Charoen Pokphand Group

Tags:
Node Thumbnail

ธนาคารไทยพาณิชย์ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารมีมติให้ บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ตกลงร่วมมือกับกับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CPG) จัดตั้งกองทุน Venture Capital มูลค่า 600-800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 20,000-27,000 ล้านบาท

Tags:
Node Thumbnail

นับตั้งแต่เกิดวิกฤตขาดแคลนหน้ากากอนามัยใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดยคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือซีพี ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแจกจ่ายฟรีแก่ แพทย์ พยาบาล ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่เป็นด่านหน้าที่ต้องรับมือกับวิกฤตโควิด-19 อย่างเร่งด่วน รวมทั้งประชาชนที่ขาดโอกาส เพื่อเร่งบรรเทาวิกฤตการขาดแคลนหน้ากากอนามัย

จึงได้ก่อตั้ง บริษัท ซีพี โซเชียล อิมแพคท์ จำกัด ขึ้นมาดูแลเปิดโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยซีพีใช้เวลาก่อสร้างด้วยความรวดเร็วภายใน 5 สัปดาห์ ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและมาตรฐานการผลิตตั้งแต่การออกแบบห้องคลีนรูม (Clean Room) นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตและเชื่อมต่อกับระบบ AI ที่ได้รับความร่วมมือจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพการผลิตและการบรรจุ ซึ่งในทุกขั้นตอนเชื่อมต่อเป็นระบบอัตโนมัติและใช้กำลังคนน้อยที่สุดเพื่อให้หน้ากากอนามัยที่ผลิตปลอดเชื้อเป็นไปตามมาตรฐานสากล

Tags:
Node Thumbnail

จุดเริ่มต้นเรื่องการใช้หุ่นยนต์ของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด มาจากนโยบายของประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ เมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่อยากให้นำหุ่นยนต์มาใช้ในร้านค้าปลีกของเครือ ทำให้ทุกบริษัทในเครือซีพีเข้ามาศึกษาเรื่องนี้ ถ้านับเฉพาะในส่วนของ True เอง มีทีมที่เรียกว่า True Robotics ซึ่งในช่วงแรกเน้นการสรรหาหุ่นยนต์จากทั่วโลกมาใช้งาน แต่ภายหลังก็คิดว่า คนไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์เองได้ จึงเริ่มโครงการพัฒนาหุ่นยนต์ด้วย

Tags:
Node Thumbnail

เว็บไซต์สายคริปโต The Block รายงานข่าวที่ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ (CP) บรรลุข้อตกลงซื้อ Omise สตาร์ตอัพด้านการจ่ายเงินของไทย ด้วยมูลค่าราว 150 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,800 ล้านบาท)

Omise เริ่มต้นจากการเป็น payment gateway และภายหลังก็ขยายธุรกิจมาสู่เงินคริปโตในชื่อ Omise Go (ตัวย่อ OMG) และถือเป็นเงินคริปโตที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดคริปโต (ข้อมูลขณะที่เขียนคือมีมูลค่าประมาณ 280 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอันดับ 26 จากเหรียญทั้งหมด - CoinMarketCap)

อัพเดต คุณ Jun Hasegawa ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ได้ปฏิเสธข่าวนี้แล้วทางทวิตเตอร์