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ได้นั้นเป็นเรื่องของปัญหาด้านเทคนิค โดยที่ทางการไม่เข้ายื่นมือเข้ามาจัดการแต่อย่างใด
ไม่มีการพูดถึงกรณีของกูเกิลที่ต้องให้ประชาชนจีนทั้งหมดเข้าใช้กูเกิลผ่านทาง Google.cn โดยไม่สามารถเข้าถึง Google.com ได้แต่อย่างใด ไหนๆ แล้วขอยกคำแถลงมาให้ดูกันในช่วงสำคัญ
หลังจากบล็อกวิกิพีเดียมานานหลายเดือนเนื่องจากทางวิกิพีเดียปฎิเสธที่จะบล็อกเนื้อหาตามคำขอร้องของทางการจีน เมื่อวานนี้ทางการจีนก็ปล่อยให้ประชาชนเข้าถึงวิกิพีเดียได้แล้วในที่สุด
แม้บางหน้าที่มีเนื้อหาล่อแหลมต่อประชาชนจีนจะยังคงถูกบล็อก เช่น หน้าที่เกี่ยวกับการประท้วงที่จตุรัสเทียนอันเหมิน แต่ก็นับเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ทางการจีนจะไม่ทำการบล็อกทั้งเว็บเช่นเดิมที่จีนเคยทำมา
เป็นที่น่าสงสัยว่าทางการจีนจะทนต่อเนื้อหาที่ล่อแหลมในวิกิพีเดียไปได้อีกนานเพียงใด เนื่องจากเว็บที่เสรีมากๆ อย่างวิกิพีเดียนั้นผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาทางที่การจีนไม่ชอบใจขึ้นมาได้ไม่จบไม่สิ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วจีนคงตระหนักได้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์แบบ
อ่านชื่อดูก็สงสัยว่ามันควรจะเป็นญาติกับ BlackBerry ใช่มั้ยครับ RedBerry เป็นโทรศัพท์ที่มีฟังก์ชัน Push E-mail แบบเดียวกับ BlackBerry แต่เป็นของ China Unicom ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารอันดับสองของจีน
เรื่องชื่อนี้เค้าประกาศใน press release ว่ายังงี้
"The RedBerry name extends the vivid name of BlackBerry that people are already familiar with, and it also combines the new red symbol of China Unicom," เอากันตรงๆ เลย
ข่าวใหญ่วันนี้ คือในการเยือนอินเดียของนายกเหวิน เจียเป่า (ไม่แน่ใจภาษาไทยสะกดยังงี้รึเปล่านะครับ) มีการตกลงในหลายๆ เรื่องตามกติ เช่น พรมแดน หรือการค้า แต่จุดสำคัญอยู่ที่บังกาลอร์บอกว่าทั้งสองชาติควรรวมพลังกัน เพื่อสร้าง "ศตวรรษแห่งเอเชีย" ใจความมีสั้นๆ ว่า อินเดียมีซอฟท์แวร์ จีนมีฮาร์ดแวร์ ถ้ารวมกันแล้วโลกไฮเทคจะไปเหลืออะไรล่ะครับ
ประเทศที่อยู่ตรงกลาง (Indochina) ก็เกาะกระแสให้ดีๆ แล้วกัน จาก Wired: China, India: Rule Global Tech?